จอมนักรบทรงเกียรติยศ - บทที่ 571 หนีหัวซุกหัวซุน
“กระบี่มา!” ฟางเหยียนคำรามใส่ท้องฟ้าอันกว้างใหญ่ ด้วยเสียงคำราม แสงแหลมคมพุ่งลงมาตรงหน้าของเขา พุ่งมายังกระบี่ยาวที่ไม่ชัดเจนเล่มนั้นในมือของเขาพอดี
ทันใดนั้น กระบี่ทั้งอันกลายเป็นประกายรอบๆ เหมือนกับมังกรทองตัวหนึ่ง ส่องแสงสว่าง มองเห็นได้ด้วยตาเปล่า ไม่เพียงแค่สามคนเท่านั้นที่เห็นกระบี่ยาวในมือของฟางเหยียน แม้กระทั่งนักรบเหล่านั้นของการทำสงครามก็ล้วนเห็นกระบี่ยาวในมือของฟางเหยียน นั่นเป็นกระบี่ยาวที่ตัวกระบี่เป็นสีทอง พร้อมกับสายฟ้า แล้วยังประกายไฟไปรอบๆ
กล่าวอย่างไม่เกินไปว่า กระบี่ยาวเล่มนั้นของเขามีเพียงในหนังกราฟิกจึงจะเห็นได้
แต่ทุกคนล้วนรู้ดี ว่านี่ไม่ใช่กราฟิก นี่เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจริง นี่คือกระบี่ยาวที่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าด้ามหนึ่ง ไม่ว่าใครเห็นก็รู้สึกไม่น่าเชื่อ แต่ก็รู้สึกว่าปกติมาก
ที่คิดว่าไม่น่าเชื่อก็คือฉากที่เกินจริงไม่น่าเชื่อ เพราะใช้แนวคิดของคนธรรมดาทั่วไปไม่มีทางเข้าใจได้ และที่มันปกติมากเพราะคนที่ใช้กระบี่ด้ามนี้ไม่ใช่คนอื่น คือฟางเหยียน เทพสงครามของประเทศหวา!
เทพแห่งสงครามใช้กระบี่ยาวแบบนี้ออกมา มีอะไรที่แปลกประหลาดงั้นเหรอ?
สิ้นสุดฟ้าผ่า ฟางเหยียนเอากระบี่ยาวชูขึ้นอย่างสูงๆเลยหัวขึ้นไปเหล่านักรบในสนามรบล้วนกำลังต่อสู้ แม้สามคนจะเห็นการกระทำของฟางเหยียนว่าไม่ธรรมดา แต่ก็ยังยืนหยัดไม่ถอย ถ้าถอยตอนนี้ก็คือจะเป็นเรื่องมาถึงตัวถอยห่างกันหมด ถึงตอนนั้นคนที่ตายจะเป็นลูกน้องเหล่านั้นของตัวเอง และคนของสำนักเจ็ดพิฆาตที่มาทำสงครามกับตน
“ฆ่ามัน!” สามคนคำรามออกมา พร้อมกับแสงรอบๆกายโจมตีไปที่ฟางเหยียน การโจมตีของทั้งสามล้วนแข็งแกร่งมาก เหมือนกับมีแสงสามดวงพุ่งฆ่าเข้าไปที่ฟางเหยียน กระบี่ยาวที่ยาวถึงยี่สิบเมตรนั้นในมือของฟางเหยียนฟันจากบนลงล่าง ทันใดนั้น ได้เกิดเป็นเสียงฟ้าผ่าอีกหลายครั้ง ท้องฟ้าก็เริ่มกลายเป็นมืดมิดลง
มืดฟ้ามัวดิน ที่แท้นี่ไม่ใช่คำคุณศัพท์ที่ไว้อธิบายสนามรบ แต่เกิดขึ้นแล้วจริงๆ คนโบราณสามารถนึกสำนวนนี้ออกได้ไม่เว่อร์เกินจริงอย่างเกินไปจริงๆ
วิธีการต่อสู้ของพวกเขาแค่ค่อนข้างย้อนยุคก็เท่านั้น ดังนั้นจึงสะท้อนความเป็นจริงของสำนวนมากมายได้อย่างสมบูรณ์
“ทำลาย!” เสียงของฟางเหยียนได้รวมกันเป็นหนึ่งเข้ากับเวหาแล้ว ร่างกายของเขาก็เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วในนาทีนี้ ทั้งตัวเริ่มโผล่เส้นเอ็นขึ้นมา ราวกับกระบี่ยาวเล่มนั้นใช้พลังของเขาทั้งหมดมี
ทันใดนั้น ได้ยินเสียงภูเขาถล่มแผ่นดินทลาย กระบี่ยาวเล่มนั้นได้แทงเข้าไปที่สามคนนั้นอย่างรุนแรง
ได้ยินเพียงเสียงตัง นึกไม่ถึงว่าสามคนจะรับพลังของกระบี่ยาวนั้นได้ สามคนชูนกฟีนิกซ์ที่อยู่ในมือ มีดยาว อีกทั้งแผนผังแปดทิศรับการโจมตีของกระบี่ยาวนี้ไว้ แต่พลังของกระบี่ยาวยังคงเพิ่มขึ้นไม่หยุด และทั้งสามคนได้ใช้พลังทั้งหมดที่มีรับกระบี่เล่มนี้แล้ว
ขณะนี้ พื้นดินเริ่มสั่นไหวอย่างไม่หยุด ทุกคนรับรู้ได้อย่างชัดเจนถึงความรู้สึกแผ่นดินไหว
หลังจากเกิดการสั่นสะเทือนมากขึ้นของพื้นดิน ดินเหนียวบางส่วนของบนพื้นเริ่มแตกออก พื้นดินแยกแล้ว ช่องบนพื้นดินปรากฏขึ้นอย่างช้าๆ เหมือนกับพื้นดินใกล้จะแตกออกแล้วอย่างไรอย่างนั้น
ภูเขาถล่มแผ่นดินทลาย นี่ก็เป็นคำคุณศัพท์อีก แต่ในนาทีนี้กลับไม่ใช่คำคุณศัพท์ แต่เกิดขึ้นจริงแล้ว
เหตุการณ์ที่อยู่ตรงหน้าเป็นฉากที่ฟ้าถล่มแผ่นดินทลายจริงๆ ในสนามรบ ราวกับมีแต่สิ่งที่คุณคิดไม่ถึง ไม่มีสิ่งที่จะไม่เกิดขึ้น เป็นดั่งที่คนแก่กล่าวไว้อย่างนั้น สนามรบไม่ใช่สิ่งที่คนแยากหวนคิด ไม่มีใครอยากเข้าไปอยู่ในความทรงจำที่สิ้นหวังอย่างนั้น สนามรบก็คือสถานที่ที่ทำให้ผู้คนสิ้นหวัง
สำหรับคนธรรมดา ก็เหมือนกับฝันร้าย แต่สำหรับคนที่ยืนอยู่จุดสูงสุดของสนามรบพวกนั้น เป็นการกระทำปกติ ทุกอย่างที่ฟางเหยียนทำทั้งหมด ล้วนเป็นแค่การกระทำปกติเท่านั้น
ในการคุกคามของกระบี่ยาว และแล้วทั้งสามเริ่มเอาไม่อยู่ ขาของพวกเขาเริ่มสั่น ร่างกายก็เริ่มสั่น เป็นเพราะต้านทานไม่ไหวจริงๆ จึงส่งผลให้ชี่ที่สั่งสมไว้ในมือพวกเขาเริ่มกระจายอย่างช้าๆ ต้าชี่ประสานกายของพวกเขาก็ใกล้จะกันไว้ไม่อยู่แล้ว!
นี่ไม่ใช่พลังที่คนสามารถปล่อยออกมาได้ พวกเขาไม่เคยเห็นคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งแบบนี้มาก่อน!
“เอาไงดี? แข็งแกร่งเกินไปแล้ว ชี่นี้ยังคงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ระดับปรมาจารย์ มีเพียงยอดฝีมือของระดับปรมาจารย์จึงจะถึงจุดสุดยอดแบบนี้ได้ มันคือยอดฝีมือระดับปรมาจารย์” คำพูดของเย่เฟยเริ่มวุ่นวาย เคร่งเครียดขึ้นมา ความแค้นอะไร พี่น้องอะไรล้วนไม่มีอะไรสุดๆเท่ากับการที่ชีวิตถูกคุกคามอีกแล้ว
แม้เย่เฟยจะจงรักภักดี แต่ตอนที่เผชิญกับความตาย เขายังคงกังวล หวาดกลัว
เขาเคยคิดจะไปฆ่าฟางเหยียน แต่ตอนนี้ดูๆแล้วเป็นเพียงความคิดหนึ่งเท่านั้น เพราะแม้แต่ร่างกายของฟางเหยียนเขายังเข้าใกล้ไม่ได้ แล้วเขาจะไปลงมือฆ่าฟางเหยียนได้อย่างไรกัน การฆ่าฟางเหยียน การฆ่าจอมพลโผ้จวินสำนักเจ็ดพิฆาตของประเทศหวา สำหรับเขาแล้วก็เป็นเพียงความฝันลมๆแล้งๆเท่านั้น
ชายรูปงามพูดกับสองคนที่อยู่ข้างๆอย่างสีหน้าเจ็บปวด “เรามารวมพลังเฮือกสุดท้ายกัน ผลักกระบี่ยาวเล่มนี้ออก ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป พวกเราต้านไม่ไหวแน่ มีเพียงสามคนใช้พลังพร้อมกัน จึงจะปกป้องตัวเองได้อย่างอิดออด และจึงจะมีชีวิตรอดได้อย่างอิดออด”
“พลังทั้งหมด จำไว้ต้องออกแรงใช้พลังทั้งหมดนะ!”
“ได้!” สามคนยอมรับคำแนะนำนี้อย่างพร้อมเพรียงกัน จากนั่นชายรูปงามกล่าว “ฉันนับหนึ่งสองสาม พวกเราออกแรงทั้งหมดพร้อมกัน”
“หนึ่ง สอง สาม!” เสียงที่สามจบลง ทั้งสามออกแรงทั้งหมดที่มีพร้อมกัน พวกเขาต่อสู้อย่างดุดันสุดถึงวินาทีสุดท้าย ผลักกระบี่ยาวออกไปได้แล้ว จากนั้น ทั้งสามวิ่งไปข้างๆ เห็นเพียงกระบี่ยาวชนพื้นอย่างรุนแรง
พื้นดินสั่นไหวอย่างรุนแรง เหมือนกับเกิดแผ่นดินไหวหกเจ็ดริกเตอร์ ตอนที่กระบี่ยาวเล่มนั้นชนเข้ากับพื้น บนพื้นเกิดเป็นรูดาบลึกรูหนึ่ง อย่างน้อยก็ลึกสิบเมตร ถูกชี่ของกระบี่ของฟางเหยียนตกลงมา ชี่กระบี่ไม่เพียงตกถึงพื้นเท่านั้น ยังขยายออกไปในระยะร้อยเมตรอีกด้วย คนที่ยืนอยู่ในรัศมีร้อยเมตร ล้วนถูกชี่นี้ของฟางเหยียนทำร้ายเข้าให้แล้ว
ทันใดนั้น บนพื้นได้ล้มลงไปอีกครั้ง เหล่านักรบสำนักเจ็ดพิฆาตที่เคยเห็นกระบี่ยาวของฟางเหยียนล้วนหลบหลีกไป พวกเขาเห็นพลังของกระบี่ยาวเล่มนี้มาหลายครั้งแล้ว มีเพียงผู้รุกรานที่เคยเห็นกระบี่ยาวของฟางเหยียนเป็นครั้งแรกที่ไม่หลบไป ดังนั้นผู้ที่ล้มลงเป็นผู้รุกรานทั้งหมด
นี่เป็นทักษะที่แข็งแกร่งที่สุดของฟางเหยียน การพนมมือปกติแล้วเขาจะใช้ในตอนอยู่ในสนามรบเท่านั้น เพราะการทำลายล้างสูงมาก ถ้าใช้ในเมืองที่เจริญ จะทำให้เกิดความหวาดกลัวและความกังวลในเมืองได้ ตอนนั้นเขาใช้การโจมตีนี้ชนะจอมพลสิบประเทศ ถ้าไม่ใช่เพราะกระบี่นี้ล้มสิบคน เขาก็ไม่มีโอกาสใช้ฝ่ามือดาบของตัวเองตัดหัวของสิบคนได้
นี่เป็นคนที่สามารถทำลายสติของคนๆหนึ่งได้ ถ้าพวกเขาใช้พลังทั้งหมดต้านทานกระบี่ยาว อวัยวะภายในของพวกเขาได้ถูกชี่กระบี่ของกระบี่ยาวทำลายไปแล้ว ดังนั้นฟางเหยียนหวังเป็นอย่างมากให้พวกเขาใช้พลังทั้งหมดที่มี การต่อสู้แบบนี้จะได้จบเร็วขึ้น ฆ่าราชาของพวกเขา คนพวกนี้ที่เหลือทำได้เพียงยอมรับการกระทำ และทรมานจนตายจากคนของสำนักเจ็ดพิฆาตเท่านั้น
ในสายตาของเขาไม่ยอมรับความพ่ายแพ้ ดังนั้นคนที่เข้ามาในดินแดนประเทศหวา ล้วนต้องตาย ไม่เหลือสักคน!
ฤทธิ์ของกระบี่ยาวของฟางเหยียนหมดไป ทั้งสามได้ล้มลงกับพื้น ต่างใช้มือจับหน้าอกไว้ ฟางเหยียนเดินไปที่สามคนทีละก้าวทีละก้าว ต่อมา สิ่งที่เขาจะทำก็คือตัดหัวของทั้งสามคน
ในขณะเดียวกันนี้เอง ชายรูปงามและเย่เฟยกระโดดขึ้นมา ทั้งสองเหมือนกับนกตื่นธนู วิ่งไปยังป่าทึบอีกฝั่งของสนามรบไป
พลเอกแห่งยุโรปเห็นดังนี้ ก็อยากจะวิ่ง แต่เพิ่งลุกขึ้นมา เขาก็กระอักเลือดออกมา