จอมนักรบทรงเกียรติยศ - บทที่ 572 จุดมุ่งหมายของเพลิงเสวน
ตอนที่กระอักเลือดออกมา เขาคุกเข่าข้างเดียวลงกับพื้น อวัยวะตันภายในทั้งห้าอวัยวะกลวงทั้งหกของเขาถูกทำลายหมดแล้ว คิดจะวิ่งก็วิ่งไม่ไหว เพราะอวัยวะภายในไม่อำนวยให้เขาวิ่ง ร่างกายเป็นโครงสร้างที่หลายรวมหลายหน้าที่ไว้ ยิ่งอวัยวะภายในเป็นเครื่องยนต์ของโครงสร้างด้วยแล้ว ถ้าเครื่องยนต์พัง แล้วเขาจะวิ่งยังไง?
ไม่ต้องสงสัยเลย เมื่อกี๊เขาต้องใช้พลังทั้งหมดต้านทานกระบี่ยาวของฟางเหยียนแน่นอน แต่สองคนนั้นใช้ประโยชน์จากพลังทั้งหมดของเขาอย่างฉลาดแกมโกง ตรงกันข้ามเก็บพลังของการหนีเอาไว้ พวกเขารู้แล้วว่าตัวเองไม่สามารถต้านทานฟางเหยียนได้ พลังที่ทำลายฟ้าดิน เวหาสั่นสะเทือนแบบนี้ ไม่ใช่ฝีมือของเขาจะสู้ได้
พวกเขารู้ทันเหตุการณ์ รู้ว่าตัวเองต้านทานไม่ไหว ดังนั้นจึงสละพลเอกแห่งยุโรป แล้วหนีไป
พลเอกยุโรปหลงกลแล้ว เขาหลงกลแล้ว เขาไม่มีทางคิดถึงว่าคนแบบตนจะถูกสองคนนี้เล่นงานได้ แต่เขาในนาทีนี้กลายเป็นหมดอาลัยตายอยาก ทำได้เพียงมองร่างกายของสองคนเดินไปอย่างช้าๆอย่างทำอะไรไม่ได้
แต่เขาไม่รู้ว่าทำไมตัวเองถึงวิ่งไม่ได้? เพราะเขาไม่รู้เรื่องพลังภายในของประเทศหวา
ฟางเหยียนได้มาถึงที่ๆพวกเขาล้มกองแล้ว มองสองคนที่ว่องไว วิ่งอย่างรวดเร็ว แว็บเดียวฟางเหยียนก็มองออกถึงเกมที่พวกเขาแสดงออกมา
“ทำไม?” พลเอกแห่งยุโรปมองสองคนที่ห่างไปไกล เขาถามอย่างไม่เต็มใจว่า “ทำไมพวกมันวิ่งได้? ทำไมพอฉันวิ่งแล้วกระอักเลือดออกมา? ทำไมพวกมันต้องเล่นงานฉัน! ทำไม?”
จนกระทั่งถึงตอนนี้เขายังไม่รู้เหตุผล เพราะเขาไม่เข้าใจจุดของความแข็งแกร่งที่แท้จริงของพลังภายในประเทศหวา พลังภายในของประเทศหวาไม่เพียงแค่ไว้เพื่อฆ่าคนแล้วก็ฆ่าคน วัตถุประสงค์ที่สำคัญที่สุดอยู่ที่การทำลายคนๆหนึ่ง ให้เขากลายเป็นคนพิการ
“เพราะเมื่อกี๊แกใช้พลังทั้งหมดมาต้านทานกระบี่ยาวของฉันไว้ ชี่กระบี่ของกระบี่ยาวของฉันได้ทำลายห้าอวัยวะตันหกอวัยวะกลวงของแกแล้ว แต่พวกมันเก็บพลังของการหลบหนีไว้ พวกมันไม่คิดจะต่อสู้กับฉันต่อแล้วแต่อย่างใด!” ฟางเหยียนกล่าวอย่างนิ่งสงบ เขาพลางพูด พลางเดินมาอยู่ตรงหน้าของคนนั้น
พลเอกแห่งยุโรปเงยหน้าตะโกนอย่างโมโหจนกัดฟัน “สารเลว! ไอ้สารเลวทั้งสอง!”
“แกวางใจได้ พวกเขาก็ต้องกลับมาเป็นเพื่อนแก เพียงแต่แกไปก่อน!” พูดจบ ฟางเหยียนยกมือขึ้นชูร่างกายของพลเอกแห่งยุโรป ใช้แค่มือเดียว เขาก็ยกอีกฝ่ายขึ้นได้อย่างสบายแล้ว
พลเอกแห่งยุโรปท่าทางตื่นตกใจอย่างที่สุด เขารับรู้ได้ถึงชี่ความตายกำลังกระจายไปทั่วเรือนร่างของตัวเอง ด้วยเหตุนี้เองเขาจึงรีบตะโกนว่า “แก แกปล่อยฉันนะ ปล่อยฉัน ฉันถอยทัพ จะถอยเดี๋ยวนี้แหละ!”
พลเอกแห่งยุโรปอ้อนวอนอย่างขมขื่น!
ฟางเหยียนส่ายหน้าเบาๆกล่าว “ไม่ แกไม่มีโอกาสนี้แล้ว ฉันเคยพูดไว้ นาทีนั้นที่พวกแกเข้ามาในดินแดนประเทศหวาของฉัน พวกแกก็ได้ถูกกำหนดให้เป็นศพไปแล้ว ตอนนี้ฉันเพียงกำลังบอกแก ว่าประโยคนี้เป็นความจริง ประเทศหวาของเรามีคำพูดอยู่ว่าปืนยิงนกที่ยื่นหัวออกมา ถ้าจะโทษก็โทษที่แกเป็นนกที่ยื่นหัวออกมานี่แหละ ผู้ที่รุกล้ำประเทศหวาของฉัน ตัดหัว! นี่เป็นสิ่งที่คัดค้านไม่ได้”
พูดจบ เขารีบไปบนกำแพงเมืองด้วยความเร็ว ขาของเขาเหยียบบนกำแพง ทำแบบนี้ขึ้นบนไปตามกำแพงทีล่ะก้าวทีล่ะก้าว สำหรับเขาแล้ว กำแพงแนวดิ่งเก้าสิบองศานั่น ราวกับถนนที่เรียบ
ไม่นาน เขาบิดร่างกายของพลเอกแห่งยุโรปมาบนกำแพง พลเอกแห่งยุโรปในตอนนี้ได้สูญเสียความเผด็จการที่เคยมีไปแล้ว กลับกันกลายเป็นลูกเจี๊ยบที่หายใจแผ่วๆ อวัยวะภายในตันทั้งห้าและอวัยวะกลวงทั้งหกได้พังลงแล้ว ตอนนี้แม้แต่ช่องทางที่เหลือของการดิ้นรนก็ไม่มีแล้ว พังแล้ว เขาได้ไร้สมรรถภาพโดยสิ้นเชิงแล้ว
ฟางเหยียนยืนอยู่บนกำแพงเมือง ชูพลเอกแห่งยุโรปอย่างสูงขึ้นมา เหมือนกับอวดถ้วยรางวัลของตัวเอง เขาเป็นจุดโฟกัสของทั้งสนามรบ เป็นเป้าหมายของการสังเกตของคนจำนวนมาก ตอนที่เขาชูพลเอกแห่งยุโรปขึ้น ผู้ใต้บังคับบัญชาของพลเอกแห่งยุโรปล้วนเห็นกันหมดแล้ว จอมพลถูกจับทหารใจไม่ดี ทหารสามแสนนายนาทีนี้ได้สูญเสียแกนนำไปแล้ว
คนที่พวกเขาเชื่อใจมากที่สุดกลายเป็นแบบนี้ แล้วพวกเขายังมีช่องทางที่เหลือของการต่อสู้อะไรอีก หมดกัน พวกเขาจบเห่แล้ว แต่พวกเขาไม่ได้ทิ้งอาวุธที่อยู่ในมือไป เพราะถ้าทิ้งแล้ว พวกเขาจะกลายเป็นเป้าหมายที่ยอมรับการทารุณกรรมทุกอย่างจากคนอื่น
“นี่ ราชาของพวกแก!” ฟางเหยียนตะคอกใส่สนามรบอันไพศาล จากนั้นยกมือปาดไป ได้ยินเพียงเสียงฟับ เลือดกระฉูดออกมาจากกำแพงเมือง ฟางเหยียนถือเพียงหัวของพลเอกแห่งยุโรป ร่างกายของเขาหล่นลงมาจากบนกำแพงอย่างแรง ตอนวาระสุดท้ายพลเอกแห่งยุโรปยังพูดอะไรบางอย่าง แต่ฟางเหยียนไม่มีอารมณ์ฟังคำพูดของเขาแม้แต่น้อย ตั้งแต่นาทีนั้นที่เขาเข้ามาในดินแดนประเทศหวา เขาก็เป็นคนตายแล้ว นี่เป็นสิ่งที่แน่นอน
ไม่มีใครแหกกฎเหล็กนี้ของประเทศหวาได้ ขอให้เกี่ยวกับผู้ที่รุกรานเข้าประเทศหวา จะต้องถูกฆ่าตัดหัว!”
“คนที่เข้าดินแดนประเทศหวาของฉัน ตัดหัว!” ฟางเหยียนชูหัวของพลเอกแห่งยุโรปอย่างสูงๆ ออร่าทั้งตัวได้ไปถึงจุดสูงสุด เพราะความเต็มเปี่ยมของออร่าของเขา ทำให้ผู้รุกรานเริ่มตื่นตระหนกสุดๆ
และเป็นโอกาสนี้พอดี ที่ทำให้เหล่านักรบของสำนักเจ็ดพิฆาตยิ่งอยู่ยิ่งดุร้ายขึ้น ฟางเหยียนเหมือนเลือดของสำนักเจ็ดพิฆาต เมื่อเขามา สำนักเจ็ดพิฆาตถูกไหลเข้าไปในเลือดที่สด สำนักเจ็ดพิฆาตในตอนนี้กับเมื่อกี๊เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง
หลังจากที่รู้สึกพลังเพิ่มขึ้นแล้ว ฟางเหยียนทิ้งหัวของพลเอกแห่งยุโรป จากนั้นเมื่อหันหลังก็เดินไปไล่ไปทิศทางที่เมื่อกี๊สองคนนั้นหนีไป
อีกด้าน เย่เฟยและชายรูปงามที่หนีไปไกลมากแล้วมาถึงป่าลึก ที่นี่ยังคงเป็นดินแดนของประเทศหวา พวกเขาอยากออกไป เหมือนกับว่าได้หลงทางเข้าให้แล้ว ตอนนี้กำลังของพวกเขาใกล้จะหมดแล้ว เมื่อกี๊ถึงแม้จะเก็บพลังภายในของการหนีเอาไว้ แต่แว็บเดียววิ่งไปหลายสิบลี้ ทำให้ทั้งสองเหนื่อยได้จริงๆ
“ฉันนึกไม่ถึงจริงๆว่าแกจะเป็นคนแบบนี้?” จู่ๆเย่เฟยก็เอามีดสั้นขึ้นมา จี้ไปที่คอของชายรูปงามอย่างนั่งลงกับพื้น ตะคอกส่งเขาอย่างเกรี้ยวกราด
ชายรูปงามไม่ขยับ เขาเพียงแต่ดูแคลนเหอะๆออกมา แล้วกล่าว “ฉันก็นึกไม่ถึงว่าแกจะเป็นคนแบบนี้!”
“ตกลงกันแล้วว่าทุกคนใช้พลังทั้งหมดที่มี ทำไมแกไม่ใช้?” เย่เฟยขยับมีด เค้นถาม
ชายรูปงามกล่าวอย่างไม่เห็นด้วยว่า “แกก็ไม่ใช้ไม่ใช่เหรอ? พูดอย่างกับว่าแกใช้พลังทั้งหมดที่มีอย่างไรอย่างนั้น”
“ฉัน…” เย่เฟยพูดไม่ค่อยออก แต่เขาก็ยังหน้าด้านพูดว่า “ฉันมีความกังวลของฉัน แกล่ะ? ทำไมแกต้องพาทหารชั้นยอดแสนนายเข้าร่วมพวกเรา จากนั้นได้ให้พวกเราหนีไปกับแกอีก?”
“พอแล้ว!” ชายรูปงามยกมือขึ้นผลักมีดสั้นในมือของเย่เฟ่ยออก แล้วกล่าว “ฉันเป็นคนของเพลิงเสวน ฉันทำเพื่อให้พวกแกเข้าร่วมเพลิงเสวนของเรา นายทหารชั้นยอดแสนนายนั้นถือเป็นของขวัญพบหน้าที่พวกเราเพลิงเสวนให้พวกแก ตายก็ตาย สำหรับเพลิงเสวนแล้วไม่สลักสำคัญอะไร ฉันรู้ว่าพรรคพวกของแกตายมากขนาดนั้นต้องไม่เต็มใจ ต่อไป ทำไมไม่เข้าร่วมเพลิงเสวน ล้างแค้นแทนเหล่าพี่น้องของแกล่ะ”
“เพลิงเสวน?” เย่เฟยถามอย่างไม่เข้าใจ เขาไม่เคยได้ยินองค์กรแบบนี้
ชายรูปงามพยักหน้าเบาๆแล้วกล่าว “ใช่ คือเพลิงเสวน! องค์กรที่เมื่อออกมาก็ตกใจทั้งแผ่นดิน ประเทศหวาในอนาคต จะมีเพลิงเสวนเป็นผู้นำ ถึงตอนนั้นแกอยากฆ่าใครก็ฆ่า!”
คิ้วของเย่เฟยขมวดขึ้น แล้วถาม “ความหมายของแกคือ เพลิงเสวนคิดจะปกครองประเทศหวา?”