จอมนักรบทรงเกียรติยศ - บทที่ 598 ฆ่าคนแล้ว
เมื่อเห็นชายฉกรรจ์หยอกล้อต่งยู่ ผู้โดยสารบนรถบัสก็เริ่มตื่นตระหนก โดยเฉพาะอย่างยิ่งบรรดาเหล่าผู้หญิงบางคนที่ตอนนี้ทั้งหมดกำลังถอยกลับไปอย่างเงียบๆ และมีบางคนถึงกับต้องการหนี
หากถูกกลุ่มชายฉกรรจ์พวกนี้จับตัวเอาไว้ อย่างนั้นสิ่งที่ตามมาก็สามารถจินตนาการออกได้!
เมื่อคนขับเห็นแบบนั้นก็รีบบอก “ทุกคนอย่าตกใจ ปกติพวกเขาก็แค่ต้องการเงินเท่านั้น ไม่ทำอะไรพวกคุณหรอก แต่เป็นเพราะผู้หญิงคนนี้หน้าตาสวยเกินไปถึงได้โดนปล้น หน้าตาทุกคนถือว่าอุ่นใจได้ ทุกคนไม่ต้องกังวล ไม่ต้องกังวล”
ทำพูดนี้ทำเอาคนแทบอยากกระอักเลือด อะไรคือสิ่งที่เรียกว่าหน้าตาอุ่นใจได้!
แต่จะว่าไปแล้ว ทุกคนบนรถบัสดูเหมือนจะเทียบไม่ได้กับความงามของต่งยู่จริงๆ มีผู้หญิงหลายคนแอบดีใจที่พวกเธอน่าเกลียด อย่างน้อยพวกเธอก็สามารถรักษาชีวิตเอาไว้ได้
ส่วนสาวสวยคนนั้น กลับไม่รู้ว่าวันนี้จะรอดหรือไม่
“ดึงเธอไปข้างหลังให้ฉัน รอให้พวกเราเก็บเงินล็อตนี้เสร็จแล้ว ทุกคนก็จะกลับไปสนุกกับเธอ ฮ่าฮ่าฮ่า!” ชายฉกรรจ์ที่ถือปืนอาก้าหัวเราะยิ้มกริ่มขึ้นมา
น้ำตาของต่งยู่แทบจะไหลออกมาแล้ว แม้ว่าเธอจะเป็นผู้หญิงที่เข้มแข็งในตัวเมือง หลายคนเมื่อได้ยินชื่อของพ่อเธอก็ต้องไว้หน้าเธออยู่หลายส่วน แต่เมื่อมาถึงที่กันดารจนไก่ไม่ออกไข่นกไม่อึแบบนี้ และได้พบกับกลุ่มคนเลวทรามเช่นนี้ ถือว่าตัวเธอโชคร้ายจริงๆ
ถ้ารู้แบบนี้เธอคงไม่มาที่นี่แล้ว แต่ตอนนี้การสำนึกเสียใจไม่ช่วยอะไร ชายฉกรรจ์เหล่านี้ตั้งใจแน่วแน่แล้วว่าต้องการจะได้ตัวเธอ เธอเป็นแค่ผู้หญิงอ่อนแอคนหนึ่ง ตอนนี้จะทำอะไรได้อีก?
เมื่อมองดูปืนและมีดในมือของพวกเขา ทันใดนั้นวิธีการทั้งหมดก็กลายเป็นเพียงความสิ้นหวังในชั่วพริบตา
เธอและพ่อออกจากหนานหลิงก็ไปยังเจียงตู ในเจียงตูเธอซื้อเครื่องเคลือบทองสัมฤทธิ์ใบหนึ่งมาซึ่งเป็นพระเจ้าชุ่นตัวหนึ่ง พระเจ้าชุ่นคือสัตว์ในตำนานโบราณ เป็นบุตรคนที่สองของมังกร บุตรของมังกรทั้งเก้านั้นมีชื่อเรียกแตกต่างกันออกไป พระเจ้าชุ่นที่เป็นหนึ่งในนั้นเป็นบุตรคนที่สองของมังกร ทำไมเธอถึงได้ตัดสินว่ามันคือพระเจ้าชุ่นตัวหนึ่งน่ะหรือ ก็เพราะว่ามันเหมือนพระเจ้าชุ่นที่ถูกบันทึกเอาไว้ในหนังสือโบราณอย่างไม่ผิดเพี้ยน พระเจ้าชุ่นตัวนี้เกิดจากมังกรและเสือดาว ดังนั้นมันจึงดูเหมือนเสือดาวหัวมังกร มองดูแล้วสมจริงอย่างมาก
ตอนแรกเธอได้มันมาก็คือได้มันมา นี่ถือเป็นเรื่องดี เธอสามารถขายมันต่อได้ราคาดี หรือจะสะสมเองก็ได้ แต่หลังจากที่เธอได้สิ่งนั้นมา พ่อของเธอก็ป่วย ตอนแรกเขาเริ่มจากเป็นไข้ และค่อยๆ กลายเป็นเพ้อเจ้อไม่ได้สติ ทั้งวันเขาจะกัดฟันและพูดประโยคหนึ่ง บอกว่าให้ต่งยู่นำพระเจ้าชุ่น คืนกลับไป นี่ไม่ใช่สิ่งที่พวกเธอควรเอามา
เพื่อพ่อของเธอ ต่งยู่ได้แต่ต้องรีบนำพระเจ้าชุ่น ทองสัมฤทธิ์กลับมาโดยเร็ว เธอไม่สามารถสูญเสียชีวิตพ่อของเธอไปเพราะได้ของแบบนี้มา
เดิมทีเธอมาแค่คนเดียว แต่ว่าคุณชายคังที่ไล่ตามจีบเธออยู่บอกว่าต้องการมากับเธอด้วย และบอกว่าเรื่องของต่งยู่ก็คือเรื่องของเขา คุณชายคังเป็นคนที่ต่งยู่รู้จักหลังจากที่เธอไปที่เจียงตู แต่เดิมเธอก็ไม่ค่อยชอบลูกเศรษฐีพวกนี้อยู่แล้ว แต่ว่าคุณชายคังกลับมาตามอ้อนวอนอยู่อย่างไม่หยุด เธอก็เลยได้แต่ต้องรับปากอย่างไม่เต็มใจ
แต่เดิมเธอคิดว่าหลังจากพ่อของเธอหายดีแล้วเธอก็จะคบกับเขา แต่ใครจะไปรู้ว่าจะเกิดเหตุการณ์ที่น่าอับอายดังกล่าวได้
หลังจากเผชิญประสบการณ์ความเป็นความตายแบบเดียวกันนี้ ทำไมคุณชายคังถึงเป็นเหมือนฟางเหยียนไม่ได้ ถ้าหากฟางเหยียนอยู่ที่นี่ก็คงจะดี แบบนั้น เธอคงไม่ต้องถูกใครรังแก
เฮ้อ! ต่งยู่ ส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้ นี่เธอกำลังคิดอะไรอยู่กัน? ตั้งแต่วินาทีที่เธอออกจากหนานหลิง เธอก็รู้ว่าตนกับฟางเหยียนนั้นเป็นไปไม่ได้อีก นอกจากนี้ ฟางเหยียนจะมาสามารถปรากฏในที่แร้นแค้นห่างไกลแบบนี้ได้อย่างไร
“เฮ้เฮ้เฮ้ คนสวย ฉันกำลังพูดกับเธออยู่นะ ทำไมเธอถึงจะร้องไห้แล้วล่ะ! รีบมาหาฉัน ให้ฉันได้ปลดปล่อยสักหน่อย” พูดไป ชายฉกรรจ์คนหนึ่งก็เดินเข้ามา และรวบต่งยู่เข้าไปกอด
ต่งยู่พยายามดิ้นรนและร้องตะโกนว่า “ไม่เอานะ ไม่นะ พวกนายกำลังทำจะอะไรอยู่? จะทำอะไร?”
สิ่งนี้ทำให้ชายฉกรรจ์หลายคนหัวเราะขึ้นมาอย่างมีความสุขมากขึ้น บางคนถึงขั้นกำลังตื่นเต้นที่จะได้ลงมือ
“เฮ้ พวกนายรีบหน่อยได้ไหม ฟ้าใกล้มืดแล้ว”
ทันใดนั้น เสียงของชายคนหนึ่งก็ดังขึ้น น้ำเสียงนี้ทำให้สีหน้าของหลายคนเปลี่ยนเป็นดำคล้ำด้วยความสงสัย
พวกเขากำลังปล้นทรัพย์ แต่ผู้ชายคนนี้กลับไม่เคารพตนเอาซะเลย ขณะปล้นทรัพย์แบบนี้ถูกคนโจมตีเข้า ทำเอาหลายคนรู้สึกเสียหน้า
“เวรเอ๊ย!” ชายฉกรรจ์ที่ถือปืนอาก้าเอ่ยขึ้น “นายแม่งน่าสนใจไม่น้อยเลยนี่? อยากตายหรือใช่ไหม?”
ขณะที่พูด ชายฉกรรจ์ก็เล็งปืนไปที่ฟางเหยียนและทำท่าราวกับว่าฉันมีปืนแล้วโคตรเจ๋งออกมา ผู้โดยสารบนรถบัสมีเพิ่งจะเคยเจอกับฟางเหยียน พวกเขารู้ว่าเขามีเก่งกาจมากจริงๆ และสามารถโยนผู้ชายคนนั้นออกจากรถได้ แต่ต่อหน้าปืนแบบนี้ ต่อให้นายดุดันแค่ไหน ก็ยังไม่อาจเอาชนะมันได้
ทุกคนบีบเหงื่อเย็นเยียบแทบเขา แต่ตัวเขากลับดูสงบอย่างยิ่ง เขาจ้องไปที่ชายที่ถือปืนอาก้าคนนั้น จากนั้นจึงพูดย้ำทีละคำ “สิ่งที่ฉันไม่ชอบมากที่สุดคือคนอื่นชี้ปืนมาที่ฉัน แต่ว่าทุกคนที่ชี้ปืนมาที่ฉัน ล้วนตายไปหมดแล้ว! นายอยู่ในประเทศหวาแต่กล้าทำตัวเหิมเกริมแบบนี้ อย่างนั้นนายก็ไม่มีความจำเป็นต้องมีชีวิตอยู่อีก”
“ฮ่าฮ่าฮ่า! เจ้าหนุ่มนี่เป็นคนโง่หรือไง ให้ตายสิ เขาต้องเป็นคนโง่แน่ๆ” มีลูกน้องคนหนึ่งหัวเราะเสียงสูงขึ้นมา
“พี่ชาย ฆ่าเขาซะ คนโง่เขลาเช่นนี้จะทำให้พวกเราช้าลง” มีคนแนะนำ
ชายที่ถือปืนอาก้าพยักหน้าเล็กน้อยและพูดว่า “ดี อย่างนั้นฉันก็ไม่รังเกียจที่จะฆ่าใครสักคนที่นี่ ฉันอยากจะเห็นนัก ว่าถ้าฉันฆ่านายไปแล้ว นายจะทำอะไรฉันได้อีก”
พูดจบ ชายคนนั้นก็กำลังจะยิงปืน แต่ก่อนที่กระสุนจะออกมาจากกระบอก เขาก็เห็นว่ากระบอกปืนถูกตัดขาดออกจากกัน ราวกับว่ามันถูกตัดขาดด้วยอาวุธมีคม ชายหนุ่มคนนั้นตกใจกลัวจนตัวสั่น
เมื่อดูให้ชัดอีกที ฟางเหยียนก็มาที่ตรงหน้าเขาแล้ว เขาร้องอ๊ากออกมา จากนั้นคอของเขาก็ถูกมือใหญ่อันทรงพลังจับไว้ จากนั้นร่างของเขาก็ค่อย ๆ ถูกยกขึ้น
ก็แค่เศษขยะชิ้นหนึ่ง ฟางเหยียนขี้เกียจจะพูดอะไรกับเขามากมาย เขาได้ยินแต่เสียงดังคลิก จากนั้นศีรษะของชายคนนั้นก็ตกลงมา เลือดไหลออกจากปากของเขา ตายแล้ว ผู้ชายที่ถือปืนอาก้าตายแล้ว
“ฆ่าคนแล้ว ฆ่าคนแล้ว!” ทันใดนั้น ผู้คนที่อยู่ข้างหลังก็กระสับกระส่ายและตะโกนอย่างเร่งรีบ
คนเหล่านั้นล้วนจ้องมองอย่างตกตะลึงตาค้าง หัวหน้าของพวกเขาตายแล้ว อีกทั้งยังตายด้วยวิธีง่ายๆ แบบนี้
“นายนายนาย!” ลูกน้องคนหนึ่งเอ่ยขึ้นอย่างตะกุกตะกัก “ฆ่ามัน ฆ่ามันให้ตาย!”
เหล่าลูกสมุนรีบวิ่งเข้ามา ผ่านไปครู่หนึ่ง ทุกคนล้วนล้มลงกับพื้น บนคอมีปากแผลทิ้งเอาไว้ มีเลือดไหลออกจากปากแผลนั้น เร็วเกินไป ไม่มีใครทันเห็นว่าคอของพวกเขาถูกตัดอย่างไร ทั้งหมดก็ล้มลงไปแล้ว
“อ๊าก!” “อ๊าก!” “อ๊าก!”
ชายผู้ออกคำสั่งเมื่อเห็นฉากสยองขวัญแบบนี้เข้าก็ตกใจมากจนส่งเสียงขู่ตะโกนสามครั้งติดๆ