จอมนักรบทรงเกียรติยศ - บทที่ 626 ขวังซือออกมา ใครหาญกล้าสู้ด้วย
เหตุผลที่เขาชื่นชมมีเพียงอย่างเดียวคือ ฟางจินหยวนมีดีกว่าพวกนินจาข้างหลังเขามากนัก อย่างน้อยเขาสามารถนิ่งเฉย เผชิญหน้าอย่างใจเย็น ไม่เหมือนพวกเขา ยังไม่ทันเริ่มลงมือ ก็เริ่มสงสัยชีวิตแล้ว ไม่สู้กลับหนี นินจาที่รักตัวกลัวตายแบบนี้ เรียกได้ว่าทำให้นินจาขายหน้า เสื่อมเสียชื่อเสียงจริงๆ แค่จุดนี้ ฟางจินหยวนก็เพียงพอให้เขาเอ่ยปากชมแล้ว
ตัวเขาน้อยมากที่จะชื่นชมใครสักคน แต่วันนี้เขาได้เจอแล้ว
แค่ตาแก่ท่าทางขี้โรคคนหนึ่ง กลับกล้าเสนอขอสู้กับเขา ถ้าไม่ใช่ตัวลอยเบาก็คงสมองพิการไปแล้ว
เขาไม่รู้สึกถึงร่องรอยพลังลมปราณจากตัวฟางจินหยวนเลย ก็แค่ตาแก่ธรรมดาคนหนึ่ง แต่ความมั่นใจสูงที่ล้นออกจากร่างตาแก่ธรรมดาคนนี้กลับมีมากกว่าคนที่พวกเขาฆ่าฟันมานักต่อนัก มันน่าสงสัยมาก
มีแค่สองแบบ หนึ่งคือตาแก่ขี้โรคนี้เป็นยอดฝีมือ และเขาแกล้งไอค่อกแค่กเพราะต้องการให้ศัตรูไม่ทันระวัง จะได้ลอบทำร้ายได้โดยง่าย
แบบที่สองเป็นการคาดเดาของเขาที่ใกล้เคียงที่สุดคือ ตาแก่นี่เป็นแค่คนธรรมดาคนหนึ่ง ไม่ใช่ยอดฝีมืออะไรทั้งนั้น
ทั้งสองความเป็นไปได้ ชายหนวดเคราดกค่อนข้างให้คะแนนไปในแบบที่สองมากกว่า เขาค่อนข้างมั่นใจในความรู้สึกของตนเอง การฟันธงลงไปมาจากความมั่นใจในตัวเอง
แต่ใกล้เคียงแบบที่สอง ก็มีเหตุปัจจัยที่แตกออกไปอีก อย่างเช่น ไม่มีพลังลมปราณเลยสักนิด กลับมั่นใจในตัวเองขนาดนี้ ต้องมีไพ่ตายที่เหนือธรรมดาหรือยึดมั่นอะไรแน่ มันมาจากประสบการณ์ที่สั่งสมจากการต่อสู้มาหลายสิบปี
“เปิดไพ่ตายที่ทำให้แกไม่กลัวตายออกมาเถอะ ไม่งั้นเดี๋ยวแกไม่มีโอกาสอีกแล้วนะ!”
ฟางจินหยวนกลับแค่ยิ้มบางๆ รอยยิ้มเผยแววมั่นใจมาก เขาถามชายหนวดเคราดกว่า “คุณกลัวหรือไง?”
ชายหนวดเคราดกได้ยินอย่างนั้นก็หัวเราะร่วนออกมา “เจ้าตระกูลฟางนี่ต่างจากคนอื่นจริงนะ ความมั่นใจนี่พวกเราสู้ไม่ได้จริงๆ ในเมื่อแกหาเรื่องเอง งั้นฉันจะสงเคราะห์ให้”
ชายหนวดเคราดกก้าวขึ้นหน้าหนึ่งก้าว พลังลมปราณอันแข็งแกร่งแผ่ซ่านออกมา ถือดาบคมในมือ พุ่งเข้าฟางจินหยวนราวลมพายุอย่างทำลายล้าง
ลมประหนึ่งดาบ พัดหมุนทุกสิ่ง ทรายและหินหมุนวนปะทะกัน
ในตอนที่เขาลงมือ ด้านหลังก็มีเสียงแทรกขึ้นมาว่า “หม่างเทียน อย่ามาเสียเวลา รีบจัดการซะ จะได้ให้มันเสร็จๆไป”
พอได้ยินเสียงนี้ หม่างเทียนเก็บความขี้เล่น รังสีอำมหิตแผ่ซ่านไปทั่ว
รังสีอำมหิตแรงนัก แต่ฟางจินหยวนยังคงสองมือไขว้หลัง และไม่มีทีท่าอะไรเพิ่มเติม
ท่าทีมั่นคงนั่นทำให้หม่างเทียนตะลึง ถึงจะไม่รู้ว่าไพ่ตายของฟางจินหยวนคืออะไร แต่หม่างเทียนก็ไม่คิดจะออมมือให้ ตรงกันข้ามรังสีอำมหิตกลับแรงขึ้นเรื่อยๆ ต้นไม้ใบหญ้ารอบข้างยังทนรับรังสีอำมหิตของหม่างเทียนไม่ไหว พอปะทะเข้าก็โดนตัดง่ายดาย พายุนั่นพุ่งแรงราวไต้ฝุ่นพัดเข้ามา
พอเห็นฉากน่าสะพรึงกลัวนี่ ฟางจินหยวนสีหน้านิ่งสงบ แต่ในใจหวาดหวั่นไม่หยุด เพียงแค่เขาทำยืนนิ่งไม่ไหวติงเท่านั้น เขารู้ว่าขวังซือจะออกมา และต้องให้อยู่ในสถานการณ์คับขันสุดๆ ขวังซือถึงจะเริ่มต้นฆ่า ระหว่างรอนั้น ฟางจินหยวนหวาดหวั่นในจิตใจไม่หยุด
เขาไม่ใช่นินจา แต่ไม่ได้แปลว่าเขาไม่รู้อะไรเลย ความน่ากลัวที่หม่างเทียนแสดงออกมาดูท่ายากจะหาใครเปรียบได้ ต่อให้เป็นกู่ซู๋ที่มาบุกรุกครั้งที่แล้วก็ตาม
ถ้าขวังซือไม่ปรากฏตัว ครั้งนี้ตระกูลฟางไม่รอดแล้ว
ลมแรงอันแข็งแกร่งประหนึ่งคมดาบเข้าฟาดฟันใบหน้าของฟางจินหยวน บนร่างเริ่มมีรอยแผลเกิดขึ้น ทุกรอยแผลมีเลือดสดไหลออกมา
หม่างเทียนขมวดคิ้วเล็กน้อย ฟางจินหยวนกำลังทำอะไรกันแน่? ไม่ตอบโต้และไม่ลงมือ? เป็นสากกะเบือไปแล้ว?
เล่ห์ลวง!
แน่นอน!
โดนคนธรรมดาลบหลู่เข้าให้แล้ว!
พอคิดว่าโดนฟางจินหยวนล้อเล่นเข้าให้แบบนี้ หม่างเทียนโกรธมาก ขยับดาบคมในมือไม่หยุด ลมแรงเป็นวงๆพัดเข้าหาฟางจินหยวน ส่วนตอนนี้บาดแผลบนร่างเขาเริ่มมากขึ้นเรื่อยๆ
ลมแรงยิ่งแกร่ง สีหน้าฟางจินหยวนยิ่งเคร่งเครียดขึ้นเรื่อยๆ และในตอนนี้เองสองตาแดงก่ำของเขาสบตากับหม่างเทียน เขากัดฟันถามเสียงสั่นว่า “แค่นี้เอง? ยังคิดจะให้ตระกูลฟางฉันมอบคนให้? ฝันกลางวัน คิดไปได้จริงๆ!”
หม่างเทียนแค่นเสียงหึ เห็นแค่สองมือเขาประกบเข้าด้วยกัน และคมดาบในมือก็ขยับเองขึ้นมา อ้อมผ่านหัวเขา ในตอนที่ยังไม่ผ่านหัวไป ดาบคมเล่มนั้นก็เล็งประกายคมไปที่ฟางจินหยวน กระเบื้องหินในลานกว้างแตกออกด้วยความเร็วที่มองเห็นด้วยตาเปล่า และคนตระกูลฟางจำนวนไม่น้อยกลับต้านทานแรงกดดันแบบนี้ไม่ไหว สองขาอ่อนยวบลงกับพื้น
นี่เป็นการโจมตีที่ร้ายกาจที่สุดของหม่างเทียน หากว่าสะท้านฟ้าสะเทือนดินคงจะโอเวอร์ไป แต่อานุภาพความแข็งแกร่งของลมแรงเพียงพอทำลายทั้งตระกูลฟางแล้ว!
“ไปตายซะ!” หม่างเทียนสะบัดท่า สองมือประกบกัน สองนิ้วกดลง นิ้วชี้พุ่งออกชี้ไปที่ฟางจินหยวน และในวินาทีนี้เอง ดาบคมที่อ้อมผ่านหัวหม่างเทียนประหนึ่งระเบิดลูกใหญ่พุ่งเข้าหาฟางจินหยวน
ขนาดฟางจินหยวนที่ทำเก๊กมั่นใจพอเห็นฉากนี้เข้า ยังอดสีหน้าเปลี่ยนเล็กน้อยไม่ได้ เขาถอยหลังไปสองก้าวอย่างอัตโนมัติ เขารู้ดีว่า ถ้าดาบนี้โดนหัวเขาเข้า เขาต้องตายแน่
วินาทีนี้มาจนได้สินะ!
และมีแต่ตอนที่เขามีอันตรายถึงชีวิตเท่านั้น ขวังซือถึงจะออกมา
ในที่สุด เรือนตะวันตกตระกูลฟางมีเสียงคำรามด้วยความร้อนใจและโกรธดังออกมา จากนั้นก็เป็นการสั่นสะเทือนของทั่วทั้งบริเวณ เหมือนโดนของหนักกระแทกเข้าให้ พื้นเริ่มแตกปริออก กระเบื้องแตกออกเป็นชิ้นๆ ทั่วทั้งตระกูลฟางเหมือนเจอแผ่นดินไหวก็ไม่ปาน
ตามต่อจากนั้นด้วยเสียงร้องคำรามสะท้านฟ้าสะเทือนดิน ทำให้ทุกคนในที่นั้นตกใจไปตามๆกัน
“โฮก!”
เสียงคำรามนั่นสนั่นหวั่นไหว ประหนึ่งจะทลายฟ้าทำลายดิน!
และในตอนนี้เองเรือนตะวันตกตระกูลฟางเกิดระเบิดลมปราณแรงกล้าออกมา ไม่รอทุกคนมีปฏิกิริยา ก็มีสิ่งบางอย่างบินเข้าหาฟางจินหยวน ความเร็วนั้นทำคนตาฝ้าฟาง ขนาดตัวหม่างเทียนเองยังคิ้วขมวดมุ่นเลย
และเป็นแรงลมปราณนี้เอง พริบตาเดียวหยุดดาบคมที่พุ่งเข้าฟางจินหยวนเอาไว้ได้ ได้ยินแต่เสียงแกร๊งแผ่วเบา ดาบคมของหม่างเทียนก็หักออกละเอียด กลายเป็นผงเหล็กจำนวนนับไม่ถ้วน ส่วนเขาเพราะว่าดาบคมแหลกละเอียด ส่งผลให้โดนผลสะท้อนกลับอย่างแรง จนต้องถอยหลังไปหลายก้าว และกระอักเลือดคำโตออกมา เขาจ้องมองเรือนตะวันตกตระกูลฟางด้วยสีหน้าตึงเครียด
เก่ง!
เก่งกาจมาก!
หม่างเทียนสีหน้าตกตะลึง สายตายิ่งเปล่งประกายเหลือเชื่อ เขาตกใจมาก แค่พลังลมปราณเดียวก็สามารถทำลายดาบคมของเขาจนแหลกละเอียด แถมยังทำเขาบาดเจ็บได้ ถ้าไม่ใช่เพราะเมื่อกี้เขาตัดพลังบางส่วนออก ตอนนี้คงนอนล้มกับพื้นแล้ว!
หม่างเทียนคิ้วขมวดมุ่น น้ำเสียงสั่นสะท้าน บ่นพึมพำว่า “นี่มันตัวอะไรกันแน่!”
พอพูดจบ เรือนตะวันตกมีเสียงคำรามดังลั่นด้วยความโกรธออกมาอีก “โฮก!”
ตามหลังเสียงคำรามมาคือลมปราณอีกสายหนึ่งพุ่งเข้าหาหม่างเทียนด้วยความเร็วสูง ทั้งกล้าแกร่งและร้ายกาจ พุ่งเร็วแรงตรงแน่ว นี่สิถึงจะเป็นพลังอันยิ่งใหญ่ของจริง
หม่างเทียนสีหน้าเปลี่ยนทันที ลมปราณนี้แข็งแกร่งมาก ต่อให้อยู่ห่างกันไหล แต่ฝีมือกลับไม่ลดลงเลย โดยเฉพาะทะลุกลางอากาศมา ยังก่อให้เกิดเสียงระเบิดอีก!
ที่ทำให้เขาตกใจหน้าเปลี่ยนสีคือ อยากจะหลบหลีกก็ไม่ทันแล้ว!
คนตระกูลฟางเองพอเห็นหม่างเทียนเพลี้ยงพล้ำฉับพลัน ต่างเผยรอยยิ้มสะใจออกมา พวกเขารู้ดีว่า ขอเพียงขวังซือออกมา การข่มขู่ทั้งหมดก็จะหายไป ไม่เพียงแต่หายไป ยังจะช่วยลดปัญหาไปได้อย่างสิ้นเชิง ใครจะกล้าบังอาจพูดจาเหิมเกริมจัดการตระกูลฟางอีก !
พอขวังซือออกมา ใครกล้าต่อกรด้วย จัดการให้สิ้นซาก เอาให้เสียใจที่หาญกล้ามาต่อกรด้วย!
พอเห็นฉากนี้ ฟางจินหยวนถอนหายใจอย่างโล่งอก จากนั้นก็ตัวสั่นสะท้านอย่างแรง เห็นได้ชัดว่า ร่างกายที่โดนหม่างเทียนทำร้ายเมื่อกี้ ทำให้เขาเจ็บปวดมาก แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้น สีหน้าเขาก็ยังยิ้มอย่างตื่นเต้น ขวังซือออกมาแล้ว งั้นปัญหาทั้งหมดก็จะคลี่คลายได้แล้ว!