จอมนักรบทรงเกียรติยศ - บทที่ 629 วิชาลับเบญจธาตุ
ท่ามกลางสายตาทุกคน ฟางเหมี่ยวสั่นมือเล็กน้อย แต่ไม่ได้ฟาดลงมาในที่สุด
ไม่เพียงไม่ลงมือ เขายังทำสิ่งที่ทำให้ทุกคนมองกันตะลึงอ้าปากค้างอีกด้วย
พอเขาทำอย่างนั้น ผู้ชายตระกูลฟางมากมายต่างรู้สึกสะท้านเยือกไปตามๆกัน ส่วนพวกผู้หญิงพร้อมใจกันตกตะลึงอ้าปากค้าง นี่เป็นเรื่องแหกคอกครั้งแรกในวัฒนธรรมที่สืบทอดกันมายาวนานของตระกูลฟางในการใหความสำคัญกับลูกชายมากกว่าลูกสาว
การกระทำของฟางเหมี่ยว แม้แต่ฟางจินหยวนกับผู้หญิงหน้ากากมังกรยังต้องมองฟางเหมี่ยวใหม่เลย และแอบชื่นชมเขาไปด้วย
ท่ามกลางสายตาทุกคน ฟางเหมี่ยวกลับคุกเข่าลงข้างหนึ่ง คุกเข่าลงตรงหน้าตงฟางหยุนเอ๋อร์ ฝ่ายหลังยืนอึ้งตะลึง ไม่รู้จะทำยังไงดี
ทุกคนในที่นั้นเงียบสนิท ขนาดเข็มตกสักเล่มคงได้ยิน!
บรรยากาศน่าอึดอัดนี่ต่อเนื่องหลายสิบวินาที แต่ละคนสีหน้าต่างๆนานา แต่มีจุดหนึ่งที่เหมือนกันคือตกตะลึง
ตระกูลฟางขึ้นชื่อว่าเป็นตระกูลที่ให้ความสำคัญกับลูกชายมากกว่าลูกสาวอย่างมาก ฐานะของผู้ชายเรียกได้ว่าสูงไม่มีใครเทียม การคุกเข่าลงต่อหน้าผู้หญิงคนหนึ่งนั้น ไม่เท่ากับเอาหน้าตาของผู้ชายมากระทืบลงกับพื้นรัวๆหรือไง!
หลี่เยว่แม่ของฟางเหมี่ยวร้องกรี๊ดออกมา พุ่งปราดเข้าหาฟางเหมี่ยวราวกับนักกีฬาวิ่งร้อยเมตร พยายามพยุงเขาขึ้นมา ตะคอกอย่างโมโหว่า “ผู้ชายตระกูลฟางมีที่ไหนจะคุกเข่าลงให้ผู้หญิงกัน ลูกเป็นผู้สืบทอดในอนาคตของตระกูลฟาง เป็นเจ้าตระกูลที่จะดูแลตระกูลฟางต่อไป คุกเข่าลงต่อหน้าผู้หญิงแบบนี้ใช้ได้ที่ไหนกัน หา! ลุกขึ้นมาเดี๋ยวนี้ ให้ทุกคนรู้กันแล้วลูกจะให้ตระกูลฟางเอาหน้าไปไว้ที่ไหนหา!”
พูดเรื่องธรรมดาที่ดูไม่มีอะไร แต่เป็นหลักความจริง!
ตระกูลฟางเป็นตระกูลระดับท็อปของประเทศหวา รวยระดับประเทศไม่ว่า ตระกูลฟางยังไงก็ตาม ก็มีชื่อเสียงโด่งดัง เดินไปถึงไหนก็ได้รับความเคารพจากทุกคน ฐานะตระกูลสูงส่ง ขนาดแค่เรื่องนิดเดียวก็สามารถทำให้ตระกูลเสียชื่อเสียงได้ ยิ่งไปกว่านั้นเป็นเรื่องใหญ่น่าขายหน้าแบบนี้ด้วย
ใครก็รู้ว่า ฟางเหยียนไม่คิดสืบทอดกิจการตระกูลฟาง ฟางเหมี่ยวเป็นคนที่เป็นไปได้มากที่สุดว่าจะได้รับสืบทอดกิจการตระกูลฟาง และเรื่องการคุกเข่านี้ต้องกลายเป็นเรื่องตลกให้คนหัวเราะเยาะกันให้ครืน
พอฟางเหยียนกลายเป็นผู้สืบทอดตระกูลฟาง และเธอได้กลายเป็นคุณนายใหญ่ของตระกูลฟาง พอถึงตอนนั้น ทรัพย์สินเงินทองไม่มีทางทำให้เธอพอใจได้แล้ว พวกเธอแคร์ที่สุดคือเรื่องหน้าตา
การกระทำนี้ของฟางเหมี่ยวไม่เพียงทำตัวเองเสื่อมเสีย ยังทำตระกูลเสื่อมเสียด้วย ต่อไปจะสูญเสียอำนาจสิทธิ์ต่อหน้าตระกูลตงฟาง เส้นทางการพัฒนาของตระกูลฟางก็จะยิ่งแคบลงเพราะการคุกเข่าครั้งนี้ของฟางเหมี่ยว
ดังนั้นเธอเลยไม่แคร์ทุกอย่าง เพียงเพื่อต้องการกู้หน้าคืนให้ตระกูลฟางให้มากที่สุด
แต่ผลล่ะ?
ไม่เหมือนที่หลี่เยว่คิด ฟางเหมี่ยวไม่เพียงไม่ลุกขึ้น ยังขอโทษตงฟางหยุนเอ๋อร์อย่างจริงจังว่า “ขอโทษ ผมไม่ได้ตั้งใจ เรื่องวุ่นวายมากเกินไป ทำร้ายคุณไป ผมขอโทษ” พูดจบ ก้มหัวต่ำลง ท่าทีจริงจัง ไม่เหมือนแกล้งทำไปอย่างนั้น
ตงฟางหยุนเอ๋อร์อึ้งไป เธอค่อยๆได้สติกลับมา สีหน้ายังคงตกตะลึง ปฏิกิริยาของเธอไม่ด้อยไปกว่าหลี่เยว่เลย ทุกคนต่างรู้กันดีว่า คนตระกูลฟางเย่อหยิ่งเป็นที่หนึ่ง ให้พวกเขาทำเรื่องขายหน้า สู้ฆ่าพวกเขาเลยดีกว่า ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเรื่องคุกเข่าให้กับผู้หญิงด้วยเลย
“ฟางเหมี่ยว คุณ คุณลุกขึ้นมาเถอะ ฉัน ฉันก็ผิดเหมือนกัน ฉันไม่ควรระบายอารมณ์ใส่คุณ ฉัน ฉัน….”
ต้องยอมรับจริงๆว่า วิธีนี้ของฟางเหมี่ยวยิ่งทำให้ตระกูลฟางสามัคคีกันมากกว่าเดิม มีแรงสมัครสมานมากอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน
มีเสียงหนึ่งมาขัดบรรยากาศขึ้นพอดี
“โถโถโถ ภาพน่าประทับใจนี่ทำให้ฉันอดซาบซึ้งไปด้วยเลยนะเนี่ย นี่คือศักดิ์ศรีของตระกูลใหญ่? ดูไม่ค่อยมีค่าเท่าไหร่เลยนี่ แต่ฉันหวังว่าต่อมา กระดูกของพวกแกจะไม่อ่อนขนาดนั้น คุกเข่าเร็วขนาดนั้น เพราะเมื่อกี้ตอนสัตว์คุ้มครองในตำนานของตระกูลฟางของพวกแกออกมา พวกแกดูมีความมั่นใจเชิดหน้าได้ฉับพลันเลยนี่”
“แน่นอนล่ะ ฉันมีงานอดิเรกอย่างหนึ่งคือ ชอบทำลายความหวังและความเชื่อของคนอื่น ทำให้พวกแกรู้สึกถึงการตกจากสวรรค์ลงนรก สิ่งที่เคยยึดมั่นเย่อหยิ่งหายวับไปกับตา รู้จักความรู้สึกนั้นไหม? มันเป็นความรู้สึกหมดหนทาง ทั้งอ่อนแอน่าสงสาร แต่ก็ช่วยอะไรไม่ได้!”
ฟางจินหยวนรู้ดีว่าผู้หญิงคนนี้คิดจะลงมือแล้ว พวกเขาไม่มีทางถอย ถ้าแพ้ ตระกูลฟางจะสูญสิ้นทุกสิ่ง ดังนั้นเขาได้แต่ฝากความหวังทั้งหมดไว้ที่ตัวขวังซือ มีเพียงเขาที่จะพลิกสถานการณ์ได้
“ในเมื่อคุณเชื่อมั่นอย่างนั้น ก็มาเลย!”
ศึกใหญ่ไม่จำเป็นต้องพูดเยอะ มีแต่ผู้ชนะเท่านั้นที่มีสิทธิ์พูด
วินาทีที่หันขวับไปนั้น ฟางจินหยวนหันทางขวังซือ พูดอย่างนอบน้อมเคารพว่า “รบกวนด้วยนะครับ!”
ขวังซือโฮกออกมาเสียงยาว ทั่วทั้งตระกูลฟางเหมือนสะท้อนเสียงคำรามด้วยความโกรธของเขาไปทั่ว ฝุ่นทรายคลุ้งตลบ ดูเหมือนจะทลายฟ้าดิน ยิ่งสั่นสะท้านเข้าไปในจิตใจทุกคนราวเสียงกัมปนาท ทำให้คนรู้สึกสั่นสะท้านหัวใจและตกตะลึง!
ผู้หญิงหน้ากากมังกรไม่กลัว ตรงกันข้ามกลับดูจะตื่นเต้นซะด้วย เธอพูดเสียงเย็นว่า “มาสิ! ให้ฉันดูซะหน่อยว่าสัตว์คุ้มครองในตำนานระดับปรมาจารย์ตัวนี้จะแกร่งซักแค่ไหน!”
พอเธอพูดจบ ด้านหลังอีกเก้าคนก็ขึ้นมายืนเรียงข้างเธอเป็นแนว แสดงท่าทีพร้อมรับการโจมตี ทั้งเก้าคนคิดกันไปต่างๆนานา อย่างน้อยมีกว่าครึ่งที่เผชิญหน้าท่าทางน่ากลัวของขวังซือแล้วยังรู้สึกใจสั่นระรัว ที่เหลือถึงจะไม่กลัว แต่ก็ไม่กล้าประมาท
“ลงมือได้!”
ตามหลังการออกคำสั่งของผู้หญิงหน้ากากมังกร ทั้งห้าคนขึ้นหน้าพร้อมกันหนึ่งก้าว เรือนร่างปราดเปรียว ทั้งห้าคนปราดเข้าไปยึดครองทิศทั้งห้าคือ ตะวันออก ตะวันตก ใต้ เหนือและกลางในลานกว้างอย่างรวดเร็ว กลายเป็นรูปดาวห้ามุม ทั้งห้าคนยืนประจำตำแหน่งของตน บรรยากาศทั่วทั้งลานกว้างเริ่มเปลี่ยนไป เริ่มมีลมหนาวทะมึนมัวพัดจากทุกทิศ!
ไม่เพียงลมหนาวพัดพา แม้แต่ท้องฟ้าก็เริ่มทะมึนลง พริบตามีความรู้สึกเหมือนท้องฟ้าโดนปิดดวงตะวันเอาไว้ ขนาดท้องฟ้ายังโดนพวกเขาควบคุมไว้ ทั้งฟ้าผ่าทั้งฟ้าแลบ ทำหยั่งกับอยู่ในโลกเวทมนตร์ก็ไม่ปาน
คนตระกูลฟางตะลึงไปตามๆกัน นี่มันเกิดจากฝีมือมนุษย์หรอ?
ผู้ฝึกยุทธ์ต่างรู้ดีว่า คนจำนวนน้อยที่อยู่ระดับสูงนั่นสามารถทำได้ถึงขั้นเรียกลมเรียกฝน แต่ผลที่ได้มันน้อยนิดนัก แต่วันนี้พวกเขาได้เจอเรื่องจริงแล้ว เรียกได้ว่าพลิกความรู้ความเชื่อที่เคยมีไปได้เลย
ฟางจินหยวนมองฉากนี้ คิ้วขมวดหนักขึ้น จนอดโพล่งถามออกมาไม่ได้ว่า “นี่คือวิชาลับเบญจธาตุ?”
“หือ?” ผู้หญิงหน้ากากมังกรดูจะตกใจมาก เธอมองสำรวจฟางจินหยวนจากหัวจรดเท้า ก่อนยิ้มเย็นบอก “ทำไม? ฟังคำพูดเจ้าตระกูลฟางแล้ว รู้จักวิชาลับเบญจธาตุ?”
“พอรู้จักมาบ้างเท่านั้นเอง” ฟางจินหยวนพูดอย่างระมัดระวัง เขาไม่คิดจะอธิบายเพิ่มเติม ในใจกลับตะลึงถึงขีดสุด
วิชาลับเบญจธาตุนะ!
ตอนวิชาลับเบญจธาตุออกสู่ยุทธภพ ทำคนไม่น้อยเลยได้ยินแล้วหวาดหวั่นไปตามๆกัน แต่ไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่ ที่นักสู้เบญจธาตุของวิชาลับเบญจธาตุหายไปอย่างไร้ร่องรอย หายไปจากสายตาทุกคน บางคนบอกว่าพวกเขาทั้งห้าโดนศัตรูตามฆ่า บางคนบอกว่าพวกเขาทั้งห้าหลบซ่อนตัวใช้ชีวิตเป็นราชาท่องเที่ยวไปเรื่อย แต่ที่พูดมาทั้งหมด ไม่มีอันไหนพิสูจน์ได้เลยว่าจริง
ตำนานก็เป็นแค่ตำนาน แต่ที่ฟางจินหยวนคิดไม่ถึงคือ ในตอนที่เขายังมีชีวิตอยู่ จะได้เห็นนักสู้เบญจธาตุในตำนานของจริง!
และยิ่งคิดไม่ถึงว่า นักสู้เบญจธาตุจะมาหาเรื่องตระกูลฟาง!