จอมนักรบทรงเกียรติยศ - บทที่ 645 ฟางฟังกลับมาแล้ว
ไม่มีใครสามารถบอกเขาได้
สำหรับฟางจินหยวนที่แปลกแยกและกุมอำนาจเอง บางทีไม่มีใครกล้าเอ่ยปาก
สายตาเป็นประกายของทุกคนกำลังจ้องฟางเหยียน เฝ้ารอคำพูดต่อไปอย่างเงียบๆ และฟางไห่อิงก็เช่นกัน
ฟางเหยียนห่อเหี่ยวใจสุดๆ
นี่เป็นท่าทีที่คนรวยควรจะมีเหรอ?
ทำผิด แล้วยังแสดงท่าทางไม่รับผิดชอบอีก ยอมรับความผิดของตัวเองไม่ได้หรือไง?
เกียรติยศสำคัญมากเลยเหรอ?
“ฟางจินหยวน รู้ความผิดมั้ย!” ฟางเหยียนตะคอกอย่างเย็นชาออกมา แววตาเลือดเย็นดั่งกระบี่คม
ฟางจินหยวนสั่นไปทั้งตัว ร่างกายก้มต่ำลงไปอีก ศีรษะไปชนกับเข่าของตัวเองแล้ว กระดูกสันหลังเสียวซ่าน เขารู้ดีมากว่าฟางเหยียนกำลังแยกงานออกจากเรื่องส่วนตัวแล้ว
แยกคู่ครองกับทหารออกจากกัน นั่นเป็นความผิด โดยเฉพาะคนนี้เทพแห่งสงครามประเทศหวาที่สง่าสูงส่ง เกรงว่าความผิดจะเป็นสถานหนักอย่างเดียว ถ้าเป็นคนอื่นพูดคำพูดนี้ บางทีเขาอาจจะคัดค้าน และให้ทนายแก้ต่างไปแล้ว แต่คนนี้คือฟางเหยียน เขาไม่สามารถขัดขืนได้!
“เสี่ยวเหยียน ฉันรู้ความผิดแล้ว และยอมรับผิด”
เมื่อฟางจินหยวนพูดจบ เกิดความแตกตื่นขึ้น!
ผู้นำตระกูลตระกูลฟางแท้ๆก้มหัวประนีประนอม ต่อหน้าหลานชายตัวเอง!
ฟางเหยียนยังคงไม่ให้อภัย!
คนที่อยู่ในเหตุการณ์แทบจะเริ่มประณามฟางเหยียนในใจกันขึ้นมาแล้ว พอหอมปากหอมคอ พอเหมาะพอควรไม่ได้เหรอ? ต้องทำให้เรื่องมันยิ่งแย่ลงให้ได้เลยใช่มั้ย?ยังไงคิดไปเองก็ไม่ต้องรับผิดชอบ ไม่กล้าพูดแล้วจะไม่กล้าประณามในใจเหรอ?
ใช่!
ฟางเหยียนช่วยทุกคนไว้ ถูกทุกคนมองเป็นพระเจ้า แต่ตอนนี้เขาได้คืบจะเอาศอก ได้ยั่วโมโหผู้คนเข้าให้แล้ว
มนุษย์ก็เป็นแบบนี้ เมื่อทุกอย่างดีขึ้นก็จะลืมว่าตอนนั้นเจ็บปวดมากขนาดไหน!
เมื่อหมดประโยชน์ก็ถีบหัวส่ง ตระกูลฟางทำน้อยไปเหรอ?
ท่าทางนี้ ทำให้ฟางเหยียนรู้สึกรกสายตา เขาเพียงแค่เป็นเดือดเป็นร้อนแทนเย่ชิงหยู่ ที่นี่ เขาไม่อยากอยู่แม้แต่นาทีเดียว
ฟางไห่อิงหัวเราะออกมา พร้อมกับน้ำตาในแววตา เธอไม่ได้สิ้นหวังที่ถูกฟางเหยียนปฏิเสธ กลับกันดีใจมากเสียอีก ผู้ปกครองคนไหนบ้างที่ไม่อยากเห็นลูกของตัวเองปลดพันธนาการ สำหรับฟางจินหยวนเด็กน้อยจนกระทั่งผู้ใหญ่หวาดกลัวไปตามๆกัน นี่กลายเป็นกรอบความคิดอย่างหนึ่งไปแล้ว แม้แต่ชีวิตและทางเดินของตัวเองล้วนไม่สามารถเลือกเองได้
แต่ฟางเหยียนกำหนดมาให้เป็นคนที่ทำลายพันธนาการนี้
แต่เธอเริ่มค่อนข้างสับสนขึ้นมา ที่ฟางเหยียนทำลายพันธนาการนี้ได้ ก็ต้องอยู่ฝ่ายตรงข้ามกับฟางจินหยวนโดยปริยาย เธอไม่อยากสูญเสียใครไปทั้งนั้น เธอที่ทนไม่ไหวหันไปมองพี่ชายฟางไห่เซิงและฟางไห่ถาง หวังว่าพวกเขาทั้งสองจะมองตน แล้วบรรเทาความโกรธของฟางเหยียนลงบ้าง แต่ผลลัพธ์คือ เหมือนว่าทั้งสองมองไม่เห็น จ้องมองฟางเหยียนตลอดเวลา
“โอเค ในเมื่อคุณยอมรับผิด งั้นผมจะรอให้คุณไปขอโทษถึงที่ก็แล้วกัน”
ฟางเหยียนลดความรุนแรงของน้ำเสียงลง เขาไม่สนฟางจินหยวนได้ แต่เขาต้องสนใจความรู้สึกของฟางไห่อิง พูดได้ว่าตั้งแต่วันนี้ไป ตระกูลฟางไม่มีใครกล้ารังแกฟางไห่อิง ไม่มีใครกล้าใช้อำนาจข่มเหงเธอแล้ว โดยเฉพาะสะใภ้ใหญ่หลี่เย่วภรรยาของฟางไห่ถาง
ทุกคนโล่งอกลงโดยปริยาย โดยเฉพาะฟางจินหยวน เมื่อกี้นี้ จู่ๆเขาก็รู้สึกว่าฟางเหยียนมีใจที่จะฆ่าเขาไปด้วย โดยเฉพาะนัยน์ตาที่เต็มไปด้วยความอาฆาตคู่นั้น ทำให้เขาเกิดความกลัวขึ้นในใจ
คำอธิบายที่เอื้อมไม่ถึง มักจะทำให้เข้าใจผิดมากขึ้น และตอนนี้เพียงแค่ขจัดความโกรธของฟางเหยียนได้ เขาไม่แคร์ที่จะแบกหน้าอันชราไปขอโทษเย่ชิงหยู่ถึงที่
จากเรื่องนี้ ฟางจินหยวนเข้าใจคำพูดหนึ่งที่คนโบราณมักจะพูดโดยปริยาย “อะไรที่ตัวเองไม่ชอบจงอย่าทำกับคนอื่น”
เขาสาบานว่าจะไม่ตัดสินใจเรื่องฟางเหยียนอีก ปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติก็ดีอยู่แล้ว เพียงแค่สามารถขจัดร่องรอยนี้ได้ แม้เขาต้องทุ่มเทเท่าไหร่ก็ยอม เพราะนี่เป็นตราบาปที่ตัวเองก่อขึ้นมา
ยังคงเป็นคำพูดนั้น ฟางเหยียนต้องอยู่ตระกูลฟาง
“ได้ เสี่ยวเหยียน ขอโทษฉันขอโทษแน่ พรุ่งนี้ฉันจะไปขอโทษ”
ฟางเหยียนไม่สนใจเขาอีก มองไปรอบๆ แล้วไปหยุดที่ใบหน้าสองพี่น้องฟางไห่เซิงและฟางไห่ถาง แสยะยิ้มที่มีเลศนัยออกมา จากนั้นก็ตัวสั่น ไม่กล้าสบตาแม้แต่น้อย และพวกเขาก็รู้ ว่าฟางเหยียนจงใจเตือนพวกเขา ให้พวกเขาอ่อนน้อมถ่อมตัว
ฟางไห่อิงมองทุกๆการกระทำของฟางเหยียน ในใจเต็มไปด้วยการชื่นชม
ตอนที่ฟางเหยียนกำลังหันไป ประตูใหญ่ของตระกูลฟางมีเสียงตกใจดังขึ้น สายตาของทุกคนถูกดึงดูดไปตรงนั้น
“อ้า……”
เสียงกรี๊ดที่ประตูคือฟางฟังที่กำลังเรียนบัณฑิตศึกษา เมื่อเธอได้ยินข่าวก็รีบมาอย่างไม่หยุด เมื่อเข้าประตูมา ก็เห็นเหตุการณ์ที่ทำให้เธออ้าปากค้าง ตระกูลฟางพังไม่เป็นชิ้นเป็นอัน อาคารถล่ม สวนไม่เป็นระเบียบ เต็มไปด้วยศพ มีรปภ. มีใบหน้าที่คุ้นเคยของตระกูลฟาง แม้แต่สัตว์เจ้าที่ในตำนานตระกูลฟางก็ออกมาแล้ว!
เรื่องที่ตระกูลฟางเผชิญกับภัยอันตราย เกือบจะพังพินาศ ดูท่าทางแล้วเป็นความจริงสินะ!
เธอที่รู้ความจริงน้ำตาไหลลงมา ดวงตาไร้ชีวิตชีวา อกสั่นขวัญหาย ใบหน้าขาวซีดเหมือนกับกระดาษแผ่นหนึ่ง ขาทั้งสองสั่นไปหมด ไม่กล้าดูเหตุการณ์ที่อยู่ตรงหน้าแม้แต่น้อย
โหดร้ายจนไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นบนโลก ทุกข์ระทมอย่างหาที่เปรียบไม่ได้
ทั้งตระกูลฟาง อนาถคำเดียวก็เพียงพอแล้ว!
ราวกับนรก ทำให้คนชา ไม่กล้ามองโดยตรง
ตระกูลฟางน่าเวทนาเกินกว่าจะดูได้ ร่างกายของทุกคนล้วนเต็มไปด้วยรอยเลือด แต่มีแค่คนเดียว ดูเหมือนไม่เหมือนพวกเขา ไม่พูดเรื่องที่บนร่างกายไม่มีรอยเลือดใดๆ แม้แต่คุณปู่ของตัวเองฟางจินหยวนยังก้มหัวยอมรับผิดกับคนนั้น
ใช่ ผู้ชายที่สวมชุดกันลม มีชีวิตชีวาก็คือพี่ชายของเขา ฟางเหยียน!
หรือ……
ความคิดอันน่ากลัวผุดขึ้นมาในหัวของเธอ
ฟางเหยียนบ้าไปแล้วเหรอ?
นึกไม่ถึงว่าจะสังหารตระกูลฟาง!
“ฟางฟัง แกกลับมาแล้วเหรอ?” ฟางไห่ถามชะงักไปนาน เพิ่งจะรับความจริงว่าลูกสาวของตนได้กลับมาแล้ว จึงได้ตะโกนออกไปอย่างมึนๆ ถ้าเป็นเมื่อก่อน ฟางไห่ถางไม่มีทางอยากให้ลูกสาวของตัวเองปรากฏกายแน่นอน แต่ตอนนี้วิกฤตของตระกูลฟางได้กำจัดไปแล้ว เขาอยากกอดลูกสาวของตัวเองมาก ตอนที่หม่างเทียนและคนอื่นๆเริ่มฆ่าคน เขาอยากเห็นลูกสาวของตัวเองเป็นครั้งสุดท้ายมาก
มีเพียงคนที่เผชิญกับความตายมาก่อน จึงจะรู้คุณค่าของการมีชีวิต การตายใครก็ยากจะหนีได้ การมีชีวิตย่อมมีความหวัง ฟางไห่ถางและภรรยาของเขาได้รับความเจ็บปวดมาก จากวิกฤตของตระกูลฟางในครั้งนี้ ตอนที่เผชิญหน้ากับความตาย พวกเขาเพียงแค่อยากให้ลูกสาวของตัวเองมีชีวิตที่ดี ตอนที่หลับตา ได้เจอหน้าครั้งสุดท้ายก็ยังดี
พระเจ้า!
กลัวที่สุดคือจะเสียใจ ไม่มีใครตอนที่หลับตา แล้วจะไม่รู้สึกผิด จากไปอย่างสง่างาม
ฟางฟังยังคงชะงักอยู่กับที่ ไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไร กลับเป็นฟางไห่ถางที่เข้าไป กอดฟางฟังไว้แน่น ร้องไห้สะอึกสะอื้นไปนานแล้ว
ฟางเหยียนก็ถอนหายใจยาวๆ ฟางฟังไม่เป็นไรก็ดีแล้ว เพียงแต่ตกใจกับเหตุการณ์ที่อยู่ตรงหน้าเท่านั้น ในตระกูลฟางยังมีคนที่เขานึกถึงอยู่ นอกจากพ่อแม่ที่จากไป ฟางไห่อิงน้าสาว ก็เป็นน้องสาวฟางฟังที่เจอหน้ากันไม่กี่ครั้ง เธอไม่เลวร้ายโดยกมลสันดาน ไม่มีนิสัยคุณหนูของคนรวย เป็นมิตรเข้ากันได้
ในตระกูลฟางที่เย็นชาโหดเหี้ยม แต่เธอกลับไม่เหมือนกัน
เพียงแต่ เหมือนเธอจะเข้าใจผิดแล้ว
ช่างเถอะ อธิบายก็เหมือนปิดบัง ยิ่งอธิบายยิ่งแย่ ยังไงก็มีคนอธิบายให้เธอฟัง อย่างน้อยพ่อของเธอก็พึมพำไม่หยุดแล้ว แม้แต่เรื่องตอนเด็กๆยังพูดขึ้นมา ราวกับกำลังคิดถึงอะไร แต่ฟางฟังที่อยู่ในเหตุการณ์กลับไม่ฟังใดๆ นิ่งงันเป็นไก่ไม้ไปแล้ว สมองว่างเปล่า
ฟางเหยียนเดินไปที่ฟางไห่อิง ไม่รอให้เธอโต้ตอบ ก็ได้จับชีพจรเธอ หลังจากที่ทำความเข้าใจแล้ว เขาก็ถอนหายใจโดยปริยาย น้าสาวไม่บาดเจ็บ เพียงแต่ร่างกายค่อนข้างอ่อนแอ ถ้าฟางไห่อิงเป็นอะไรไป เขาจะเสียใจไปตลอดชีวิต!