จอมนักรบทรงเกียรติยศ - บทที่ 656 คุณคู่ควรเหรอ
เจิ้งชงไม่สนใจ ตรงกันข้ามยังมีความขำขันอยู่อีกด้วย ธรรมดาผู้ที่มีความโมโหเต็มอก รู้จักแต่ว่าผู้อื่น แต่ไหนแต่ไรก็เป็นคนที่ไม่มีความสามารถ มีแต่จะตำหนิให้ผู้อื่นต้อยต่ำลง กินองุ่นไม่ถึงแต่ไปเที่ยวว่าองุ่นเปรี้ยว คนแบบนี้ถ้าดูตามปกติแล้วเขาก็ยังคร้านที่จะมอง ทว่าในคืนนี้ เขาหวังเป็นอย่างมากจริงๆ ว่าจะได้เห็นพวกที่ ‘อิจฉาตาร้อน’ และเป็นเพราะ ‘ความอิจฉา’ ของพวกเขา ที่จริงแล้วก็คือการบังคับให้เวินหลานยอมจำนน!
หลังจากผู้จัดการส่วนตัวสาวเอ่ยจบแล้ว สีหน้าก็มีความดูไม่ได้ขึ้นมา แม้แต่เธอก็ไม่ทราบสัญญาฉบับนี้ หลังจากที่บริษัทเซ็นสัญญาแล้วเธอจึงได้รับทราบ ทว่าทั้งหมดนี้ล้วนเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่เวินหลานจำต้องแสดงร้องเพลง เธอเองก็จนปัญญาเช่นกัน
เวินหลานใจห่อเหี่ยว ตาจ้องมองสัญญานั่นอย่างเหม่อลอย ไม่รู้ว่าคิดอะไรอยู่
“คุณดาราใหญ่เวิน ตอนนี้คุณเข้าใจแล้วหรือยัง?” เจิ้งชงยิ้มขึ้นมา “ผมรู้ว่าคุณมีเงินเยอะ สองพันล้านสำหรับคุณเป็นเรื่องเล็กน้อย ทว่าคุณอย่าลืมเสียว่าภาพลักษณ์ภายนอกของคุณ ความจริงแล้วกลับเป็นการใช้ชีวิตโดยการพึ่งพาคนอื่น จุดยืนของคุณในตอนนี้ทำให้คุณต้องยอมรับสิ่งที่ย่ำแย่ในตอนนี้ของคุณ ถ้าคุณผิดสัญญา คุณจะต้องพบกับอะไรผมไม่ต้องพูดมากแล้วใช่ไหม?”
“หลานหลาน สัญญาฉบับนี้ เราปฏิเสธไม่ได้” ผู้จัดการสาวเอ่ยกระซิบเสียงเบา
เจิ้งชงมองไปยังฟางเหยียนด้วยความสะใจ มีความท้าทายโดยไม่ต้องเอ่ย ขาดก็แต่บอกว่าอะไรคือวิธีการเล่นของเศรษฐีตัวจริงเท่านั้น เธอวิ่งเข้ามาหาโดยไม่สนภาพลักษณ์ตัวเองแล้วจะอย่างไร? ถูกฉันกุมไว้ในมือแล้วไม่ใช่หรืออย่างไร? ฉันไม่ยอมให้เธออยู่กับนายสองต่อสองหรอก นายจะทำอย่างไร?
คางคกอย่างไรก็เป็นคางคกอยู่วันยังค่ำ อยากจะกินเนื้อหงส์ฟ้า เป็นความคิดเพ้อฝันสิ้นดี!
เวินหลานจะทำลายอนาคตของตัวเองเพียงเพราะผู้ชายคนหนึ่งหรือไม่?
คำตอบคือแน่นอน!
ไม่ใช่!
เธอในบัดนี้เปล่งประกายไร้ที่สิ้นสุด อนาคตโรยด้วยกลีบกุหลาบ จะทิ้งความสำเร็จที่ได้มายากลำบากนี้เพื่อชายธรรมดาคนเดียวได้อย่างไร? คนปกติล้วนไม่มีทาง นับประสาอะไรกับเวินหลานซึ่งเป็นหญิงสาวที่ฉลาด แน่นอนว่าต้องรู้ว่าตนเองกำลังทำอะไรอยู่!
เหอะ!
ท่าทีของเวินหลานทำให้เจิ้งชงไม่มีความมั่นใจขึ้นมา ไม่รู้ว่าเพราะเหตุอันใด เขามักจะรู้สึกว่าเวินหลานจะผิดสัญญา!
เมื่อความคิดนี้ผุดขึ้นมา เจิ้งชงก็ลนลานขึ้นมา!
เขาไม่มีทางปล่อยให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นแน่นอน เขาเอ่ยขึ้นเสียงเข้ม “เพื่อผู้ชายธรรมดาคนหนึ่ง หรือว่าคุณอยากจะทำลายอนาคตงั้นเหรอ?”
เสียงนี้ทำให้ร่างกายอรชรของเวินหลานต้องสั่นเทา และเวลานี้เอง เธอก็เงยหน้าขึ้นทันที เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “ไปเถอะ! แต่ว่า…”
เจิ้งชงกลับเอ่ยตัดบทคำพูดของเธอทันที ด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “คุณไม่มีสิทธิ์เรียกร้องอะไรกับผม!”
“งั้นฉันยอมที่จะผิดสัญญา!”
โครม!
คำพูดเดียว ได้ยินกันไปทั่ว ทั้งห้องโถงมีเสียงฮือฮาดังขึ้น!
เวินหลานปฏิเสธอย่างนั้นหรือ!
ไม่สนว่าต้องแลกด้วยอนาคตของตัวเอง เธอก็ยังปฏิเสธไป!
ฟางเหยียนมีความประหลาดใจเล็กน้อย จึงมองไปยังเวินหลานแวบหนึ่ง
“อะไรนะ!” เจิ้งชงประหลาดใจเป็นอย่างยิ่ง ฉุนเฉียวจนใบหน้าเขียวปั๊ด คิดไม่ถึงว่าเวินหลานจะไม่สนอนาคตของตัวเองเพื่อผู้ชายธรรมดาคนหนึ่ง!
เวินหลานยิ้มขึ้นมาเจือจาง เอ่ยขึ้นด้วยความพึงพอใจ “ถ้าฟางเหยียนไม่ไปด้วย ฉันยินยอมผิดสัญญา!”
โครม!
เจิ้งชงรู้สึกเพียงแต่ว่ามีเสียงฟ้าผ่าดังขึ้นมาสนั่น ทำให้เขาต้องเดือดดาลขึ้นมา!
เขาทราบว่าตนเองจำต้องแพ้แล้ว เขาก็แค่คิดไม่ตกว่า แพ้อยู่ในส่วนใดกันแน่!
“คุณชายเจิ้ง ไม่อย่างนั้น…” หลิวเจี๋ยเห็นว่าสถานการณ์ตกอยู่ในทางตัน จึงกระซิบกระซาบเสียงเบา ทำให้เจิ้งชงที่กำลังโกรธอยู่ต้องใจเย็นลงมา เขาทราบว่าหลิวเจี๋ยพูดนั้นถูกต้อง ต่อให้จะปลีกตัวฟางเหยียนออกได้ เวินหลานทำตามสัญญา ฟางฟังก็ไม่ยอมไปด้วย ในเมื่อเป็นเช่นนี้ เช่นนั้นก็คงทำได้เพียงพาฟางเหยียนไปด้วยเท่านั้น
เพียงแต่ว่าเมื่อมองไปยังฟางเหยียนแล้ว ความเดือดดาลบนใบหน้าก็ยังคงเหมือนเดิม
เมื่อมาดูทางฟางเหยียน ใบหน้าของเขาสงบนิ่งไม่เปลี่ยนแปลง เพิกเฉยต่อการยั่วยุของเจิ้งชงทันที
ทว่าคนที่น่าเกลียด เจิ้งชงผู้ซึ่งไม่ควรค่าแก่การเอ่ยถึง
“ฟางเหยียน ฉันพานายไปด้วยได้ แต่ว่านายต้องจ่ายเอง เข้าใจไหม?”
เดิมทีฟางเหยียนต้องการที่จะปฏิเสธ กลับถูกฟางฟังขัดจังหวะขึ้นมา “ฉันจ่ายให้เขาเอง!”
เจิ้งชงอึ้งไป อยู่ๆ เขาก็คิดถึงคำพูดเมื่อครู่ของหลิวเจี๋ยขึ้นมาทันที ถ้าฟางเหยียนไม่ไป ผู้หญิงสองคนนี้ก็จะไม่ไป คำพูดนี้เป็นเรื่องจริงอย่างไม่น่าเชื่อ การกระทำที่มีต่อฟางเหยียน พ่ายแพ้ราบคาบ แพ้จนไม่เหลือซาก!
ถูกเวินหลานฉีกหน้าครั้งแล้วครั้งเล่า เจิ้งชงจะสามารถทนได้อย่างไร เขาคิดได้ถึงวิธีการลงโทษเวินหลานที่ดีออก นั่นก็คือเลี้ยงดูเธอ ทำให้เธอหลายมาเป็นหมากของเจิ้งชง ให้เขาเล่นสนุกด้วยเต็มที่!
สัญญาฉบับนี้ไม่ใช่การเริ่มต้นและไม่ใช่การสิ้นสุด ตามความสามารถของเขา คุณชายเจิ้ง เรื่องแบบนี้ห้ามใจดีเป็นอันขาด ขอแค่สายโทรเดียว เวินหลานก็คงต้องกลายมาเป็นของเล่นคู่ใจของเขาโดยจำยอม!
ก่อนเจอเวินหลาน ของเล่นคู่ใจแบบนั้นไม่เร้าใจพอ ทว่าตอนนี้เมื่อพบกับความหน้าแตกต่างๆ นานา ความปรารถนานั้นก็รุนแรงยิ่งขึ้น เวินหลานผู้บริสุทธิ์และสูงส่งคิดไม่ถึงว่าจะประจบผู้ชายธรรมดาคนหนึ่ง เขาจะทนได้เยี่ยงไร!
โดยเฉพาะยามที่เห็นเวินหลานวิ่งมากอดฟางเหยียนท่ามกลางผู้คนมากมาย เขาก็รู้สึกว่าผู้หญิงคนนี้จำต้องมาเป็นของเล่นคู่ใจของเขา อย่างนั้นก็จะทำให้จิตใจสมดุลขึ้นมาได้บ้าง
คนกลุ่มหนึ่งเดินจากไปท่ามกลางสายตาของผู้คน ทั้งห้องโถงใหญ่ก็เงียบสงบขึ้นมาตาม
ระหว่างที่รับประทานอาหาร เจิ้งชงเอาแต่แสดงเจตนาความรักใคร่ให้แก่เวินหลานที่ดูราวกับไม่จงใจ โดยเฉพาะการที่ฟางฟังติดตามและชื่นชมเธอ สำหรับคำว่าเลี้ยงดูนั้น เขาไม่ได้เอ่ยขึ้นแม้แต่คำเดียว ทว่าการไม่หยิบยกมาพูดก็ไม่ได้แสดงว่าเขาจะไม่ใช้ปัญหาตามจริงมาเอ่ย
เขานำเครื่องประดับเพชรพลอยเครื่องหยกราคาไม่ธรรมดาวางบนโต๊ะอันแล้วอันเล่า มอบให้เวินหลาน ครั้นเวินหลานกลับไม่แม้แต่จะชายตามอง ยังคงจ้องมองฟางเหยียนไม่คลาย เพิกเฉยเขาไปโดยตรง
“คุณชายเจิ้ง นี่คุณ?” โจวซานกุมใบหน้าครึ่งหน้า เอ่ยถามด้วยความไม่เข้าใจ “คุณ คุณคิดจะเลี้ยงดูเวินหลาน?”
“ถูกต้อง ฉันอยากให้คนชั่วคนนี้ทราบว่า มีบางคนเธอไม่สามารถที่จะผิดใจได้!”
โจวซานอึ้งไป มองหน้าหลิวเจี๋ยด้วยสีหน้าประหลาด หลิวเจี๋ยยิ้มเจือจาง เห็นได้ชัดว่า นี่ไม่ใช่ความคิดของหลิวเจี๋ย
บรรยากาศบนโต๊ะอาหารแปลกประหลาดยิ่ง รวมแล้วมีอยู่สามประเภท หนึ่งในนั้นก็คือ ฟางเหยียนก้มหัวขยับชามตะเกียบ ครั้นเวินหลานกลับเหมือนกับเป็นภรรยาของเขา คีบอาหารให้เขาไม่หยุด ราวกับหญิงสาวงดงามธรรมดาที่อ่อนโยนว่าง่าย อย่างที่สองคือ หลิวเจี๋ยพูดคุยและยิ้มไปกับฟางฟัง ทว่าฟางฟังกลับจ้องมองฟางเหยียนอยู่เป็นระยะๆ ไม่ต้องบอกก็ทราบว่าหมายถึงอย่างไร อย่างที่สามก็คือ เจิ้งชงและอีกห้าคนกำลังปรึกษาหารือกันอยู่ว่าจะเลี้ยงเวินหลานอย่างไร เพื่อจะได้ระบายความโกรธเคืองนี้ได้!
ทั้งห้าคนล้วนเป็นคนชั่วจับกลุ่มรวมตัวกัน ความคิดนี้เมื่อออกมาแล้วจำต้องเข้ากันได้ดีเป็นแน่!
มองดูดาราที่ตนเองชื่นชอบและติดตามเอาอกเอาใจฟางเหยียนอยู่ต่อหน้า ฟางฟังรู้สึกว่าไม่ค่อยสบอารมณ์เท่าไรนัก เธอชัดเจนดีว่าลูกผู้พี่ผู้นี้แต่งงานแล้ว คุณปู่ฟางจินหยวนยังต้องการจับพวกเขาแยกจากกันเนื่องด้วยเหตุนี้ด้วย เกือบทำให้ฟางเหยียนฆ่าฟางจินหยวนด้วยความโกรธ
ทว่าบัดนี้เล่า?
หรือว่าเป็นอย่างคำพูดนั้นจริงๆ ผู้กล้ายากฝ่าด่านหญิงงาม?
ผู้ชายเป็นประเภทเดียวกันหมดเลยอย่างนั้นหรือ?
พี่เหยียนก็คงจะไม่มีอะไรที่แตกต่างสินะ!
อาหารมื้อนี้รับประทานได้อย่างงุนงง ทุกคนต่างก็มีอารมณ์อันแปลกประหลาดอยู่ในใจ โดยเฉพาะเจิ้งชง เมื่อเห็นเวินหลานเอาใจฟางเหยียนเช่นนี้ ทำให้เขาโมโหขึ้นมาอย่างยิ่ง หักตะเกียบไปหลายคู่แล้ว!
เขาที่กำลังโมโหอย่างที่สุด อยู่ๆ ก็ทุบโต๊ะ “เวินหลาน ผมอยากเลี้ยงดูคุณ!”
ได้ยินดังนั้น ห้องอาหารวีไอพีสุดหรูก็เงียบสงัด!
โดยเฉพาะฟางฟัง ใบหน้าเต็มไปด้วยความงุนงง
จะต้องฉุนเฉียวจนถึงแค่ไหนเชียว จึงจะเอ่ยขึ้นมาโดยไม่คิดเช่นนี้!
ฟางเหยียนก็ถูกคำพูดนี้ทำให้เกือบสำลัก!
เจิ้งชงที่กำลังฉุนเฉียวอยู่ ราวกับรู้ตัวแล้วว่าตนเองผลีผลามเกินไป ทว่าเมื่อลูกธนูอยู่บนคันธนูจะปล่อยออกไปก็ไม่ได้ ในเมื่อเอ่ยแล้ว เขาก็โล่งใจแล้ว ไม่มีอะไรที่สำคัญไม่กว่าการเรียกศักดิ์ศรีของตัวเองกลับคืนอีกแล้ว!
สายตามากมายจับจ้องมารวมที่เวินหลาน ทว่าเจ้าตัวราวกับไม่ได้ยิน ยังคงตั้งใจคีบอาหารให้ฟางเหยียนเช่นเคย ปรนนิบัติเขาอย่างระมัดระวัง ราวกับเป็นแม่บ้านอย่างไรอย่างนั้น
เจิ้งชงโกรธจนทนไม่ได้ ตอนนี้แม้แต่หน้าตาเขาก็ไม่อยากได้แล้ว คิดไม่ถึงว่าสิ่งที่ได้กลับมาดันเป็นการที่เวินหลานไม่สนใจเลยสักนิด!
ขณะที่เขากำลังจะเอ่ยเตือนขึ้นมาอีกครั้ง ในที่สุดเวินหลงก็วางมือลงเสียที ช่วงเวลาที่หันหน้ามา บนใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้มอันเย็นยะเยือก “คุณคิดอยากจะเลี้ยงฉัน? คุณคิดว่าตัวเอง คู่ควรเหรอ?”