จอมนักรบทรงเกียรติยศ - บทที่ 666 หึงหวงทะเลาะกัน
“ไอ้ฟางเหยียน!” เจิ้งชงตะโกนอย่างโมโหมาก “มึงมีสิทธิ์อะไร!มีสิทธิ์อะไรมากดหัวกู?”
ฟางเหยียนก็กำลังจะเอ่ยปาก แต่ถูกผู้หญิงข้างๆ หน้าต่างรถมาขัดไว้ เห็นใบหน้าเล็กๆ ของเธอแฝงไปด้วยความตกใจเล็กน้อย ความตกใจนั้นไม่น้อยไปกว่าการที่ได้เห็นสิ่งที่ชอบ ครั้งก่อนได้ทำความรู้จักกับฟางเหยียนเพราะขลุ่ยวิเศษ รู้ว่าคนคนนี้จะหาเรื่องด้วยไม่ได้ แต่ว่าตอนนี้ กลับมีคนมาหาเรื่องเขา ดูเหมือนจะรนหาที่ตายเอง เพิ่งเคยเจอเป็นครั้งแรกเหมือนกัน!
“คุณสามีคะ คนคนนี้น่ารำคาญมากเลย จะทำให้เขาหุบปากเลยดีไหม?”
“คุณมาทำอะไร?” ฟางเหยียนทำเหมือนกับไม่ได้ยิน สายจ้องเขม็งไปที่ผู้หญิงคนนั้น แล้วถาม
“ฉันก็มาเพื่อเตือนสติคุณสามีไงคะ ผู้หญิงด้านนอกล้วนเป็นแม่เสือร้ายทั้งนั้น จ้องแต่จะจับผู้ชายที่มีเจ้าของแล้ว!”
พูดไป เธอก็เหลือบมองเวินหลานโดยไม่ตั้งใจ เวินหลานก็ไม่ยอม ใช้สายตาส่งกลับไปเหมือนกัน แต่ว่า ความกล้าก็ถูกผู้หญิงคนนั้นกลบไปจนสิ้นในพริบตา
เวินหลานพบว่า รัศมีความสวยของตนเองที่ภูมิใจ ได้หายไปต่อหน้าผู้หญิงคนนี้ ไม่ว่าจะเป็นออร่าหรือกิริยาทั้งหลาย ล้วนแพ้ไปหมด เธอเพิ่งเคยรู้สึกว่าพ่ายแพ้แบบนี้เป็นครั้งแรก
ฟางฟังกลับทำหน้าแหยมองผู้หญิงสองคนหึงหวงกัน สีหน้าสับสนอย่างมาก พอกลับมามองพี่ชายตนเอง ก็ยังคงมีท่าทางเหมือนเรื่องทั้งหมดไม่เกี่ยวกับตนเอง ราวกับที่ผู้หญิงสองคนนั้นทะเลาะกันไม่ได้มีจุดประสงค์เป็นเขา
เคยเจอผู้หญิงที่สูงส่งดั่งอินทรี จะมามองไก่บ้านได้อย่างไรกัน?
ความยอดเยี่ยมของพี่เหยียนนั้น ล้วนประจักษ์สายตา มีผู้หญิงมาทะเลาะเพื่อแก่งแย่งกัน ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ธรรมดาอย่างมาก
แล้วอีกอย่างนะ เขามีหรือจะไม่รู้ว่าผู้หญิงคนนี้เป็นใคร ถ้าหากว่าคุณไปสนใจแต่ความสวยของเธอ คิดว่าเธอมีแค่เปลือกนอกที่สวยงามเท่านั้น เป็นแค่ผู้หญิงสวยแต่รูปจูบไม่หอม อย่างนั้นคุณก็ผิดมหันต์ ความแข็งแกร่งของเธอไม่ได้ขึ้นอยู่กับความสวยงามของร่างกาย แต่เป็นความแข็งแกร่งที่แท้จริง ผู้หญิงคนนี้เป็นดอกกุหลาบที่มีหนามแหลมพร้อมสู้!
เธอมีชื่อว่า จักรพรรดิชิงตี้ มีที่มาไม่ชัดเจน แต่ตอนที่เธอเจอกับฟางเหยียนครั้งแรกนั้น ก็ได้ประมือกัน เพื่อเอาขลุ่ยวิเศษของสำนักฉิวหลง แน่นอนว่าเธอไม่ใช่คู่ต่อสู้ของฟางเหยียน แต่ก่อนกลับเธอเหมือนจะพูดไว้ว่า พวกเราคงจะได้พบกันอีกแน่
สิ่งที่ทำให้ฟางเหยียนคิดไม่ถึงก็คือ พวกเขาได้พบกันอีกในไม่นานจริงๆ ไม่เพียงเท่านี้ ผู้หญิงคนนี้ออกมาก็มาเรียกเขาว่า คุณสามี ไม่รู้ว่าผู้หญิงคนนี้ต้องการจะทำอะไรกันแน่ สิ่งที่เขารู้ตอนนี้ก็คือ ผู้หญิงคนนี้ตั้งใจจะมาเข้าใกล้เขา
สำหรับศัตรูแล้ว ฟางเหยียนคงไม่ปฏิบัติดีด้วยแน่
“ผมไม่มีเวลามาพูดเรื่องไร้สาระกับคุณนะ มีอะไรก็ว่ามา” ฟางเหยียนพูดนิ่งๆ เสียงเย็นมาก เหมือนกับน้ำเย็นในห้องน้ำแข็ง ทำให้จักรพรรดิชิงตี้ต้องหน้าชาไป
“คุณสามีคะ…….” จักรพรรดิชิงตี้พูดออดอ้อน “ทำไมคุณถึงได้เย็นชาปฏิเสธแบบนี้ล่ะคะ? ถ้าฉันบอกว่าฉันมาเพื่อช่วยคุณ คุณจะเชื่อไหม?”
“อย่างผมต้องให้คุณมาช่วยด้วยหรือ?”
“ใช่!” จักรพรรดิชิงตี้พูดอย่างมั่นใจ
ฟางเหยียนก็เข้าใจขึ้นมาได้ทันที ผู้หญิงคนนี้อยากจะออกมาแสดงตัวตน ดังนั้นเขาเลยตัดสินใจไม่สนใจ แล้วก็หลับตาไป ท่าทางของฟางเหยียนทำให้มีทั้งคนชอบใจทั้งคนเสียใจ คนที่ชอบใจก็คือเวินหลานแน่นอน ผู้หญิงที่มาอย่างสง่างามยังถูกฟางเหยียนปฏิเสธ ทำให้ใจเธอชื้นขึ้นมาไม่น้อย ส่วนคนที่เสียใจก็คือ จักรพรรดิชิงตี้
แต่จักรพรรดิชิงตี้ก็กลับมีอะไรไม่ธรรมดา เหมือนกับมีกลิ่นหอมๆ โชยออกมา ทำให้คนสงสาร ความอยากที่จะเข้าไปปกป้องเธอ ผิดขึ้นมาในใจของทุกคน ใบหน้าเศร้าจะปรากฏขึ้นมาบนใบหน้านี้ไม่ได้
จักรพรรดิชิงตี้ที่ถูกปฏิเสธ เหมือนกับจะไม่สนใจอะไร สีหน้าเศร้าๆ หายไปพริบตา กลับไปจับจ้องเวินหลาน แล้วมองจิก แล้วพูดว่า “คุณสามี ต้องบอกเลยนะว่า มุมมองด้านความสวยงามของคุณไม่ธรรมดาเลยนะคะ อย่างน้อยผู้หญิงคนนี้ก็ยังสวย” พูดไปแล้วก็มองฟางฟังไป “คิดไม่ถึงว่าคุณจะชอบผู้หญิงเด็กผู้หญิงแบบนี้ด้วยนะคะ หรือว่าฉันจะไม่เข้าตาคุณเลยงั้นหรือ?”
เห็นได้ชัดว่า ประโยคหลังเป็นการน้อยใจอย่างมาก
เดิมทีฟางเหยียนไม่อยากจะสนใจจักรพรรดิชิงตี้ที่ไม่รู้ว่ามีเป้าหมายอะไร แต่ว่าเธอมาเอ่ยถึงฟางฟัง อย่างนั้นก็จำเป็นต้องเปลืองน้ำลายเสียหน่อย “ถ้าคุณยังว่าว่าร้ายเธออีกล่ะก็ ผมก็จะทำให้คุณรู้สึกผิดไปทั้งชีวิต!”
ฟางเหยียนสายตาเยือกเย็นอย่างมาก จ้องเขม็งไปราวกับดวงตาของพญาอินทรีกำลังจับจ้องเหยื่อ ทำให้จักรพรรดิชิงตี้สั่นไปทั้งตัว รอยยิ้มก็ค้างอยู่บนใบหน้า เวินหลานก็สะดุ้ง แล้วก็มองฟางฟังอย่างอิจฉา ในเวลานี้ เธอถึงรู้ได้ว่าฟางฟังเป็นคนที่สวรรค์คุ้มครองจริงๆ เพราะว่าเธอได้อยู่กับฟางเหยียนตลอด แล้วตนเองล่ะ?
ฟางฟังมีสีหน้าโกรธเล็กน้อย ผู้หญิงคนนี้โอหังน่าดู อาศัยที่ตนเองพอจะมีความสวยอยู่บ้าง และมาว่าร้ายคนอื่นได้ คำเรียกที่ว่าเป็นเด็กผู้หญิงบริสุทธิ์ ถือว่าเป็นการไม่ให้เกียรติฟางฟัง พูดง่ายๆ ก็คือผู้หญิงคนนั้นตั้งใจไม่พูดให้ชัดเจน เด็กผู้หญิงบริสุทธิ์ก็คืออีกชื่อหนึ่งของ โลลิตา
แน่นอน โลลิตาชื่อนี้อาจจะมีผลดีสำหรับเด็กผู้หญิงคนอื่น แต่สำหรับฟางฟังแล้ว มันเป็นเหมือนคำดูถูก มันหมายถึงว่าเธอนั้นสูงไม่พอ รูปร่างไม่สวยพอ สิ่งพวกนี้ เป็นเหมือนกับการไม่ให้เกียรติเธอ
เป็นผู้หญิงสวยเหมือนกัน เธอก็พบว่าเวินหลานมีมารยาทมากกว่าจักรพรรดิชิงตี้เสียอีก และเธอก็ไม่ชอบผู้หญิงที่ชอบคิดไปเองแบบนี้
ในเมื่อเกลียด งั้นก็คือศัตรู เธอเองก็ไม่ต้องคอยปกป้อง หน้าของผู้หญิงอวดเก่งคนนี้ จอมปลอมมาก ถึงเธอจะไม่อยากสนใจ แต่ตอนนี้เธอก็จำเป็นต้องโมโหขึ้นมาบ้าง
“ทำไมเธอถึงหน้าไม่อายอย่างนี้นะ พี่เหยียนของฉันมีภรรยาแล้ว แต่เธอก็ยังมาเข้าหาอย่างหน้าไม่อาย คิดว่าตัวเองได้เป็นผู้หญิงของพี่เหยียนแล้วหรือไง? ฉันจะบอกให้นะ ไม่ต้องพูดคนสวยแค่ไหนหรอก สุดท้ายก็หาภัยพิบัติมาให้ทั้งนั้นแหละ พี่เหยียนของฉันไม่มองผู้หญิงแบบเธอหรอก มารยาทจอมปลอม เข้าใจไหม?”
“อีกอย่าง หน้าตาก็สะสวย เสียดายที่มีปากไม่ดี พูดไม่เป็นก็หุบปากไป เด็กหญิงผู้หญิงบริสุทธิ์บ้าบออะไรกัน ก็แค่การด่าคนโดยไม่ใช้คำหยาบเท่านั้นแหละ ฉันเกลียดคนที่บอกว่าฉันเป็นโลลิตาที่สุด เป็นการเสียมารยาทกับฉัน เธอจะไปอวดโฉมต่อหน้าใครฉันไม่สน แต่ถ้าเธอคิดจะมาอวดโฉมต่อหน้าพี่เหยียนของฉันล่ะก็ ขอโทษด้วย ฉันจะจิกหน้าเธอเอง เธอจะได้ไม่ต้องไปทำร้ายใครที่ไหนอีก!”
ฟางฟังพูดจบ ก็โมโหจนหน้าซีด ทั้งตัวก็โก่งขึ้นมาด้วยความโมโห เห็นได้ชัดว่าโกรธไม่น้อย เวินหลานก็มองฟางฟังอย่างไม่เข้าใจ แต่ใจสะใจยิ่งกว่า ไม่ว่าเธอจะแข่งด้านไหน ก็ล้วนถูกผู้หญิงคนนั้นเอาชนะได้หมด แต่ฟางฟังเหมือนออกหน้าแทนทั้งสองคน พูดเสียดแทงออกไปแบบนี้ เธอเองก็สะใจเหมือนกัน
แต่จักรพรรดิชิงตี้ ถูกฟางฟังล้อแบบนั้น ปากก็อ้าเล็กน้อย แล้วก็ยิ้มพูดว่า “คิดไม่ถึงว่าน้องสาวคนนี้จะร้ายเหมือนกันนะเนี่ย เธอหมายความว่าฉันไปเสียมารยาทกับเธองั้นหรือ? ใช่ไหม?”
“แล้วไม่ใช่หรือไงล่ะ?” ฟางฟังถามกลับ
“ไม่ใช่ ฉันชื่นชมเธอต่างหากล่ะ” จักรพรรดิชิงตี้กลั้นขำพูดว่า “คนที่ทำให้ฉันชื่นชมได้มีไม่เยอะ แต่เธอถือว่าเป็นคนที่พิเศษเลยล่ะ ต้องบอกเลยว่า ผมที่ยาวประบ่ายิ่งทำให้เห็นว่าเธอมีนิสัยร้ายไม่เบาเลยล่ะ”
“นี่ คำเรียกที่สนิทสนมของเธอน่ะ เปลี่ยนหน่อยได้ไหม? อืม คืออย่างนี้ ฉันไม่อยากให้สามีของฉันถูกคนอื่นรบกวน เขาเป็นของฉันคนเดียว มาบอกว่าฉันมาเข้าหาพี่เหยียนของเธอย่างหน้าไม่อายงั้นหรือ? เธอไม่คิดว่าตัวเองคิดไปเองบ้างหรือไง? เธอลองคิดว่ามันใช่แบบนี้หรือเปล่า? อ้อ เห็นเธอแล้วถูกชะตา ฉันก็เลยพูดด้วยน่ะ”
“นี่เธอ……..” ฟางฟังโกรธจนตัวสั่น กัดฟันแน่น แล้วยกมือขึ้นมาอย่างแรง อยากจะไปตบที่หน้าจักรพรรดิชิงตี้ แต่ก็พบว่ามือของตนเองถูกมือเย็นๆ จับไว้แน่น ขยับไม่ได้เลย เธอหันหน้ากลับไปมองอย่างแปลกใจ ก็เห็นว่าฟางเหยียนกำลังหน้านิ่ง สีหน้าไร้อารมณ์ ไม่รู้ทุกข์สุข
“ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเธอหรอก” พอพูดจบ ฟางเหยียนก็หน้าเย็นชา แล้วพูดออกมาอีกว่า “พอได้แล้ว!