จอมนักรบทรงเกียรติยศ - บทที่ 670 พิการแล้ว
การมาของรถBentley เป็นจุดสนใจไม่น้อย แต่มันก็เป็นแค่ก้อนหินเล็กๆ ร่วงลงในน้ำ ไม่ได้มีผลกระทบอะไรมาก แต่เจิ้งชงไม่ได้คิดแบบนั้น เขารู้ว่าพอพ่อของตนเองมาถึง ก็จะชำระความอัปยศให้กับตนเองได้ ให้คนที่ทรยศตนเองได้เห็นว่า พวกมันโง่แค่ไหน
พอเห็นว่ารถBentleyกำลังจะจอด เขาก็พยายามดิ้น พี่เปียวควบคุมไว้ไม่อยู่ เลยปล่อยให้เขาดิ้นหนีไปทางรถBentley
“พ่อ ช่วย ช่วยผมด้วย……” เจิ้งชงแหกปากตะโกน
เจิ้งอู่จิ้นแทบจะกูลีกูจอออกมานอกรถ มองแวบเดียว เขาก็รู้ว่าลูกชายบัดซบของตนเองไม่ได้ขอโทษ ไม่เพียงไม่ขอโทษ แถมยังอวดเก่งอีก พอคิดถึงจุดนี้ รู้งี้เขาไม่น่าทำลูกคนนี้มาเลย!
พอหันไป เขาก็เห็นรถหงฉีคันนั้น พอหยีตามองไป ตัวก็อดสั่นไม่ได้ ถ้าเขาเดาไม่ผิดล่ะก็ ทุกอย่างคงจะเป็นเพราะว่าคนในรถสีแดงป้ายทะเบียนหมายเลข1 นี้แหละ พอนึกถึงว่าลูกชายไม่เอาไหนของตนเองไปหาเรื่องหัวหน้าพื้นที่เข้าให้ ในหัวของเขาก็วิ๊งๆ ขึ้นมาทันที
ตระกูลเจิ้งจะล่มก็ไม่แปลก!
คนวัดกันทีภายนอกไม่ได้ น้ำทะเลก็ไม่อาจตวงวัดได้
เจิ้งอู่จิ้นมีลูกก็ตอนแก่ ก็เลยรักเจิ้งชงมาก จะเลี้ยงดูตามใจก็เป็นเรื่องธรรมดา แต่ไหนแต่ไรมาก็มีนิสัยไม่ไว้หน้าใคร ไม่รู้ฟ้าสูงแผ่นดินต่ำ ไปเล่นกับคนใหญ่ก็พอว่า ตัวมันเองก็ยังไม่รู้อีกว่าสถานการณ์มันร้ายแรงแค่ไหน พ่อรู้นิสัยลูกชายดี เจิ้งอู่จิ้นรู้ว่าเขาคงไม่ฟังคำของตนเอง ก็เลยรีบมาที่นี่ สุดท้ายก็เป็นเหมือนที่คาดไว้
เจิ้งชงไม่ได้เข้าไปขอโทษก็พอว่า กลับกันยังอาศัยอำนาจพ่อเพื่อแก้แค้น!
เจิ้งอู่จิ้นไม่รู้เหมือนกันว่าชาติที่แล้วตนเองทำบาปกรรมอะไรไว้นัก ชาตินี้ถึงได้ส่งเจิ้งชงมาจองเวรตนเอง!
พอเห็นว่าเจิ้งชงใช้มือเท้าคลานลุกขึ้น ก็โกรธจนกัดฟันเงียบ แม้แต่ที่น่องและท้องก็เริ่มสั่น ถูกต้อง เขากำลังโกรธ เห็นได้ชัดว่าโกรธเจิ้งชงมาก ถ้าเป็นไปได้ ตอนนี้เขาอยากจะบีบเจิ้งชงให้ตายเลย เพื่อแสดงความมีคุณธรรม!
ห่างกันแค่เพียงก้าวเดียว เจิ้งชงดูดีใจมาก ความเจ็บปวดทั้งหมดเหมือนจะหายไป ทั้งเจ็บทั้งดีใจ ขอเพียงได้เข้าใกล้พ่อของตนเอง เขาก็จะเหยียบทุกคนให้จมแทบเท้าตนเอง ให้พวกนั้นได้รู้ใครคือพี่ใหญ่ในเจียงตูตัวจริง!
ตุบ!
เจิ้งชงโดนเตะไปหนึ่งตุบ!
เขามองพ่อตนเองอย่างไม่เชื่อสายตา เขาถูกเตะเสียนี่!แต่เด็กจนโต เขาไม่เคยถูกพ่อตนเองตีเลย ไม่ต้องพูดถึงตี แม้แต่จะพูด ก็ต้องยิ้มพูดด้วยเสมอ เพราะกลัวเขาโกรธ แต่ว่าตอนนี้ พ่อของตนเองใช้เท้าเตะ ด้วยอารมณ์นั้น อยากจะเตะไปหลายๆ ครั้งเสียด้วยซ้ำ!
นี่มันอะไรกัน?
มันมีตรงไหนผิดพลาดกันแน่?
พ่อตนเองไม่ไปตีฟางเหยียน แล้วมาเตะตนเองทำไมกัน?
มันไม่ใช่!
สมองพ่อเบลอไปแล้วหรือเปล่า?
รักหวงแหนตนเองมาตลอด อุ้มชูเป็นลูกเทวดา ทำไมถึงลงไม้ลงมือได้?
ปัญหาที่ยังไม่ได้แก้ไหลเข้ามาในหัวของเจิ้งชงรัวๆ เล่นเอาเขาไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไร ดวงตาไร้สติ เห็นได้ชัดว่าอึ้งไป จนลืมร้องเจ็บ
โดยเฉพาะประโยคหลังจากนั้นของเจิ้งอู่จิ้น เล่นเอาเจิ้งชงเหมือนถูกฟ้าผ่า ตัวสั่นระริก
“ไอ้ลูกไม่รักดี ยังจะรอช้าอยู่ทำไม รีบไปขอโทษเขาสิ ถ้าเขาไม่ยกโทษให้ วันนี้กูจะฆ่ามึงทิ้ง เพื่อแสดงคุณธรรม”
พ่อเขากูจะฆ่าเขางั้นหรือ? ยังจะให้กูเข้าไปขอโทษอีกหรือ? ล้อเล่นหรือเปล่าเนี่ย วันนี้ไม่ใช่ฟางเหยียนตาย ก็เขาตาย จะให้ไปขอโทษได้อย่างไร?
“พ่อ พ่อบ้าไปแล้วหรือเปล่า ลูกพ่อกำลังโดนทำร้ายอยู่นะพ่อ พ่อยังจะให้ผมไปขอโทษมันอีกหรือไง? พ่อตาบอดหรือไง? ไม่เห็นแผลบนตัวผมหรือไง? พ่อไม่ปวดใจหรือไง? เฮือก…….” เจิ้งชงแทบจะตะโกนออกมา พอจบ ตัวก็สั่นยิ่งกว่าเดิม ราวกลับการพูดเมื่อครู่ ได้ใช้พลังที่เหลือทั้งหมดแล้ว
เจิ้งอู่จิ้นทำหน้านิ่งจนน่ากลัว จ้องมองเจิ้งชงอย่างผิดหวัง แล้วก็แอบเหลือบมองรถหงฉีไปเนืองๆ สุดท้ายก็ตัดสินใจ ยกเท้าขึ้นมา
ตุบ!
ใช้เท้าตอบเจิ้งชงกลับไปอีก!
เจิ้งชงก็กลิ้งไปเหมือนหมาหลายตลบ ครั้งนี้เล่นเอาเขามึนหัวหน้ามืดไป ในท้องก็กลิ้งปั่นป่วนไปหมด
“ท่านเจิ้ง อุบายแสร้งเจ็บแบบนี้ก็อย่าได้เอามาแสดงเลย มาคุยกันจริงๆ จังๆ ดีกว่า!” พูดไป พี่เปียวก็โดยนมีดพกออกไป เจิ้งอู่จิ้นเห็นมีดพกสะท้อนแสงออกมา ใบหน้าย่นๆ ด้วยความแก้ก็กระตุก แล้วก็มองพี่เปียวอย่างเซๆ แล้วก็พูดด้วยสัญชาตญาณว่า “ต้องใช้ขนาดนี้เลยหรือ?”
พอพูดออกไป ตัวเขาเองก็ส่ายหัวขำแห้งออกมา
ต้องขนาดนี้ด้วยหรือ?
แค่โทรมา ตระกูลเจิ้งของเขาก็พังพินาศแล้ว ฆ่าเจิ้งชงต้องทำขนาดนี้เลยหรือ?
แต่ว่าการจะฆ่าลูกชายด้วยมือของตนเอง เจิ้งอู่จิ้นทำไม่ได้!
“ทำไมล่ะ? ทำไม่ลงงั้นหรือ?” พี่เปียวแสร้งยิ้มมองเจิ้งอู่จิ้น “ในเมื่อเป็นแบบนี้ งั้นก็คงมีแต่ผมที่จะทำหน้าที่แทนให้แล้วล่ะ!”
มีดพกสะท้อนแสงไฟ พี่เปียวหยิบมีดขึ้นไปชี้ใส่เจิ้งชง ความน่ากลัวนั้นทำเอาเจิ้งชงตัวสั่นเหมือนถูกไฟฟ้าช็อต แล้วพูดด้วยสัญชาตญาณว่า “พ่อ ช่วยด้วย ช่วยผมด้วย………”
เจิ้งอู่จิ้นก็ครุ่นคิด แล้วก็หัวเราะดังออกมา จากนั้น!
ภายใต้สายตาของทุกคน เขาคุกเข่าลงที่ข้างรถหงฉี
ทุกคนก็อึ้ง ป้าปากค้าง เจิ้งชงก็ยิ้งอึ้ง ถึงขนาดลืมไปว่าที่ลำคอตนเองมีมีด ความโองหังของมลายหายสิ้นไปในทันที แหลกสลายเป็นผุยผง!
“ขอให้คุณละเว้นด้วย ให้อภัยไอ้ลูกไม่เอาไหนคนนี้ด้วย ผมยอมเอาชีวิตแก่ๆ ของผมไปชดใช้ความโกรธของคุณ ขอให้คุณละเว้นด้วย ปล่อยไอ้ลูกชายผมไป ผมขอโขกหัวเป็นการขอบคุณ”
ตุบตุบตุบ……
ต้องบอกเลยว่า เจิ้งอู่จิ้นถือว่าเป็นคนจริง แต่ว่าลูกชายของเขา ไม่ได้เศษเสี้ยวเขามาแม้แต่น้อย
ไม่นาน เจิ้งอู่จิ้นก็เลือดเต็มหน้า บนหน้าผากมีเลือดไหลนอง จนมองเห็นใบหน้าไม่ชัด เจิ้งชงก็ยิ่งใจเสีย ในใจสิ้นหวังถึงขีดสุด ในความสิ้นหวังก็ยิ่งเกลียดฟางเหยียนถึงขีดสุดเหมือนกัน เกลียดจนอยากจะเลาะกระดูกดึงเส้นเอ็นถลกหนังออกมา แล้วกันเลือดกินเนื้อแก้แค้น
“พอได้แล้ว!”
เจิ้งอู่จิ้นหยุดชะงักลง มึนงงไปทั้งหัว แล้วก็โซซัดโซเซ ใบหนี้ท่เต็มไปด้วยเลือดเผยความดีใจออกมาเล็กๆ เขารู้ดี ว่าสิ่งที่ตนเองทำไปไม่สูญเปล่า คนในรถได้ให้อภัยแก่เจิ้งชงแล้ว!
แต่ประโยคหลังจากนั้นของฟางเหยียน ทำให้เจิ้งอู่จิ้นรู้สึกเหมือนถูกฟ้าผ่า อึ้งนิ่งอยู่กับที่ไป!
ประตูรถเปิดออก ฟางเหยียนเดินมาตรงหน้าเจิ้งอู่จิ้นอย่างมั่นใจ แล้วพูดเบาๆ ว่า “คนที่มาล้อมฆ่าจอมพลโผ้จวินแห่งประเทศหวา ควรรับโทษสถานใด?”
จอมพลโผ้จวินแห่งประเทศหวา!
คำนี้เหมือนกับฟ้าผ่ากลางวันแสกๆ ฟาดลงในใจของเจิ้งอู่จิ้น!
ทันใดนั้น เขาก็รู้สึกว่าเจิ้งชงไม่ได้ตายไม่ได้แล้ว จอมพลโผ้จวินแห่งประเทศหวาเป็นกำลังหลักของประเทศ อย่างเขาจะต่อกรด้วยได้หรือ? ตอนนี้เขาเพิ่งรู้ว่า ลูกชายตนเองได้มาก่อเรื่องใหญ่เอาไว้มาก ตระกูลเจิ้งจะพังพินาศก็ไม่แปลก
“ท่านจอมพล ท่าน….” เจิ้งอู่จิ้นมีคำพูดมากมาย แต่ตอนนี้พูดอะไรไม่ออกสักคำ ความเกรียงไกรของจอมพลโผ้จวิน ในประเทศหวาไม่มีใครไม่รู้จัก แต่ที่เขางงก็คือ ลูกชายตนเองไปหาเรื่องเขาได้อย่างไร!
ฟางเหยียนเดินมาทางเจิ้งชง เจิ้งชงก็เหมือนสติหลุด ยังตั้งสติกลับมาไม่ได้ เจิ้งชงรู้สึกว่าตรงหน้ามัวๆ มีเงาลอยตกลงมาตรงหน้า จากนั้นก็รู้สึกเย็นๆ ที่แขน แล้วแขนเสื้อก็ว่างเปล่า
นิ่งไปได้นิดเดียว เสียงร้องเหมือนหมูถูกเชือดก็ดังออกมาจากปากเขา
“โอ้ย……”
เสียงร้องของเจิ้งชงดังฝ่าไปทั้งคืนมืดค่ำนี้ เสียงร้องโอดครวญทำเอาคนไม่น้อยกลัว จนต้องขนหัวลุก คนนี้ช่างโหดเหี้ยมจริงๆ ลงมือเร็วมาก แม้แต่พี่เปียวที่เห็นการฆ่าฟันมามากมาย ตอนนี้ก็ยังสูดหายใจเข้าลึกเหมือนกัน
เจิ้งชงก็เลือดไหลนองออกมา ปากก็ร้องไม่หยุด ฟางเหยียนก็ไม่สนใจ สนใจแต่ตนเอง เหมือนกำลังเล่นเกม มีดพกในมือแทงลงไปบนร่างของเจิ้งชงอย่างง่ายๆ แต่ละแผล เจิ้งชงก็ร้องออกโอดโอยออกมาด้วยความเจ็บปวด แต่ละครั้งมันเจ็บจนต้องสลบไป และฟื้นขึ้นมาเพราะความเจ็บปวดอีก
ความรู้สึกแบบนี้เหมือนตายทั้งเป็น เจ็บจนไม่อยากมีชีวิต!
เจิ้งอู่จิ้นก็ใบหน้ากระตุก ตัวก็นั่งฟุบลงพื้นอ่อนแรงไป แล้วก็หันหน้าหนีไม่กล้ามอง
“เขายังไม่คู่ควรมาตายด้วยมือผม งั้นก็ทำให้พิการแล้วกัน! คุณ มีความเห็นอะไรไหม?”