จอมนักรบทรงเกียรติยศ - บทที่ 677 สงสัยสำนักเจ็ดพิฆาต ประหาร
เปิดประตูต้อนรับแขก!
หกคำนี้ถ้าเป็นช่วงเวลาปกติ ทุกๆคนของสำนักเทียนซือต้องเปิดประตูด้วยความสุข
แต่ตอนนี้
หกคำนี้เหมือนกับยมบาลของนรก ที่กำลังตัดสินความเป็นความตายของทุกคนอย่างไรอย่างนั้น ทำให้พวกเขารู้สึกชีวิตมาถึงทางตันแล้ว
แต่คำพูดของเหอวี่เฉวียน ใครกล้าสงสัย?
ไม่นาน ประตูเปิดออก
ได้ยินเพียงเสียงเอี๊ยด!
เปิดประตูแล้ว!
ตอนที่เปิดประตู ทุกคนล้วนชะงักไป แม้แต่เทียนขุยก็ช็อกไปเล็กน้อย เพียงแค่แว็บเดียว คนที่อยู่ด้านนอกรีสอร์ทหยูฉวนยืนเป็นแถว ไม่นานก็ยืนเต็มทางที่ขนาดเท่าสนามบาสเกตบอล เมื่อจำนวนคนยิ่งอยู่ยิ่งเยอะขึ้น ทำให้พื้นที่ราบเริ่มเบียดเสียดขึ้น
พวกเขากลัวการซุ่มโจมตี?
ไม่!
นี่เป็นความเชื่อมั่นในฝีมือของตัวเอง โจมตีรีสอร์ทหยูฉวนนานขนาดนั้น คนของรีสอร์ทหยูฉวนความสามารถเล็กน้อยกำลังน้อยลงไปจนจะหมดแล้ว ไม่ว่าจะเป็นฝีมือด้านใดๆหรือเปิดประตูใหญ่ สิ่งที่รอพวกเขาก็คือความตาย เพียงแต่สองฝ่ายมีความแตกต่างกันมาก ที่ทำแบบนี้เพียงแค่เหลือไว้ซึ่งศักดิ์ศรีสุดท้าย
ในเมื่อล้วนรอความตาย งั้นทำไมถึงไม่ตายไปด้วย‘เกียรติยศ’สะเทือนเลือนลั่นล่ะ?
ไม่มีใครรู้ว่าเหอวี่เฉวียนคิดอะไร แต่กลับไม่มีใครกล้าสงสัยในตัวเขา หลังจากที่รีสอร์ทหยูฉวนมีการเข้ามาของผู้ก่อจลาจล จิตใจทุกคนของสำนักเทียนซือล้วนอึมครึม จ้องมองผู้คนที่เข้ามาอย่างเตรียมพร้อม
ทุกคนล้วนเคร่งเครียด ไม่ต่างกัน เหงื่อไหลเต็มหลัง
ใช้อาวุธปะทะกัน สถานการณ์ตึงเครียด ความรู้สึกที่เคร่งเครียดห้อมล้อมรีสอร์ทหยูฉวนไว้ทั้งหมด!
ผุ้คนเงียบมาก แต่กลัวที่สุดคือจู่ๆก็บรรยากาศเงียบสงัด
เหอวี่เฉวี่ยนจ้องผู้คนที่อยู่ด้านล่าง และไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่
และในเวลาเดียวกันนี้เอง จู่ๆผู้หญิงที่สวมชุดแดงข้างๆเทียนขุยคนหนึ่งก้าวออกมาด้านหน้า ยืนอยู่ตรงหน้าของทุกคน เหมือนจะยิ้มแต่ก็ไม่ยิ้มกล่าว “เถ้าแก่เหอ จะเข้ามาในรีสอร์ทหยูฉวนของพวกคุณนี่ไม่ง่ายเลยจริงๆนะ?ต้องสูญเสียพรรคพวกไปเยอะเลยนะเนีย่!”
“ถ้าคนที่มาคือแขก ถ้าเป็นแขกพวกเราต้อนรับ แต่ถ้าผู้ที่มาเป็นคนเลว งั้นพวกเรารีสอร์ทหยูฉวนทำได้เพียงใช้กระบองปรนนิบัติ ดูแลไม่ทั่วถึง ขออภัยด้วยนะครับ!”
“ดูแลไม่ทั่วถึง เถ้าแก่เหอ ไม่สิ ควรจะเรียกว่าผู้อาวุโสถูกมั้ย?”
เหอวี่เฉวียนกล่าวอย่างสงบว่า “ชื่อก็เป็นเพียงการเรียกเท่านั้น ไม่พูดถึงก็ช่าง”
จู่ๆรอยยิ้มบนใบหน้าผู้หญิงก็หุบไป จากนั้นตวาดว่า “เหอวู่เฉวียน ยอมรับผิดเสียเถอะ!”
ปัง!
เหอวี่เฉวียนสั่นไปทั้งตัว สิ่งที่กังวลที่สุดและแล้วก็เกิดขึ้น
เขาคือคนในสำนักจริง แต่ก็เป็นส่วนหนี่งของประเทศหวา ถ้าไม่มีการทุ่มเทของจอมพลโผ้จวินและคนอื่นๆ สำนักของเขายังจะซ่อนตัวได้อย่างสง่างามแบบนี้มั้ย?สุดท้ายแล้ว พวกเขาก็คือประชาชนทั่วไป ถือว่าเป็นประชาชนที่มีความสามารถอยู่บ้าง
ต่อให้รู้ว่านี่เป็นคำสั่งของจอมพลโผ้จวิน แต่เขายังคงถามอย่างแสร้งไม่เข้าใจว่า “รับผิด?มิทราบว่าผมเถ้าแก่ของบ้านพักตากอากาศคนหนึ่ง ทำอะไรผิด?กรุณาบรรยาด้วยครับ”
“รู้แล้วยังจะถาม!” ผู้หญิงเสียงเย็นชา บรรยายความผิดของรีสอร์ทหยูฉวนอย่างชัดเจน “รวมตัวกันอย่างผิดกฎหมาย ก่อความวุ่นวาย รุกล้ำที่ของผู้อื่น ส่งเสริมศักดินา ก่อม็อบ ขัดขวางทุกอย่าง” สักพัก เสียงของหญิงสาวยิ่งอยู่ยิ่งเย็นชาขึ้น พูดออกมาหนึ่งประโยคว่า “แล้วยังต่อต้านแผนการทำลายล้างของจอมพลโผ้จวินผู้นำอย่างเปิดเผยอีกด้วย!”
คำพูดของหญิงสาวราวกับมีพลังที่แน่วแน่ เหมือนกับปัจจัยที่ต้านทานไม่ได้ของธรรมชาติ
ไม่ใช่แค่เหอวี่เฉวียน คนของรีสอร์ทหยูฉวนทุกคนล้วนมึนงง!
แผนการทำลายล้างของผู้นำจอมพลโผ้จวิน!
นอกจากคนของสำนักเทียนซือ คนที่เข้ารีสอร์ทหยูฉวน ไม่รู้จักผู้หญิงที่มาใหม่อีกทั้งผู้ชายที่สวมชุดทหารเก่า รู้เพียงพวกเขามีเป้าหมายที่เหมือนกัน ลงมือก็หนักหน่วง แต่ตอนนี้ นึกไม่ถึงว่าพวกเขาจะใช้ ‘คำสั่ง’มา‘ทำลายล้าง’ แล้วจะไม่ให้พวกเขาช็อกได้อย่างไรกัน?
พูดง่ายๆ คนที่โจมตีรีสอร์ทหยูฉวนมีสามกลุ่ม นอกจาก‘ทหารตัวจริง’ ยังมีกลุ่มคนขององค์กรอื่นอีกทั้งคนของแก๊งซินหง ก่อนหน้าที่‘ทหารตัวจริง’ยังไม่ปรากฏตัว พวกเขาโจมตีรีสอร์ทหยูฉวนค่อนข้างลำบาก แทบจะเป็นหนึ่งต่อสาม คนที่จัดการคนของรีสอร์ทหยูฉวน ตัวเองก็ต้องสูญเสียไปสามคน ทุ่มเทหนักมาก
แต่ตั้งแต่ทีม‘ทหารตัวจริง’ไม่เกินยี่สิบคนชุดนี้ปรากฏขึ้น เดิมเสียเปรียบในการต่อสู้ได้ปรากฏความได้เปรียบออกมา การเสียเปรียบกลายเป็นได้เปรียบ โจมตีจนรีสอร์ทหยูฉวนรับมือไม่ทัน
ไม่มีใครรู้ว่าพวกเขามีความเกลียดชังมากขนาดไหน ศัตรูของศัตรูเป็นเพื่อนโดยปริยาย และไม่มีใครไปถามพวกเขาว่าเป็นฝ่ายไหน โจมตีรีสอร์ทหยูฉวนมาด้วยกันได้ นั่นก็แสดงว่าเป็น‘สหายร่วมรบ’!
แต่ตอนนี้ คนที่ดุร้ายไร้เทียมทานนี้ นึกไม่ถึงว่าจะรับคำสั่งจอมพลโผ้จวิน นี่จะไม่ให้พวกเขาช็อกได้อย่างไรกัน?แว็บเดียวก็เข้ากันกับพวกเขา มีเกียรติมากขนาดไหน มันช่างเป็นโชคดีเสียจริงๆ ที่ได้มี‘เกียรติ’แบบนี้
หลายกลุ่มคนต่างพากันถือหญิงสาวเป็นผู้นำ
ราวกับมีเพียงบุคคลที่ระดับสูงสุดจึงจะเป็นสายเลือดอันได้รับความชอบธรรม ตั้งความผิดของรีสอร์ทหยูฉวน งั้นก็มีแค่รอการพิพากษา!
เหอวี่เฉวียนที่เตรียมใจไว้แล้ว ขณะนี้ใจเต้นรุนแรงอย่างเคว้งคว้าง แม้เขาไม่เคยเจอหญิงสาวคนนี้มาก่อน แต่จากในตัวของผู้หญิงคนนี้ เขารับรู้ได้ว่าตำแหน่งของผู้หญิงคนนี้สูง โดยเฉพาะผู้ชายคนนั้นที่ชื่อเทียนขุย คนสนิทข้างกายจอมพลยังอยู่ข้างเธอ นี่ก็เป็นการพิสูจน์ตัวตนของเธอได้ดีมากแล้ว
จอมพลจะลงมือกับรีสอร์ทหยูฉวน หรือพูดว่า จะลงมือกับสำนักเทียนซือก็ได้
เขาเงยหน้ามองบนฟ้า อย่างอดไม่ได้ ยิ้มออกมาอย่างจนปัญญา
เสียงหัวเราะแห้งๆ!เศร้าโศกอย่างหาที่เปรียบไม่ได้!
มีความผิดอะไรกัน?
เหอวี่เฉวียนไม่เข้าใจ
นี่เทียบได้กับ เดิมทีคุณไม่มีโรคอะไร แต่เพียงแค่เข้าไปในโรงพยาบาล ก็เจอโรคอะไรขึ้นมา ทำให้คุณต้องนอนรักษาตัวโรงพยาบาล แต่ความเกรงขามที่ต้านทานไม่ไหวของหญิงสาว ต่างอะไรกับสิ่งนี้?
หลังจากหัวเราะ เหอวี่เฉวียนมองไปที่หญิงสาว ซักไซ้ว่า “ความผิดเหล่านี้ เกรงว่าผมคนธรรมดาคนหนึ่งรับไม่ไหว หมวกใบนี้ใหญ่เกินไป กดจนผมหายใจไม่ออก ผมอยากถามท่านหน่อยครับ เป็นคำสั่งของจอมพลโผ้จวินจริงเหรอครับ?”
ดูเหมือน เหอวี่เฉวียนยังกำลังใช้เหตุผลเข้าคุยเป็นครั้งสุดท้าย นี่เป็นความดื้อดึงสุดท้ายของเขา ยังไงเขาก็ไม่เชื่อ ว่าจอมพลโผ้จวินจะล้างบางพวกเขาได้ แม้เข้าจะดูคนไม่ออกเหมือนอาจารย์ แต่เขาเชื่อแว็บแรกที่เห็น ว่าจอมพลโผ้จวินไม่มีทางลงมือแน่นอน
“คุณกำลังสังสัยฉัน?” ยิ่งอยู่เสียงของหญิงสาวยิ่งเย็นชาขึ้น คำพูดราวกับมีความเกรี้ยวกราดสุดขีดแฝงอยู่ หันไปมองเทียนขุย กล่าวอย่างเย็นชาว่า “ฉันว่าฉันควรจะแนะนำคนนี้ให้คุณรู้จักแล้วล่ะ เขาชื่อเทียนขุย เป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของจอมพลโผ้จวิน รองผู้นำของสำนักเจ็ดพิฆาต กุมกองกำลังเป็นพันเป็นหมื่น หรือเขายังไม่เป็นตัวแทนอะไรอีกเหรอ?”
ผู้คนเดือดพล่านขึ้นมาอีกครั้ง!
รองผู้นำเทียนขุย!
ผู้คนจำนวนมากที่อยู่ในเหตุการณ์ไม่รู้ว่านี่คือตำแหน่งอะไร มีเกียรติมากขนาดไหน แต่เมื่อได้ยินแล้วยิ่งใหญ่ กุมกองทัพเป็นหมื่นเป็นพันจะธรรมดางั้นเหรอ?ยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นนายพลคนหนึ่งที่เป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของจอมพลโผ้จวินอีกด้วย สิ่งนี้ทำได้เพียงใช้สามคำมาอธิบายเท่านั้น อันธพาล!
จิตใจของเหอวี่เฉวียนดำดิ่งลงถึงก้นลึก จินตนาการสุดท้ายของเขาพังทลายลง เหมือนกับลูกประคำของเขา พังไม่เป็นท่า ไม่เพียงแค่เขา แม้แต่คนอื่นของสำนักเทียนซือ ก็ช็อกไปตามๆกัน
จอมพลจะกำจัดเสี้ยนหนามจริงเหรอ?
เหอวี่เฉวียนไม่รู้
เทียนขุยก้าวมาข้างหน้าหนึ่งก้าว กล่าวอย่างไม่โกรธแต่เกรงขามว่า “สงสัยสำนักเจ็ดพิฆาต ตาย!