จอมนักรบทรงเกียรติยศ - บทที่ 683 จุดมุ่งหมายของเทียนขุย
ตูม!
คำพูดของเทียนขุยดังสนั่น ราวกับดังระเบิดขึ้นในจิตใจของทุกคนเหมือนกับฟ้าผ่ากลางวันแสกๆ หินก้อนเดียวทำให้เกิดคลื่น ผู้จลาจลช็อกอย่างหนัก! จอมพลโผ้จวิน!
ไม่ใช่มั้ง!
ชายที่สวมใส่ชุดกันลมสีดำ ร่างกายผอมบางจนลมพัดปลิว จะเป็นเทพแห่งสงครามในตำนาน?
เล่นตลกอะไรกัน!
นี่มันแม่งไม่ตลกเลยแม้แต่นิดเดียว รองผู้นำเทียนขุย ท่านตาลอยหรือเปล่า!
ทุกๆคนหลับตา หลับตาจนสงสัยกับชีวิตจริงๆ
ความช็อกยังคงประดังสู่จิตใจของทุกๆคน การสั่นของร่างกายเป็นตัวพิสูจน์ว่าสิ่งที่พวกเขาได้ยินและได้เห็นทั้งหมดได้เป็นอย่างดี มีบางคนขยี้ตาและหูไม่หยุด ไม่อยากเชื่อว่าคำนี้ออกมาจากปากของจอมพลโผ้จวิน!
ที่ช็อกที่สุดก็คือเสี่ยวหง!
เธอรู้ตัวตนของเทียนขุย มาจากกองทัพ และยังเป็นคนที่ออกมาจากสำนักเจ็ดพิฆาตที่ลึกลับที่สุดของกองทัพอีกด้วย นอกจากสถานะและความสูงส่งแล้ว ฝีมือของเขาก็เป็นที่ประจักษ์แก่คนทั่วไป แน่นอน สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่สิ่งที่เสี่ยวหงช็อก สิ่งที่ช็อกที่สุดคือนึกไม่ถึงว่าเทียนขุยได้สติแล้วรู้ว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่!
ใช่!
หลังจากที่เสี่ยวหงรู้ตัวตนของเทียนขุยแล้ว เธอได้ใช้ยาอีกทั้งตัวช่วยทีพิเศษควบคุมเทียนขุยไว้อยู่หมัด เทียนขุยเชื่อฟังคำพูดและปฏิบัติตามเธอ มุ่งมั่นแต่สิ่งเดียว บวกกับเทียนขุยรักเสี่ยวหง พูดได้ว่าเทียนขุยเป็นหุ่นเชิดของเสี่ยวหงโดยสิ้นเชิง นี่เป็นปัจจัยที่เสี่ยวหงควบคุมเทียนขุยได้ทั้งหมด
เพื่อทดสอบว่าเทียนขุยถูกควบคุมหรือไม่ ไม่รู้ว่าเสี่ยวหงทดลองไปกี่ครั้ง โดยเฉพาะตอนที่อยู่ที่ตระกูลหยางดินแดนตะวันตก ก็คือเสี่ยวหงควบคุมเทียนขุยให้ทำร้ายฟางเหยียนเจ็บหนัก ครั้งนั้นเธอจำได้ขึ้นใจ ว่าเทียนขุยถูกเธอควบคุมไว้แล้วโดยสิ้นเชิง
แต่ตอนนี้!
นึกไม่ถึงว่าเทียนขุย‘ได้สติ’ขึ้นมาแล้ว!
นี่จะทำให้เสี่ยวหงไม่ช็อกได้อย่างไรกัน
หรือการควบคุมเกิดความผิดพลาด?
ไม่สิ!
เป็นไปไม่ได้!
ต้องมีจุดไหนเกิดข้อผิดพลาดแน่ๆ!
เธอกดบนท้องไว้อย่างแน่น ให้เลือดไหลช้าลง ถามอย่างอ่อนแออย่างไม่เชื่อว่า “เทียนขุย เป็นไปได้ยังไง ฟางเหยียนจะฆ่าพวกเรา คุณรีบดึงสติกลับมานะ! คุณคุกเข่าขอร้องฟางเหยียนต่อหน้ามัน คุณรีบลุกขึ้นนะ เทียนขุยรีบฆ่ามันสิ เร็วสิ!”
เสี่ยวหงที่ร้อนรนได้กระอักเลือดออกมา ยิ่งร้อนรน เลือดที่บาดแผลบนท้องของเธอ ยิ่งไหลออกมามากขึ้น สีหน้าของเธอเหมือนกระดาษขาว ขาวซีดจนไร้ซึ่งเลือดฝาด ดูๆแล้วยากที่จะยืนหยัดต่อไปได้
คำพูดของเสี่ยวหงสำหรับเทียนขุยแล้วเข้าหูซ้ายทะลุหูขวา เฉยเมย กล่าวอย่างอวดเก่งมากว่า “คุณคิดว่ายากับตัวช่วยควบคุมแค่นั้น จะสามารถควบคุมนักรบแข็งแกร่งที่อยู่ในสายเลือดได้งั้นเหรอ? ผมสู้รบในสนามรบ มีอะไรบ้างที่ไม่เคยเจอมาก่อน ถ้าแค่การต้านทานจุดนี้ผมยังไม่มี ผมยังเป็นรองผู้นำของสำนักเจ็ดพิฆาตได้เหรอ? เสี่ยวหงนะเสี่ยวหง คุณไร้เดียงสามาก! คุณคิดว่าแค่การแสดงของคุณจะสามารถควบคุมผมได้เหรอ? มันช่างดูถูกตัวเองเกินไปแล้ว!”
เทียนขุยพูดได้อย่างเย็นชา แต่ยิ่งเย็นชา ก็ยิ่งเห็นได้ถึงความโกรธและความไม่เต็มใจที่อยู่ในก้นลึกจิตใจของเขา ตอนที่ถูกควบคุม เขาขัดใจตัวเองไปเป็นเครื่องมือสังหารของเสี่ยวหง ให้เสี่ยวหงคิดว่าเขาสูญเสียความนึกคิดไปโดยสิ้นเชิง กลายเป็นปีศาจฆ่าคน
แต่ ทั้งหมดนี้อยู่ในการควบคุมของเทียนขุย!
เทียนขุยเป็นใคร รองผู้นำของสำนักเจ็ดพิฆาต นายพลนายหนึ่งของประเทศหวา นักรบที่ปกป้องประเทศหวาไม่ให้ถูกรุกล้ำจากผู้จลาจล นักรบที่ปกป้องประเทศ แล้วจะเป็นเครื่องมือสังหารคนของคนอื่นได้อย่างไร?
ถ้าไม่ใช่เพราะอยากได้สิ่งที่เขาอยากรู้ แล้วเขาจะถูกควบคุมง่ายดายแบบนี้ได้อย่างไรกัน
แน่นอน ในนี้ก็มีความรู้สีกส่วนตัวบางอย่างของเทียนขุยอยู่ เพราะเสี่ยวหงเป็นรักแรกของเขา และเป็นรักแท้เพียงรักเดียว
ในจิตใจลึกๆของเทียนขุย เสี่ยวหงยังคงอยู่ในส่วนลึก แต่คนที่อยู่ในส่วนลึกคือเสี่ยวหงที่เมื่อก่อนไม่มีกลุ้มไม่มีสงสัย ไร้เดียงสาน่ารัก แต่ไม่ใช่เสี่ยวหงในตอนนี้ เสี่ยวหงตอนนี้ทิ้งรอยแผลที่ลึกจนมองไม่เห็นก้นบึ้งในใจของเขา รอยแผลไม่มีทางสมานได้ นี่เป็นความเจ็บปวดของจิตใจของเทียนขุย
เขารักเสี่ยวหง แต่เสี่ยวหงกลับมองเขาเป็นหุ่นเชิดตัวหนึ่ง!
นาทีนั้นที่เสี่ยวหงมองเขาเป็นหุ่นเชิด ใจของเทียนขุยก็หมดสิ้นแล้ว!
เรื่องที่เศร้าที่สุดคือการมีจิตใจที่โง่เขลา!
ในแววตาของเขาค่อยๆปรากฏความด้านช้าขึ้น ความด้านชาที่ไร้น้ำใจ!
เสี่ยวหงมองเทียนขุยที่ไร้ความรู้สึก หยิบสร้อยเส้นหนึ่งอย่างไม่ยอมแพ้ เมื่อเห็นสร้อยเส้นนี้ สีหน้าของเทียนขุยค่อยๆเปลี่ยนไป ใช่ สร้อยเส้นนี้เทียนขุยให้เธอไว้ในตอนแรกนั่นเป็นสร้อยที่ราคาสิบกว่าหยวน นี่เป็นสร้อยเทียนขุยขโมยเงินพ่อมาซื้อให้เสี่ยวหง สร้อยไม่แพง แต่มีความหมาย
เมื่อเห็นสร้อยเส้นนี้ จู่ๆเทียนขุยก็เข้าใจขึ้นมา ว่าเขาถูกควบคุมช่วงเวลาหนึ่งจริงๆ นอกจาการควบคุมของยาแล้ว ยังควบคุมจิตใจของเขาโดยสิ้นเชิงอีกด้วย สร้อยเส้นนี้สลักตัวอักษรแรกของทั้งสองคน
แทนที่บอกว่าเทียนขุยถูกควบคุม สู้บอกว่าสร้อยที่เขาให้เสี่ยวหง จองจำจิตใจของเขาดีกว่า
เสี่ยวหงเห็นสีหน้าของเทียนขุน ใบหน้าปรากฏความร้อนรนขึ้นมา ใช่ ใบหน้าที่สงบ ราวกับไม่ว่าเรื่องอะไรก็ไม่เกี่ยวกับเขา โดยเฉพาะแววตาคู่นั้นที่ค่อยๆแข็งขึ้น ทำให้เสี่ยวหงเข้าใจ
เทียนขุย กำลังตกอยู่ในภวังค์!
เสี่ยวหงฉวยโอกาส กดความร้อนรนในใจลง ขยับแขนอย่างยากลำบาก เขย่าสร้อยอย่างแรง ปากก็สวดบทสวดอย่างเบลอๆ การกระทำนั้นราวกับแม่มดข้างถนน กำลัง‘ปัดเป่าความชั่วร้าย’ให้ผู้คน ทำให้คนตะลึง ไม่กล้าพูดอะไร
หลังจากที่สวดอยู่ยาวอย่างไม่หยุด เสี่ยวหงลืมตาขึ้นอย่างเร็ว จ้องเทียนขุยอย่างปิดปากเงียบ “ทำ ทำไมคุณยังเป็นแบบนี้?”
แบบไหน?
เทียนขุยในตอนนี้ แววตาอันขุ่นมัวเปลี่ยนเป็นประกายขึ้นมา และดวงตายังคงมองตามสร้อยของเสี่ยวหงขยับไปมา นี่เป็นเพียงสิ่งที่คนทั่วไปเห็นของขยับไปมา
ไม่สิ!
ไม่ใช่แบบนี้!
“อย่าขยับตา! คุณควรจะจ้องสร้อยอย่างไม่ละสายตา จากนั้นแววตาแน่วแน่ เหมือนกับถูกคนสะกดจิต ไม่ ไม่ใช่แบบนี้ เทียนขุยคุณเป็นอะไรไป? คุณลืมสัญญาที่คุณได้ให้ไว้กับฉันแล้วเหรอ? คุณลืมสร้อยเส้นนี้แล้วเหรอ? คุณลืมคำพูดอันอ่อนโยนที่พูดกับฉันตอนใต้แสงจันทร์แล้วเหรอ?”
“เหอๆ……”
เทียนขุยแสยะยิ้ม ตอนนี้เขาเข้าใจแล้ว เสี่ยวหงหลอกใช้ความรักของเขาที่มีต่อเธอ ใช้สร้อยที่สำคัญที่สุดของเขามาเพิ่มการควบคุม ส่งผลให้เขาตกอยู่ในภวังค์ ไม่สามารถมีสติกลับมาได้ นี่เป็นปัจจัยแน่ชัดที่ตนกลายเป็นเครื่องมือสังหาร
“ใช่ ผมเคยพูดไว้จริง” เทียนขุยไม่ได้ปฏิเสธ ใบหน้าที่แน่วแน่มีความอ่อนโยนเข้ามา ราวกับนึกย้อนเรื่องราวเล็กๆน้อยๆที่เคยเกิดขึ้น ช่วงเวลาที่สวยงาม น้ำเสียงก็อ่อนโยนขึ้นมา “ใช่ ผมผู้ชายที่กำยำบึกบึน นึกไม่ถึงว่าจะให้ความสำคัญกับความรัก จนกระทั่งวันนั้นที่ได้เจอคุณ ผมรู้สึกว่าความรักที่หายไปนานค่อยๆกลับมาในใจอีกครั้ง จิตใจที่จมปลักก็ค่อยๆเร่าร้อนขึ้นมา พูดให้ขำๆ นาทีที่พบกันอีกครั้ง ผมรู้สึกว่าความสดใสของผมได้มาแล้ว!”
พูดถึงจุดนี้ เทียนขุยที่แน่วแน่น้ำตาไหลออกมา เขากลืนน้ำลายลงไป ใบหน้านิ่งสงบ กล่าว “ใครจะรู้ การที่ผมเจอคุณไม่ใช่ความสดใสของผมมาถึง แต่กำลังเข้าสู่ความทรมาน แล้วยังเป็นความเจ็บปวดตลอดกาลในใจผม และกลายเป็นความทรมานที่เยือกเย็นที่สุดในชีวิตผม!”
คำพูดของเทียนขุย เป็นเหมือนฟ้าผ่า ผ่าลงกล้าใจของเสี่ยวหงอย่างแรง
“ความจริงผมฟื้นกลับมาตั้งนานแล้ว คุณยังจำครั้งนั้นที่เจอจอมพลโผ้จวินได้มั้ย? ตอนที่ผมเจอจอมพลโผ้จวินครั้งแรก ผมก็ฟื้นกลับมาแล้ว ขั้นตอนที่ผมฟื้นกลับมาได้นั้นง่ายดายมาก สายตาเดียวของจอมพลโผ้จวินก็ทำให้ผมกลับมา ผมยอมรับว่าในใจของผมยังเหลือจินตนาการอยู่บ้าง คิดเสมอว่าจะสามารถทำให้คุณซาบซึ้งใจได้ ให้คุณออกห่างจากเพลิงเสวนที่ทำแต่เรื่องร้ายๆ แต่สิ่งที่ทำให้ผมไม่คาดคิดก็คือ คุณได้เป็นปีศาจเต็มตัวแล้ว ตกอยู่ในภวังค์จนไม่สามารถหลุดออกมาได้แล้ว ในเมื่อผมได้กลายเป็นหนึ่งในสมาชิกของพวกคุณ และเป็นสมาชิกภาพ งั้นทำไมผมจะไม่ซ่อน ทำเรื่องที่ทำควรทำล่ะ!”
เสี่ยวหงตัวสั่นขึ้นทันใด! จู่ๆเธอก็รู้สึกวิงเวียน