จอมนักรบทรงเกียรติยศ - บทที่ 686 เหอวี่เฉวียนที่ปลาบปลื้มใจ
“คุณมั่นใจว่าผมจะไม่ฆ่าคุณใช่มั้ย? ฟางเหยียนจ้องจักรพรรดิชิงตี้ ดูแคลนว่า “ผมรำคาญคนที่คิดไม่ดีกับผม และคุณก็ไม่มีค่าแล้ว ผมเดา เป้าหมายที่เพลิงเสวนให้คุณเข้าใกล้ผมออกมาแล้ว ก็แค่กุมเส้นทางของผม จากนั้นก็วางแผนจัดการ ใช่มั้ย?” ฟางเหยียนตัดสินใจใช้วิธีกระตุ้นจักรพรรดิชิงตี้
แต่จักรพรรดิชิงตี้เหมือนไม่ได้ยินอย่างไรอย่างนั้น สูดอากาศบริสุทธิ์อย่างมีความสุข
ฟางเหยียนขมวดคิ้วเล็กน้อย มนุษย์ตอนกำลังจะตาย ไม่มีทางโกหกที่สุดแล้ว โดยเฉพาะสีหน้าของจักรพรรดิชิงตี้ ดูๆแล้วไม่เหมือนเสแสร้ง ดูธรรมชาติมาก ราวกับไม่รู้อะไรเลย
“ยอมตายแต่ไม่ยอมเอ่ยปาก งั้นผมจะดู ว่าคนของเพลิงเสวนของพวกคุณต่อต้านได้ขนาดนี้มั้ย!”
พูดพลาง ฟางเหยียนได้ออกแรงในมือเพิ่มขึ้น จากนั้นร่างกายสั่น ตาเหลือก ลิ้นออกมาแล้ว
หรือเธอไม่มีเป้าหมายจริงๆ?
ใช่!
ฟางเหยียนกำลังล่อจักรพรรดิชิงตี้อยู่ แต่สุดท้ายกลับไม่ได้เป็นดั่งที่เขาคิดไว้
ผู้หญิงทั้งสี่ที่ปรากฎตัวยิ่งเคร่งเครียดมากขึ้น เกือบจะพุ่งเข้าไปแล้ว แต่เทียนขุยเหมือนกับภูเขาลูกเล็ก ทำให้หญิงสาวทั้งสี่ยากที่จะเข้าใกล้ได้ ทำได้เพียงร้อนรนมองการกระทำทุกอย่างของฟางเหยียนอย่างทำอะไรไม่ได้
“ปล่อยจักรพรรดิชิงตี้ ไม่งั้นอย่าหาว่าเราไม่เตือนนะ!”
“ฉันขอให้คุณรีบปล่อยจักรพรรดิชิงตี้ ไม่งั้นคุณจะเจอคนไล่ฆ่าอย่างไม่หยุดหย่อน”
“……”
แม้จะไม่สามารถผ่านเทียนขุยไปได้ จึงจำเป็นมากต้องพูดคำพูดแรงๆออกมา
สี่คนแต่ล่ะคนต่างพากันโจมตีฟางเหยียนด้วยวาจา ชักตาใส่อย่างร้อนรน
“หนวกหู!”
ฟางเหยียนค่อยๆยกมือซ้ายขึ้น โบกอย่างแรง จู่ๆทั้งสี่ก็ล้มลงไปที่พื้น แต่ล่ะคนทำอะไรไม่ถูก
เงียบ!
รอบๆเงียบจนผีตกใจจะแย่
แข็งแกร่งมาก!
ผ่านอากาศก็สามารถพัดทั้งสี่ล้มไปได้ กำลังภายในปล่อยออกมาข้างนอกแข็งแกร่งถึงสุดขีด ทั้งสี่คนรู้ดี ว่าพวกเธอแตะต้องยอดฝีมือระดับนี้ไม่ได้
ไม่เพียงแค่ผู้หญิงสี่คนเท่านั้นที่รู้สึกช็อก แม้แต่ทุกคนที่คุกเข่าอยู่กับพื้นล้วนรู้สึกขนหัวลุก ตัวสั่น ที่แท้จอมพลโผ้จวินก็สมคำร่ำลือ ผู้ชายที่เป็นเทพแห่งสงครามได้ เป็นคนที่พวกเขาดูถูกได้เหรอ?
ผู้ชายที่เหมือนเทพคนนี้ น่ากลัวเสียจริงๆ
บรรยากาศค่อยๆถมึงทึง ในใจของทุกคนห้อมล้อมไว้ด้วยความมืดมน ในใจถูกความหวาดกลัวครอบงำ พวกเขารู้ดีมาก ว่าต่อจากนี้ไปผลลัพธ์ที่รอพวกเขาอยู่คืออะไร
เสี่ยวหงได้สติกลับมาจากความตะลึง เธอไม่คาดคิดว่าฟางเหยียนจะลงมือกับจักรพรรดิชิงตี้จริงๆ แต่เธอหวังเป็นอย่างมากให้ฟางเหยียนฆ่าเธอโดยตรง แต่ผลลัพธ์ ฟางเหยียนกลับไม่ลงมือ
“ฆ่าเธอ ฆ่าเธอ……” เสี่ยวหงพึมพำในใจตลอดเวลา แทบจะอยากพุ่งเข้าไปหาฟางเหยียน
เห็นจักรพรรดิชิงตี้หายใจออกมากว่าหายใจเข้า สุดท้ายฟางเหยียนก็ผ่อนมือลง
“แค็กๆๆ……”
เมื่อเขาผ่อนมือ ร่างกายของชิงตี้ล่วงลงไปอย่างอ่อนนุ่ม ใบหน้าชักกระตุก หายใจเฮือกใหญ่อย่างเร็ว ร่างกายที่ผอมแห้งเหมือนกับลูกบอลที่เติมลมอย่างไรอย่างนั้น เติมเต็มขึ้นมา ขยับไปมาทำให้ผู้ชายที่อยู่ด้านล่างน้ำลายไหลไม่หยุด ยิ่งอยู่ความโลภยิ่งมีมากขึ้น
ปรับสภาพอยู่นานมาก ใบหน้าที่ซีดขาวของจักรพรรดิชิงตี้ค่อยๆมีเลือดฝาดขึ้น แต่ในแววตายังคงปกปิดความหวาดกลัวที่มีต่อฟางเหยียนไม่ได้ เมื่อสักครู่นี้เอง เธอไม่สงสัยเลยแม้แต่น้อย ว่าฟางเหยียนจะฆ่าเธอแล้วจริงๆ และในเวลานั้น จู่ๆเธอก็รู้สึกว่าการที่เธอเข้าใกล้ฟางเหยียน มันบุ่มบ่ามเกินไปมั้ย?
เมื่อฟางเหยียนปล่อยจักรพรรดิชิงตี้ ทุกๆคนก็โล่งอก พวกเขากลัวว่าฟางเหยียนจะทำลายของสวยงาม ทำให้ดอกไม้งามที่สุดดอกนี้ต้องหายไปเข้าให้แล้วจริงๆเสียอีก ถ้าเป็นแบบนั้นจริงก็เป็นความโชคร้ายของทุกคน แต่ดีที่ สุดท้ายฟางเหยียนไม่ได้ลงมือ พวกเขาที่ตีตนไปก่อนไข้ ราวกับลืมไปแล้ว ว่าตัวเองยังกำลังลำบากอยู่!
ยุ่งเรื่องชาวบ้านแล้วยังพะวงจะช่วยเหลืออีก!
“แค็กๆๆ……” จักรพรรดิชิงตี้ไออยู่สักพัก จึงจะปรับตัวได้ มองฟางเหยียนอย่างเหม่อลอย กล่าวอย่างสะอื้นว่า “คุณหลงตัวเองแบบนี้มาตลอดเลยหรือเปล่า? ที่ไม่ว่าใครเข้าใกล้คุณก็ต้องมีเป้าหมายอะ? ความระแวงของคุณมันมากขนาดนี้เลยเหรอ? ลองพูดคุยกับคนอื่นไม่ได้เลยหรือไง?”
ฟางเหยียนไม่แม้แต่จะลืมตาขึ้น “ผมมีภรรยาแล้ว ผมรักเธอมาก”
อารมณ์ที่ค้างอยู่บนใบหน้าของจักรพรรดิชิงตี้สามารถใช้ความเคว้งคว้างมาอธิบายได้
พูดไปไม่คิดอะไรแต่กระทบจิตใจคนฟัง
ทุกคนที่อยู่ด้านล่างล้วนเหยียดหยามอย่างรุนแรงต่อการกระทำอันอวดเก่งของฟางเหยียน ผ่านการศึกษาภาคบังคับมาด้วยกันทั้งนั้น แล้วทำไมเขาถึงได้ยอดเยี่ยมขนาดนี้? ผู้หญิงที่พลีกายให้ยังไม่เอา?
ยังเป็นผู้ชายอยู่มั้ย?
นี่จักรพรรดิชิงตี้นะ สาวสวยแห่งยุคที่งามล่มเมือง ใช้งามจนตะลึง มาเทียบได้เลย!
ในขณะที่ทุกคนกำลังครุ่นคิดอยู่นั้น ฟางเหยียนกลับหันหลังเดินไปที่เหอวี่เฉวียน เห็นบาดแผลของเขา ขมวดคิ้วจนเป็นปม บาดแผลของเขาใช้คำว่าอนาถคำเดียวก็ได้แล้ว แทบจะไม่ได้การแล้ว
ไม่มีเวลาคิดมาก ทันใดนั้นฟางเหยียนก็หยิบเข็มเงินออกมา เขาจะใช้เก้าเข็มฮว่าถัวเพื่อต่ออายุ รักษาเหอวี่เฉวียนให้ได้ ท่าทางฝังเข็มดูเชี่ยวชาญ เข็มทั้งเก้าปักเข้าไปยังจุดลมปราณที่ต่างกันทั้งเก้าจุดของเหอวี่เฉวียน
เหมือนเหอวี่เฉวียนจะรู้สึกถึงฟางเหยียน หลับตาทั้งสองลงสั่นเล็กน้อย ลืมตาอย่างยากเย็น ใช้กำลังทั้งหมดที่มีส่ายหน้า “จอม จอมพล ท่านไม่ต้องทำเพื่อผมแล้วครับ ผมใกล้จะแก่ตายแล้ว”
“ไม่ ผมกำลังปิดเส้นลมปราณ ให้คุณตกอยู่ในภวังค์การตายที่ไม่จริง หลายนาทีผ่านไป คุณจะตื่นขึ้นมา”
“จอมพลนี่คือเก้าเข็มฮว่าถัว?”
ฟางเหยียนชะงัก เก้าเข็มฮว่าถัวที่หายไปกว่าหลายร้อยปี เหอวี่เฉวียนรู้ได้อย่างไร? แต่คิดกลับไป อาจารย์ของเขาเป็นยอดฝีมือยากที่จะคาดเดาได้ การที่รู้จักเก้าเข็มฮว่าถัวก็ไม่ได้แปลกประหลาดอะไร
ฟางเหยียนพยักหน้าเบาๆ เหอวี่เฉวียนตะลึงอ้าปากค้างอย่างช็อก ปากพะงาบๆแต่พูดอะไรไม่ออก เขาเห็นความตกใจของเหอวี่เฉวียน เก้าเข็มฮว่าถัวคุ้มที่จะตื่นตะลึง ถ้าพูดถึงการฝังเข็มประตูผีสิบสามท่าออกมาอีก เหอวี่เฉวียนไม่ตกใจจนช็อกไปเลยเหรอ?
ฟางเหยียนเพิ่งจะนึกออกครั้งที่แล้วที่ใช้ฝังเข็มประตูผีสิบสามท่า มาช่วยหลินถง
นอกจากเก้าเข็มฮว่าถัว เขายังทำการฝังเข็มประตูผีสิบสามท่าเป็นอีกด้วย ฝังเข็มประตูผีสิบสามท่ามาจากไหนเขาไม่รู้ แต่อาจารย์ของเขาสอนมา ตนก็เรียนรู้ ตอนนั้นที่เรียนการฝังเข็มประตูผีสิบสามท่า อาจารย์ได้บอกไว้ ว่าฝังเข็มประตูผีสิบสามท่ารักษาโรคที่เกิดขึ้นในเส้นลมปราณ เหมือนถูกทำของใส่ร่างกาย นี่คือโรคที่เกิดขึ้นในเส้นลมปราณ
เก้าเข็มฮว่าถัวอันตรายและน่ากลัว จุดมุ่งหมายของวิชาฝังเข็มคือช่วยคนที่ใกล้จะตาย ทำลายกฎธรรมชาติมาก แม้แต่ตอนที่ฮว่าถัวมีชีวิตก็ใช้มันแค่สามครั้ง เพียงพอที่จะเห็นความน่ากลัวของเก้าเข็มฮว่าถัวได้แล้ว แต่ฟางเหยียนใช้ไปสองครั้ง เพื่อช่วยคน ครั้งแรกรักษาลูกชายของเจี่ยเกิงจื่อ ครั้งนี้รักษาเหอวี่เฉวียน
วิชาฝังเข็มของหยินหยางสองชนิด เพียงพอทำให้โลกสั่นสะเทือนได้แล้ว
และตอนนี้เพื่อรักษาเหอวี่เฉวียน ฟางเหยียนยังไปสนการผิดกฎธรรมชาติที่ไหนกัน ตอนนี้คือกำลังแย่งคนจากมือของยมบาลอยู่
แต่ครั้งนี้ เหมือนว่าสถานการณ์จะเกินกว่าที่ฟางเหยียนคาดการณ์ไว้ เมื่อใช้เก้าเข็มลงไป เหอวี่เฉวียนยังคงเป็นเช่นเดิม ไม่บรรเทาแต่อย่างใด
“ตอนมีชีวิตได้เห็นเก้าเข็มฮว่าถัว ชาตินี้นอนตายตาหลับแล้ว” ดุเหมือนเหอวี่เฉวียนจะตื่นเต้นมาก เหมือนกับมีชีวิตเฮือกสุดท้ายก่อนที่จะตาย จู่ๆก็มีชีวิตชีวา กระปรี้กระเปร่า แม้แต่พูดก็มีชี่ออกมา
ฟางเหยียนขมวดคิ้วหนักขึ้น เขารู้แล้วว่าเก้าเข็มฮว่าถัวไม่ได้ผลแล้ว ไม่มีทางช่วยเหอวี่เฉวียนได้ แต่จากนี้เหมือนว่าไม่สนใจแล้วว่าจะมีชีวิตอยู่ต่อไปได้มั้ย หรือพูดว่า ในใจของเขาไม่เสียดายใดๆแล้ว
“จอมพล ท่านเป็นคนประหลาดจริงๆ ร่างกายของผมผมรู้ดีครับ ผมใกล้จะตายแล้ว ต่อให้ฮว่าถัวยังอยู่ก็เกรงว่าจะทำอะไรไม่ได้ ขอบคุณท่านครับจอมพล ท่านไม่ต้องโทษรองผู้นำเทียนขุยนะครับ ผมทราบเหตุผลแล้ว ผมก็ว่า ทำไมก่อนหน้านี้รองผู้นำเทียนขุยใช้น้ำเสียงหารือกับผม ที่แท้เขากำลังอดทนให้เสร็จภารกิจ ข้าราชการหลักของประเทศจะเป็นเครื่องมือของคนอื่นได้อย่างไรกัน? ถูกมั้ยครับ?