จอมนักรบทรงเกียรติยศ - บทที่ 688 สามี หวังว่าจะมีโอกาสได้พบกันอีก
หนึ่งนาทีผ่านไป ฟางเหยียนยืนเอามือไขว้หลัง มองศพที่อยู่ใต้เท้าอย่างดูหมิ่น สีหน้าไม่เปลี่ยนไปแม้แต่น้อย เขาไม่ใช่คนที่บ้าเลือด และไม่ใช่เครื่องมือสังหารที่เลือดเย็นอันโหดเหี้ยมคนหนึ่ง แต่คนพวกนี้สมควรตาย แม้คนพวกนี้จะต่างกัน แต่มือมิดที่อยู่เบื้องหลังต้องเป็นเพลิงเสวนแน่ๆ
สำหรับเพลิงเสวน เขาไม่เคยอ่อนข้อมาก่อน
เทียนขุยคุกเข่าชันเข่า กล่าวอย่างเคารพว่า “จอมพล เคลียร์เรียบร้อยครับ ขอจอมพลลงโทษได้เลยครับ!”
เทียนขุยยอมรับการลงทัณฑ์ แต่ฟางเหยียนกลับส่ายหน้าเบาๆ “สามารถยกโทษให้ได้ อย่าทำอีกก็แล้วกัน”
เทียนขุยพยักหน้าด้วยสีหน้าซับซ้อน จอมพลโผ้จวินไม่ลงโทษเขา ทำให้เขาเป็นทุกข์มากขึ้นไปอีก ถูกคนควบคุมให้ฆ่าคนไปทั่ว ได้ทำลายกฎแล้ว แต่นึกไม่ถึงว่าฟางเหยียนจะผ่านไป
“อ้อ จอมพล ผู้หญิงห้าคนนั้นต้องกำจัดมั้ยครับ?”
จักรพรรดิชิงตี้และคนอื่นๆชะงักไป หรือฟางเหยียนจะถอนลากถอนโคลน?
ฟางเหยียนมองจักรพรรดิชิงตี้อย่างเย็นชา ไม่พูดใดๆ เทียนขุยเหมือนได้รับคำสั่งเดินไปที่จักรพรรดิชิงตี้ ความอาฆาตในแววตาผุดขึ้นมา ตั้งท่าตั้งทางไว้เรียบร้อย
จักรพรรดิชิงตี้ยังคงไม่พูด แต่ผู้หญิงสี่คนด้านหลังของเธอเข้ามาขวางหน้าเธอไว้พร้อมกัน จ้องเทียนขุยด้วยท่าทีเผชิญหน้ากับศัตรูอย่างไรอย่างนั้นออกมา ความแข็งแกร่งและความน่ากลัวของเทียนขุยและฟางเหยียน ทำให้พวกเธอหวาดกลัวไปจนถึงกระดูก หลายร้อยคนเสียชีวิตจากการสังหารของทั้งสองคน ไร้ซึ่งพลังต่อกร
เทียนขุย‘เลือดเย็นที่’แม้แต่ผู้หญิงที่ตัวเองรักยังลงมือได้ พวกเธอจะต้านทานศัตรูที่น่ากลัวแบบนี้ได้มั้ย? หญิงสาวทั้งสี่ไม่แน่ใจ แต่การปกป้องจักรพรรดิชิงตี้เป็นความรับผิดชอบและภารกิจเดียวของพวกเธอ
จักรพรรดิชิงตี้มองฟางเหยียน จากนั้นสีหน้าเย็นชา ราวกับไม่อยากสนใจ เธอเศร้าสลด “ไม่คาดคิดว่าสุดท้ายคุณก็ลงมือกับฉัน ที่รัก!”
สองคำสุดท้ายเน้นหนักมาก ในน้ำเสียงเต็มไปด้วยความไม่เต็มใจอย่างที่สุด
“ที่รัก ฉันเคยบอกไว้ว่าที่ฉันเข้าใกล้คุณไม่ได้มีเป้าหมายใดๆ หลังจากคืนวันนั้นแล้ว ฉันก็ชอบคุณ ง่ายๆแบบนี้ แต่ทำไมคุณไม่ให้โอกาสฉันสักครั้ง หรือว่าจิตใจของคุณเยือกเย็น? หรือคุณดูไม่ออกถึงความรักที่ฉันมีต่อคุณเหรอ? คุณเป็นคนที่ไม่เห็นอกเห็นใจคนอื่นแบบนี้? คนที่เข้าใกล้คุณล้วนมีเป้าหมายทั้งหมดเลยเหรอ?” จักรพรรดิชิงตี้พูดถึงเรื่องคืนนั้น นี่หลีกเลี่ยงให้คนคิดไปไกลไม่ได้!
ในคืนนั้น ใครจะรู้ว่าคืนนั้นพวกเขาเกิดอะไรขึ้น โดยสรุปทำให้คนคิดเพ้อเจ้อ! โดยเฉพาะเทียนขุย ชะงักไปทั้งตัว ในใจคิดว่าจอมพลโผ้จวินมีเสน่ห์มาก นึกไม่ถึงว่าจะดึงดูดสาวสวยได้มากขนาดนั้น แล้วยังมีภรรยาที่สวยล่มเมืองอีกด้วย
ฟางเหยียนสีหน้านิ่งสงบราวกับน้ำ เงียบสงบไปสักพักกล่าวว่า “ไม่ คุณผิดแล้ว สำหรับเพื่อนผมทำทุกอย่าง สำหรับศัตรูอีกทั้งคนที่ไม่มีหัวนอนผลายเท้าชัดเจน ผมก็ทำแบบนี้”
“คุณเป็นใครกันแน่?” ฟางเหยียนถามด้วยเสียงเคร่งขรึม
“ฉันเป็นใคร?” จักรพรรดิชิงตี้หัวเราะเหอะๆ ในรอยยิ้มมีความขมขื่นอยู่ด้วย “ฉันเป็นใครคุณยังเดาไม่ถูกอีกเหรอ? ว่ากันว่าจอมพลโผ้จวินฉลาดเชี่ยวชาญการต่อสู้ตัวยง ดูคนออก วันนี้ฉันได้เห็นแล้ว ฉันแค่อยากบอกคุณ ว่าฉันไม่ได้เป็นคนประเภทนั้นที่คุณคิดไว้”
จู่ๆฟางเหยียนเข้าใจมาก แว็บเดียวก็ปล่อยวาง ทำไมเมื่อเสี่ยวหงเห็นจักรพรรดิชิงตี้ ความเคร่งเครียดที่เธอแสดงออกมามันมีหลักฐาน หมายความว่าจักรพรรดิชิงตี้เป็นคนของเพลิงเสวน ในเมื่อมั่นใจแล้ว ฟางเหยียนจึงอาฆาต เพียงแต่เขาไม่รู้ว่าทำไม จักรพรรดิชิงตี้ยอมรับว่าตัวเองเป็นคนของเพลิงเสวนทางอ้อม แล้วยังอธิบายว่าเธอไม่ได้เป็นคนแบบนั้นอีก
หรือเขาฟางเหยียนเข้าใจเพลิงเสวนผิดไป?
ไม่!
ตั้งแต่ต้นจนจบเพลิงเสวนเป็นองค์กรที่เลวร้ายองค์กรหนึ่ง ตั้งแต่เริ่มฆ่าเทียนหม่าอีกทั้งนักรบของสำนักเจ็ดพิฆาต พวกเขาก็ทำผิดมากมาย ทุกๆการกระทำเป็นความผิดมากมายจนจำไม่ไหว ไม่เชื่อมสัมพันธ์กับตระกูลใหญ่ ก็ทำลายความสงบที่มีอยู่ สำหรับเพลิงเสวนที่อำนาจยิ่งใหญ่หลบอยู่ในที่ลับๆ ดูความทะเยอทะยานของเขาได้ไม่ยาก
เดิมเพลิงเสวนเป็นองค์กรที่ชั่วร้ายมากองค์กรหนึ่ง
“คนดีจะเขียนคำว่าคนดีสองคำนี้ ไว้บนหน้าของตัวเองมั้ย?”
จักรพรรดิชิงตี้ชะงักไป ดูเหมือนฟางเหยียนจะไม่ตั้งใจฟัง ประโยคนี้จะมีก็แต่ผูกมัดเธอ ทำให้เธอรู้ ว่าดำคือดำ ขาวคือขาว สองสิ่งไม่สามารถล้างให้สะอาดได้
“ร่างกายอยู่เหนือการควบคุม พูดมากไม่ได้ ที่รัก”
“อย่าใช้ร่างกายอยู่เหนือการควบคุมมาเป็นข้ออ้าง คำๆนี้ไม่เหมาะสม”
จักรพรรดิชิงตี้ได้ยินแล้วช็อกไป นี่ฟางเหยียนดื้อดึงนะเนี่ย จะฆ่าเธอให้ได้
“เทียนขุย หน้าที่คุณล่ะ” ฟางเหยียนอาฆาต สำหรับคนของเพลิงเสวน เขาไม่เคยอ่อนข้อมาก่อน
จะทำลายสิ่งสวยงามอีกแล้วเหรอ?
ใช่ ฟางเหยียนคิดว่าจักรพรรดิชิงตี้ในตอนนี้ไม่มีประโยชน์ที่จะหลอกใช้อีกแล้ว เขาไม่อยากมีสายลับติดตามข้างกายตลอดเวลา ใช่ เพลิงเสวนมีอำนาจกระจายทั่วทั้งประเทศหวา คิดจะตรวจสอบเส้นทางของฟางเหยียนง่ายมาก แต่เขารู้สึกรังเกียจและไม่สบายตัว
“ที่รักคะ คุณจะฆ่าฉันจริงเหรอ? เหมือนกับฆ่าคนพวกนั้นที่อยู่ด้านล่างเหรอ?”
“ให้เหตุผลในการไม่ฆ่าคุณมาหนึ่งข้อ”
จักรพรรดิชิงตี้ไม่พูดไม่จา เธอหาเหตุผลมาปกป้องชีวิตไว้ไม่ได้ เพราะ ฟางเหยียนมองว่าเธอเป็นคนของเพลิงเสวน เธอที่รู้จักฟางเหยียนดี รู้โดยปริยาย เหตุผลแท้จริงที่ฟางเหยียนเคียดแค้นเพลิงเสวน
เงียบไปสักพัก จักรพรรดิชิงตี้พูดว่า “บางทีเพลิงเสวนไม่ได้เป็นไปอย่างที่คุณคิด? มีพวกที่เป็นแกะดำ แต่จะเหมารวมไม่ได้นะ สามีคะ คุณคิดว่าไง?” ถึงตอนนี้ยังปกป้องเพลิงเสวนอยู่อีก!
มันช่างดื้อดึงยิ่งนัก!
ฟางเหยียนส่ายหน้าอย่างจนปัญญา หันหลังแล้วจากไป ไม่อธิบายก็เข้าใจ ว่าเขาอาฆาตจักรพรรดิชิงตี้!
เทียนขุยพยักหน้ารับคำสั่ง จู่ๆแววตาแดงก่ำก็เป็นประกาย เหมือนกับสัตว์เดรัจฉานที่เกรี้ยวกราด พุ่งไปที่จักรพรรดิชิงตี้อย่างแรง ไม่นานก็ตะลุมบอนกัน แต่ตอนที่ฟางเหยียนกลับไปที่ระเบียง ผู้อาวุโสทั้งหกเบิกบานใจอย่างผ่อนคลาย ตอนที่มองฟางเหยียน ในแววตาเต็มไปด้วยความซาบซึ้งและความเคารพ ที่จอมพลโผ้จวินให้โอกาสพวกเขาได้จัดการคนทรยศ เพราะมีเขา จึงทำให้เหอวี่เฉวียนผู้อาวุโสเหอที่เสียชีวิตไปจากไปอย่างสงบ
แต่เคารพส่วนเคารพ ผู้อาวุโสทั้งหกยังคงจ้องฟางเหยียนด้วยสีหน้าที่ระแวง พวกเขาไม่ลืมว่าก่อนหน้าที่ฟางเหยียนจะปรากฏกาย เทียนขุยใช้ในนามรองผู้นำสำนักเจ็ดพิฆาตมา โดยเฉพาะผู้อาวุโสเหอคิดไปแล้วว่าการโจมตีครั้งนี้เพราะสำนักเจ็ดพิฆาตต้องการเป็นใหญ่เพียงผู้เดียว จึงอยากกำจัดเสี้ยนหนามเสีย
พูดให้ง่ายคือ ผู้อาวุโสทั้งหกเชื่อว่า ฟางเหยียนและเทียนขุยเป็นพวกเดียวกันไปแล้ว ก็เป็นมือมืดที่ทำลายรีสอร์ทหยูฉวนเช่นกัน ต่อให้เขาคือเทพแห่งสงครามของประเทศหวา แต่ยังไงก็เป็นคนที่รุกรานรีสอร์ทหยูฉวน
ฟางเหยียนไม่ได้ใส่ใจสีหน้าของหกคน เพียงแค่มองจินซานที่สลบไม่รู้เป็นตายร้ายดีอย่างไร ต่อกรกับคนทรยศ การลงทัณฑ์แบบนี้สำหรับฟางเหยียนแล้ว เบาไปมาก ระดับการลงทัณฑ์ของสำนักเจ็ดพิฆาต เพียงพอให้ทุกคนหน้าถอดสี ตกใจจนแทบตาย
ฟางเหยียนไม่ได้พูดอะไรกับพวกเขามาก เขาเห็นความหวาดระแวงในสายตาของคนพวกนี้โดยปริยาย แล้วทำไมต้องไปเปลืองน้ำลาย สู้เอาตราประทับเทียนซือมา นี่ถึงจะเป็นเรื่องใหญ่ที่สำคัญ
ส่วนทำไมเหอวี่เฉวียนไม่เอาตราประทับให้กับผู้อาวุโสทั้งหก ฟางเหยียนคิดแบบนี้ นอกจากฝีมือและตัวตนของเขาฟางเหยียน สามารถหลีกเลี่ยงความวุ่นวายของสำนักเทียนซือได้ เพลิงเสวนไม่ปล่อยให้โอกาสหลุดลอยไป
ไม่นาน ฟางเหยียนมาถึงในห้องของเหอวี่เฉวียน เจอภาพติดผนังที่แขวนอยู่บนกำแพงนั้นที่เขาพูดไว้ รูปบนกำแพงที่ปรากฏคือภาพวาดพู่กันหมู่บ้านภูเขาของฟ้าหลังฝน รูปวาดนี้กับโครงสร้างไม้ของในห้องผสมผสานกันได้ดี ไม่สังเกตจะไม่รู้เลยแม้แต่น้อย ว่าด้านหลังภาพวาดพู่กันของฟ้าหลังฝน มีอะไรที่พิเศษอยู่
ฟางเหยียนหาสวนไผ่ที่อยู่บนภาพ กดลงไปเบาๆ จู่ๆรูปก็ยุบลงไป ปรากฏเป็นรูปร่างสี่เหลี่ยมที่ขนาดเล็กสี่เหลี่ยมดำขลับ ด้านบนแกะสลักรูปปั้นของจางเทียนซือ ดูเหมือนนี่เป็นรหัสล็อก ฟางเหยียนได้ทำตามขั้นตอนตามหารหัสเพื่อปลดล็อก และตอนที่กดจางเทียนซือเบาๆ รูปปั้นสีดำเปิดออก ปรากฏเป็นกล่องที่มีลักษณะสี่เหลี่ยมกล่องหนึ่งขึ้นมา
นี่คือตราประทับเทียนซือ
จู่ะๆฟางเหยียนยินดีปรีดา ยังไม่ใช้มือจับตราประทับเทียนซือ ด้านนอกก็มีเสียงดังเข้ามา เขาขมวดคิ้ว มือก็ค้างอยู่ในอากาศ
“สามี หวังว่าจะมีโอกาสได้พบกันอีกนะคะ ตอนที่เจอกันครั้งหน้า คุณจะดุเค้าแบบนี้ไม่ได้นะ”