จอมนักรบทรงเกียรติยศ - บทที่ 690 เผารีสอร์ทหยูฉวน
เป็นผู้เฒ่าที่ดื้อรั้นจริงๆ! ฟางเหยียนกุมขมับอย่างเซ็ง ส่งสัญญาณให้เขารีบพูด
“สำนักเทียนซือไม่ได้เป็นอย่างที่คุณคิด เป็นศิษย์ทั่วไปก็ได้ ไม่กระทบการควบคุมสำนักเทียนซือ ยิ่งไปกว่านั้น……” เมื่อผู้อาวุโสท่านนั้นพูดถึงจุดนี้ ก็หยุดปากไป แล้วยังจงใจมองไปรอบๆ หลังจากมั่นใจว่าไม่มีคนอื่นแล้ว จึงได้พูดเบาๆอย่างลับๆ จากนั้นพูดว่า “ตราประทับซ่อนวิชาฝึกฝนไว้ ทำให้คนเป็นยอดฝีมือไร้เทียมทานที่สุดได้ เหมือนกับจางตุนเทียนเจ้าสำนักคนก่อนของเรา ฝีมือไร้เทียมทาน”
“อืม?”
หกคนแปลกใจอีกครั้ง จ้องฟางเหยียนอย่างงงๆ
จอมพลนิ่งสงบเกินไปแล้วนะ ได้ยินวิชานี้ยังไม่แสดงอาการอะไรออกมา หรือเขาไม่ต้องการ? หรือเขาไม่ได้ยินถึงความแข็งแกร่งของวิชานี้?
ไม่ได้!
ต้องพูดให้เขาเข้าใจ จะได้ไม่เสียใจภายหลัง!
ทั้งหกคนแทบจะใช้สายตา ก็เริ่มชื่นชมความแข็งแกร่งของวิชาที่ซ่อนอยู่ในตราประทับเทียนซืออย่างไม่หยุดหย่อน อะไรร้อยปีก่อนไร้เทียมทาน อะไรอยู่เหนือผู้แข็งแกร่งทั้งมวล แล้วยังไม่เคยแพ้ต่อเทพเจ้าหงจิ่วที่ชื่อดัง เฒ่าประหลาดของตระกูลโจวดินแดนตะวันตกอีกทั้งสัตว์เจ้าที่ในตำนานของตระกูลฟางเป็นต้น
ฟางเหยียนรู้สึกปวดหัว แต่เขากลับได้ยินสิ่งๆหนึ่ง เจ้าสำนักของสำนักเทียนซือเมื่อร้อยปีก่อนได้ไร้เทียมทานไปแล้ว แม้แต่เทพเจ้าสามองค์ที่พวกเขาพูดมา ก็ยังไม่เคยพ่ายแพ้ เพียงพอที่จะเห็นถึงความแข็งแกร่งของวิชาพลังอภิปรัชญาแล้ว
พูดตรงๆ ความแข็งแกร่งของวิชาพลังอภิปรัชญา ห่างไกลจากฟางเหยียนในตอนนี้มาก
“หยุด!” ฟางเหยียนรู้สึกหูจะระเบิด เขาเพิ่งจะตระหนักได้ ว่าถกเถียงกับผู้เฒ่าที่ดื้อรั้น เป็นเรื่องที่หนักหนาสาหัสขนาดไหน เพียงแค่ยังดี ที่หกคนไม่เอ่ยออกมา ฟางเหยียนเขี่ยหู แล้วจึงพูดว่า “ผู้อาวุโสทั้งหลายครับ สิ่งที่พวกคุณพูดผมรู้หมดครับ แต่ผมก็ยังยืนยันคำเดิม ผมเก็บรักษาตราประทับเทียนซือ ไม่ได้โลภอยากได้วิชาที่อยู่ในนั้น ไม่งั้นผมจะต่างอะไรกับผู้จลาจลที่โจมตีรีสอร์หยูฉวนล่ะครับ?”
ทั้งหกสอบตากันอีกครั้ง ก็เป็นตามนี้จริง
แต่ตราประทับเทียนซือในมือของฟางเหยียน พวกเขายอมรับแค่ของสิ่งนี้ ต่อให้เหอวี่เฉวียนให้เขารักษาแทน อย่างน้อยก็ให้ความสำคัญคนนี้ ไม่พูดถึงสถานะของเขาก่อน ความรับผิดชอบนี้ ก็เป็นเจ้าสำนักที่เหมาะสมของสำนักเทียนซือ พวกเขาไม่อยากให้คนที่ดีแบบนี้จากไปแบบนี้
“จอมพลเจ้าสำนักครับ ท่านฟังผมพูดก่อนนะครับ……”
ฟางเหยียนหมดคำพูด เป็นครั้งแรกที่เขาเอือมระอากับกลุ่มผู้เฒ่า แต่ก็จะโมโหไม่ได้ ในขณะเดียวกันนี้เอง หนึ่งนาทีก่อนหน้านี้ รองผู้นำคนนี้จะทำลายทั้งรีสอร์ทหยูฉวน
“จอมพล ขอโทษครับ ผมไม่ได้กำจัดจักรพรรดิชิงตี้ ลงโทษผมเถอะครับ”
นี่มันตอนไหนกันแล้ว ฟางเหยียนจะไปมีเวลาตำหนิเขาที่ไหนกัน เขาไม่อยากกำจัดจักรพรรดิชิงตี้จริง จะหนีก็หนีไป เจ้านี่ไม่เข้าใจสถานการณ์หรือเปล่าเนี่ย ไม่เห็นว่าฟางเหยียนถูกคน‘ล้อม’อยู่หรือไง?
“ไม่เป็นไร หนีก็หนี”
เทียนขุยมายืนข้างๆทันใด จ้องมองผู้เฒ่าทั้งหกที่คุกเข่าต่อหน้าฟางเหยียนอย่างประหลาดใจ ทันใดนั้นเขาก็เข้าใจขึ้นมา ว่าจอมพลถูก‘ล้อม’ไว้แล้ว
คิดถึงจุดนี้ เทียนขุยพูดอย่างเคร่งครัดว่า “คุณรู้มั้ยว่าพวกคุณกำลังทำอะไรอยู่? พวกคุณกำลัง‘ล้อม’เทพแห่งสงครามของประเทศหวาอยู่นะ จอมพลโผ้จวิน กำหนดโทษได้นะ!”
กำหนดโทษ!
หกคนอดไม่ได้ที่จะแข็งทื่อ ชะงักไปทันที
เทียนขุยเข้ามา เพื่อคลายล้อมให้ฟางเหยียน เขาออกจากห้องอย่างรวดเร็ว เขาไม่สนใจ การเรียกของหกคนที่อยู่ด้านหลังแม้แต่น้อย
ตอนที่กลับมาถึงรถหงฉี เทียนขุยก็ออกตามมา แต่กลับไม่กล้าขึ้นรถ ยืนอยู่ข้างๆรถไม่พูดไม่จา ราวกับอยากพูดอะไร ฟางเหยียนเข้าใจพี่น้องของตนดี ทำผิดอย่างมหันต์ ไม่สบายใจเป็นธรรมดา
“ขึ้นรถ” ฟางเหยียนพูดอย่างกะทัดรัด
เทียนขุยเงียบไปสักพัก เปิดประตูแล้วนั่งลง “จอมพล ผม……”
“จำไว้ นักรบต้องจิตใจบริสุทธิ์ บิดไปบิดมาไม่ใช่คนของสำนักเจ็ดพิฆาต คุณทำเพื่อความแค้นของพี่น้องเทียนหม่า อภัยให้ได้ ถือว่าไม่เลวแล้ว เห็นแก่ความดี ไม่ต้องโทษตัวเอง ยิ่งไปกว่านั้น คุณบอกว่ากุมความลับของเพลิงเสวนไว้ด้วยไม่ใช่หรือ? แค่นี้ยังไม่พอเหรอ?”
จิตใจบริสุทธิ์!
สี่คำนี้สะเทือนใจเทียนขุยเหมือนกับฟ้าผ่า ความเคร่งเครียดบนใบหน้าหายไป นักรบยืดหยุ่นได้ ต้องอดทน เรื่องแค่นี้ผ่านไปไม่ได้ แล้วจะเป็นนักรบที่จิตใจเข้มแข็งได้อย่างไรกัน?
“จอมพลครับ หาคนมาเก็บกวาดที่นี่มั้ยครับ เพราะดูไม่ค่อยดีเท่าไหร่แล้ว” เทียนขุยคิดแล้วคิดอีกจึงถาม
ดีที่รีสอร์หยูฉวนอยู่นอกเมือง ถ้าคนเห็นเลือดเจิ่งนองแบบนี้ เกรงว่าในใจไม่สามารถลืมความทุกข์และความน่ากลัวไปได้ตลอดไป
“ไม่ต้อง คนของเพลิงเสวนจะมาจัดการ”
รถค่อยๆสตาร์ทขึ้น ยังคงเห็นผู้เฒ่าทั้งหกไล่ตามรถอย่างรวดเร็ว แต่แค่แว็บเดียว ทั้งหกก็เสียชีวิต หัวและร่างกายแยกออกจากกันโดยตรง
ฟางเหยียนเกรี้ยวกราด เพลิงเสวนกล้ามาก นึกไม่ถึงว่าจะกล้าฆ่าคนต่อหน้าเขา คนขับรถรู้ทันจึงเลี้ยวหันกลับไป แต่ตอนนี้สายไปแล้ว ยังไม่ทันถึงรีสอร์ทหยูฉวน ก็ได้กลิ่นน้ำมันเบนซินที่มากมาย ในใจของทั้งสามเกิดลางสงหรณ์ที่ไม่ดีขึ้น แว็บเดียวคนขับรถ รีบเหยียบคันเร่งอย่างแรง รถเก๋งหงฉีเหมือนกับสัตว์ร้ายตัวหนึ่ง ถอยหลังแล้วพุ่งไป ประสิทธิภาพที่ดีแสดงออกมาอย่างไม่ต้องสงสัย แว็บเดียวก็อยู่ห่างออกไประยะหนึ่ง
เปลวเพลิงลุกไหม้ จากฟ้าลงมา
ตูม!
เปลวเพลิงหล่นลงมา ระเบิดรอบๆ ทั้งรีสอร์ทหยูฉวนถูกกลืนกินด้วยเปลวไฟโดยสิ้นเชิง มีเสียงระเบิดปังๆดังขึ้น
เทียนขุยกำหมัดดังแกร็กๆ หน้าผากปูดเป็นเส้นเลือดออกมา กัดฟันแล้วกล่าว “เพลิงเสวน!”
ฟางเหยียนมองทะเลไฟ ความอาฆาตบนใบหน้าสะท้อนออกมาอย่างปิดไว้ไม่อยู่
“เพลิงเสวนเสียสติเกินไปแล้ว ถ้าไม่กำจัดเพลิงเสวน ผมสาบาน!” เทียนขุยตะคอกอย่างดุร้าย
“ไปเถอะ” ฟางเหยียนกลับความอาฆาตไว้ แล้วกล่าวอย่างสงบ
สำหรับความแค้นของเพลิงเสวน เขาฟางเหยี่ยนจำไว้แล้ว เขารอคอยนาทีที่ได้เผชิญหน้ากับเพลิงเสวน เขาเชื่อว่าวันนั้นอยู่ไม่ไกลแน่นอน
เมื่อรถเก๋งหงฉีออกไปจากเปลวเพลิง ในสถานที่ที่พวกเขาจากไป จู่ๆก็มีผู้ชายที่สวมเสื้อคลุมสีดำยาวห้าคนและผู้ชายที่ผมยาวสยายที่สวมชุดฮั่นฝูคนหนึ่ง แต่ละคนต่างจ้องมองรถเก๋งหงฉีที่ไปไกลด้วยสีหน้าดุร้าย
“เสียดายจัง เปลวไฟที่ใหญ่ขนาดนี้ยังไม่สามารถกำจัด จอมพลโผ้จวินของประเทศหวาคนนี้ได้ มันช่างน่ารอคอยเสียจริงๆ”
เสียงของคนพูดไม่ชัดเจน เป็นชายที่กำยำแท้ๆ นึกไม่ถึงว่าแสดงความอ่อนโยนออกมา ทำให้คนฟังขนลุกซู่ ถ้าลูกชายของหม่าจงหัวหม่ากวางชาวอยู่ที่นี่ จะต้องตกใจจนวิญญาณออกจากร่างแน่ๆ เจ้าของเสียงที่แปลกประหลาดนี่ ก็คือผู้ชายที่ตอนนั้นให้ตระกูลหม่าเข้าร่วมกับเพลิงเสวน
“ถ้ามันตายง่ายๆแบบนี้ เกมนี้ก็ไม่สนุกแล้วนะสิ คุณว่าถูกมั้ย?”
“โถๆๆ ดูคุณพูดเข้า หรือจอมพลโผ้จวินไม่ใช่คนเหรอ?ทำไมทำเหมือนมันไม่ใช่คนอย่างไรอย่างนั้น?ไม่ต้องตายเหรอ?แต่……” พูดถึงนี้ผู้ชายชุดฮั่นฝูก็เงียบไป มองรีสอร์ทหยูฉวนในทะเลเพลิง ใบหน้าดุร้ายขึ้นไปอีก “ตราประทับเทียนซืออยู่ในมือของมัน ยากที่จะเอามาได้นะ”
“แล้วยังไง?ผมสงสัยว่าจางตุนเทียนเจ้าจิ้งจอกนั่นจงใจเอาตราประทับเทียนซือออกมา เพื่อส่งมอบให้ฟางเหยียนทางอ้อม ให้มันกับพวกเราเป็นอริกัน เพื่อหาทางออกให้กับตัวเอง เจ้าจิ้งจอกนี่เจ้าเล่ห์เสียจริงๆ”
ชายชุดฮั่นฝูหัวเราะคิกคิก เสียงหัวเราะดังสนั่นปฐพี สัตว์ปีกพากันตกใจ ได้ยินแล้วโหดร้ายแปลกๆ
“ช่างเถอะ ไปให้เร็วๆดีกว่า เกมต่อจากนี้ไปเพิ่งจะเริ่มต้นนะ”