จอมนักรบทรงเกียรติยศ - บทที่ 702 ลูกพี่คนใหม่ของแก๊งซินหง
ฟางเหยียนส่ายหัวเล็กน้อย แล้วทำท่าบอกว่าอย่าส่งเสียงดัง บอกเป็นนัยให้กับเธอ ก็เลยยิ่งทำให้หลินถงไม่เข้าใจไปใหญ่ แต่เธอก็ฟังแต่โดยดี ไม่มีปัญหาอะไร แต่จากท่าทางของฟางเหยียน เธอก็พอจะเข้าใจขึ้นมาเองได้ ว่าในห้องนี้มีคนมาเตะต้องข้าวของ!
จากการค้นหาจนซอกมุม ก็เจออุปกรณ์สอดแนมที่เล็กกว่ารูเข็ม ไม่ต้องพูดถึงว่ามองเห็นได้ด้วยตาเปล่า ต่อให้ใช้เครื่องมือระดับมืออาชีพมาตรวจก็คงไม่พบ เพราะว่ามันถูกสร้างมาอย่างดี เพื่อป้องกันการตรวจสอบ
พอเห็นจุดดำๆ บนฝ่ามือของฟางเหยียนหลินถงก็ขมวดคิ้ว อารมณ์ก็ขึ้นทันที นอกจากโมโหแล้ว หัวเสียมากกว่า พอนึกถึงเรื่องส่วนตัวของตนเองไปปรากฏในต่อหน้าหูตาคนอื่น ตอนนี้เธออยากแม้แต่จะฆ่าพวกนั้นเสีย!ใช้นิ้วเท้าคิดก็รู้ได้ ว่าคนของสาขาเหลืองมาแอบวางไว้
ฟางเหยียนก็เห็นท่าทางหลินถง เขารู้แน่นอนว่าหลินถงโกรธเพราะอะไร แล้วก็พูดไปเบาๆ ว่า “ตอนนั้นพวกมันยังไม่ได้เข้ามา มันถูกติดตั้งตอนที่พวกเราออกไปกินข้าวกัน”
ความโกรธบนใบหน้าของหลินถงคลายไปกึ่งหนึ่ง แต่ก็ยังไม่ได้เก็บอาการไว้ทั้งหมด
“งั้นก็ดี ฉันก็ไม่อยากให้เรื่องส่วนตัวของเราไปอยู่ในมือของพวกมัน” หลังพูดจบ เธอก็มองไปยังฟางเหยียน “คุณ คุณรู้ได้อย่างไรว่าพวกมันจะทำแบบนี้?”
“เดาได้ไม่ยาก คุณบอกเองว่า หยินฮว่าไม่เคยเชื่อใจคุณเลย ไม่เพียงเท่านั้น พวกมันต้องรู้ความสัมพันธ์ระหว่างคุณกับผมแน่ ก็เลยใช้คุณเป็นตัวล่อ เพื่อมาตกปลาตัวใหญ่อย่างผม แต่ผมนึกไม่ออกอย่างหนึ่งก็คือ พวกมันทำแบบนี้มีจุดประสงค์อะไรกันแน่? เท่าที่ผมรู้เรื่องของเพลิงเสวนมาบ้างนั้น หน่วยข่าวกรองของพวกมันก็คงจะไม่ด้อย กลับกันอาจจะเป็นหน่วยข่าวกรองระดับสูงเลยล่ะ”
“ผมคิดว่านอกจากจะสอดแนมคุณกับผมแล้ว ยังมีอีกจุด นั่นก็คือ พวกมันไม่รู้เสียด้วยซ้ำว่าน้ำไร้หน้าอยูที่ไหน! และถ้าอยากรู้จุดสำคัญของ! ก็คือตัวคุณเอง เพราะถึงอย่างไรคุณก็คือท่านผู้อาวุโสอู๋ซวงของสำนักไร้หน้า!”
“ฟังคุณบอกแบบนี้ ฉันก็พอเข้าใจขึ้นมาได้แล้วว่าทำไมหยินฮว่าถึงให้ฉันตามหาน้ำไร้หน้า งั้นก็แสดงว่า ตั้งแต่แรกเขาก็ไม่เคยเชื่อใจฉันเลย แต่กำลังหลอกใช้ฉัน พูดอีกด้าน กลิ่นอายเองก็หาร่องรอยของน้ำไร้หน้าไม่พบเหมือนกัน”
ฟางเหยียนพยักหน้า เหมือนจะคิดอะไรออก แล้วนึกถึงพลังอภิปรัชญาของในตราประทับเทียนซือ ไม่รู้ว่าในน้ำไร้หน้าจะมีวิชาแบบนี้เหมือนกันหรือเปล่า? ถึงทำให้สาขาเหลืองออกแรงตามหาไม่หยุด?
“หลินถง คุณรู้เรื่องของน้ำไร้หน้ามากแค่ไหน? ในน้ำไร้หน้ามีวิชาอะไรที่ร้ายกาจไหม? ที่เหมือนกับพลังอภิปรัชญาในตราประทับเทียนซือ”
“น้ำไร้หน้างั้นหรือ?” หลินถงเข้าสู่โหมดครุ่นคิด พักใหญ่จึงเอ่ยออกมาว่า “ฉันจำได้ว่าตอนนั้นอู๋หมิงเคยพูดว่า น้ำไร้หน้ามีวิชาที่คล้ายกับการช่วยเหลือ มีส่วนช่วยกับคนที่ได้บาดเจ็บและบาดเจ็บภายใน เหมือนจะมีแค่นี้”
อะไรนะ?
วิชาจำพวกช่วยเหลืองั้นหรือ? ยังมีส่วนช่วยกับคนที่ได้รับบาดเจ็บภายในอีกงั้นหรือ?
พูดจบ หลินถงก็มองฟางเหยียน “ถ้ากพวกเราสามารถตามหาน้ำไร้หน้าเจอก่อนพวกเพลิงเสวน ก็จะสามารถช่วยรักษาคุณไดเ ละไม่ต้องมีท่าทางป่วยแบบนี้แล้วใช่ได้”
ฟางเหยียนเองก็ไม่รู้เหมือนกัน จำเป็นต้องรวบรวมของล้ำค่าของหยินเหมินทั้งห้า ถึงจะสามารถดูดพลังจากในหินทิพย์ได้ ตอนนั้นถึงจะสามารถฟื้นพลังกลับมาได้ แต่ในเมื่อน้ำไร้หน้าเป็นวิชาจำพวกช่วยเหลือ ก็คงน่าจะมีผลอยู่บ้าง
เขาเองก็ไม่ได้ปฏิเสธ แล้วพยักหน้าไปเบาๆ ไม่ใช่เพราะเขาอยากจะหลอกหลินถง จุดประสงค์ที่ต้องการรวบรวมน้ำไร้หน้า และเพื่อเป็นความลับ เขาหวังว่าคนรู้ยิ่งน้อยยิ่งดี เทียนขุยคงจะปิดไว้ไม่ได้ ถือว่าเป็นพี่น้องของฟางเหยียนที่เชื่อถือได้ ถึงแม้จะชอบหลินถง แต่ก็ไม่ถึงขั้นคุยกันทุกเรื่อง
“งั้นตอนนี้พวกเราออกเดินทางเถอะ” พูดไปหลินถงก็เริ่มค้นตู้หาเสื้อผ้าตนเองออกมา
เอ่อ!
จิตใจของผู้หญิงยากจะหยั่งถึงได้!
เมื่อครู่ยังบอกว่าขาอ่อนแรง เดินไม่ไหว แต่ตอนนี้รีบร้อนกว่าใครๆ แน่นอน ในใจของฟางเหยียนก็ซาบซึ้งไม่น้อย หลินถงรีบร้อนแบบนี้ก็เพื่ออาการบาดเจ็บบนตัวของเขา
ไม่นาน หลินถงก็หาเสื้อคลุมสีน้ำตาลมาหนึ่งตัว กางเกงยีนสีน้ำตาลเข้มหนึ่งตัว ขาที่ยาวเรียวตรงนั้น ยิ่งเผยให้เห็นถึงท่วงท่าที่น่าดึงดูดของเธอ แต่งตัวแบบนี้ เหมือนกับพี่สาวข้างบ้าน แม่แบบของผู้หญิงในวัยโต เต็มไปด้วยกลิ่นอาย ความสาวสวยยังคงทน เอาชนะผู้หญิงวัยรุ่นอื่นๆ ได้หมด
หลินถงนั้นก็เป็นผู้หญิงอายุแค่30ปี แต่แต่งตัวแบบนี้ ได้ทิ้งความเป็นเด็กไปจนหมด เป็นช่วงที่ชวนให้คนหลงใหล โดยเฉพาะเรือนร่างตอนที่ยังไม่ได้ก้าวเดิน มันช่างเหมือนเด็กวัยรุ่นอายุ17-18เลย จากความเป็นผู้หญิงผันเปลี่ยนมาเป็นความสวยแบบวัยรุ่น ให้ความรู้สึกที่ร่าเริง ดวงตาเป็นประกาย ก่อนหน้านี้เป็นคนที่ชวนให้เร่าร้อน ส่วนตอนนี้เป็นเหมือนกาแฟอ่อนๆ ที่มีความขมนิดๆ แล้วก็ปลดปล่อยความหวานออกมาเต็มที่
ในใจของผู้ชายทุกคนจะมีผู้หญิงที่สมบูรณ์แบบอยู่ในใจของตนเอง ชอบผู้หญิงที่โตกว่าตนเอง โดยเฉพาะความอ่อนโยนของผู้หญิงอายุ30ปีนี้ ที่เอาความเต็มวัยและกลิ่นอายของผู้หญิงเผยออกมาให้เห็นได้อย่างสมบูรณ์แบบ
ทั้งหวาน ทั้งเค็ม ทั้งน่ารัก ทั้งน่าชัง นี่ก็คือ หลินถง!
หลินถงเห็นฟางเหยียนมองตาค้าง ในใจก็แอบดีใจ อย่างน้อยตนเองก็ยังมีแรงดึงดูด ไม่อย่างนั้นเขาก็คงไม่จ้องมองแบบนั้น แต่เธอก็ยังเดินวนไปรอบหนึ่ง แล้วถามว่า “มองเสร็จหรือยัง?”
ฟางเหยียนพยักหน้า หลินถงก็เปลี่ยนเสื้อผ้าแนวสบายๆ อีกหลายตัว แล้วถามไปต่อ ช่างเหมือนกับคู่รักที่กำลังจีบกันอย่างเร่าร้อน
บางคนบอกว่า เสื้อผ้าดูดี คำพูดนี้มันผิดมหันต์ เสื้อผ้าจะดูดีขึ้นอยู่กับคนใส่ ทำไมบนโลกออนไลน์ถึงมักจะมีเรื่องตลกไว้มากมายที่ว่า “คนซื้อไปกับคนขายเสื้อผ้า” ความสวยมันต่างกัน
เรือนร่างของหลินถง ใส่อะไรก็สวย!
หลินถงสามารถเปลี่ยนทัศนคติได้ ฟางเหยียนก็ดีใจ แต่เขาก็ยังคงไม่เผยสีหน้าเหมือนเดิม “เดี๋ยวผมไปเรียกคนให้ไปส่งพวกเรา”
“ไม่ต้องๆ พวกเราขับรถกันไปเองเลย”
ก่อนออกไป คำพูดขอหลินแทบทำให้ฟางเหยียนหงายหลังลงพื้น
“จะว่าไป ท่าทางป่วยๆ แบบนี้ของคุณ กลับดุดันหนักหน่วงขนาดนี้!ถ้าคุณหายเป็นปกติแล้ว ผู้หญิงคนไหนเขาจะรับไหวละเนี่ย!”
ขำก็ส่วนขำ หลินถงก็ยังก็ยังกอดแขนฟางเหยียนเหมือนกับเด็กน้อยเดินออกประตูไป คนอื่นเห็นก็ตาค้าง หยุดมองไปตามกัน แต่ละคนก็โมโหที่มีไม่เหมือนกับฟางเหยียน จนอยากจะซัดฟางเหยียนเพื่อแย่งหลินถงมา
พวกนั้นอาจจะไม่รู้จักฟางเหยียน แต่ชื่อเสียงเรื่องความสวยของหลินถง ในหนานหลิงนี้มีใครบ้างรู้!
เขตคฤหาสน์หุบดอกพีชนั้น เดิมทีก็คืออีกชื่อที่ใช้เรียกคนรวย พวกลูกเศรษฐีและดาราก็มักจะมาหาความสุขที่นี่ ดังนั้นก็ต้องรู้กันดีว่ามาที่นี่ทำไม!
พอนึกถึงสาวสวยของตนเอง ถูกไอ้ผู้ชายอ่อนปวกเปียกเดินคล้องแขนกันไป พวกเขาก็หัวร้อนไม่น้อย จนอยากจะถกแขนเสื้อเข้าไปซัดสักหมัด!
แต่ยังไม่ทันให้พวกนั้นได้ลงมือ ก็มีไอ้อ้วนคนหนึ่งเดินกอดเอวผู้หญิงสวยคนหนึ่งเดินออกมาจากเขตคฤหาสน์หุบดอกพีช นี่ไง มีคนมาหาเรื่องให้แทนแล้ว!
เสียงดังอุกอาจ ดังมาจากข้างหลังทั้งสองคน
“หยุดอยู่ตรงนั้นเลย อย่าขยับ”
ด้วเสียงที่โมโห คนที่อยากดูเรื่องสนุกก็เข้ามาล้อมดูพวกฟางเหยียน ทุกคนถึงรู้ว่าคนที่พูดคือใคร ที่แท้ก็คือผู้รับผิดชอบแก๊งซินหงที่ได้เข้ารับตำแหน่งใหม่ในเขตซีหนาน ช่วงนี้ “มีชื่อเสียงโด่งดัง” ในหนานหลิง ชื่อหูจิงเหว่ย คุณชายหู!
คนที่มาล้อมดูล้วนเป็นพวกคนดังคนรวย พอเห็นหูจิงเหว่ย ก็ซุบซิบกันทันที ยิ่งกว่านั้นคือตกใจและกลัว ถึงแม้หูจิงเหว่ยจะเพิ่งเข้ารับตำแหน่ง แต่เขาเป็นคนโหดเหี้ยมที่เอาจริง
“เขา เขาเป็นผู้มีอิทธิพลของจินโจว ที่ชื่อหูจิงเหว่ยใช่ไหม? เป็นไปได้อย่างไรกัน? ทำไมเขามาอยู่ที่หนานหลิงได้ล่ะ?”
“คุณว่าเขาคือหูจิงเหว่ยงั้นหรือ? หูจิงเหว่ยที่เป็นคนขึ้นรับตำแหน่งผู้รับผิดชอบแก๊งซินหง ในเขตซีหนานน่ะหรือ?”
“ได้ยินว่าเขามาที่หนานหลิง ก็เพื่อมาหาหลินถง เดากันว่า สิ่งแรกที่เขาได้รับตำแหน่ง ก็คือช่วยผู้รับผิดชอบแก๊งซินหงคนก่อนแก้แค้น แต่ไม่รู้ว่าแก้แค้นไปหรือยัง?”
“คุณก็โง่หรือเปล่า? ท่าทางเสเพลแบบนั้น ยังไม่ได้แก้แค้นอีกหรือไงกัน? คุณไม่เห็นดาราสาวในอ้อมกอดเขาหรือไง นั่นเป็นนางรองจากละครเรื่อง อำนาจสะท้านปฐพี เลยนะ”
“ใช่ๆๆๆ เรื่อง นางรองของละครอำนาจสะท้านปฐพีจริงๆด้วย เวินหลานเป็นนางเอก ส่วนในเรื่อง เธอคนนั้นเป็นนางร้าย คิดไม่ถึง่วาพื้นเพก็ไม่ใสสะอาดเหมือนกัน เฮ้อ สังคมคนรวยนี่วุ่นวายจริงๆ !”
“เบาๆ หน่อย ไม่เห็นสายตาโหดเหี้ยมของคุณชายหูหรือไง? อยากตายหรือไง? ถึงแม้ตระกูลคุณจะพอมีฐานะตำแหน่งบ้าง แต่เมื่อเทียบกับคุณชายหูแล้ว จะกวาดล้างตระกูลคุณ จัดการได้เพียงในนาทีสองนาทีเท่านั้นแหละ!”
“……”
การถกเถียงกันยังมีเรื่อยไป เสียงซุบซิบกันเหมือนจิ้งหรีดร้อง เห็นได้ชัดว่า ชื่อเสียงของหูจิงเหว่ยนั้น เป็นความกลัวของพวกลูกคนรวยพวกนี้ และเป็นอย่างนั้นจริง ลูกคนรวยก็แบ่งแยกแข็งแกร่งกับอ่อนแอนอกเสียจากจะเหมือนกับตระกูลฟางที่เป็นสุดยอดตระกูลในประเทศหวา ที่ไม่กลัวคนอย่างหูจิงเหว่ย ลูกคนรวยอื่นๆ ล้วนกลัวเขาหมด
เพราะว่าแค่ฐานะที่เป็นผู้รับผิดชอบของแก๊งซินหงของเขา ก็สามารถทำลายพวกลูกคนรวยได้หมด แก๊งซินหงนี้ สำหรับพวกลูกคนรวยแล้วนั้น ถือว่าเป็นฝันร้ายเลยทีเดียว มีกำลังแบ่งไปอยู่ทั่วทุกมุมของประเทศหวา ถือได้ว่าเป็นเครือข่ายใต้ดินของประเทศหวาเลยทีเดียว เป็นสถานที่ที่พวกจิ๊กโก๋ทั้งหลายอยากจะเข้าร่วม