จอมนักรบทรงเกียรติยศ - บทที่ 704 ความภาคภูมิใจอันแท้จริง
พูดอย่างไม่สนใจอย่างอื่นเลย หลินถงก็อยากจะให้มีคนมาหาเรื่องเหมือนกัน ไม่ใช่เพราะอะไร แต่เพราะถ้าฟางเหยียนรับมือสู้ขึ้นมา เธอก็จะสามารถวิเคราะห์ได้ ว่าในใจของฟางเหยียนมีเธออยู่หรือเปล่า เพราะถึงอย่างไรความคิดของผู้หญิงก็เป็นแบบนั้นแหละ ถึงแม้จะร่วมหลับนอนกันแล้ว แต่ถ้าไม่ได้ใจมาด้วย มันก็เจ็บปวดอยู่เหมือนกัน
ก็เหมือนกับคำพูดนั่นแหละ คนที่ได้กายคุณไปแล้ว แต่ไม่ได้ใจคุณมาด้วย มันช่างเป็นเรื่องที่น่าเศร้ามากเลย
สรุปแล้ว หลินถงก็ขอบคุณหูจิงเหว่ยมากเหมือนกัน
เพราะว่ามีเขาอยู่ ทำให้หลินถงได้รับรู้ความคิดในใจของฟางเหยียนมากขึ้น ว่ามีเธออยู่ในใจหรือเปล่า
การถูกปกป้อง นี่คือสิ่งที่ผู้หญิงทุกคนคาดหวัง ต่อให้น่ากลัวเหมือนกับผู้อาวุโสของสำนักไร้หน้า หลินถงก็ไม่กลัว เธอก็เหมือนกับผู้หญิงคนอื่นๆ หวังว่าคนที่ตนชอบจะยื่นมือเข้าช่วยเหลือ คอยปกป้องอยู่ข้างๆ ตนเอง เพราะถึงอย่างไร ผู้หญิงต่อให้จะเก่งแค่ไหน สุดท้ายแล้วก็คือผู้หญิง ต้องการอ้อมแขนที่แข็งแกร่งมาปกป้อง
หลินถงแกล้งทำเป็นกลัว “คุณสามีคะ ไอ้อ้วนคนนั้นจะมาหาเรื่องคุณ แจ้งความเลยดีไหม!”
แจ้งความ!
พอพูดสองคำนี้ออกมา หูจิงเหว่ยก็หัวร้อนจนอยากจะหัวเราะ!
นึกว่าไอ้หมอนั่นจะเก่งสักแค่ไหน ที่แท้ก็แค่ไอ้กระจอกคนหนึ่ง ไอ้กระจอกที่รู้จักแต่หลบอยู่หลังผู้หญิง!
คุณสามี!
แต่การเรียกที่สนิทสนมของหลินถง ทำให้หูจิงเหว่ยโกรธจนหน้าเขียว และยิ่งตัดสินใจว่าจะฆ่าไอ้หมอนั่นให้ได้
โกรธก็ส่วนโกรธ หูจิงเหว่ยก็รู้ดีว่า จะต้องแสดงท่าทางดีๆ ต่อหน้าหลินถง เพราะถึงอย่างไรตนเองก็มีตำแหน่งสูง เขาไม่มีทางให้หลินถงมองว่าตนเองอาศัยอำนาจไปรังแกคนอื่น
พอกลอกตา แน่นอนว่า หูจิงเหว่ยเป็นคนอ้วนหัวใหญ่หูกาง ตาตี่จนเหลือช่องนิดเดียว ไม่มีผลอะไรกับการจะเสแสร้งเป็นคนดี แล้วก็แกล้งๆ ยิ้มพูดว่า “ไอ้น้อง วันนี้กูเจอสาวในฝันของกู กูไม่อยากจะเห็นเลือดว่ะ กูให้ตัวเลือกมึง ออกไปจากหลินถงเสีย แล้วมาคลานลอดใต้หว่างขากูไป เดี๋ยวกูจะปล่อยมึงไป ดีไหม?”
“คุณชายหู ช่างใจกว้างจริงๆ ใจกว้างดั่งมหาสมุทร เป็นไอดอลผมเลย”
“คุณชายหูใจกว้างจริงๆ ถ้าเป็นผมล่ะก็ คงลงมือไปแล้ว แค่นี้ก็รู้แล้วว่าคุณชายหูไม่ธรรมดา เป็นยอดคนจริงๆ มีมาดของผู้นำคน เป็นไอดอลที่ผมติดตามเลย”
“คุณชายหู รับผมไปอยู่ด้วยเถอะครับ ให้ผมได้รับใช้พี่ ขอแค่ให้ผมได้ชื่นชมความเท่ของพี่ คุณชายหู รับผมไว้ด้วยเถอะ”
“แผนนี้ของคุณชายหู แกล้งทำเป็นปล่อยเพื่อให้ได้ใจมา ดวงตาโง่ๆ ของผมเห็นแล้วแทบบอด ได้ทั้งใจของหลินถง ทั้งยังทำให้หลินถงได้รู้ว่าไอ้กระจอกนั่นเป็นคนอย่างไรด้วย สุดท้ายก็แสดงความสูงส่งของตัวเองออกมา เยี่ยม เยี่ยมจริงๆ”
“……”
ชื่อเสียงของหูจิงเหว่ยนั้น ก็เห็นๆอยู่ แน่นอนว่าต้องมีพวกที่มาประสบเป็นธรรมดา แต่ละคนที่มาพูดประจบ เล่นเอาเขาเคลิบเคลิ้มไปเลยทีเดียว ไม่เพียงสามารถแสดงห้หลินถงได้เห็นว่าตนเองเป็นที่ไม่ได้ใช้อำนาจมารังแกใคร ทั้งยังทำให้หลินถงรู้ด้วยว่า ตนเองปล่อยไอ้หมอนั่นไปก็เพราะเห็นแก่หน้าของหลินถง ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัวจริงๆ
พอหูจิงเหว่ยเปลี่ยนสีหน้าที่ไม่พอใจไปแล้ว เขาในตอนนี้กำลังได้ใจ คิดว่าตัวเองเป็นพญายมที่สามารถกำหนดความเป็นตายของคนอื่นได้ โดยเฉพาะพวกคนรวยของหนานหลิงมาชื่นชมตนเองจนลืมตัว แต่พอหันไปมองฟางเหยียนที่มีสีหน้านิ่งๆ สีหน้าของหูจิงเหว่ยก็ไม่เป็นธรรมชาติขึ้นมาทันที
ไม่รู้ทำไม ตอนที่ได้เห็น “สีหน้าป่วยๆ” ที่ไม่กลัวใครของฟางเหยียนนั้น เขาก็ตัวสั่นโดยสัญชาตญาณ ในใจลึกก็รู้สึกแปลกๆ อย่างบอกไม่ถูก
ถูกต้อง!
เขาเริ่มกลัวคนนี้เข้าแล้ว
เขาจะกลัวไอ้กระจอกที่มีท่าทางป่วยอ่อนแรงได้อย่างไร จะต้องคิดไปเองแน่ ใช่ รู้สึกไปเอง
ไม่นาน หูจิงเหว่ยก็โยนความคิดวุ่นวายในหัวทิ้งไป แล้วจ้องฟางเหยียน พร้อมพูดเสียงเย็นว่า “ไอ้น้อง ฟังกูพูดไม่รู้เรื่องหรือไงวะ?”
สึบ!
หูจิงเหว่ยรู้สึกจุกๆ ที่ท้อง พออ้าปากอ้วกออกมา เลือดสดๆ ก็พุ่งออกมาเป็นน้ำพุ
เงียบ!
บรรยากาศรอบเย็นลงทันที พวกลูกคนรวยที่คอยประจบทั้งหลายก็เงียบเป็นเป่าสาก อ้าปากตาค้างมองหูจิงเหว่ยกระอักเลือด ไม่มีใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
เพราะ……มันกะทันหันมาก!
หูจิงเหว่ยกระอักเลือด คนที่กังวลที่สุดคือพวกชุดดำทั้งหลาย กรูกันเข้ามาทันที ทั้งห้ามเลือดทั้งกดจุดชีพจร สุดท้ายก็ไม่สามารถหยุดเขากระอักเลือดออกมา
“ฟางเหยียน คุณก็ลงมือนักจริงนะ!” หลินถงก็ตอบสนองขึ้นมาทันที ที่หูจิงเหว่ยกระอักเลือด ฟางเหยียนจะต้องลงมือทำอะไรไปสักอย่างแน่
“ไปกันเถอะ!” ฟางเหยียนพูดออกมาสีหน้านิ่งๆ แล้วก็เข้าไปในรถ
สำหรับแก๊งซินหงนั้น ฟางเหยียนยังวางตนอยู่กลางๆ ไม่สนใจอะไรพวกนั้น มีความแค้นแค่กับเห้ออีกาง หัวหน้าสาขาจินโจว ทำร้ายเย่ชิงหยู่ก็เหมือนกัทำร้ายฟางเหยียน เห้ออีกางตายไปเพราะความโอหังของตัวเอง ตามหลักแล้ว ขอเพียงแก๊งซินหงไม่ไอเรื่องอะไร ฟางเหยียนก็ยังปิดหูปิดตาไม่สนใจได้อยู่
แต่สำหรับคนที่มารับตำแหน่งใหม่อย่างหูจิงเหว่ยนั้น เคยโอหังมา สั่งสอนไปเสียหน่อยก็พอ เพราะถึงอย่างไรตอนนี้ก็มีเรื่องที่สำคัญกว่าต้องไปจัดการ
พอรถกลับออกไปจากเขตคฤหาสน์หุบดอกพีช พวกลูกคนรวยทั้งหลายที่มาดูเรื่องสนุก ก็วิ่งหนีกันหัวซุกหัวซุน เพราะกลัวว่าจะมีภัยมาถึงตัว แก๊งซินหงไม่ใช่พวกที่ตนเองจะไปหาเรื่องด้วยได้ และหัวหน้าคนใหม่ก็มาเกิดเรื่องต่อหน้าพวกเขาอีก ใครจะรับผิดชอบไหว? ถ้าไม่หนี จะรอให้พวกแก๊งซินหงมาเชิญตัวไปดื่มชาหรือไง?
เนื่องจากสองขาอ่อนแรง หลินถงก็เลยไม่อยากขับรถ ดังนั้นฟางเหยียนก็เลยทำหน้าที่เป็นคนขับรถให้ รถวิ่งอยู่บนทางด่วนอย่างรวดเร็ว ระหว่างทาง ทั้งสองคนก็ได้ตกลงกันเรียบร้อยแล้ว ถ้าอยากจะหาน้ำไร้หน้าให้พบ จะต้องกลับไปที่สำนักไร้หน้าก่อน
ใกล้จะสามทุ่ม รถก็มาถึงที่ป่าลึกแห่งหนึ่ง หลินถงที่นั่งอยู่ข้างคนขับ ก็ตื่นขึ้นจากเส้นทางอันขรุขระ เธอจ้องมองไปยังป่าลึกที่มืดมิดนั้น พร้อมกับบ่นกับตัวเองว่า “เหมือนใกล้จะถึงแล้วนะ”
ฟางเหยียนก็ติดเครื่องยนต์ขับไปต่อ แต่ถูกหลินถงห้ามไว้ “ฟางเหยียน ก็มาถึงแล้ว ไม่จำเป็นต้องรีบเข้าไปเลยนี่ หาที่พักกันก่อนไหม แต่แน่นอน ฉันๆๆ ฉันไม่ได้กลัวพวกหมูป่าในนี้หรอกนะ แต่ว่าผืนป่าในเขตของสำนักไร้หน้านี้ ตอนกลางคืนจะมีม่านหมอกมาบดบัง จะทำให้คนหลงอยู่ข้างใน ไม่ค่อยปลอดภัย”
ฟางเหยียนสังเกตเห็นหางตาของหลินถงเผยความกังวลออกมา เห็นได้ชัดว่าเรื่องราวความเจ็บปวดก่อนหน้านี้ที่เจอมา ยังอยู่ในหัวของเธออยู่ จริงๆ ไม่ต้องให้หลินถงอธิบายก็ได้ ฟางเหยียนรู้ดี ในป่าตอนกลางคืนมักจะมีหมอกลง หรือไม่ก็พวกอากาศที่เป็นพิษ นี่คือประสบการที่ได้อยู่ในกองทัพกลางป่ามาหลายปี ดังนั้นถ้าไม่จำเป็นที่จะต้องไปทันที ทางที่ดีก็อย่าเดินเข้าไปในป่าลึกตอนกลางคืน หลงทางถือว่าเรื่องเล็ก ถ้าไปสัมผัสกับของมีพิษเข้าล่ะก็ คงจะออกมาจากป่านี้ไม่ได้เลยทั้งชีวิต
“ได้!” ฟางเหยียนก็ยังคงพูดด้วยสีหน้านิ่งๆ เหมือนเดิม พูดน้อยกลัวดอกพิกุลจะร่วง
หลินถงเองก็ไม่ได้สนใจสีหน้าเย็นชาของฟางเหยียน เธอดีใจอย่างเห็นได้ชัด แล้วก็ชี้ไปยังในป่าที่มืดมิด “ไปทางซ้ายนั้น มีบ้านชาวนาอยู่ พวกเราไปขอพักที่นั่นสักคืนเถอะ”
คนอยู่บนเขา ปกติจะเข้านอนเร็ว สองทุ่มก็เข้านอนกันแล้ว
ตอนที่ถึงที่นี่ หลินถงก็เล่าที่มาของบ้านนี้ เดิมทีที่นี่ไม่ได้มีแค่บ้านเดียว มีประมาณสิบกว่าครอบครัว แต่ต่อมาไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร ชาวบ้านย้ายออกไปกันหมด เหลือเพียงบ้านนี้บ้านเดียว และบ้านนี้ก็ดูแลพวกเธอสี่พี่น้องเป็นอย่างดี ถ้าตอนไหนที่เจ้าสำนักอู๋หมิงไม่อยู่ พวกเธอสี่คนก็จะแอบลงเขามา หลายครั้งที่สองคนผัวเมียคู่นี้คอยดูแล มีของกินของเล่นอะไร ก็จะเอามาให้พวกเธอทันที ปฏิบัติราวกับเป็นลูกแท้ๆ เลย
จนกระทั่งหลังจากที่เธอมาแต่งงานแทนหลินถงแล้วมาเข้าตระกูลถัง เธอก็ไม่ค่อยได้มาแล้ว แต่ถ้าเธอถูกอู๋หมิงเรียกกลับมาสำนักไร้หน้าทีไร เธอก็จะเอาของอร่อยกลับมาเสมอ เพราะอยากตอบแทนที่สองผัวเมียคู่นี้ที่คอยช่วยเหลือ