จอมนักรบทรงเกียรติยศ - บทที่ 708 เกิดเรื่องแล้ว
“เขาแค่บอกให้ปู่เฝ้าอยู่ที่นี่ แล้วใช้เรื่องบันไดหินเป็นตัวล่อ เพื่อแยกแยะจิตใจของคนที่คิดไม่ดี ขอเพียงมีคนขึ้นเขามา ไม่ว่าจะเป็นใคร ก็ล้วนถูกปู่ฆ่าตายหมด แต่ปู่ก็ไม่ได้อยากจะฆ่าเอ็งหรอก หนูซวงก็เป็นเด็กที่ปู่เห็นมาแต่เด็กจนโต ส่วนวาสนาร้อยๆ ที่ว่านั้น ก็ต้องดูที่ฟางเหยียนแล้วล่ะ”
ฟางเหยียนก็พูดนิ่งๆ ว่า “ถ้าหากว่าไม่ใช่เพราะหลินถง พวกเราก็คงไม่ได้มานั่งอยู่ตรงนี้ และเข้าใจเรื่องราวนี้หรอก และเป็นเพราะคุณ ปู่จางถึงตัดใจฆ่าพวกเราไม่ลง ส่วนเหตุผลนั้น ผมก็เดาออกได้7-8ส่วนแล้ว ถ้าปู่จางไม่ฆ่าพวกเรา ก็จะมีคนไปฆ่าเขา ใช่ไหม?”
ตาแก่จางได้ยินดังนั้น ก็พยักหน้า “ฟางเหยียน เอ็งเริ่มสงสัยปู่ตั้งแต่ตอนไหน?”
ฟางเหยียนก็ตอบไปตามตรง “ก็ไม่ถือว่าสงสัย ตอนแรกก็เจอกับครอบครัวชาวนาโดยบังเอิญเลย เป็นใครก็คงสงสัยจริงไหม? แต่สิ่งที่ทำให้ผมเกิดความสงสัยก็คือ การคุยกันของย่ากับหลินถง เล่าเรื่องของหลายๆ เมืองได้ขนาดนี้ สำหรับคนบ้านนอกในป่าในเขาแล้ว มันเป็นไปไม่ได้ สิ่งเดียวที่สามารถอธิบายได้ก็คือ คนที่เข้ามาสำนักไร้หน้า ล้วนมาจากทั่วสารทิศ”
ตาแก่จางก็พยักหน้าเบาๆ แล้วก็ส่งสายตาให้ฟางเหยียนพูดต่อ
“สิ่งที่ทำให้ผมรู้สึกว่าผิดปกติ ก็คือ คนบนเขาอย่างพวกคุณ จะไม่รู้อะไรเกี่ยวกับสำนักไร้หน้าเลยหรือ? โดยเฉพาะคำพูดที่คุณบอกกับผมเมื่อคืนนี้ ยิ่งเป็นการยืนยันการคาดเดาของผม ในเมื่อพวกคุณไม่ได้ปฏิเสธ งั้นก็บ่งบอกได้อย่างหนึ่งว่า พวกคุณก็คือคนของสำนักไร้หน้า”
“จากเรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้ ทำให้ผมรู้ถึงเหตุผลที่คุณอยู่ที่นี่ ดังนั้นก็เลยเดาตัวตนของคุณได้ไม่ยาก เพียงแต่ ที่คุณบอกว่าถูกคนอื่นบงการมา จุดนี้มันเหนือการคาดหมายของผม และสิ่งที่ทำให้ผมยิ่งสงสัยไปมากกว่านั้นก็คือ คุณคิดจะชีชีวิตของตนเองเพื่อปกป้องหลินถง บางทีคุณอาจจะทำไปเพื่อไถ่โทษ และนี่ก็คือวาสนาร้ายที่คุณพูดถึง”
แปะๆๆ !
ตาแก่จางปรบมือสามครั้ง แล้วก็เผยรอยยิ้มอย่างลึกซึ้งออกมา “ต่างจากคนธรรมดาจริงๆ มีตรรกะความคิดที่ชัดเจน วินิจฉัยได้แจ่มชัด สามารถเห็นสิ่งผิดปกติจากจุดเล็กๆ เท่านั้น สมกับที่เป็นยอดคน สำนักไร้หน้าจะถูกกวาดล้างก็ไม่แปลก”
หลินถงก็อึ้งไป ตาแก่จางที่ดีกับเธอเหมือนกับหลานแท้ๆ กลับเป็นคนของสำนักไร้หน้า!
นี่มันช่างเหมือนกับเอาสายฟ้ามาฟาดใส่กลางใจเธออย่างแรง!
“หนูซวง ความจริงที่อำมหิตแบบนี้ เดิมทีปู่กับย่าไม่คิดจะบอกกับหนูหรอกนะ เพราะว่าพวกหนูไม่รู้เรื่องด้วย แต่ในฐานะที่เป็นคนของสำนักไร้หน้า ก็จำเป็นต้องทำตามกฎของสำนักไร้หน้า นี่ก็คือเหตุผลที่พวกปู่ไม่ได้ออกไปจากที่นี่”
หลินถงก็เข้าใจขึ้นมาได้ทันที ถึงว่า10กว่าครอบครัวย้ายออกไปหมดแล้ว แต่เหลือเพียงพวกเขาครอบครัวเดียวที่ไม่ยอมย้ายออกไป ที่แท้นี่ก็คือเหตุผล
“หลังจากที่สำนักไร้หน้าถูกกวาดล้างแล้วนั้น พวกเราก็ไม่ได้ถูกควบคุมอีกต่อไป เดิมทีปู่กับย่าคิดจะย้ายออกไป แต่ชีวิตนี้ พวกเราจะไปที่ไหนได้? สำหรับสำนักไร้หน้านั้น ต่อให้พวกเราไม่มีอะไรต้องอาลัยอาวรณ์ แต่ก็ยังมีบุญคุณต่อกัน ดังนั้น ก็เลยตัดสินใจทำตัวเป็นสองผัวเมียที่เก็บตัวอยู่ในป่า แต่คิดไม่ถึงว่ายังจะต้องมารับผลกรรมที่สำนักไร้หน้าทำไว้ มือต้องมาเปื้อนเลือดมากมาย จริงอยู่ ฟางเหยียนพูดถูกต้อง หลังจากที่รู้แน่ชัดแล้วว่าพวกหนูขึ้นเขามา ปู่ก็เลยตัดสินใจจะใช้ชีวิตตนเองเพื่อชดใช้ความผิด เพื่อให้พวกหนูได้มีชีวิตต่อไป แต่จริงๆแล้ว ปู่ก็ไม่คิดอยากจะฆ่าพวกหนูเลยนะ”
ทุกอย่างล้วนอธิบายได้อย่างเข้าใจแล้ว
แต่หลินถงยังตั้งสติกลับมาไม่ได้ แผ่นหลังก็ขนลุกเหงื่อออกมาจำนวนมาก
ก็ใช่!
สำหรับเธอแล้ว สำนักไร้หน้าก็คือจุดเริ่มต้นของฝันร้ายทั้งปวง นึกว่าแอบหนีออกมาจากการควบคุมของสำนักไร้หน้าได้แล้ว แต่ไม่คิดเลยว่าจะยังเข้ามาอยู่ในการควบคุมของสำนักไร้หน้าอีก ใครจะรับไหว? บอกได้ว่า ตั้งแต่ที่หลินถงถูกจับมาบนเขานี้ ทุกการเคลื่อนไหวของเธอ ล้วนอยู่ในสายตาของสำนักไร้หน้า!
ตาแก่จางพูดอย่างรู้สึกผิดว่า “หนูซวง ปู่ไม่ควรจะโกหกหนู แต่ปู่เองก็ทำอะไรไม่ได้ หนูให้อภัยปู่ได้ไหม?”
หลินถงพยายามกลั้นน้ำตา แล้วพยายามยิ้มออกมา “ปู่คะ หนูจะโทษปู่ได้อย่างไรล่ะคะ ขอบคุณปู่มากที่ทำทุกอย่างเพื่อหนู”
หลังจากพูดจบ หลินถงก็กลั้นไว้ไม่อยู่ น้ำตาก็ไหลออกมาเหมือนเขื่อนแตก กลายเป็นคนเจ้าน้ำตาทันที
ฟางเหยียนมองไปทางตาแก่จาง แล้วพูดเสียงต่ำว่า “งั้นก็หมายความว่า หลังจากที่สำนักไร้หน้าถูกกวาดล้าง ก็ไม่มีใครเคยเข้าไปเลยงั้นหรือ? หรือว่า เจ้าตค้างมีดคนนั้นได้สิ่งของทุกเขาต้องการไปแล้ว แล้วก็ให้คุณมาแกล้งเฝ้าอยู่ที่นี่?”
“เรื่องนี้ปู่ก็ไม่รู้” ตาแก่จางส่ายหัว ดูเหมือนจะคิดอะไรออก แล้วก็พูดต่อมาว่า “หลังจากที่สำนักไร้หน้าถูกกวาดล้าง ปู่เคยเข้าไป ที่นั่นยังคงสภาพเดิมไว้ ใช่ พวกศพทั้งหลายก็ยังอยู่ สำนักไร้หน้าเป็นหนึ่งในหยินเหมินทั้งห้า พอมันถูกกวาดล้าง หยินเหมินอื่นๆ ก็คงจะยังมีคนไปที่นั่น โดยเฉพาะเพลิงเสวน แต่ที่แปลกก็คือ ไม่มีใครเคยขึ้นไปเลย ดูเหมือนว่านอกจากปู่แล้ว ยังมีคนที่เหมือนกับปู่อีก ที่คอยหยุดพวกคนที่จะขึ้น”
หลินถงก็พูดอย่างตื่นเต้น “งั้นก็หมายความว่า น้ำไร้หน้ายังอยู่ด้านในนั้นล่ะสิ?”
“น้ำไร้หน้างั้นหรือ?” ตาแก่จางมีสีหน้าตกใจ “พวกหนูมาตามหาน้ำไร้หน้างั้นหรือ?”
หลินถงก็มองฟางเหยียนด้วยสีหน้ารู้สึกผิด เธอรู้ว่าตัวเองปากมากไปแล้ว
“ถูกต้อง ได้ยินว่าน้ำไร้หน้า ของล้ำค่าของสำนักไร้หน้า เป็นของล้ำค่าชนิดช่วยเสริมกำลัง และเป็นของล้ำค่าในการรักษา พวกเราเลยตั้งใจมาตามหาน้ำไร้หน้า”
“น้ำไร้หน้าหรือ” ตาแก่จางก็เหมือนเข้าไปอยู่ในการครุ่นคิด ดวงตาอันขุ่นมัวเผยเป็นประกายออกมา “ว่ากันว่ามีแต่เจ้าสำนักของสำนักไร้หน้าเท่านั้น ที่รู้ว่าน้ำไร้หน้าอยู่ที่ไหน สถานที่ที่เก็บรักษาน้ำไร้หน้านั้น อันตรายมาก ปู่ไม่แนะนำให้ไปตามหานะ”
ถ้าไม่อันตรายมาก เกรงว่าพวกเพลิงเสวนก็คงไม่ให้หลินถงมาตามหาหรอก!
ตาแก่จางพูดประโยคนี้ออกมาก็เหมือนไม่ได้พูด!
ตาแก่จางดูเหมือนจะอยู่ช่วงหวนคิดเรื่องเก่าๆ แล้วก็พูดออกมาอย่างตกใจว่า “เออใช่ คิดออกแล้ว ดูเหมือนว่าจะอยู่ในโลกแดนลับเขาหลังสำนักไร้หน้า แต่ว่าอยู่ที่ไหนนั้นปู่ก็ไม่รู้เหมือนกัน”
“โลกแดนลับหลังเขางั้นหรือ?” หลินถงคิดตาม แล้วพูดแทรกขึ้นว่า “ปู่จางพูดถูก โลกแดนลับของสำนักไร้หน้าอยู่ในน้ำตกแห่งหนึ่ง ตามที่ว่ามานั้น จะต้องผ่านน้ำตกไป เหมือนกับถ้ำม่านน้ำตกของซุนหงอคง ที่นั่นเป็นเหมือนแดนฟ้าแดนสวรรค์เลยนะ”
ในเมื่อเรื่องของที่นี่ก็พูดกันชัดเจนแล้ว ฟางเหยียนก็คงไม่ลงมือกับตาแก่จาง และก็ไม่จำเป็นต้องเสียเวลาต่อไป พอรู้ตำแหน่งของน้ำไร้หน้าชัดเจนแล้ว ฟางเหยียนก็อยู่นิ่งเฉยต่อไปได้หรือ!
มองไปที่หลินถง แล้วก็พูดนิ่งๆ ว่า “จะรอช้าไม่ได้ พวกเราเดินทางกันเลยเถอะ”
หลินถงก็ไม่รอรี เตรียมออกเดินทางทันที แต่กลับถูกตาแก่จางดึงไว้ “หนูซวง ปู่ไม่อยากให้พวกหนูเข้าไปที่นั่นจริงๆ นะ ที่นั่นมันอันตรายมาก ต่อให้ฟางเหยียนมีฝีมือมีความกล้า เกรงว่าก้คงจะเป็นอะไรไปด้วยเหมือนกัน หนูเชื่อปู่เถอะ”
หลินถงก็พูดอย่างไม่สนใจ “ปู่จางคะ มีเขาอยู่ด้วย หนูไม่กลัวอะไรทั้งนั้นค่ะ” พูไปก็ขยิบตาส่งสายตาให้กับฟางเหยียนด้วย แต่กลับได้การไม่สนใจกลับมา เธอก็ไม่สน แล้วก็พูดต่อไปว่า “ปู่จางคะ วางใจเถอะค่ะ เขาจะปกป้องหนูเอง”
สำหรับคนที่สามารถทำลายสำนักไร้หน้าได้นั้น จะเป็นคนดีงั้นหรือ? โดยเฉพาะท่าทางนิ่งเฉยเย็นชานั้น ท่าทางที่เอาชนะคนทั้งโลกได้นั้น ก็เพียงที่จะบอกได้ว่าฟางเหยียนไม่ใช่คนธรรมดา
คนเขามีใจคิดจะไปให้ได้ ตาแก่อย่างเขาก็ไม่อาจจะพูดห้ามต่อไปได้ ตอนที่เขาจะเอ่ยปากพูดไปนั้น เจ้าแดงก็เดินโซเซเห่ามาทางนี้ ตาแก่จางก็สีหน้าเปลี่ยน แล้วก็พูดอย่างตกใจว่า “เกิดเรื่องแล้ว!”