จอมนักรบทรงเกียรติยศ - บทที่ 746 ราวกับถูกสายฟ้าฟาด
นี่หลินเทียนมีจิตคิดเมตตาขึ้นมางั้นหรือ? ถึงได้หักหน้ากับพ่อตนเอง ฆ่าญาติเชิดชูคุณธรรมเลยงั้นหรือ?
แม้แต่พ่อตัวเองก็ไม่ปล่อยไปงั้นหรือ?
ช่างเป็นไอดอลแห่งยุคนี้จริงๆ !
หลังจากที่หลินเทียนพูดเรื่องที่ตนเองสองพ่อลูกทำขึ้นทั้งหมด ก็อ่อนแรงล้มลงไป ราวกับทุกอย่างนั้น เขาไม่ได้เป็นคนพูด
พอพูดเปิดโปงเสร็จ ก็หายหน้าไปทิ้งไว้แต่ชื่อ!
เขาสลบไปอีกแล้ว แต่สิ่งที่เขาพูดนั้น กลับเหมือนก้อนหินที่โยนใส่น้ำ ทำให้เกิดระลอกคลื่นใหญ่ขนาดใหญ่!
ทุกคนในเหตุการณ์อึ้งไปตามกัน!
การเปลี่ยนแปลงพลิกกลับไปมาหลายครั้ง ทำให้ทุกคนในสำนักฉิวหลงเริ่มแปลกใจในชีวิต
จัดระบบความคิด!
ตั้งแต่ที่เกิดความวุ่นวายภายในสำนักฉิวหลง ซ่งอู่ฮุยในฐานะรองเจ้าสำนักสมคบคิดกับเพลิงเสวนจะก่อกบฏ แต่ถูกเหมินถงพบเข้า แล้วก็ถูกจับเข้าคุก จากนั้นผู้อาวุโสใหญ่หลินชื่อ ได้ใจผู้คน แล้วกลายเป็นคนที่มีอำนาจที่สุดของสำนักฉิวหลง แต่เหมินถงกลับเจอเรื่องที่ต้องถูกฆ่าปิดปาก ไม่คิดว่าจะถูกพวกของจอมพลโผ้จวินช่วยเหลือไว้ อันดับแรกไม่สนใจจุดประสงค์ของจอมพลโผ้จวินที่มา เพื่อทำลายแผนที่คิดจะฆ่าปิดปากของหลินชื่อ
นอกจากนี้ เหมินถงก็ย้อนกลับมาเปิดโปงการข่มขูของหลินชื่อ เขาให้เหมินถงไปทำร้ายซ่งอู่ฮุย ทำให้ซ่งอู่ฮุยต้องหลุดออกจากตำแหน่งผู้นำ ส่วนคนรับใช้ข้างกายของเจ้าสำนัก ก็คือคนที่รู้เรื่องในคืนนั้น เธอเห็นทุกอย่างที่เกิดขึ้นในคืนนั้น แต่หลินชื่อยังไม่คิดที่จะฆ่าปิดปาก จนกระทั้งเจ้าสำนักทำให้หลินชื่อขายหน้า ก็เลยวางยากับเจ้าสำนักซ่งหยิง และเสี่ยวหยู่ก็ได้กลายเป็นคนที่แบกรับความผิดทุกอย่างไว้ ความผิดที่ไม่มีจริงก็คือพรรคพวกที่เหลือของซ่งอู่ฮุย ทุกอย่างเลยดูประจวบเหมาะ
ดังนั้นเสี่ยวหยู่ก็เลยถูกฆ่าปิดปากเหมือนกัน เนื่องจากเรื่องของเหมินถง ดังนั้นครั้งนี้คนที่มาฆ่าปิดปากก็ถือ หลินเทียน แต่หลินเทียนไม่เพียงทำไม่สำเร็จ แต่กลับถูกกระทืบเสียยับ เป็นตายไม่รู้ตัว
ความจริงเริ่มปรากฏ ทุกอย่างมันเป็นการกระทำของหลินชื่อสองพ่อลูก พกวเขาทั้งสองสลับขาวเป็นดำ วางแผนเล่นละครเองทั้งหมด!
ชัดเจน!
พวกเขาล้วนถูกหลินชื่อหลอกลวง!
ทำร้ายคนภักดี ก่อความวุ่นวายในสำนักฉิวหลง พวกเขาสองพ่อลูกถึงจะเป็นคนผิดคิดชั่วตัวจริง!
พวกคนทั้งหลายที่เดิมทีจะบุกเข้าไปฝั่งฟางเหยียน ก็หยุดฝีเท้าลงทันที แล้วหันหน้าไปมองหลินชื่อที่มีสีหน้าอึมครึมอยู่ หลินชื่อคิดจะไม่ยอมรับอะไรทั้งสิ้น ดังนั้นก็เลยจะใส่ความฟางเหยียนกลับไป แต่เขาคิดไม่ถึงว่า ทุกอย่างจะเปลี่ยนไปเพราะหลินเทียน ลูกชายของตัวเอง!
ต้องบอกเลยว่า ที่หลินชื่อได้ครอบครองสำนักฉิวหลงอย่างไม่เสียเลือดเนื้อใดๆ เลย ถือว่าเป็นแผนที่สุดยอดมาก เขาคาดเดาการเปลี่ยนแปลงทุกอย่าง แต่คิดไม่ถึงว่าตอนนี้ จอมพลโผ้จวินจะมาด้วยตัวเองถึงที่แบบนี้ ดังนั้นทำให้หลินชื่อต้องแพ้ยกกระดาน ถ้าหากว่าเขาไม่ถือตัว ไม่เย่อหยิ่ง แล้วก็ระวังกับเรื่องของเหมินถงให้มากขึ้น ก็จะไม่เกิดเรื่องมากมายแบบนี้
แต่เขามั่นใจมากเกินไป มั่นใจในแผนการของตนเอง มั่นใจในความกล้าของตนเอง มั่นใจทุกอย่างในชีวิตตนเอง ทำให้ทุกอย่างมันมีช่องโหว่ไปหมด แล้วแพ้อย่างราบคาบ
ผู้อาวุโสรองลังเลครู่หนึ่ง แล้วถามว่า “หลินชื่อ เรื่องนี้คุณจะอธิบายอย่างไร?”
กว่าจะได้ทุกอย่างก็ไม่ง่าย จะเสียมันไปเสียแล้วหรือ!
ใครจะรับไหว!
มีเพียงผูกตัวเองเข้ากับสำนักฉิวหลงไว้ให้ได้ เขาถึงจะได้ไม่ต้องสู้ด้วยตัวเองคนเดียว!
“ข่าวปลอม!” หลินชื่อพูดเสียงต่ำ “ตอนนี้ผมสงสัยคนที่เรียกตัวเองว่าจอมพลโผ้จวิน ว่าเป็นพวกที่เพลิงเสวนส่งมาหรือเปล่า ส่วนเหมินถงและเสี่ยวหยู่จะเป็นพวกเดียวกับมันหรือเปล่าก็ไม่แน่ เหตุผลน่ะหรือ ไม่บอกก็รู้ ซ่งอู่ฮุยสมคบคิดกับเพลิงเสวน แล้วถูกพวกเราพบเข้า จึงตัดสินให้ติดคุก เรื่องนี้ใครๆ ก็รู้ดี และเพลิงเสวนก็รู้สึกขายหน้า ก็เลยส่งคนมาใส่ร้ายผม หรือว่าแค่นี้พวกคุณจะมองไม่ออกงั้นหรือ?”
ผู้อาวุโสรอง: “……”
ทุกคน: “……”
เงียบกริบ!
เรื่องทุกอย่างในวันนี้ทำให้จิตใจของพวกเขาสับสนวุ่นวายราวกับนั่งรถไฟเหาะ ขึ้นๆ ลงๆ ไม่พบความจริงเสียที
เห็นได้ชัดว่าไม่มีใครเชื่อหลินชื่อแล้ว!
ถ้าคนที่อ้างว่าตัวเองคือจอมพลโผ้จวิน จะเป็นคนของเพลิงเสวน? แล้วลูกชายหลินเทียน ลูกชายของเขาก็เป็นคนของเพลิงเสวนเหมือนกันหรือ?
นี่ก็เผยไต๋ออกมาแล้วสิ!
“ผู้อาวุโสใหญ่ คุณคิดว่าพวกเราโง่หรือไง?”
“หรือว่าไม่ใช่?” หลินชื่อด่าในใจ แต่เขาไม่กล้าพูดออกมา ครุ่นคิดไปแล้วพูดออกมาว่า “ผู้อาวุโสรอง คุณหมายความว่าอย่างไรกัน? หรือว่าคุณจะเชื่อไอ้คนที่ไม่อาจจะยืนยันตัวตนได้งั้นหรือ? ไม่เชื่อผมเลยงั้นหรือ?”
“พวกเราเชื่อคุณ แต่คุณไม่เชื่อหลินเทียนลูกชายคุณเลยงั้นหรือ?”
สีหน้าของหลินชื่อก็นิ่งไปทันที แล้วพูดนิ่งๆ ว่า “ผู้อาวุโสรอง คุณเชื่อคำพูดไร้หลักฐานของมันด้วยหรือ?”
ผู้อาวุโสรองก็ยังตอบคำเดิม “พวกเราเชื่อคุณ แต่คุณไม่เชื่อหลินเทียนลูกชายคุณเลยงั้นหรือ?”
หลินชื่อ “……”
ไอ้แก่ง่อย มึงจะไม่เปลี่ยนคำอื่นเลยหรือไง!
“หลินชื่อ คุณไม่มีอะไรจะพูดแล้วใช่ไหม?” ผู้อาวุโสรองพูดเสียงเย็น
“ฮ่าๆๆ …..” หลินชื่อหัวเราะลั่น “โลกนี้ช่างน่าเศร้าจริงๆ น่าเศร้า ในเมื่อมีคนเก่งอย่างจิวยี่ แล้วทำไมต้องเจอคนเก่งกว่าอย่างขงเบ้งด้วย!”
“ผู้อาวุโสใหญ่ยอมรับสิ่งที่ตัวเองทำแล้วใช่ไหม?”
“ยอมรับงั้นหรือ?” หลินชื่อส่งเสียงไม่พอใจ แล้วมองผู้อาวุโสรอง “รู้ไหมว่าทำไมน้ำถึงไม่มีรูปลักษณ์ เพราะว่าน้ำสามารถพยุงเรือได้ และล่มเรือได้ น้ำนั้นไร้รูป ไหลแทรกเข้าไปทุกที่ที่มีทางไป ต่อให้ทำจริงๆ แล้วจะเป็นไง? ตอนนี้ทั้งสำนักฉิวหลงล้วนอยู่ในการควบคุมของผม คุณจะทำอะไรได้?”
ผู้อาวุโสรองก็อึ้ง หลินชื่อยอมรับทุกอย่างแล้วจะเป็นอย่างไร? ก็เหมือนกับที่เขาพูดมา สำนักฉิวหลงอยู่ในกำมือเขาหมด แค่เขาสั่งการลงไป ทั้งสำนักฉิวหลงก็จะบุกเต็มกำลัง แล้วใครจะมาขวางหลินชื่อได้?
ในเมื่อไม่มีทางเถียงสู้ได้ แล้วทำไมไม่ยอมรับไปเล่า?
ผู้อาวุโสรองพูดอย่างปวดใจว่า “ผู้อาวุโสใหญ่ อำนาจนั้นมันแย่งกันได้ แต่ทำไมคุณต้องไปช่วยคนชั่วด้วย ไปช่วยเพลิงเสวนแบ่งแยกสำนักฉิวหลงของเรา คุณคิดจะทำอะไรกันแน่!”
“เพราะอะไรงั้นหรือ? เพราะว่าเพลิงเสวนสามารถให้ความหวังกับพวกเราได้ สำนักฉิวหลงเป็นหนึ่งในหยินเหมินท้่งห้าก็จริงอยู่ แต่กำลังทั้งหมดถูกเรียงอยู่ท้ายสุดของหยินเหมินท้่งห้า เพราะอะไรกัน? พวกเราก็ไม่ได้อ่อนแอ นินจาระดับระดับต้าชี่ ก็มีตั้ง20คน เพียงพอที่จะเรียกว่าผู้กล้าได้ แต่เจ้าสำนักซ่งหมิงฮุย กลับไม่คิดจะพัฒนาอนาคตของตนเอง ให้กลายเป็นหัวหน้าของทั้งหยินเหมินท้่งห้า เขาไม่ยอมทำ แต่ผมไม่ยอมให้สำนักฉิวหลงตกอยู่ใต้เงาคนอื่นไปตลอด ดังนั้นผมเลยก็เลยตอบรับข้อเสนอของเพลิงเสวน!”
ผู้อาวุโสรองอึ้ง “เพื่อที่จะได้เป็นหัวหน้าของทั้งหยินเหมินท้่งห้า คุณก็เลยหักหลังสำนักฉิวหลงงั้นหรือ?”
“หักหลัง?” หลินชื่อหัวเราะ “จะบอกว่าคุณหัวดื้อก็ไม่คู่ควรกับคำนี้ โง่จริงๆ โง่จนไม่รู้ทางกลับบ้านตัวเอง นี่มันเป็นการเปิดทางเดินที่มั่นคงให้กับสำนักฉิวหลง คุณมาบอกว่าผมหักหลังสำนักฉิวหลงงั้นหรือ? ผมกำลังทำให้สำนักฉิวหลงอยู่ยืนยงไปตลอด จะได้กลายเป็นสำนักอันยิ่งใหญ่ที่ทุกสำนักทุกตระกูลต้องยอมสยบเคารพพวกเรา”
“พวกคุณไม่รู้จักเคารพบุญคุณก็แล้วไป แถมยังจะมาพูดจาทำร้ายผมอีก ไม่รู้จักใจคนคิดดีเอาเสียเลย ช่างเถอะๆ มันไม่สำคัญแล้ว” หลินชื่อหัวเราะสบถออกมา “เพราะว่าตอนนี้ สำนักฉิวหลงเป็นของผมแล้ว! ดังนั้นทุกอย่างมันขึ้นอยู่กับผม เขียนประวัติศาสตร์กันใหม่ และผมก็จะเป็นผู้มีบุญคุณต่อสำนักฉิวหลง พวกคุณก็จะเป็นคนที่มีความดีความชอบด้วย”
“เลอะเลือนไปแล้ว เลอะเลือนจริงๆ นี่คุณกำลังทำลายรากฐานของสำนักฉิวหลงที่มีมานับพันปีเลยนะ หลินชื่อ!”
“บังอาจ ผู้อาวุโสรอง คุณเรียกผมว่าอะไร? กล้าเรียกชื่อผมตรงๆ งั้นหรือ?”
“อะไรนะ?” ผู้อาวุโสรองอึ้งอยู่กับที่ อ้าปากค้างพูดไม่ออก และไม่รู้จะพูดอะไรเหมือนกัน
หลินชื่อเริ่มร้อนตัวแล้ว!
“พอได้แล้ว จบการพูดคุยกันแล้ว พวกมึงควรไปตายได้แล้ว!” หลินชื่อเงยหน้าหัวเราะ “ตอนนี้กูเป็นเจ้าสำนักของสำนักฉิวหลง และความแค้นของซ่งหมิงฮุย จะต้องได้รับการชำระ ฆ่าพวกมันทิ้งเสีย สำนักฉิวหลงของพวกเราก็จะอยู่ยั้งยืนยง รับเกียรติยศคืนมา!”
“ลงมือได้” หลินชื่อสะบัดมือ ถ่ายทอดคำสั่งลงไป
คนทั้งสำนักฉิวหลงก็อึ้ง ว่าควรจะลงไปดีไหม!
หลินชื่อได้ยอมรับแล้วว่าทำทุกอย่างในสำนักฉิวหลง ตอนนี้เขาเป็นคนทรยศ จะฟังคำสั่งคนทรยศงั้นหรือ? พวกเขาก็ไม่ใช่คนโง่ ฟังคำสั่งคนทรยศ จะกบฏหรือไง!
ทุกคนก็มองหน้ากัน ทำอะไรไม่ถูก แล้วก็นิ่งไม่ขยับ
หลินชื่อก็ตะหวาดว่า “พวกเอ็งจะขัดคำสั่งหรือไง? ห้ะ!”
เสียงซุบซิบกันระงม หัวหูชนกัน พูดกันไปมา แต่ไม่มีใครกล้าลงมือ!
หลินชื่อก็กำลังจะตวาดไปอย่างโมโห แต่กลับได้ยินเสียงหัวเราะมาจากทางด้านหลัง เสียงหัวเราะนี้ทำให้หลินชื่อรู้สึกเหมือนถูกสายฟ้าฟาด ตัวนี่สั่นระริก!
“ผู้อาวุโสหลิน ยิ่งใหญ่ไม่เบาเลยนะ!”