จอมนักรบทรงเกียรติยศ - บทที่ 758 นอนห้องเดียวกัน
หยางจิ่งเซียนได้ยินอย่างนั้นก็ตัวสั่น!
การกระทำทั้งหมดของตระกูลโจวเรียกได้ว่าสมควรตายอย่างมาก เขาจะปล่อยให้ตระกูลของตัวเองตกไปอยู่จุดนั้นได้ยังไงกัน? เขาไม่เคยคิดจะแทรกเรื่องตระกูลโจว และยิ่งไม่กล้าที่จะไปยุ่งเรื่องของตระกูลโจว ตระกูลโจวในตอนนี้ เขาไม่มีแม้แต่โอกาสที่จะคุยด้วยด้วยซ้ำ
ช่วยเหลือตระกูลโจวในเวลานี้ นั่นมันถือเป็นการหาเรื่องตายไม่ใช่รึไง!
ตัวเขาหยางจิ่งเซียนยังไม่มีความสามารถถึงขั้นจะต่อกรกับจอมพลโผ้จวิน
“จอมพลครับ ผมไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น ตระกูลโจวหาเรื่องใส่ตัวพวกเขาสมควรรับโทษอยู่แล้ว ยืนในจุดที่ตรงข้ามกับความยุติธรรม ก็จะพ่ายแพ้จนหมดสิ้น ไม่ทราบว่าจอมพลสังเกตเห็นมั้ยว่าผู้คนในถนนนั้นน้อยมาก การจราจรเร่งรีบ ซึ่งตอนนี้ได้ทำให้เกิดผลกระทบไม่น้อยแล้ว”
“นายจะบอกว่า…..”
หยางจิ่งเซียนพยักหน้า “จอมพลฉลาดหลักแหลม ไม่ปิดบังจอมพลนะครับ ตั้งแต่ที่คุณปล่อยข่าวออกมา ผู้คนดินแดนตะวันตกต่างก็หวาดกลัว ความหวาดกลัวกระจายเข้าสู่ในใจของผู้คนทุกคนในดินแดนตะวันตก ตอนนี้ผู้คนต่างก็ตื่นตกใจ คุณไปหาเรื่องในตอนนี้ คงจะยิ่งทำให้เกิดความหวาดกลัวกันมากยิ่งขึ้นนะครับ”
พูดถึงนี่เขาก็มองดูฉินเข่อที่นิ่งค้าง “เรื่องที่เข่อเข่อได้เจอต้องไม่ใช่ความบังเอิญแน่นอน ผมกลัวว่าทั้งดินแดนตะวันตกจะวุ่นวายไปหมดนะครับ”
ตลอดทางมานี้ ดูออกได้ไม่ยากว่าท้องถนนอ้างว้าง โดยเฉพาะผู้คนที่เร่งรีบ
“นายคิดว่าทำยังไง?”
“จอมพลครับ งั้นตกแก่อย่างผมก็ขอออกความคิดเห็นละนะครับ” หยางจิ่งเซียนเองก็ไม่เสแสร้ง บอกสิ่งที่ตัวเองคิดออกมาให้ฟัง “ความคิดเห็นของตาแก่อย่างผมคือ ทำให้ใจผู้คนและดินแดนตะวันตกมั่นคงสงบนิ่งก่อน ให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ได้รับความตื่นกลัวให้น้อยที่สุด เพราะยังไงซะจิตใจของประชาชนถึงจะเป็นสิ่งสำคัญที่สุด ส่วนเรื่องการจัดการตระกูลโจวนั้น ในตอนนี้ตระกูลโจวหนีไม่รอดอยู่แล้ว ได้ทำการล้อมรอบไว้รอบด้านทั้งหมดเรียบร้อยแล้วครับ”
ผู้คนสบายใจ อยู่อย่างสงบสุข นี่คือคำศรัทธาที่ฟางเหยียนรักษาไว้เสมอ
ฟางเหยียนคิดๆแล้วก็พยักหน้า “หยางกง งั้นก็ทำตามคำพูดของคุณละกัน”
หยางจิ่งเซียนถอนหายใจยาว จอมพลฟังคำพูดของเขา เขากลับรู้สึกว่าประหลาดใจและหวาดกลัว ทำการโค้งคำนับเล็กน้อย “ถ้าอย่างนั้นก็เชิญท่านจอมพลครับ”
ฟางเหยียนพยักหน้า เหมือนว่าจะคิดอะไรขึ้นมาได้ มองดูคุณลุงคุณป้าที่ตายอย่างน่าเวทนา หยางจิ่งเซียนพูดอย่างเข้าใจว่า “จอมพลสบายใจได้ครับ พวกผมจะจัดการฝังศพคนแก่นี้ทั้งสองท่านเองครับ จากนั้นก็ช่วยเหลือปักหลักลูกๆของพวกเขาครับ”
“อย่างนั้นก็ดี อย่าให้คนดีต้องเจ็บปวดใจ”
ข่าวที่จอมพลมายังดินแดนตะวันตกแพร่สะพัด ทุกคนต่างก็รู้เป้าหมายที่จอมพลมา แต่สิ่งที่ทำให้ผู้คนแปลกใจก็คือ ตระกูลโจวที่เป็นต้นเรื่องกลับนิ่งเฉย เหมือนว่าตัดขาดกับโลกภายนอกแล้ว ไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆเลยสักนิด
ผู้คนกลับไปยังจวนหยาง
แต่ฟางเหยียนกลับไม่รู้เลยว่า การกลับมายังจวนหยางนั้นเป็นจุดเริ่มต้นของการหึงหวงจากหญิงสาวทั้งสองคน!
หยางจิ่งเซียนพูดอย่างเคารพว่า “จอมพลครับ เดินทางมาเหนื่อยล้าขอเชิญคุณพักผ่อนครับ เรื่องการทำให้จิตใจประชาชนสงบรวมทั้งตระกูลโจว มอบหมายให้ผมเองครับ”
ฟางเหยียนพยักหน้า
กลับสู่ห้องนอนแขกพิเศษของตระกูลหยางที่มีพื้นที่มากกว่าสองร้อยตารางเมตรนี้อีกครั้ง และก็ยังเป็นฉินเข่อที่ช่วยจัดแจงเตียงนอน ครั้งก่อนที่ช่วยจัดเตียงนั้นเธอยังเต็มใจอยู่ แต่การจัดเตียงในครั้งนี้แม้จะนับว่าเต็มใจ แต่ก็ยังใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวอยู่บ้าง
เธอคิดไม่ถึงว่าการที่ฟางเหยียนมาในครั้งนี้ จะพาภรรยาของตัวเองมาด้วย งั้นเธอจะสามารถแสดงออกถึงความรู้สึกของเธอได้มั้ย? ว่ากันว่าสายตาที่รักใครสักคนนั้นเก็บซ่อนไม่อยู่ ฟางเหยียนมองความรู้สึกของเธอไม่ออกจริงๆงั้นหรอ?
ภรรยาของเขาหน้าตาสวยงาม รูปร่างสวยงามที่ทำให้หญิงสาวทุกคนพ่ายแพ้ ตอนนี้เธอยังจะมีโอกาสได้แสดงออกมั้ย?
ฉินเข่อที่ใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวหัวโขกทีหนึ่ง เจ็บจนหน้าตาเล็ดออกมา แต่เธออดทนไว้ไม่ส่งเสียงร้อง เหมือนกับว่าการที่หัวโขกนั้นเป็นข้ออ้างของการที่น้ำตาไหล
“เข่อเข่อใช่มั้ย เธออย่าเป็นอย่างนี้เลย ฉันรู้ว่าเธอชอบสามีของฉัน แต่เธอน่าจะดูออก สามีรักฉันมาก และเขาเองก็เก่งมาก สำหรับผู้ชายที่โดดเด่นแบบนี้ จะต้องมีผู้หญิงล้อมรอบมากมายอยู่แล้ว ตอนนี้เธอยังเด็ก อารมณ์ชั่ววูบไม่ได้แปลว่ารัก นั่นเป็นเพียงแค่ความรู้สึกดีที่มีให้กับใครสักคนก็เท่านั้น เธอเข้าใจมั้ย?”
ฉินเข่อเก็บสายตากลับคืนจากตัวของฟางเหยียน เธอกลับพบว่าฟางเหยียนนั้นไม่ได้สนใจบทสนทนาของทั้งสองคน จึงยิ้มเยาะ “คุณนายคะ นี่คุณกำลังประกาศตำแหน่งของตัวเองอยู่หรอคะ?”
“ประกาศ?” ชิงตี้ยิ้ม “เธอกำลังรู้สึกว่าฉันกำลังโอ้อวดกับเธออยู่ใช่มั้ย? ฉันแค่อยากจะบอกกับเธอสักอย่างว่า สามีของฉันรักเดียวมาก และขณะเดียวกันก็ชอบทำดีกับผู้อื่น ภายนอกดูเหมือนเย็นชา แต่ในใจกลับเป็นคนที่มีชีวิตชีวา ดังนั้นการกระทำในบางเวลาของเขา อาจจะทำให้เธอเข้าใจผิด นอกจากฉันแล้ว เขาไม่ได้ชอบคนอื่นสักคน”
เป็นการปฏิเสธและโอ้อวดอย่างชัดเจน!
ผู้หญิงด้วยกันทำไมจะต้องทำให้ผู้หญิงด้วยกันลำบากใจ!
คำพูดของชิงตี้ตัดความคิดคาดเดาของฉินเข่อไปทั้งหมด!
ฉินเข่อเงียบไปสักพัก “รักคนๆหนึ่งมีความผิดหรอ? ฉันไม่สนว่าเขาคือฟางเหยียนหรือจอมพลโผ้จวิน ฉันรักเขาก็พอแล้วค่ะ คุณนาย”
“รัก? เธอเข้าใจความรักหรอ?” ชิงตี้กะพริบตา และพูดต่อไปว่า “ฉันคิดว่าความหมายของฉันชัดเจนแล้ว แม้เธอจะโผล่หน้าอยู่ตรงหน้าเขาตลอด เขาก็จะยังไม่มีความรู้สึกกับเธออยู่เหมือนเดิม อารมณ์ชั่ววูบไม่ได้ความถึงความชอบ และยิ่งไม่ได้หมายถึงความรัก เข้าใจมั้ย?”
“คุณนาย ฉันรู้ว่าฉันทำให้คุณขุ่นเคือง แต่ว่าฉันรักเขาค่ะ”
“ทำไมเด็กสาวอย่างเธอถึงฟังไม่เข้าใจนะ? การพยายามแบบนี้มันไม่มีผลหรอก”
“คุณนายคะ ขอบคุณที่เตือนค่ะ” ฉินเข่อจัดเตรียงเสร็จ เดินเข้าไปตรงหน้า มองฟางเหยียน “ฟางเหยียน วันนั้นทำไมนายถึงไปไม่ลาละ?”
ฟางเหยียนพูดนิ่งๆว่า “มีธุระ”
“นายรู้มั้ยว่าฉันรอนายอยู่?”
“ฉินเข่อ เธอกับฉันไม่มีดวงต่อกัน ทำไมจะต้องดื้อดึงด้วยละ?”
ผ่าง!
ฉินเข่อตัวสั่นเหมือนถูกไฟฟ้าช็อต!
คำพูดของชิงตี้ไม่สามารถทำอะไรเธอได้ ในใจเธอเชื่อเสมอว่าฟางเหยียนมีความรู้สึกต่อเธอ แต่ตอนนี้ คำพูดเย็นชาเหมือนดั่งสายฟ้า ที่ส่งเสียงดังในใจของเธอ และผ่าลงที่ความดื้อดึงสุดท้ายของเธอ
เธอร้องไห้ ร้องไห้อย่างเสียใจมาก จากนั้นก็วิ่งออกจากห้อง
“ที่รัก ฉันทำร้ายความรอคอยและจินตนาการที่สวยงามของเด็กสาวคนหนึ่งไปใช่มั้ยเนี่ย?”
“เธออยากให้ฉันชมเธอหรอ?” ฟางเหยียนพูดเสียงนิ่ง “จำตัวตนของเธอไว้ เธอเป็นแค่ตัวกำบังของฉันในครั้งนี้เท่านั้น ไม่ใช่ความมั่นใจที่จะให้เธอทำอะไรก็ได้!”
“ชิ!” ชิงตี้พูดอย่างโมโหไม่พอใจ “อย่างน้อยฉันก็ช่วยนายปฏิเสธ ทำไมนายถึงได้ไร้ความรู้สึกแบบนี้กัน แม้แต่คำขอบคุณสักคำก็ไม่มี”
“ระหว่างเราก็เป็นการใช้ประโยชน์ซึ่งกันและกันไม่ใช่รึไง? เธอเคยเห็นคนพูดขอบคุณกับศัตรูงั้นหรอ?”
“น่าเบื่อ!” ชิงตี้ล้มตัวลงใส่เตียงกว้างขวางอย่างแรง “ว้าว เตียงซิมมอนส์นี้นุ่มจริงๆเลย”
ระหว่างฟางเหยียนและชิงตี้ เป็นความสัมพันธ์ที่ใช้ประโยชน์ซึ่งกันและกันจริงๆ ตั้งแต่หลินถง เขาก็เริ่มเก็บความชอบต่อเพศตรงข้ามแล้ว ซ่งหยิงและฉินเข่อไม่ใช่จุดเริ่มต้น และก็ไม่ใช่จุดจบด้วย เขาไม่อยากกลายเป็นผู้ชายที่ต้องลำบากเพราะความรัก สิ่งที่เขาจะทำก็คือทำลายองค์กรสัตว์เพลิง!
เขาไม่อยากให้ความสัมพันธ์ชู้สาวมาขัดขวางตัวเอง มามีพันธนาการต่อใจของตัวเอง จึงเป็นเหตุให้ตอนที่ชิงตี้ปฏิเสธฉินเข่อ แล้วเขาไม่พูดอะไร ถือเป็นการยอมรับโดยปริยาย
เห็นฟางเหยียนเหม่อ ชิงตี้ก็พลิกตัวแล้วถามว่า “ที่รัก นายกำลังคิดอะไรอยู่? เรื่องตระกูลโจว?”
พูดถึงตระกูลโจว ความคิดของฟางเหยียนก็เริ่มวิเคราะห์ เริ่มแรกโจวเจิ้งบังคับหวังชิงชิงแต่งงานกับตัวเอง ใช้ความแข็งแกร่งมีอำนาจของตัวเองกลั่นแกล้งผู้คน ในตอนนนั้นเจ้าตระกูลโจวโจวปินคางก็ได้แสดงออกถึงความซื่อสัตย์ของตระกูลโจว แล้วทำไมพวกเขาถึงได้มีความเกี่ยวข้องกับองค์กรสัตว์เพลิงละ?
ทันใดนั้น เขานึกถึงความเป็นไปได้อย่างหนึ่ง เหมือนกับตระกูลหม่า สิ่งเดียวที่ไม่เหมือนกับตระกูลหม่าก็คือ เรื่องนี้ทำได้ลับมาก ไม่มีใครรู้สักคน โจวเจิ้งถูกตัดมือข้างหนึ่ง มีความโกรธแค้น และก็ถูกองค์กรสัตว์เพลิงเข้าหาในโอกาสนี้พอดี จึงได้เข้าร่วมองค์กรสัตว์เพลิงอย่างสำเร็จ
ความลับถึงระดับที่ว่าตัวเขาเองฟางเหยียนยังสืบไม่เจอ เขาได้รับข่าวจากชิงตี้ และจากคำพูดของหยางจิ่งเซียนแล้ว ตระกูลโจวแสดงออกได้เงียบสงบมาก ช่วงเวลานี้ก็ถ่อมตัวลงเยอะ โดยเฉพาะตัวโจวเจิ้ง ที่สามารถเรียกได้ว่าเก็บตัวทำตัวดีขึ้นมาก
จุดนี้เองที่ไม่ปกติอย่างมาก!
แม้ว่าจะเป็นความลับมากแค่ไหน ก็ไม่จำเป็นต้องถ่อมตนขนาดนี้หรอกมั้ง? นี่มันเป็นการอยากปิดบังแต่กลับเป็นจุดสังเกตให้ถูกจับได้ไม่ใช่รึไง?
ตระกูลโจวมีเรื่องอะไรกันแน่!