จอมนักรบทรงเกียรติยศ - บทที่ 768 แบ่งแยกเพลิงเสวน
ชายที่อายุ 30 ผู้หนึ่ง เดินผ่านพรมเข้ามาอย่างรวดเร็ว จากการคุ้มกันของคนสองคน และเข้ามานั่งบนเก้าอี้มีพนักพิงสลักอสูรเพลิงตัวนั้น ชายหนุ่มผมยาวปลิวไสว ผมเส้นเล็กบางสีดำสนิท หน้าตาหล่อเหลาเอาการ โดยเฉพาะที่เขาสวมใส่อยู่บนตัว มันคือฮั่นฝูที่ตระกูลเจ้าชายสูงศักดิ์ในสมัยโบราณสวมใส่กัน สง่างามและเห็นทรวดทรงของร่างกาย
หลังจากที่ชายหนุ่มนั่งลงแล้ว 18 คนที่ลุกขึ้นต้อนรับก็ได้นั่งลงตามกัน
“เชิญพวกท่านต่อเลย”
หลังจากชายหนุ่มเอ่ย ก็พิงบนเก้าอี้ หลับตาลงเล็กน้อย
หลินซิงไม่ได้รีบที่จะเอ่ยแต่อย่างใด กลับมองไปยังนายน้อยที่ใบหน้าหล่อเหล่า เอ่ยถามว่า: “นายน้อย วันนี้ที่เรียกพวกเรามา เป็นเพราะเรื่องของตระกูลโจวแห่งดินแดนตะวันตกใช่หรือไม่?”
“ถูกต้อง” ชายหนุ่มไม่ได้เปิดตาขึ้นแต่อย่างใด “รายละเอียดของเรื่องราวให้นายเป็นคนพูดก็แล้วกัน”
หลินซิงพยักหน้าเบาๆ จากนั้นจึงปริปากเอ่ยขึ้น: “เรื่องของตระกูลโจวแห่งดินแดนตะวันตก ไม่ทราบว่าพวกท่านได้ยินมาแล้วหรือยัง?”
ทุกคนต่างก็พยักหน้าตามๆ กัน ดินแดนตะวันตกแทบจะเปลี่ยนเป็นอย่างหนัก การที่จอมพลโผ้จวินแพร่ข่าวสารออกไปอย่างโจ่งแจ้งเช่นนั้น อย่าว่าแต่พวกเขาเลย บางทีคงทั้งประเทศหวาคงรู้กันหมด พวกเขาทราบแต่เพียงว่าโผ้จวินไปยังเรือนตระกูลโจว ส่วนรายละเอียดนั้นพวกเขาไม่ทราบ ทว่านี่มันเกี่ยวอะไรกับที่พวกเขาถูกเล่นงาน?
ทันใดนั้นก็มีคนถามขึ้นมาว่า: “พี่ใหญ่ นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?”
“ยังจำได้ไหมที่พวกเราใช้กำลังอย่างมากในการได้ข่าวสารมา? หรือก็คือเกี่ยวกับข่าวสารที่กองกำลังพวกเขาเผยแพร่ออกมา และไม่นึกว่าตระกูลโจวแห่งดินแดนตะวันตกจะเป็นหนึ่งในนั้นด้วย ไม่ใช่แค่นี้นะ เฒ่าประหลาดแห่งตระกูลโจวดินแดนตะวันตกก็คือสาวกผู้จงรักภักดีของพวกเขา เพื่อลดทอนความเสียหายของพวกเรา เลยนำข่าวสารนี้มาอย่างเงียบๆ จากนั้นก็แจ้งชิงตี้ยัยแสบนั่นมุ่งหน้าไปรบกวน แต่คิดไม่ถึงว่าเรื่องนี้จะกลายเป็นสิ่งผิดพลาดที่ถูกปรักปรำไปได้”
หลินซิงหยุดไปชั่วครู่เอ่ยว่า: “โชคดีที่จอมพลโผ้จวินไม่ได้ลงมือกับเฒ่าประหลาดแห่งตระกูลโจวดินแดนตะวันตก ไม่เช่นนั้นพวกเราคงต้องกลายเป็นเพชฌฆาตให้พวกมันเสียแล้ว และกลายเป็นปลายดาบที่ถูกผู้อื่นหลอกใช้งาน ถ้าไม่ใช่เพราะยัยตัวแสบชิงตี้ บางทีพวกเราคงต้องกลายเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดฆาตกรรมของพวกมัน ถูกพวกมันเล่นงานเสียแล้ว”
เมื่อสิ้นเสียงประโยคนี้ ทั้งห้องโถงใหญ่ก็มีเสียงถกเถียงกันเกิดขึ้น!
“ผิดปกตินี่ พี่ใหญ่ ข่าวสารนี้พวกเราได้มาอย่างยากลำบากเลยนะ สำหรับว่าด้านหลังยังมีครอบครัวนินจาอีกเท่าไร พวกเราไม่ทราบแน่ชัด พวกมันจะรู้ได้ยังไงว่าพวกเราแอบลอบเอาข่าวสารของพวกมันมาน่ะ? แถมยังเล่นงานพวกเราอีกแบบนี้?”
“ใช่น่ะสิ ตอนแรกที่รู้เรื่องนี้ ก็ไม่มีใครจับได้ พวกมันจะรู้ได้ยังไงว่าพวกเราจะใช้ข่าวสารนี้น่ะ? มันไม่สมเหตุสมผลเลยนี่ ถ้าจะบอกว่าพวกมันเป็นฝ่ายจงใจปล่อยข่าวสารนี้ออกมา เป็นไปไม่ได้เด็ดขาด”
“นั่นน่ะสิ ทุกท่านที่นั่งอยู่ล้วนทราบดีว่า ข่าวสารนี้ได้มาไม่ง่ายเพียงไหน จะเป็นข่าวปลอมไปได้ยังไงกัน? หรือว่า…”
คนผู้นั้นเอ่ยถึงตรงนี้ อยู่ๆ ก็มองไปรอบๆ จากนั้นก็ส่ายหน้าทันที เอ่ยต่อว่า: “ผู้ที่นั่งอยู่นี้ล้วนเป็นผู้ที่มีความจงรักภักดีทั้งนั้น แน่นอนว่าคงไม่มีทางมีกบฏเกิดขึ้นหรอก ยิ่งเป็นไปไม่ได้ที่จะหักหลังคนของตัวเอง อย่างนั้นในนี้มันมีแผนร้ายอะไรกันแน่นะ?”
สิบแปดผู้อาวุโสเสวียนกู่ต่างก็แสดงความเห็นของตนเองเกือบหมด และเป็นเหมือนกันหมด นั่นคือทั้งหมดไม่เชื่อว่านี่คือข่าวสารที่พวกเขาจงใจปล่อยออกมา จึงได้มองไปยังหลินซิงตามสันชาตญาณ
หลินซิงส่ายหน้า ถอนหายใจ: “เป็นอย่างคำที่ว่า หลังได้รับผลสำเร็จแล้ว สิ่งที่ต้องเผชิญต่อมาก็คือความยากลำบากจริงๆ ในเมื่อพวกมันสามารถเคลื่อนไหวหายนะที่ยิ่งใหญ่แบบนี้ได้ จะคิดไม่ถึงแม้แต่เรื่องแค่นี้ได้อย่างไร? กระผมเชื่อว่าทุนท่านที่นั่งอยู่ที่นี่ ไม่มีใจที่จะเป็นกบฏเลยสักคน ไม่บอกไม่ได้ว่า นี่ก็คือการลองเชิงอย่างหนึ่งที่พวกมันกระทำกับเรา ผลสุดท้ายไม่คิดก็รู้ ว่าพวกเราติดกับแล้ว!”
ได้ยินดังนั้น ความคิดสงสัยกันเองก็ถูกดันกลับไป ทว่าสิ่งที่ตามมาก็คือความตึงเครียดที่เข้ามาปกคลุมจิตใจของทุกคน
ใช่แล้ว!
หรือว่าพวกเขาจะจงใจเผยจุดอ่อนออกมา จุดประสงค์ก็เพื่อลองเชิง!
พวกเขามีกองกำลังที่แข็งแกร่ง อีกทั้งยังมีกำลังมากมาย ยึดครองทั้งเพลิงเสวนทั้งหมดอยู่ลึกๆ และสำหรับทุกท่านที่นั่งอยู่ในที่นี้ กลับหวาดกลัวกันขึ้นมา ถ้าเป็นอย่างที่หลินซิงบอกนั้น ว่านี่คือการลองเชิงอย่างหนึ่ง งั้นต่อมาจะต้องถูกพวกมันแก้แค้นคืนอย่างต่อเนื่องมากมายแน่นอน
“พี่ใหญ่ ตามที่ท่านบอกมา เรื่องนี้ไม่เป็นผลดีต่อพวกเราเลยนะ ตระกูลโจวแห่งดินแดนตะวันตกเป็นตระกูลที่มีความจงรักภักดีจริงๆ และพวกเรากลับถูกจับตามอง ฉันเชื่อว่าพวกเขาจะต้องลงมือกับพวกเราอย่างรุนแรง ไม่ถึงชีวิตไม่เลิกราเป็นแน่”
ได้ยินดังนั้น ทั้งห้องโถงใหญ่ก็เงียบสงัด
พวกเขาแข็งแกร่งมาก แถมยังรวบรวมกองกำลังไม่หยุด องค์กรใหญ่ทั้งสี่ล้วนเป็นคนของพวกเขา แล้วพวกเขาจะเทียบเท่าได้อย่างไร?
อีกทั้งบัดนี้ ก็เปิดเผยแล้วว่าพวกเขากำลังรวบรวมกองกำลังอยู่ เห็นได้ชัดว่าเป็นการกระทำที่ยิ่งใหญ่
“นั่นน่ะสิ พวกเรามีความสามารถอะไรไปต่อต้านพวกมันได้ด้วยล่ะ? เรื่องตระกูลโจวดินแดนตะวันตกจะยังแสดงต่อไปไหม? ครั้งหน้าจะต้องค่อยๆ ลดทอนกำลังของพวกเราไปทีละนิด? เรื่องเหล่านี้ล้วนคาดการณ์ลำบาก ไม่ทราบว่าควรจะทำเช่นไรดี”
นี่คือความคิดในใจของผู้คนที่อยู่ตรงนี้
อดใจไม่ไหว สายตาสิบกว่าคู่จับจ้องไปรวมกันที่ใบหน้าของหลินซิง ทันใดนั้นหลินซิงก็มีความรู้สึกกระส่ายกระสับขึ้นมา ครุ่นคิดชั่วครู่จากนั้นเอ่ยว่า: “อันที่จริง เริ่มแรกพวกเราก็ไม่ควรจะจิตใจเมตตาออมมือให้เลย ควรที่จะปกป้องตำแหน่งของนายน้อยเอาไว้ด้วยวิธีที่รุนแรง แต่ทุกอย่างมันสายเกินไปแล้ว กระผมคิดว่าที่นายน้อยเรียกพวกเรามา ก็จะต้องมีแผนการรับมือแล้ว”
คำว่าแผนการรับมือนั้น ทำให้ทั้งห้องโถงจงรักภักดีฮือฮาตื่นเต้นขึ้นมา ถือว่าเป็นการลบล้างความอึมครึมเมื่อก่อนหน้านี้ไป สิ่งที่มาแทนที่กลับคือความมุ่งมาดปรารถนา ทว่าเมื่อเห็นท่าทางของนายน้อย รอยยิ้มที่ตื่นเต้นดีใจก็หยุดชะงักไปตามๆ กัน นายน้อยราวกับไม่ได้คิดจะปริปากเอ่ยเลย ไม่เพียงเท่านี้ ยังราวกับว่านอนหลับไปแล้วด้วย!
ไม่มีผู้ใดกล้าที่จะเอ่ยอันใด ต่อมาไม่รู้ว่าผู้ใดเอ่ยขึ้นมา: “จริงสิ ชิงตี้ยัยตัวแสบนั่นล่ะ? ในเมื่อเธอพบแผนการร้ายของพวกมันแล้ว คงจะไม่ถูกกำจัดหรอกใช่ไหม?”
ชิงตี้ไม่อยู่ในห้องโถงจงรักภักดีจริงๆ ทว่าตอนนี้ก็ไม่ได้ปรากฏตัวออกมา จึงสามารถเป็นเช่นนั้นไปได้
ผู้ใดจะไปรู้ ถ้ารอถึงช่วงเวลาที่สำคัญ ชิงตี้ถูกกำจัด ก็แสดงว่าพวกมันได้ทำการเตรียมพร้อมอย่างรอบคอบเอาไว้แล้ว
มีคนกระซิบ ถามว่า: “นายน้อย ชิงตี้กลับมาหรือยัง?”
น้ำเสียงเบาแผ่วราวกับยุง
ทุกคนที่อยู่ตรงนี้ต่างก็ทราบดีว่า หากไปดูหมิ่นนายน้อยท่านนี้เข้า จะเป็นตายร้ายดียังไงก็ไม่ทราบได้! นอกจากสถานะเหนือคนรวมถึงความศรัทธา พละกำลังของเขานั้นไม่สามารถดูหมิ่นได้เลย สามารถเผชิญหน้ากับพวกเขาได้อย่างเท่าเทียมกันได้ มองออกได้เลยว่าพละกำลังของเขานั้นจะดูถูกไม่ได้
นายน้อยยังคงหลับตาอยู่เช่นเคย กลับเป็นสองคนที่อยู่ด้านหลังเขา หนึ่งในนั้นเอ่ยขึ้นมาน้ำเสียงราบเรียบ: “ชิงตี้ไม่ได้ถูกฆ่า ตอนนี้กำลังมา”
ทุกคนถอนหายใจอย่างโล่งอกอีกครั้ง อย่างน้อยสถานการณ์ก็ไม่ได้ย่ำแย่ถึงเพียงนี้ แถมยังอยู่ในการควบคุมของพวกเขา
หลินซิงครุ่นคิดแล้วเอ่ยถามว่า: “นายน้อย วันนี้ที่เรียกพวกเรามา คงไม่ใช่แค่เรื่องตระกูลโจวดินแดนตะวันตกหรอกใช่ไหม พวกเราจะถูกกระทำอย่างเดียวต่อไปไม่ได้แล้ว ทุกครั้งที่เดินก็ถูกพวกมันวางแผนจัดการ นี่มันไม่เป็นผลดีต่อพวกเราเลย เพราะฉะนั้นกระผมขอละลาบละล้วง นายน้อยได้โปรดชี้แจ้งด้วย พวกเราถึงจะได้มีแผนการต่อไป”
ทุกคนแสดงความเห็นด้วยตามๆ กัน พวกเขาที่ทราบนิสัยของนายน้อยอย่างลึกซึ้งก็ทราบดีว่า นายน้อยดีไปหมดทุกอย่าง เพียงแต่นิสัยใจคอผิดปกติไปเล็กน้อย มักจะระเบิดอารมณ์ในชั่วขณะอยู่เรื่อย ทว่าเขามีสิทธิ์ที่จะกระทำเช่นนี้ เนื่องจากเขาคือนายน้อย
ชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลากะพริบตาเล็กน้อย แล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงราบเรียบว่า: “จุดประสงค์ของการประชุมในวันนี้มีหนึ่งอย่าง นั่นคือแผนการรับมือกับพวกมัน ลำพังพึ่งแค่พวกเราคงไม่มีความสามารถนั้น เพราะฉะนั้นพวกเราต้องการกองกำลังเสริมนอกที่แข็งแกร่ง!”
สิ้นเสียงประโยคนี้ ทั้งห้องโถงจงรักภักดีก็ตื่นเต้นคึกคักกันขึ้นมามากขึ้น ดูเหมือนว่านายน้อยจะเตรียมการเอาไว้ตั้งนานแล้ว ตรงกันข้ามแถมยังมีกลยุทธ์รับมือแล้วด้วย
นายน้อย สมกับที่เป็นนายน้อยจริงๆ วิธีการของเขาพวกเขาไม่สามารถที่จะลอกเลียนแบบได้ เพียงจุดนี้ ตำแหน่งของเขาในใจของผู้คนนั้นก็มั่นคงไม่สามารถทำลายได้
ทว่าหลังจากที่ตื่นเต้นกันแล้ว ปัญหาที่อยู่บนความเป็นจริงก็แวบเข้ามาในหัวพวกเขา นั่นก็คือกองกำลังเสริมภายนอกคือใคร?
เป็นที่ทราบกันทั่วไปว่า เพลิงเสวนคือองค์กรเก่าแก่ นอกจากพวกเขาจากเพลิงเสวนที่มีสามัญสำนึกแล้วนั้น ผู้ใดจะสามารถช่วยเหลือพวกเขาได้?
นี่เป็นคำพูดตลกหรืออย่างไร?
ผู้คนที่อยู่ในห้องโถงจงรักภักดีมองนายน้อยด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยการตั้งตารอคอย อยากทราบจากปากของเขามากว่ากองกำลังเสริมภายนอกที่ว่านั้นคือใคร?
ทุกคนต่างก็รอคอยคำพูดต่อมาขอนายน้อยด้วยจิตใจที่เต็มไปด้วยความปรีดา ทว่าเมื่อเขาเอ่ยขึ้นมา ก็ทำให้ทั้งหมดต้องอึ้งไป เสียงดังฮือฮาขึ้นมา ปฏิกิริยาตอบสนองยิ่งใหญ่ขึ้นมาทันที!
นายน้อยเอ่ยด้วยน้ำเสียงราบเรียบ โดยไม่ลืมตาขึ้นมา: “จอมพลโผ้จวิน!”