จอมนักรบทรงเกียรติยศ - บทที่ 782 ฟางฟังโทรมาบอกว่าฟางจินหยวนกำลังป่วยหนัก
ก็ยังเป็นฟางฟังที่โทรมา!
ฟางเหยียนไม่รับสายโดยไม่ลังเล จากนั้นก็หันไปพูดกับเทียนขุยต่อ “นายพูดถึงเรื่องนี้ไหนแล้วนะ?”
“โผ้จวิน ฉันหวังว่าเราจะสังหารเสวียนเจิ้นได้ เพื่อแก้แค้นให้สหายเทียนหม่า” หลังจากที่พูดเขามองไปที่ฟางเหยียน “โผ้จวิน คนโทรมาขายบ้านอีกแล้วเหรอ? ไม่น่าใช่ เบอร์ของนายค่อนข้างจะเป็นความลับ คนขายบ้านพวกนี้ช่างเทพจริงๆ!”
ฟางเหยียนไม่อยากคิดอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้มากเกินไป เขาจึงพูดต่อ “เทียนขุย เรื่องสังหารเสวียนเจิ้นเอาไว้ก่อน สิ่งที่นายต้องทำต่อไปคือแยกรายชื่อนี้ทั้งหมด เข้าใจไหม?”
เทียนขุยค่อยๆ จดจำรายชื่อพวกนี้ พยักหน้าอย่างเคร่งขรึมและเมื่อกำลังจะพูด โทรศัพท์ของฟางเหยียนก็ดังขึ้นอีกครั้ง
“อะไรวะ คนขายบ้านพวกนี้จะเกินไปแล้วนะ ไม่รู้จบรู้สิ้นเลยใช่ไหม จะตายให้ตายกันเลยหรือไง โผ้จวิน เอาโทรศัพท์มาให้ฉันรับแทน คนพวกนี้มันต้องเจอดีสักหน่อยแล้ว!”
ไม่รอให้ฟางเหยียนได้พูดอะไร เทียนขุยก็เข้าไปแย่งโทรศัพท์ในมือของเขา อารมณ์ดุเดือดหยุดชะงัก แล้วพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาว่า “ฟางฟัง? นี่ไม่ใช่ฟางฟังจากตระกูลฟางหรอกหรือ? ทำไมเธอโทรหานาย? ต้องเป็นฟางจินหยวน ชายชราหน้าเลือดกำลังคิดแผนการอะไรไม่ดีกับนายแน่เลย ”
“เทียนขุย นายไม่ต้องสนใจเขา” สันนิษฐานว่าเป็นฟางจินหยวนให้เธอโทรมา และฟางเหยียนก็ไม่ได้ตั้งใจจะรับสายอยู่แล้ว “เทียนขุย มีอีกอย่างหนึ่งที่นายต้องทำ นั่นก็คือบอกให้สหายของเรารอบคอบมากขึ้น ฉันมักจะรู้สึกว่าเสวียนเจิ้นจะโจมตีพวกเขา”
“รับทราบ”
ถ้าเป็นเมื่อก่อนเทียนขุยคงฮึกเหิมและไม่สนใจน่าไหน โดยเฉพาะคนขององค์กรสัตว์เพลิงมาเท่าไหร่เขาจะฆ่าให้หมด ตอนนี้เขาไม่กล้าทำอะไรมาก ความแข็งแกร่งขององค์กรสัตว์เพลิงนั้นมีมากนัก และสิ่งสำคัญที่สุดคือต้องละเอียดรอบคอบ
เพิ่งพูดไปประโยคเดียว โทรศัพท์ก็ดังขึ้นอีกแล้ว!
ถ้าเป็นคนอื่นเทียนขุยอาจตะโกนด่าไปนานแล้ว แต่คนนี้คือฟางฟัง ซึ่งเป็นน้องสาวคนเดียวของเขาในบ้านตระกูลฟาง เทียนขุยส่งคืนโทรศัพท์ให้ฟางเหยียน “โผ้จวิน ถ้างั้นนายก็รับเถอะ ไม่อย่างงั้นพวกเราไม่มีสมาธิพูดคุยกันต่อไปได้จริงๆ”
ทันทีที่รับสายเสียงร้องไห้ของฟางฟังก็ดังลอยเข้ามา
“พี่เหยียน ในที่สุดพี่ก็รับสายสักที ฮือ……”
มันใช่เหรอ? แค่ไม่รับสายถึงกับร้องไห้ขนาดนี้?
ฟางเหยียนพูดเบาๆ ว่า “หยุดร้องไห้ก่อน มีเรื่องอะไร”
“พี่เหยียน คุณปู่ คุณปู่ เขาป่วยหนักและต้องการพบพี่ ฉันเกรงว่าเขาจะอยู่ได้ไม่เกินวันนี้ พี่เหยียน……”
ไม่รอให้ฟางฟังพูดจบ ฟางเหยียนก็รีบพูดแทรกทันที “ช่างดีอะไรอย่างนี้ ในที่สุดเวรกรรมก็ตามทัน นี่ไม่ใช่สิ่งที่ดีเหรอ? ฟ้ามีตา ในที่สุดก็มารับเอาคนทำความชั่วไว้มากมายไปแล้ว ฮ่าฮ่าฮ่า……”
น้ำเสียงที่เย็นยะเยือกจากโทรศัพท์ทำให้ร่างกายของฟางฟังสั่นเทา เธอลืมร้องไห้ไปชั่วขณะหนึ่ง อึ้งจนพูดอะไรไม่ออก
ฟางเหยียนพูดอย่างเงียบๆ “ฟางฟัง ช่วยไปบอกฟางจินหยวนให้พี่หน่อยนะ ว่าให้เขารีบตายไปเลย!”
ฟางเหยียนกำลังจะวางสาย ฟางฟังจึงรีบพูดว่า ” พี่เหยียน คุณปู่ต้องการพบพี่เท่านั้น เขามีเรื่องอยากจะบอกพี่เกี่ยวกับพ่อแม่ของพี่”
“มันไม่คู่ควรที่จะพูดถึงพ่อแม่ของฉัน !”
น้ำเสียงของฟางเหยียนยิ่งเย็นชาขึ้นราวกับน้ำแข็ง ทำให้ฟางฟังที่ฟังอยู่รู้สึกตัวสั่นผ่านโทรศัพท์ ไม่กล้าพูดอะไร มีเพียงเสียงคลื่นโทรศัพท์ดังเป็นระยะๆ
เสียงสะอื้นเบาๆ ของฟางฟังดังมาจากปลายสาย เสียงร้องนั้นแหบแห้งจนทำให้คนฟังรู้สึกทรมานใจ
ฟางเหยียนทนไม่ได้เล็กน้อย ฟางฟังไร้เดียงสา ดังนั้นเขาจึงพูดน้ำเสียงที่อ่อนโยนมากขึ้น “ฟางฟัง ฟางจินหยวนเขาทำร้ายตัวเอง ไม่ควรหลั่งน้ำตาให้เขา มันไม่คุ้มค่า!”
ปลายสายยังคงร้องไห้และสะอื้น “พี่เหยียน ฉันขอร้องให้พี่กลับมานะ ต่อให้คุณปู่จะผิดแค่ไหน แต่นี่เป็นความสัมพันธ์ทาง ครอบครัวที่เลือดข้นกว่าน้ำ พี่ควรมาเจอเขาเป็นครั้งสุดท้าย ได้ไหม? ครั้งก่อนที่คนของตระกูลฟางถูกสังหารอย่างโหดเหี้ยมทารุณ ปู่ได้รับความทุกข์ทรมานจากเหตุการณ์ที่น่าเศร้า ดังนั้นคุณปู่จึงป่วยหนัก เขาก็แบกมันมาจนถึงตอนนี้ เขาพูดถึงพี่ทุกคืนและหวังว่าพี่จะกลับมา แต่วันนี้เขาทนไม่ไหวแล้วจริงๆ”
“คุณปู่ไม่ได้ขอให้ฉันโทรมาหาพี่หรอกนะแต่ฉันแอบโทรหาพี่ ฉันไม่อยากเห็นคุณปู่ทุกข์ทรมานใจ เขาเจ็บปวดเหลือเกิน คุณน้าจะโทรหาพี่หลายครั้งแล้ว แต่ก็โดนคุณปู่ห้ามไว้ ตอนนี้เขาอยู่ในอาการโคม่าแล้ว กลับมาหาเขาตกลงไหมพี่เหยียน? ถือว่าเป็นความปรารถนาสุดท้ายของคุณปู่ที่จะให้เขาไปดีโดยไม่มีอะไรกังวล ได้ไหมคะ?
“พี่เหยียน คุณปู่รู้สึกว่าเขาเป็นหนี้พี่มาตลอดหลายปีที่ผ่านมา ดังนั้นเขาจึงชดเชยให้พี่ตลอดเวลา เขาพยายามอย่างหนักเพื่อที่จะชดเชยให้พี่ แต่เขารอจนถึงวันที่พี่จะให้อภัยเขาไม่ไหว คุณปู่กำลังทำอย่างนั้นจริงๆ นะพี่เหยียน ฉันเห็นทั้งหมดนี้ด้วยสองตาของฉันแล้ว ฉันขอร้องให้พี่กลับมาได้ไหม?”
“พี่เหยียน พี่กลับมาได้ไหม? ฉันขอร้องล่ะ คุณปู่รู้ว่าเขาทำผิดจริงๆ แล้วเขาไม่ควรจากไปด้วยความปรารถนาก่อนตายของเขายังไม่บรรลุผลสำเร็จ ฉันรู้ว่าความแค้นในใจของพี่ไม่สามารถลดลงได้ แต่คุณปู่กำลังจะตาย พี่ปล่อยวางความแค้นลงก่อนได้ไหม พี่เหยียน ฉันขอร้องให้พี่กลับมาได้ไหม?”
ฟางฟังรู้สึกสะเทือนใจมาก จากแค่สะอื้นไห้จนตอนนี้ร้องไห้อย่างหนัก
ฟางเหยียนพูดเบาๆ “ฟางฟัง ความแค้นมันจะปล่อยวางง่ายๆ ได้ยังไง? พี่จะปล่อยให้เขาอยู่ในความเจ็บปวดไปตลอดชีวิตแม้ว่าตายไปก็ต้องเป็นวิญญาณที่ทนทุกข์ทรมาน พี่ตัดสินใจแล้ว ดูแลสุขภาพตัวเองดีๆ ด้วยนะ”
ฟางฟังรู้ว่าฟางเหยียนกำลังจะวางสาย จึงรีบพูดว่า “พี่เหยียน คุณน้าเป็นลมเพราะเธอทนเห็นคุณปู่ในสภาพแบบนี้ไม่ไหว”
“อะไรนะ!”
เสียงบ่นพึมพำ “ฟางจินหยวนคนนี้เล่นเกมได้เก่งจริงๆ! ท้าทายขีดจำกัดของโผ้จวินครั้งแล้วครั้งเล่า ตอนนี้ไม่ตายไม่ได้แล้ว!”
ฟางฟังพยายามสงบสติอารมณ์ แต่เสียงของเธอยังคงสั่น “พี่เหยียน อย่าเพิ่งกังวลไปเลย คุณน้ายังสบายดี แค่เธออ่อนแอนิดหน่อย ตอนนี้เธออยู่เข้างๆ ฉันแล้ว ถ้าพี่ไม่เชื่อฉันลองฟังดู”
ตอนขยับโทรศัพท์ออกไปฟางฟังยังคงตัวสั่นอยู่ แม้แต่มือที่ถือโทรศัพท์ก็ยังสั่น จากปลายสายไม่มีใครรู้ว่าเธอกำลังกลัวอะไร
“คุณ คุณน้า ใช่คุณน้าหรือเปล่า?”
เสียงเบาเป็นระยะๆ มาจากปลายสาย ทันทีที่ได้ยินเสียงนี้แรงอาฆาตของฟางเหยียนก็หายไป
“โชคดีที่คุณน้าไม่เป็นอะไร ไม่อย่างนั้นฉันจะฆ่าฟางจินหยวนทันที! ฉันจะปล่อยให้ทั้งตระกูลฟางสลายไปทีละขั้นต่อหน้าต่อตาเขา”
“ค่อก…แค่ก…”
“คุณน้า อย่าเพิ่งพูดอะไรเลย”
หัวใจของฟางเหยียนแตกสลาย เขาสามารถมองข้ามฟางฟังได้ แต่เขาไม่สามารถมองข้ามฟางไห่อิงได้ ผู้หญิงคนเดียวในตระกูลฟางที่ปฏิบัติต่อเขาดีไม่มีเปลี่ยน นี่ก็เป็นส่วนหนึ่งของเหตุผลที่เขาไม่ทำลายตระกูลฟาง ฟางไห่อิงเป็นคนที่สำคัญที่สุดในชีวิตของเขา หากเธอได้รับบาดเจ็บใดๆ ฟางเหยียนจะไม่มีวันให้อภัยตัวเองตลอดชีวิต
“เสี่ยวเหยียน น้าอยากโทรหาหลานหลายครั้งแล้ว แต่ถูกคุณปู่ของหลานห้าม น้าเข้าใจความหมายของเขา เขาเป็นหนี้หลาน ทั้งชีวิตของเขาก็ไม่อาจชดใช้คืนให้หลานได้ น้าเคยคิดว่าจะไม่ให้หลานกลับมาหาเขาเป็นครั้งสุดท้าย แต่น้าคิดว่าทั้งชีวิตของเขาน่าสงสารมาก และเลือดข้นกว่าน้ำอยู่แล้ว นี่คือสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ น้าหวังว่าหลานจะกลับมาได้ น้าขอร้องได้ไหม?”
หลังจากพูดจบก็มีเสียงไออย่างรุนแรงดังจากปลาย แม้ว่าฟางไห่อิงจะขยับโทรศัพท์ออกไปไกลๆ แต่ก็ยังสามารถได้ยินไอของเธอได้ในขณะนี้
ฟางเหยียนหัวใจสลาย ในตระกูลที่ไร้ซึ่งความอบอุ่นเธอเป็นคนเดียวที่พยายามอย่างเต็มที่ที่จะปลุกคนของตระกูลฟางที่กำลังต่อสู้ให้ตื่นขึ้น แต่เธอมักจะอ่อนแอและไม่สามารถรวบรวมให้เกิดความรักใคร่กันในตระกูลได้ เธอพยายามอย่างหนักเพื่อสิ่งนี้ แต่ผลที่ได้คือพี่สะใภ้ใหญ่และพี่สะใภ้สามจ้องแต่จะทำร้ายกัน
“คุณน้า พักผ่อนเยอะๆ นะครับ”
“พี่เหยียน พี่ต้องกลับมานะ คุณน้ากับฉันรออยู่ที่บ้าน ขอร้องล่ะนะ……”
หลังจากวางสายฟางเหยียนรู้สึกคิดหนัก