จอมนักรบทรงเกียรติยศ - บทที่ 783 สี่สิบเปอร์เซ็นต์ น้อยกว่านี้ไม่ต้องมาคุยกัน
ณ เจียงตู บ้านตระกูลฟาง!
หลังจากตระกูลฟางได้ผ่านเหตุการณ์ที่ถูกทำลายจนย่อยยับ วันนี้ตระกูลฟางได้รับการปรับปรุงใหม่บนพื้นฐานเดิม ได้กลับมาเป็นคฤหาสน์ที่หรูหราอีกครั้ง แม้จะบูรณะใหม่ให้สมบูรณ์แล้ว แต่ก็ยังสามารถเห็นกำแพงพังยับเยินที่ถูกทำลายไปก่อนหน้านี้ เป็นหลักฐานว่าตระกูลฟางได้รับความเสียหายมากน้อยเพียงไหนในตอนแรก
ตระกูลฟางใช้โอกาสนี้ในการสร้างความสง่างามสูงสุดให้แก่ตระกูลฟาง ซึ่งงดงามยิ่งกว่าก่อนถูกทำลาย อำนาจที่หอมหวานมันบังคับคนให้เป็นแบบนี้ ถ้าเป็นตระกูลอื่นคงสูญสลายไปแล้ว ตระกูลฟางคือตระกูลอันดับต้นๆ ของประเทศหวา ที่สำคัญที่สุดคือมีเงิน ตราบใดที่ยังทำทุกอย่างได้ด้วยเงินก็ไม่ถือว่าเป็นปัญหาสำหรับตระกูลฟาง
ไม่สลายไปในความพินาศ แต่ผุดขึ้นมาจากกองเถ้าถ่าน!
นี่คือรากฐานความแข็งแกร่งของตระกูลฟางในฐานะตระกูลอันดับต้นๆ ของประเทศหวา!
แต่สิ่งเหล่านี้เป็นเพียงสิ่งของนอกกาย ของที่ไม่ได้ติดตัวมาตั้งแต่เกิดและตอนตายก็นำติดตัวไปไม่ได้ ไม่มีใครสามารถหนีคำว่าความตายสองคำนี้ได้!
ตระกูลฟางที่มีแต่สง่าราศีนั้นหนักหนาสาหัสมากในขณะนี้ ด้วยสีหน้าเคร่งขรึมของทุกคนและแพทย์ที่เดินเข้าออกต่างก็ส่ายหัวแล้วถอนหายใจ พวกเขาหมดหนทางในการช่วยเหลือ
ฟางจินหยวนผู้นำตระกูลฟางกำลังจะตายเพราะป่วยหนัก เขาเริ่มป่วยตั้งแต่ตระกูลโดนโจมตี ร่างกายของเขาก็ทรุดโทรมลงเรื่อยๆ พยายามประคับประคองจนถึงวันนี้ ในที่สุดเขาก็ไม่สามารถมีเรี่ยวแรงฟื้นตัวขึ้นมาได้
วันนี้คนของตระกูลฟางทั้งหมดต่างจมอยู่ในความเศร้าโศก
ข่าวฟางจินหยวนผู้นำตระกูลฟางป่วยหนักดังจนเป็นข่าวใหญ่!
ด้วยเหตุนี้ทำให้บ้านตระกูลฟางหนาแน่นไปด้วยผู้คน แต่ทุกอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อยดี ทุกคนนิ่งเงียบไม่พูดอะไรสักคำ คนเดินเข้าออกไปมา พูดไม่เกินจริงในขณะนี้บ้านตระกูลถูกล้อมรอบอย่างแน่นหนาสาหัส อย่าว่าแต่ขับรถเลย เดินยังเดินไม่ได้
คนเบียดกันมากจนเดินไม่สะดวก!
นี่คืออิทธิพลของตระกูลฟางและความรุ่งโรจน์ของตระกูลอันดับต้นๆ ของประเทศ!
บรรดาผู้ที่มานั้นล้วนเป็นนักธุรกิจคู่ค้าต่างๆ รวมทั้งข้าราชการชั้นสูงและผู้มียศถาบรรดาศักดิ์มากมาย ส่งผลให้การจราจรรอบๆบ้านตระกูลฟางกลายเป็นอัมพาตในทันที แม้จะมียามหลายคนรักษาความเป็นระเบียบเรียบร้อย แต่ผลก็คือพวกเขาไม่สามารถรักษาความเป็นระเบียบเรียบร้อยได้ ตรงกันข้ามกลับมีแต่ความโกลาหลเละเป็นโจ๊กหม้อใหญ่ ทุกคนในตระกูลฟางพยายามอย่างดีที่สุดเพื่อรักษาความเป็นระเบียบเรียบร้อย
ภายในห้องส่วนตัวของฟางฟัง มีเพียงคนสองคนเท่านั้นคือฟางไห่อิงนอนอยู่บนเตียง ในขณะที่ฟางฟังกำลังจับจ้องไปที่โทรศัพท์ด้วยท่าทางที่กังวลโดยไม่สนใจสถานการณ์ภายนอก เธอขี้เกียจที่สนใจเรื่องความเป็นระเบียบเรียบร้อย
ทันใดนั้นเธอก็มองไปที่ฟางไห่อิงแล้วลองถามอย่างไม่แน่ใจ“คุณน้าคิดว่าพี่เหยียนจะมาไหม?”
ฟางไห่อิงฝืนยิ้ม“มันไม่ใช่ว่าเขาจะมาหรือไม่มา แต่ใครบางคนจะปล่อยให้เขามาหรือเปล่า!?”
ฟางฟังนิ่งเงียบและพูดไม่ออก
เธอไม่เข้าใจสิ่งที่น้าพูดได้อย่างไร แม่ของเธอและป้าหลี่เยว่เป็นคนที่อยากเห็นฟางเหยียนมามากที่สุด!
การทะเลาะขัดแย้งกันของผู้นำตระกูลมักจะเป็นดาบคมที่จะฉีกความรักของตระกูลที่ร่ำรวย!
ภายในห้องของฟางไห่เซิง
ภรรยาของฟางไห่ถางเดินไปพูดไป “สะใภ้ใหญ่ คุณเดาได้ไม่ผิดเลย ฟางฟังได้โทรไปหาฟางเหยียนไอ้คนอกตัญญูคนนั้นจริงๆ ไม่รู้จริงๆ ว่าลูกสาวของฉันคิดอะไรอยู่ มักจะไปช่วยคนอื่นมากกว่าคนพวกเดียวกัน”
“สะใภ้สาม คุณต้องโทษที่คุณสั่งสอนลูกได้ไม่เข้มงวดพอแล้วล่ะ แม้ว่าคุณจะไม่มีลูกชาย แต่อย่าลืมว่าคุณปู่คงหวังว่าฟางเหยียนไอ้คนอกตัญญูคนนั้นจะกลับมารับตำแหน่งผู้นำตระกูลก่อนเขาตาย พวกเราต้องวางแผนร่วมมือกันทำยังไงก็ได้อย่าให้ฟางเหยียนไอ้คนอกตัญญูกลับมาได้”
“สะใภ้ใหญ่ สิ่งที่คุณพูดฉันรู้ดีอยู่แล้ว ตระกูลฟางจะมั่นคงก็ต่อเมื่อพวกเราควบคุมไว้ในมือ ฟางหยียนเป็นเพียงคนนอก คุณปู่ก็ช่างลำเอียงเกินไปจริงๆ ให้ความสำคัญแต่กับฟางเหยียนมาโดยตลอด ไม่เคยมีฟางเหมี่ยวอยู่ในสายตาเลย ยิ่งไม่ต้องพูดถึงพี่ใหญ่ฟางไห่เซิง ฉันสงสัยว่าคุณปู่ไม่เคยเอาคนในตระกูลฟางคนอื่นไว้ในใจเลย ในใจของคุณปู่ทุ่มไปที่ฟางเหยียนคนเดียวทั้งหมด”
“คุณพูดถูก ดูสิว่าคุณปู่กำลังทำอะไรในทุกวันนี้? อย่างแรกคือไม่สนใจเสียงคัดค้านของคนอื่น เขาตั้งบริษัทขนาดใหญ่ใน เมืองจินโจวที่คนทั้งตระกูลไม่สามารถเข้าไปยุ่งเกี่ยวได้ มีสิทธิ์อะไร? ฟางเหยียนไอ้คนอกตัญญูนี้ดีจัง ไม่รู้จักพระคุณคนอื่นแล้วยังคิดจะทำลายทั้งตระกูลฟางอีก เป็นหมาที่เลี้ยงเสียข้าวสุกจริงๆ!”
“สะใภ้ใหญ่ คุณอาจลืมไปว่าไอ้ลูกหมาฟางเหยียนทำให้ตระกูลฟางของเราประสบความสูญเสียอย่างหนัก ครั้งก่อนก็เกือบทำให้มีคนตาย ถ้าฟางเหยียนกลายเป็นผู้นำตระกูลจริงๆ งั้นพวกเราก็เป็นได้แค่สุนัขรับใช้ของเขาใช่ไหม? ฉันไม่อยากให้เป็นแบบนี้เลย!”
“สะใภ้สาม คุณพูดถูก พวกเราต้องตัดไฟตั้งแต่ต้นลม และหยุดฟางเหยียนไม่ให้กลับมาก่อนที่คุณปู่จะหมดลมหายใจ”
“ฉันเห็นด้วยค่ะ แต่ตอนนี้เราไม่มีใครที่ใช้การได้ ด้านนอกบ้านตระกูลฟางก็เต็มไปด้วยผู้คน ควรทำยังไงดี?”
หลี่เยว่หัวเราะอย่างเยือกเย็น “คุณอาจลืมใครบางคนไปแล้ว!!”
“ใคร?”
“ลูกสะใภ้ของฉัน ตงฟางหยุนเอ๋อร์!”
ทันทีที่เธอพูดจบ ตงฟางหยุนเอ๋อร์ก็เข้ามาทักทายภรรยาของฟางไห่ถาง “อาสะใภ้กับแม่สวัสดีค่ะ หนูได้บอกตระกูลตงฟางแล้ว พวกเขาสนับสนุนแผนของหนูอย่างที่สุดค่ะ คนของหนูเริ่มลงมือแล้วค่ะ ถ้าเจอตัวฟางเหยียนแล้วจะยิงทิ้งทันที!”
หลี่เยว่หัวเราเสียงดังลั่น เธอยิ่งรักตงฟางหยุนเอ๋อร์ลูกสะใภ้คนนี้มากเข้าไปอีก “หยุนเอ๋อร์ หนูทำสิ่งนี้ได้อย่างสวยงามมากลูก แค่ฟางเหยียนตายและคุณปู่หมดลมหายใจ ตระกูลฟางทั้งหมดจะเป็นของเรา และฟางเหมี่ยวก็จะเป็นผู้นำของตระกูลในที่สุด”
ภรรยาของฟางไห่ถางยิ้มแล้วยิ้มอีกและทันใดนั้นรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ หลี่เยว่ดูเหมือนจะเตะเธอออกจากแผนการนี้ พูดง่ายๆ ก็คือหลี่เยว่ไม่ได้ให้เธอได้รับผลประโยชน์ร่วมด้วยนั่นเอง!
“สะใภ้ใหญ่ คุณพูดแบบนี้เหมือนกับว่าฉันเป็นคนนอกเลยนะ?”
หลี่เยว่ตกตะลึงแล้วถามด้วยความสงสัย “สะใภ้สาม คุณหมายความว่าอย่างไร?”
“ใช่ ฉันสนับสนุนให้ฟางเหมี่ยวเป็นผู้นำตระกูล แต่ฉันจะได้ประโยชน์อะไรบ้าง? คุณเอาตระกูลตงฟางเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องด้วย เพราะคิดว่าฉันไม่มีประโยชน์มากพอเหรอ? พอถึงตอนนั้นคุณจะตีบหัวส่งฉันใช่ไหม สะใภ้ใหญ่ คุณอย่าลืมว่าเรามีจุดประสงค์เดียวกัน นั่นก็คือ ป้องกันไม่ให้ฟางเหยียนกลับมา สิ่งนี้ฉันเป็นคนคิด คุณอย่าลืมสิ!”
“สะใภ้สาม คุณหมายความว่ายังไง? คุณคิดว่าฉันเป็นคนอย่างนั้นจริงๆ เหรอ? สิ่งที่คุณลงทุนลงแรงอยู่ในสายตาฉันทั้งหมด เพียงแค่ฟางเหมี่ยวได้ขึ้นเป็นผู้นำตระกูล ฉันจะไม่หักหลังคุณอย่างแน่นอน คำพูดของคุณทำให้เกิดความสามัคคีเลย!”
ภรรยาของฟางไห่ถางยิ้มอย่างขมขื่น “สะใภ้ใหญ่ คุณพูดโกหกคนอื่นก็ช่างเถอะ ใครไม่รู้ความฉลาดและแผนการของคุณ ฉันไม่สน ไม่มีอะไรที่เชื่อถือได้ ให้คุณพูดถึงเรื่องตัวเลขเลยแล้วกัน หลังจากเรื่องสำเร็จแบ่งหุ้นห้าสิบเปอร์เซ็นต์ให้กับฉัน รวมทั้งบริษัทที่ตั้งอยู่ในเมืองจินโจว!”
จิตใจละโมบโลภมากจริงๆ !
หลี่เยว่หัวเราะเยาะ “สะใภ้สาม คุณหมายถึงอะไร? คิดว่าฉันเป็นคนโง่งั้นเหรอ ต้องการหุ้นห้าสิบเปอร์เซ็นต์แล้วยังต้องการ บริษัทในจินโจวอีก โลภเกินไปแล้วมั้ง!?”
“เกินไปเหรอ? ฉันคิดว่าฉันยังได้น้อยไปนะ” ภรรยาของฟางไห่ถางไม่ถือสิ่งนั้นเกินไป “เมื่อฟางเหมี่ยวได้ขึ้นเป็นผู้นำตระกูลโบยบินขึ้นไปได้สูง มีอนาคตที่สดใส ผลประโยชน์ตกมาที่คุณมากมายแน่นอน หลังจากนั้นฉันกับฟางไห่ถางจะไปให้ไกลจากเจียงตู อยู่อย่างไม่เปิดเผยตัวตนและฉันจะไม่รบกวนคุณอย่างแน่นอน”
หลี่เยว่ขมวดคิ้วแน่น
“สะใภ้ใหญ่ ต้องโทษที่ฉันขี้ระแวงเกินไปแล้วล่ะ ถึงเวลาที่ฟางเหมี่ยวขึ้นเป็นผู้นำตระกูลอันสูงส่งอยากได้อะไรก็ได้ง่ายงั้นเหรอ? อย่าเสียดายส่วนเล็กน้อยจนต้องเสียส่วนใหญ่ มันจะได้ไม่คุ้มเสีย แน่นอน คุณสามารถเลือกที่จะฆ่าปิดปากฉันแต่ก่อนที่คุณจะฆ่าฉัน ฉันจะบอกอะไรคุณ ฟางไห่ถางรู้ว่าฉันมาที่นี่ ถ้าฉันไม่ออกไปภายในครึ่งชั่วโมงแล้วเขาไปพูดอะไรดีๆ กับคุณปู่ ถึงเวลานั้นกลืนไม่เข้าคายไม่ออกก็อย่าโทษฉันเท่ากัน!”
หลี่เยว่กัดฟันแล้วพูดว่า “ถือว่าคุณเด็ดเดี่ยวมากเลยทีเดียว!”
“ต่างฝ่ายต่างก็เหมือนกันนั่นแหละ ทีแรกฉันก็ไม่อยากฉีกหน้าคุณ แต่พอคุณไปเรียกตระกูลตงฟางมาช่วย ดังนั้นฉันจึงต้องระมัดระวังสักหน่อย ยังไงซะในเมื่อคุณฆ่าฟางเหยียนได้ ก็ฆ่าฉันหลิวหลานได้เหมือนกัน!”
“หุ้นห้าสิบเปอร์เซ็นต์นั้นมากเกินไป เป็นไปไม่ได้ชั่วคราวที่ให้คุณมากมายขนาดนี้ ส่วนบริษัทที่จินโจวสามารถให้คุณได้เลย และฉันไม่คิดที่จะเอาคืนด้วย”
หลิวหลานถูกบังคับให้ถามว่า “แล้วคุณวางแผนจะทำอย่างไร?”
“หุ้นสามสิบเปอร์เซ็นต์ ฉันให้ได้มากสุดเท่านี้แล้ว เพราะฉันยังต้องแบ่งให้ตระกูลตงฟางด้วย!”
“สี่สิบเปอร์เซ็นต์! น้อยกว่านี้ไม่ต้องมาคุยกัน!”