จอมนักรบทรงเกียรติยศ - บทที่ 803 ตระกูลตงฟางที่อำมหิต
ในห้องก็มีเสียงร้องไห้ระงม มีเพียงฟางเหยียนที่มองดูเฉยๆ ด้วยสายตาเย็นชา
ผู้ร้ายที่ฆ่าพ่อแม่ของเขาได้ตายแล้ว!
แล้วจะปล่อยวางความแค้นนี้ไปได้หรือยัง?
ยัง!
ไม่ได้!
ถึงแม้จะรู้ว่าเป็นเพลิงเสวนที่บีบบังคับจนพ่อแม่ตนเองตาย แต่ฟางจินหยวนเป็นคนที่จัดการพ่อแม่ของเขาเป็นคนสุดท้าย แค้นที่ฆ่าพ่อแม่นี้ จะให้ปล่อยวางได้ง่ายๆ ได้อย่างไรกัน?
ฟางจินหยวนวางแผนมาทั้งชีวิต จนตายก็ยังวางแผนกับฟางเหยียน ฟางเหยียนมีหรือจะยอมให้เขาสมหวัง?
เขาไม่เคยเห็นตระกูลฟางอยู่ในสายตา ไม่เคยเลย!
ความเน่าเฟะแบบนี้ เขาไม่ยอมแบกรับไว้หรอก!
พอตัวตาย ก็คิดจะจบทุกอย่างงั้นหรือ?
มันจะดูไร้เดียงสาไปหน่อยหรือเปล่า!
ขวังซือส่งเสียงถอนหายใจออกมาต่ำๆ ร่างกายที่ยักษ์ใหญ่ก็สั่นเล็กน้อย แล้วหันไปมองฟางเหยียน ไม่ต้องพูดก็รู้ได้ ว่าตอนนี้เจ้าตระกูลได้ตายไปแล้ว เขาจะต้องไปติดตามฟางเหยียนได้แล้ว
ฟางเหยียนรู้ว่าเขาคิดอะไร แล้วก็มองกลับไปโดยไม่พูดอะไร
“โฮก……”
ขวังซือกลัวฟางเหยียนจะไม่รู้ความหมาย ก็เลยส่งเสียงคำรามออกมาอีกครั้ง
ฟางเหยียนไม่พูดอะไร แล้วก้มหน้าไปทางฟางไห่อิง “ป้าครับ ฟางจินหยวนได้ตายไปแล้ว ตอนนี้ป้าก็ตามผมไปที่จินโจวได้แล้วครับ”
ฟางไห่อิงร้องไห้จะเป็นจะตาย ราวกับไม่ได้ยินอะไรทั้งสิ้น เอาแต่ตกอยู่ในความโศกเศร้า
พอฟางเหยียนกำลังจะเข้าไปเตือนอีก ฟางเหมี่ยวก็หันตัวมา แล้วแกล้งกระแอม “น้องเหยียน ตอนนี้ปู่ได้ตายไปแล้ว เอ็งก็ควรจะดูแลภายในตระกูลได้แล้ว”
“อย่าแต่ผมอยากเป็นเลย ผมไม่อยากเป็นเลยด้วยซ้ำไป พี่คิดว่าผมจะแบกรับความเละเทะมันไว้งั้นหรือ?”
ฟางเหมี่ยวก็อึ้งๆ ความเละเทะงั้นหรือ? มันหมายความว่าอย่างไรกัน?
ตอนนี้ตระกูลฟางเรียกได้ว่า รุ่งเรืองขึ้นทุกวัน ได้กลายเป็นสุดยอดตระกูลของประเทศหวาแล้ว จะเรียกได้ว่า เละเทะ ได้อย่างไรกัน? ทันใดนั้น ฟางเหมี่ยวนึกถึงความเป็นไปได้ของแม่และป้าตนเอง ตระกูลฟางมีฟางจินหยวน จึงมีความสงบสุข ตอนนี้ฟางจิซักไซ้หยวนได้ตายไปแล้ว เกรงว่าตระกูลฟางที่สงบสุข คงจะไม่มีอีกแล้ว
แก่งแย่งชิงอำนาจกันคงจะมีแน่นอน!
ตระกูลเดียวกัน สิ่งที่กลัวมากที่สุดก็คือ เปลือกนอกสมานฉันท์ แต่ภายในแตกแยก!
ฟางเหมี่ยวก็คิดๆ แล้วพูดว่า “น้องเหยียน พี่เชื่อว่าพวกนั้นคงจะคิดเพื่อส่วนรวม คงจะไม่ก่อความวุ่นวายเกินไปหรอก เพราะถึงอย่างไรก็เป็นคนตระกูลเดียวกัน”
ตระกูลเดียวกันงั้นหรือ?
ฟางเหยียนหลุดส่งเสียงออกมาทางจมูก แล้วก็อยากจะหัวเราะ!
ฟางเหมี่ยวตั้งอกตั้งใจทำเพื่อคนอื่น แล้วคนในตระกูลล่ะ? ไร้เดียงสาเกินไปแล้วล่ะมั้ง!
ฟางเหยียนก็แสดงทีท่าไปตรงๆ แต่สุดท้ายก็คิดจะไม่ยุ่งกับเรื่องนี้ ฟางจินหยวนก็ได้ตายไปแล้ว แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าความแค้นของเขาจะหมดไป ต่อให้ตายไปแล้ว เขาก็ไม่อยากให้ฟางจินหยวนตายไปอย่างสงบ!
“พี่เหมี่ยว ผมพูดเท่านี้แหละ พูดมากจะผิดใจกันเปล่าๆ พี่ก็ทำตัวเองให้ดีก็แล้วกัน!”
“ป้า ไปกันเถอะครับ”
ฟางไห่อิงก็ยังไม่ขยับ ฟางเหยียนก็หมดความอดทน กำลังคิดจะใช้ไม้แข็งลากป้าออกไป ทางด้านประตูก็มีเสียงฝีเท้าเดินเข้ามาด้วยเสียงอันมั่นคง ฟางเหยียนก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย
คนตรงหน้าก็คือตงฟางหยุนเอ๋อร์ ตอนที่เธอพุ่งเข้ามานั้น ทั้งร่างก็สั่นไปเหมือนถูกฟ้าผ่า และอึ้งนิ่งไปตรงนั้น
ม่านตาขยายกว้างออกมา เห็นได้ชัดว่าตกใจมาก!
เธอเฝ้าอยู่ด้านนอกของห้องฟางจินหยวนมาตลอด เธอนั้นกตัญญูจริงหรือเปล่า? ไม่หรอก เธอได้รับข่าวจากมือสังหารณ์ ว่าเหยื่อได้หายไปแล้ว ก็แสดงว่าฟางเหยียนได้เข้ามาอยู่ในกลุ่มคนด้วย พอได้ข่าว เธอก็ตกใจมาก แต่ไม่นานก็เบาใจลงไป ฟางเหยียนมีหรือจะถูกฆ่าได้ง่ายๆ?
ดังนั้นเธอจึงรีบมาที่ด้านนอกห้องของฟางจินหยวน เพื่อที่จะมารั้งตัวฟางเหยียนไว้ เธอได้คิดข้ออ้างไว้แล้ว ยังคงเป็นการใส่ร้ายเหมือนเดิม ครั้งนี้จะต้องเล่นใหญ่หน่อย ใช่แล้ว เธอได้เตรียมเสียสละตัวเอง ให้ฟางเหยียนมองเธอเป็นตัวหลัก อาศัยคำพูดต่างๆ นานา เพื่อยื้อเวลา สุดท้ายสิ่งที่เธอต้องการเห็นก็คือ ฟางเหยียนพ่ายแพ้ทั้งกายและชื่อเสียง!
วิธีนี้มันดี แต่ความเป็นจริงมันน่าอนาถมาก!
ตอนที่เธอแอบนั่งรออยู่ด้านนอกห้องนั้น ฟางเหยียนก็ได้เข้ามาในห้องแล้ว!
ดูเหมือนว่า เธอจะมารอนานแล้ว!
ไม่มีใครรู้ความคิดที่แปรเปลี่ยนไปของตงฟางหยุนเอ๋อร์ แม้แต่เธอเองก็ยังอึ้งๆ !
แล้วฟางเหมี่ยวก็มาทำลายบรรยากาศที่กร่อยๆ นั้นไป พร้อมพูดด้วยน้ำเสียงเศร้าๆ ว่า “หยุนเอ๋อร์ ปู่ตายแล้วนะ!”
ตงฟางหยุนเอ๋อร์ถึงจะตั้งสติกลับมาได้ ต้องบอกเลยว่า เธอนั้นเป็น “นักแสดง” ที่เยี่ยมมาก น้ำตานี่ไหลออกมาตลอด ทิ้งความตกใจเมื่อครู่ไปจนหมดสิ้น แล้วก็ฟุบลงไปที่ตรงหน้าของฟางจินหยวนทันที ร้องไห้น้ำตานอง ร้องจวนจะขาดใจ แม้แต่ญาติๆ ที่เข้ามาทีหลัง ต่างก็ชื่นชมขึ้นในใจ ว่าตงฟางหยุนเอ๋อร์เป็นเด็กดี!
แต่ตอนที่ทุกคนมองไปยังฟางเหยียนที่มีใบหน้าเย็นชานั้น รอยยิ้มก็ไม่เป็นธรรมชาติขึ้นมาทันที!
ฟางเหยียนเป็นเหมือนเงามืดที่อยู่ในใจลึกๆ ของพวกเขา จะบอกว่าไม่มีก็คงจะหลอกตัวเอง!
บรรยากาศในห้องตึงเครียดมาก นอกจากความโศกเศร้าที่ปกคลุมในของทุกคนแล้วนั้น ก็ยังมีฟางเหยียนที่เป็นเหมือนภูเขาลูกใหญ่ที่ทับลงกลางใจของพวกเขาอีก ทำให้พวกเขาหายใจลำบาก ราวกับกำลังจะฆ่าพวกเขาทั้งเป็น
นอกจากเสียงร้องไห้ของญาติฝ่ายหญิงแล้ว ทั้งห้องก็กลายเป็นความเคร่งขรึมอย่างผิดปกติ!
ไม่นาน ข่าวที่ฟางจินหยวนตายก็แพร่ออกไป ตระกูลฟางก็ได้จัดงานศพ เพื่อให้แขกเข้ามาแสดงความเสียใจ
ญาติๆ ทุกคนก็มากันพร้อมหน้า แต่ไม่เห็นสองสามีภรรยาฟางไห่เซิง และภรรยาของฟางไห่ถาง
ตงฟางหยุนเอ๋อร์นั่งคุกเข่าขอบคุณแขกที่เข้ามาแสดงความเสียใจ ในใจก็กังวลไม่เป็นสุข ถึงแม้ฟางเหยียนจะไม่อยู่ที่ห้องโถงงานศพด้วย แต่ก็มั่นใจไม่ได้ว่าฟางเหยียนจะบอกฟางเหมี่ยวไปหรือยัง ถ้าแผนหลุดออกไป ตงฟางหยุนเอ๋อร์ก็คงจะรอดไปได้ยาก
ตอนกำลังคิดอยู่นั้น ฟางเหมี่ยวที่คุกเข่าอยู่ข้างๆ ก็เอ่ยปากขึ้นมาว่า “หยุนเอ๋อร์ ทำไมไม่เห็นพ่อแม่เลยล่ะ? แล้วก็อาสามกับป้าสามด้วย พวกเขาหายไปไหนกัน?”
ตงฟางหยุนเอ๋อร์ก็คิดๆ แล้วพูดว่า “บางทีพ่อแม่แล้วก็อากับป้าคงจะออกไปรับแขกด้านนอกล่ะมั้ง แขกที่มางานศพมีเยอะมาก บวกกับชื่อเสียงของปู่สมัยก่อน คงจะมีคนมาไม่น้อย พวกเราก็เป็นแค่ผู้น้อย คงจะต้อนรับได้ไม่ดี”
คำพูดของตงฟางหยุนเอ๋อร์มีเหตุมีผล แต่ฟางเหมี่ยวรู้สึกว่ามีอะไรแปลกๆ ปู่ก็เสียไปทั้งที แต่ที่ห้องโถงหลักของงานกลับไม่มีผู้อาวุโสมาเป็นประธานเลย มันเหมือนจะไม่สมเหตุสมผล แต่พอนึกดู ที่ตงฟางหยุนเอ๋อร์พูดมาก็ไม่ผิด แล้วเขาก็ไม่ได้ซักไซ้อะไรเพิ่ม
พอฟางฟังตื่นขึ้นมา แล้วได้ยินตระกูลฟางเปิดเพลงงานศพ ก็รีบไปยังห้องโถงงานศพทันที แต่กลับถูกคนมาขวางไว้ พอรู้ว่าเป็นใคร เธอก็ร้องไห้น้ำตานอง แล้วก็ฟุบลงไปที่อกของเขา สะอื้นไห้พูดว่า “พี่เหยียน หนูเสียปู่ไปแล้ว!”
ฟางเหยียนก็พูดเสียงต่ำว่า “ฟางฟัง แกตามพี่มา”
“ระวังพี่สะใภ้ของแกให้ดี” ฟางเหยียนคิดๆ แล้วก็อยากจะเอาเรื่องนี้บอกกับฟางฟัง ส่วนฟางไห่อิง เขาก็จะเอาตัวกลับไปจินโจวด้วยแน่ ฟางฟังคงจะไม่ไปด้วยแน่ เขาไม่อยากให้น้องสาวตนเองถูกรังแก ถือว่าเป็นการฉีดวัคซีนต้านภัยร้ายให้เธอก็แล้วกัน
ฟางฟังสะอื้นถามว่า “พี่สะใภ้ดีกับหนูมาก จะต้องอะไรวังอะไรล่ะ?”
“ระวังตัวไว้หน่อยก็ดีเหมือนกัน ไม่นานพี่ก็จะพาป้ากลับไปยังจินโจว แกต้องระวังตัวเองหน่อยนะ”
ฟางฟังก็อึ้งๆ “พี่เหยียนคะ พี่คิดจะตัดขาดจากตระกูลฟางจริงๆ ใช่ไหม?”
“เอาเถอะ สิ่งที่ควรพูด พี่ก็ได้พูดหมดแล้ว”
“พี่ พี่เหยียน…….”
ฟางเหยียนหันหลัง แล้วหายไปในฝูงชน
เทียนขุยหาตัวเขาพบ “จอมพลครับ มือปืนทั้งหมดถูกจัดการหมดแล้วครับ คุณลองเดาสิว่าผมยังเจออะไรอีก?”
พอเห็นฟางเหยียนนิ่ง เทียนขุยก็รีบพูดต่อขึ้นมาทันที “เจอระเบิดครับ เป็นระเบิดที่ฝังอยู่ใต้เขตบ้านตระกูลฟาง เพื่อความปลอดภัยของจอมพล ผมได้กู้ระเบิดไปหมดแล้ว”
ดูเหมือนว่าตระกูลตงฟางจะใช้ทุกวิถีทางจริงๆ แต่ละแผนๆ ต่อเนื่องเชื่อมต่อกันหมด เพื่อที่จะหยุดผมไม่ให้เข้ามารับตำแหน่งเจ้าตระกูล ถึงขั้นยอมเจ็บตัวไปด้วย!
ดี ดีมาก!
“อ๋อแล้วก็ จอมพลครับ จะให้ผมพาคนไปกวาดล้างตระกูลตงฟางเลยไหมครับ บังอาจกล้ามาลอบฆ่าจอมพล มันกล้าไปหน่อยหรือเปล่า!”
ฟางเหยียนส่ายหัวเบาๆ “ไม่ต้องถึงขั้นกวาดล้างหรอก แต่ก็ต้องมีการสั่งสอนกันเสียหน่อย!พวกตัวตลกเท่านั้นแหละ ไม่ต้องไปสนใจ”
“เออ เทียนขุย คนของเพลิงเสวนมีการเคลื่นไหวอะไรไหม?”
เทียนขุยตั้งใจตอบว่า “เรียนจอมพล ตอนนี้ยังไม่มีการเคลื่อนไหวครับ วางใจได้เลย ถ้ามีปัญหาอะไรล่ะก็ เสวียนเย่จะบอกพวกเราก่อนทันทีครับ”
“ดีก็ถือว่าดี เพียงแต่ผมรู้สึกว่ามันมีอะไรผิดปกติ มักรู้สึกไม่สบายใจ และรู้สึกสังหรณ์ใจไม่ค่อยดี!”