จอมนักรบทรงเกียรติยศ - บทที่ 817 จางไห่เฟิงที่บ้าคลั่ง
เสียงกรีดร้องทั้งสองเสียงดังขึ้นพร้อมกัน!
จางไห่เฟิงสูดหายใจเข้า ปากขยับยิ้มเย็นชา “เลือดสดๆที่หายไปนาน กลิ่นที่คุ้นเคย ครอบครองชีวิตและความตายของคนอื่น รู้สึกไม่เลวเลยจริงๆ!”
“จางไห่เฟิง!”
เพี๊ยะ!
จางไห่เฟิงฟาดมือหน้าเธอหนึ่งที
“เย่ชิงหยู่ อย่าใจร้อนสิ เรื่องสนุกยังอยู่ด้านหลัง อย่าหาเรื่องตายขนาดนี้ ระวังเดี๋ยวกูทนไม่ไหว แล้วฆ่ามึงทิ้ง!” พูดแล้วจางไห่เฟิงก็ก้มหัวลง มองเย่ชิงหยู่ “สิ้นหวังมากเลยใช่มั้ย? ทำอะไรไม่ได้ใช่มั้ยละ ทำอะไรไม่ถูกเลยใช่มั้ย? รู้สึกถึงความสิ้นหวังในตอนนั้นของฉันรึยัง?”
หยางเซินเซินเจ็บจนสลบไปแล้ว เย่ชิงหยู่ไม่ให้ตัวเองร้องไห้ออกเสียง คลานไปที่ตรงหน้าของหยางเซินเซิน กอดเธอไว้ในอ้อมกอด “เซินเซิน ฉันขอโทษ ขอโทษ….”
“ไม่สิ้นหวัง? ไม่พอสินะ!” จางไห่เฟิงพูดด้วยรอยยิ้มชั่วร้าย จากนั้นก็ส่งสายตาให้หลิวเฟิน หลินเฟินพยักหน้า
น้ำกะละมังหนึ่งสาดลงไป หยางเซินเซินตื่นขึ้นมาอีกครั้ง เธอที่เจ็บปวดอย่างมากพยายามอุดปากตัวเองไว้ ไม่ให้ตัวเองส่งเสียงร้องไห้ออกมา ร่างกายยิ่งสั่นกระตุกอย่างห้ามไม่อยู่ กระตุกจนทำเอาผู้คนสงสาร
“เซินเซิน ฉันขอโทษเธอนะ ฉันควรจะฟังเธอแต่แรก ไม่ควรไปเจอพวกเขา ฉันผิดไปแล้ว เซินเซิน”
หยางเซินเซินร้องไห้อย่างหนัก ส่ายหัวเล็กน้อย
จางไห่เฟิงเพลิดเพลินมาก “เซินเซินใช่มั้ย? นี่คือคนที่เธอเลือกจะตาม? ที่เธอมีวันนี้ก็เพราะหล่อนทั้งนั้น จนตอนนี้เธอยังดูธาตุแท้ของหล่อนไม่ออกอีกงั้นหรอ? ทำไมเธอมันต่ำตมขนาดนี้? ยังจะเป็นห่วงความรู้สึกของหล่อนอีกงั้นหรอ? สถุนจริงๆ! ถุย!”
เย่ชิงหยู่เข้าใจในทันที จางไห่เฟิงต้องการให้เธอรู้สึกหวาดกลัวมาจากก้นลึกหัวใจ ดังนั้นจึงได้ลงมือกับหยางเซินเซิน ถ้าหากว่าลงมือกับตัวเธอ ก็จะไม่ได้ผลลัพธ์ที่ทรมานจิตใจคน ส่วนการให้คนรอบตัวรับความเจ็บปวด ก็จะทำให้เธอมีความรู้สึกผิดโทษตัวเอง และได้ผลลัพธ์ตามที่จางไห่เฟิงต้องการมากกว่า!
จางไห่เฟิงเขาต้องการให้เย่ชิงหยู่อยู่ในจุดที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก ตีนถีบปากกัด ให้เย่ชิงหยู่เธออยู่ในจุดที่โหดร้ายน่ารังเกียจ!
จางไห่เฟิงช่างโหดร้ายจริงๆ!
เดิมทีเธออยากจะปล่อยไปไม่สนใจ แต่เธอไม่ใจแข็งพอที่จะทำ
ทำตามความต้องการของจางไห่เฟิง แล้วยังไง?
“จางไห่เฟิง นายไม่ต้องมาทำให้ฉันขยะแขยง ยังมีอะไรอีกก็ปล่อยตามมาให้หมดเถอะ!”
จางไห่เฟิงยิ้ม “เริ่มแรกคุณปู่ก็เอาแต่พูดว่าเย่ชิงหยู่คนนอกนั่นฉลาดหลักแหลก ฉลาดเกินคน ฉันยังไม่พอใจ ตอนนี้ฉันรู้แล้ว มองสิ่งที่ฉันต้องการออกเร็วขนาดนี้ นอกจากให้เธอรู้สึกสิ้นหวังแล้วฉันยังต้องการให้เธอรู้สึกผิดโทษตัวเองด้วย แต่ว่าคิดไม่ถึงเลย เย่ชิงหยู่ที่สูงส่ง มีช่วงเวลาที่ยอมแพ้ด้วยหรอ?”
“เธอรู้มั้ย ท่าทีที่เธอยอมแพ้นี่เหมือนหมาจริงๆ ไม่สิ บอกว่าเหมือนหมาก็เป็นมลทินมัน เพราะว่ามันซื่อสัตย์มากกว่าเธอ ดูสถานการณ์ออกมากกว่าเธอ ดูแล้วถ้าอยากจะทำลายเธอ เหมือนว่าจะยังไม่หนักมากพอ จุดนี้ฉันงกมากไปหน่อย ขอโทษด้วยละ!”
เย่ชิงหยู่คิ้วขมวดเล็กน้อย ใจกระตุก ลางสังหรณ์ที่ไม่ดีเพิ่มมากขึ้นในทันใด!
เห็นเพียงว่าจางไห่เฟิงเคลื่อนรถเข็น เข้าใกล้หยางเซินเซิน พูดอย่างเยาะเย้ยว่า “เซินเซินนะเซินเซิน ชื่อที่ไพเราะขนาดนี้ หญิงสาวที่สวยงามขนาดนี้ เต็มใจที่จะอดทนเจ็บปวดเพื่อเย่ชิงหยู่เนี่ย นะ? แต่ว่าฉันอยากจะถามเธอมากเลยว่า จะยอมไปตายเพื่อเย่ชิงหยู่มั้ยนะ?”
“จางไห่เฟิง มีอะไรก็มาลงที่ฉัน อย่าลงมือกับเซินเซิน ฉันไม่สนิทกับหล่อนเลยสักนิด ฉันข่มขู่ครอบครัวของหล่อน หล่อนถึงได้ตกลงมาเป็นเลขาของฉัน”
เมื่อได้ฟังประโยคนี้ จางไห่เฟิงก็ยิ้ม
“เย่ชิงหยู่ เธอมาเล่นตลกงั้นหรอ? ใจเสาะแบบเธอเนี่ยนะยังกล้าข่มขู่ครอบครัวหล่อน บังคับให้มาเป็นเลขาของเธอ? เธอโง่หรือฉันโง่? ขอความเมตตาก็ไม่รู้จักเปลี่ยนประโยคหน่อยรึไง? เธอเข้าใจความหมายของคำว่าข่มขู่งั้นหรอ?”
“จางไห่เฟิง หล่อนก็เป็นเพียงคนๆหนึ่งที่ไม่เกี่ยวข้อง นายอยากจะทำยังไงกับฉันฉันก็ทน แต่ว่าขอร้องนายปล่อยเธอไปเถอะนะ? เธอไม่เกี่ยวข้องอะไรกับเรื่องนี้เลยสักนิด ได้โปรด?”
จางไห่เฟิงยิ้มชั่วร้าย “เดิมทีรู้แค่ว่าเย่ชิงหยู่หยิ่งยโส ไม่คิดเลยว่าวันนี้ฉันเพิ่งได้รู้ว่าเย่ชิงหยู่ขอร้องอ้อนวอนคนอื่นก็ลื่นไหลขนาดนี้ แค่อ้าปากก็มาเลย?”
สามารถใช้ศักดิ์ศรีแลกกับชีวิตของหยางเซินเซิน เธอยินดีที่จะปล่อยวางทุกอย่าง
“เคยมีคนพูดว่า ความแค้นไม่ใช่การฆ่าศัตรูทิ้ง แบบนั้นไม่ได้รับความเพลิดเพลินจากการแก้แค้น แต่ต้องให้มันเดินเข้าสู่ความสิ้นหวังทีละก้าว แบบนั้นถึงจะทำให้ศัตรูลำบากใจอย่างหนัก และฉันเองก็คิดไว้ว่าจะให้เธอลิ้มลองความรู้สึกแบบนั้น ให้เธอได้รู้สึกถึงความเจ็บปวดในตอนนั้นของฉัน เข้าใจมั้ย?”
พูดถึงนี่ จางไห่เฟิงก็หัวเราะได้ยิ่งบ้าคลั่งกว่าเดิม
“ใครบอกให้เธอเข้มแข็งขนาดนี้กันละ? นานขนาดนี้ก็ยังไม่สามารถทำให้เธอรู้สึกสิ้นหวังได้ ฉันดูถูกความอดทนของเธอไปจริงๆ แต่ว่าฉันไม่คิดที่จะเสียเวลาแล้ว เพราะว่าฉันยังมีเรื่องอื่นต้องทำ ก่อนที่เรื่องนั้นจะทำสำเร็จ ฉันจะให้เธอได้รู้ว่า อะไรที่เรียกว่าความสิ้นหวังสุดท้าย!”
เรื่องนั้น?
เย่ชิงหยู่สมองไว จับประเด็นหลักในคำพูดของจางไห่เฟิงได้ในทันที!
เย่ชิงหยู่ยิ้มเยาะพูดว่า “เรื่องอะไร?”
“สำหรับผู้หญิงที่จิตใจเข้มแข็งแบบเธอ ฆ่าเธอก็คงไม่สามารถทำให้เธอรู้สึกสิ้นหวังได้ แน่นอน รวมทั้งฆ่าแม่ของเธอด้วย เธอก็ไม่มีทางรู้สึกสิ้นหวัง เพราะว่าผู้หญิงอย่างเธอมั่นใจในตัวเองมากเกินไป ปกป้องตัวเองได้อย่างดีมาก แต่เมื่อมีวันหนึ่ง มีผู้ชายคนหนึ่งเดินเข้ามาในชีวิตของเธอ เธอยังจะป้องกันตัวเองอยู่มั้ย?”
ผู้ชาย ฟางเหยียน!
เธอเชื่อมต่อถึงอะไรบางอย่างได้ในทันที จางไห่เฟิงเขานอกจากจะอยากฆ่าเธอแล้วยังอยากฆ่าฟางเหยียนด้วย!
“เป็นไปตามที่ฉันคิดไว้จริงๆด้วย ไม่ต้องเก็บซ่อนความกังวลบนใบหน้าของเธอหรอก เธอวางใจได้ ฉันจะให้เธอได้เห็นเองว่าอะไรที่เรียกว่าความสิ้นหวังที่เจ็บปวดทรมาน!”
พูดแล้วจางไห่เฟิงก็ยิ้มอย่างโหดร้าย “ตอนนี้ ฉันให้เธอรู้สึกสิ้นหวังก่อนสักนิดหน่อย ไม่สิ น่าจะบอกว่าให้เธออยู่ในจุดที่รู้สึกผิดโทษตัวเอง เอาละ เธอชอบทำตัวสถุลขนาดนี้ งั้นก็ให้ฉันส่งเธอลงไปทำตัวสถุลต่อไปก็แล้วกัน!”
สิ่งที่ขาดเดาไว้กับสิ่งที่จางไห่เฟิงพูดมาเองกับปากมันคนละเรื่องกัน
เธอคิดที่จะห้าม แต่พบว่าความเร็วนั้นช้าเกินไป รู้สึกเพียงภาพตรงหน้าเบลอไป แล้วหัวของหยางเซินเซินก็แบนลงไปแล้ว!
เธอไม่ทันที่จะรู้สึกเจ็บปวด และยิ่งลืมที่จะร้องไห้ ในใจรู้สึกปวดร้าวอย่างมาก
สิ่งที่ยิ่งทำให้เธอคาดไม่ถึงก็คือ นอกจากจางไห่เฟิงจะเปลี่ยนเป็นคนมากอุบายแล้ว เหมือนว่าจะเปลี่ยนไปต่างจากเมื่อก่อน เหมือนว่าจะกลายเป็นเหมือนกับคนอย่างฟางเหยียนแล้ว เพราะว่าในตอนที่เขาฆ่าหยางเซินเซิน ยังนั่งอยู่บนรถเข็นอยู่เลย!
นินจา!
จางไห่เฟิงกลายเป็นนินจาไปแล้ว!
หลายเดือนที่เขาหายไปมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?
เดิมทีเธอไม่เป็นห่วงความปลอดภัยของฟางเหยียนเลยสักนิด แต่ว่าในตอนนี้ เธอเริ่มรู้สึกกังวลขึ้นมาแล้ว!
“เย่ชิงหยู่ เห็นฉันในตอนนี้ รู้สึกแปลกหน้ามากเลยใช่มั้ย? วางใจได้ ฉันจะทำให้เธอยิ่งรู้สึกแปลกกว่านี้อีก เพียงแค่ฆ่าฟางเหยียนทิ้ง ฉันก็จะสนองให้เธอ ให้เธอได้ลิ้มรสความเจ็บปวดที่ฉันได้รับ!” พูดแล้วจางไห่เฟิงก็ยกโทรศัพท์ขึ้น ยิ้มเยาะพูดว่า “ตอนนี้ถึงจะเป็นการเริ่มต้นของเรื่องสนุก!”
เย่ชิงหยู่เข้าใจแล้ว เขาจะโทรหาฟางเหยียน
“จางไห่เฟิง นายคิดว่าฟางเหยียนจะมาจริงๆงั้นหรอ? เขาจะหย่ากับฉันแล้ว เพราะว่า ฉันนอกใจเขา!”
“ฮ่าๆๆ…..” จางไห่เฟิงหัวเราะอย่างมีความสุขมาก “เย่ชิงหยู่ พูดจริงนะ ความสามารถในการเรียนรู้ของเธอนี่ทำให้ฉันประหลาดใจจริงๆ ฉันขอเก็บคำพูดเมื่อกี้ที่บอกว่าเธอใสซื่อคืนมา ไม่คิดเลยว่าเธอจะเรียนรู้แล้วใช้เลย แม้แต่เรื่องนอกใจแบบนี้เธอยังเอาออกมาพูด ช่างน่าสนุกจริงๆ!”
“งั้นเย่ชิงหยู่ พวกเรามาพนันกันหน่อยมั้ยละ? เธอว่าฟางเหยียนรับหรือไม่รับสาย?”
ไม่รอให้เย่ชิงหยู่มีปฏิกิริยาตอบรับอะไร เขาก็โทรออกหาฟางเหยียนแล้ว
เย่ชิงหยู่ภาวนาอยู่ในใจ ว่าฟางเหยียนอย่าได้รับสายเด็ดขาด อย่ารับเด็ดขาด!
แต่!
สุดท้ายเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นแล้ว
ในสายโทรศัพท์ส่งเสียงคุ้นเคยของฟางเหยียนดังออกมา “ชิงหยู่ มีอะไรหรอ?”
จางไห่เฟิงไม่ส่งเสียง ปากยกยิ้มได้ใจ ความหมายมันไม่ต้องพูดก็เข้าใจดี เย่ชิงหยู่เองก็พยายามไม่ให้ตัวเองส่งเสียงออกไป เพียงเพราะอยากจะให้ฟางเหยียนคิดว่าตัวเองไม่ระวังและกดผิดเท่านั้น แบบนี้ก็จะเป็นการช่วยฟางเหยียนยื้อเวลาชีวิตได้สักหน่อย
“ชิงหยู่ ทำไมไม่พูดละ? เธอเป็นอะไรกันแน่?”
จางไห่เฟิงยกโทรศัพท์ขึ้นอย่างได้ใจ ความหมายของมันนั้นไม่ต้องพูดก็รู้ดี เย่ชิงหยู่แพ้พนันแล้ว!
ในสายโทรศัพท์ส่งเสียงถามออกมาด้วยน้ำเสียงที่กังวลมากขึ้น เย่ชิงหยู่น้ำตารินไหล แต่กลับพยายามปิดปากตัวเองไว้ ไม่ให้ตัวเองส่งเสียงดังออกไปแม้แต่นิดเดียว!