จอมนักรบทรงเกียรติยศ - บทที่ 819 อยู่รอดก็ไม่ได้ ตายก็ไม่ได้
แม้ว่าคนๆนั้นจะไม่ใช่จางเจียวเจียว แต่การกระทำของคนๆนั้นที่จับตัวเย่ชิงหยู่ไป เรียกได้ว่าเห็นชีวิตคนเป็นของเล่น ความหมายไม่ต้องพูดก็รู้ เขาอยากใช้การฆ่าหยางเซินเซินมาเป็นการเชือดไก่ให้ลิงดู ให้เย่ชิงหยู่รู้ถึงผลลัพธ์การเป็นศัตรูกับเขา!
ฟางเหยียนมีศัตรูมั้ย?
มีแน่นอนอยู่แล้ว นั่นก็คือองค์กรสัตว์เพลิง! แต่เย่ชิงหยู่ไม่ได้มีศัตรูเป็นองค์กรสัตว์เพลิง คนๆนี้น่าจะไม่ใช่คนขององค์กรสัตว์เพลิง!
หลัวเทียนเยว่ร้องไห้เสียงเบาออกมา ขัดจังหวะเขา เขาจึงนึกขึ้นได้ว่า ยังมีคนที่รอตายอยู่!
“หลัวเทียนเยว่ เรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับนายมาก นายไม่จำเป็นต้องกระโดดตึก”
ปลายสายเงียบไปนาน ถามออกไปอย่างไม่มั่นใจว่า “คุณชายฟาง? คุณพูดจริงหรอครับ?”
“ถ้าหากว่าไม่ได้รับสายจากนาย ฉันอาจจะโกรธนาย แต่หลังจากที่ได้รับสายนาย ฉันก็เปลี่ยนความคิดแล้ว คนฉลาดต่างก็ดูออกว่าการจับตัวเย่ชิงหยู่ไปนั้นเป็นเรื่องจริง แล้วรวดแก้แค้นนายไปด้วยก็เท่านั้น ไม่อย่างนั้นทำไมเขาจะต้องทำให้มันมาเกี่ยวกับนายด้วยละ”
“คุณชายฟางครับ คุณนี่ฉลาดเกินคนจริงๆ ปัญหายากที่รบกวนผมมาทั้งคืนคุณสามารถดูออกได้ภายในพริบตา ดูท่าแล้วผมจะยังอ่อนประสบการณ์เกินไป”
“นายเองก็ไม่ต้องมาประจบแล้ว ความหมายในประโยคคำพูดของนาย คือเย่ชิงหยู่ถูกจับตัวไปตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว?”
“ใช่ครับ คุณชายฟาง เมื่อคืนประธานแย่และเลขามาคุยธุรกิจที่โรงแรมเทียนเยว่ของผม จากนั้นก็หายตัวไป ผมเองก็ได้รับสายมาจากผู้จัดการ แล้วรีบเร่งกลับมาจากเจียงตู แล้วก็ได้แจ้งไปทางตระกูลจางด้วย พวกเขาเองก็ให้คนช่วยผมหามาทั้งคืน แต่ก็ไม่พบประธานเย่ เนื่องจากผมทำให้คุณผิดหวังต่อความเชื่อใจและการฝึกฝน ดังนั้นผมจึงคิดจะใช้การตายมาทดแทนความผิด รบกวนคุณได้โปรดเมตตา ปล่อยครอบครัวผมไปด้วยครับ”
“พอแล้ว หลัวเทียนเยว่ เรื่องนี้เกิดขึ้นเพราะฉัน นายไม่จำเป็นต้องโทษตัวเอง ฉันจะไปถึงจินโจวเดี๋ยวนี้”
พูดจบ ฟางเหยียนก็ตัดสายทิ้ง
“ไปจินโจว!”
เฮลิคอปเตอร์ลำหนึ่งบินลงจอด และไม่นานก็มุ่งหน้าสู่จินโจว!
หลัวเทียนเยว่ที่วางสายไปแล้วก็สบายใจขึ้นในทันที และมองดูถนนที่ครึกครื้นอย่างใจสั่น ถ้าไม่ใช่เพราะสายนี้ เขาคงจะตายไปแล้ว ตายอย่างไร้ความยุติธรรม!
เมื่อกลับเข้าในโรงแรม เขาถึงรู้ว่าแผ่นหลังนั้นเปียกไปหมดแล้ว
“พ่อครับ พ่อไปไหนมา? ทำไมหาพ่อไปทั่วก็หาไม่เจอเลย?”
หลัวเทียนเยว่พยายามยิ้มออกมา และพูดอย่างผู้รอดชีวิตว่า “ไปกระโดดตึกมา!”
ลูกชายของเขา “…..”
ดูออกว่าท่าทางของพ่อตัวเองแบบนี้ไม่เหมือนกับว่าล้อเล่น เขาเก็บสีหน้ายิ้มแย้ม แล้วพูดอย่างจริงจังว่า “พ่อครับ พ่อคงไม่ได้ไปกระโดดตึกจริงๆหรอกใช่มั้ยครับ?”
“เดี๋ยวคุณชายฟางจะมาที่จินโจว ปัญหาที่กวนใจพวกเรา ก็จะแก้ไขไปจนหมดสิ้น”
“ปัญหาอะไรที่กวนใจเราครับ?”
หลัวเทียนเยว่อยากจะตบลูกชายตัวเองตายในฝ่ามือเดียวจริงๆเลย พูดอย่างไม่สบอารมณ์ต่อความไม่เอาถ่านของลูกชายว่า “เพิ่งจะผ่านมาไม่กี่ชั่วโมง แกก็ลืมไปแล้ว?”
“อ้อ พ่อครับ ไม่ใช่ว่าผมพูดมากนะ แต่เรื่องนี้เดิมทีก็ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับโรงแรมเทียนเยว่ของเรามากอยู่แล้ว พวกเราทั้งใช้กำลังคนกำลังสิ่งของและแม้กระทั่งกำลังทรัพย์ เพื่อตามหาประธานเย่ สิ่งที่ควรทำพวกเราก็ทำกันแล้ว แม้แต่ตระกูลจางเองก็ส่งคนออกตามหาแล้ว แล้วยังใช้จางซื่อตงจางซื่อข่ายสองพี่น้องด้วย ตามหลักแล้วพวกเราทำได้ดีแล้วครับ”
“ไอ้สารเลว!” หลัวเทียนเยว่เหวี่ยงฝ่ามือออกไปทีหนึ่ง ฝ่ามือนี้ สุดท้ายเขาก็ตบออกไป!
“พ่อครับ ทำไมพ่อต้องตบผมด้วย หรือผมพูดผิดตรงไหนกัน?” ลูกชายของเขาพูดและกุมใบหน้าไว้ครึ่งหนึ่ง
“อายุยี่สิบเจ็ดแปดเหมือนกัน ทำไมถึงได้แตกต่างกันมากขนาดนี้? ถ้าหากว่าไม่มีคุณชายฟาง แกคิดว่าบ้านเราจะสามารถมีวันนี้ได้งั้นหรอ? ฉันเองก็ไม่กลัวว่าจะเป็นการทำร้ายจิตใจแก ฉันพูดกับแกตามจริงแล้วกัน คุณชายฟางไม่เพียงแต่เป็นคุณชายของตระกูลฟางเศรษฐีแห่งเจียงตู แต่เขายังเป็นเทพสงครามผู้รุ่งโรจน์แห่งประเทศหวาของเรา จอมพลโผ้จวินผู้ไม่พ่ายแพ้!”
“อะไรนะ!” ปากของลูกชายเขาแทบจะสามารถใส่ไข่เข้าไปได้ฟองหนึ่งแล้ว ตกใจจนใบหน้าเกร็งไปหมด!
ในที่สุดตอนนี้ใจเขาก็สมดุลแล้ว เขาเข้าใจแล้วว่าทำไมประธานเย่หายตัวไป พ่อของเขาถึงได้ตกใจขนาดนี้ ที่จริงแล้วไม่เพียงแค่ครั้งเดียวที่เขาเคยคิดว่า ถึงแม้จะเป็นตัวเขาเองที่หายตัวไป พ่อของตัวเองก็คงไม่ใส่ใจขนาดนี้หรอกมั้ง? ในที่สุดเขาก็เข้าใจแล้ว ว่าอะไรที่เรียกว่าเมตตากรุณา ถ้าหากจอมพลโผ้จวินกล่าวโทษขึ้นมา อย่าว่าแต่พ่อของเขาเลย แม้แต่ทั้งตระกูลหลัวคงจะไม่มีผลดีอะไร!
ฝ่ามือนี้โดนได้คุ้ม!
อย่าว่าแต่ฝ่ามือเดียวเลย แม้แต่ถูกตีอย่างหนัก เขาเองก็สมควร!
ตอนนี้เขาเพิ่งเข้าใจ ว่าทำไมพ่อของตัวเองถึงบอกว่าจะกระโดดตึกแล้ว เขาอยากจะเสียสละตัวเองเพื่อรักษาทั้งตระกูลหลัวไว้
“พ่อครับ งั้นผมจะไปตามหาต่อเดี๋ยวนี้แหละครับ”
“ไม่ต้องแล้ว แกเข้าใจก็ดีแล้ว ฐานะของประธานเย่ไม่เพียงแต่เป็นคนของตระกูลจาง ฐานะของเธอสูงศักดิ์อย่างมาก เพราะงั้นความโกรธของจอมพลโผ้จวิน ไม่ใช่สิ่งที่พวกเราจะสามารถแบกรับได้ เดิมทีฉันก็ไม่คิดอยากจะบอกอะไรกับแกมาก เพราะฉันกลัวว่าแกจะแบกรับไม่ไหว แต่ตอนนี้ฉันคิดว่าจำเป็นที่จะต้องบอกกับแกแล้ว อย่างน้อยก็ดูจากการกระทำของแกเมื่อคืน ก็โตขึ้นเยอะแล้ว”
“พ่อครับ พ่อรู้ตัวตนของจอมพลโผ้จวินมานานแล้ว?”
“ใช่แต่ก็ไม่ใช่ ตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอเขา ฉันก็รู้สึกว่าเขาไม่ธรรมดา บวกกับราศีความสูงศักดิ์นั้นของเขา ฉันก็พอเดาตัวตนของเขาได้บ้าง ยังไงซะชีวิตนี้ฉันก็เจอคนมานับไม่ถ้วน ความรู้สึกที่เขาให้กับฉันคือความเป็นราชา อายุยังน้อยก็มีราศีแบบนี้ ที่มาจะต้องไม่ธรรมดาแน่นอน จากนั้นเขาก็ช่วยเหลือดูแลตระกูลหลัวของเรา ฉันก็มั่นใจความคาดเดาของฉัน ว่าเขาไม่ใช่คนธรรมดา”
“พ่อครับ ผมเข้าใจแล้ว งั้นตอนนี้ผมควรจะทำยังไงครับ?”
“รอ รอจอมพลมา ก่อนที่จะถึงเวลานั้น พวกเราทำอะไรไม่ได้หรอก”
——
“พี่เฟิงครับ พวกเขาเข้ามาที่จินโจวแล้ว แล้วยังมีคนกลุ่มคนจำนวนมากที่ไม่รู้ที่มากำลังค้นหาแบบพลิกแผ่นดินจินโจว จะใช่พวกเขาลงมือรึเปล่าครับ?”
จางไห่เฟิงพูดทั้งที่ไม่หันหน้าไปว่า “ตามการความคาดเดา พวกพ้องเป็นยังไงบ้างแล้ว? เพียงแค่ฆ่าฟางเหยียนทิ้ง ตำแหน่งของพวกเราจะต้องสามารถยกระดับขึ้นสูงอีกแน่ และอย่าให้ผู้อยู่เบื้องหลังของเราที่มอบความสนับสนุนอย่างมากเสียเปล่า แต่ก่อนหน้านั้น จะต้องห้ามเผยกำลังที่แท้จริงของพวกเราเด็ดขาด ให้เซอร์ไพรส์ครั้งใหญ่กับมัน!”
“พี่เฟิงครับ สบายใจได้ พวกเราได้วางกับดักล้อมมันไว้แล้ว เพียงแค่มันมา รับประกันว่าให้มันตายอยู่ที่นี่ครับ!”
จางไห่เฟิงมองไปทางเย่ชิงหยู่ ยิ้มเยาะอย่างเหนือกว่า “เธอคิดว่าฟางเหยียนจะเชื่อที่เธอนอกใจมั้ย?”
เย่ชิงหยู่ไม่มีท่าทางของเทพธิดาน้ำแข็งอย่างก่อนหน้านี้แล้ว ตอนนี้เธอไร้จิตวิญญาณ ท้อแท้อ่อนแรงไปหมด การตายของหยางเซินเซินสร้างความเจ็บปวดอย่างหนักให้กับเธอแล้ว แล้วตอนนี้ก็ได้ยินว่าจางไห่เฟิงวางกับดักล้อมจับไว้ให้กับฟางเหยียน ใจก็ยิ่งจมดิ่งลงไปอีก
สิ้นหวังมั้ย?
เธอรู้สึกถึงความสิ้นหวังแล้ว
ตั้งแต่ที่หยางเซินเซินตายไป ภายในใจของเธอที่ไม่รู้สึกหวั่นไหวอะไรก็ได้คลายตัวลงแล้ว สมองก็อื้อเต็มไปหมด และการกระทำทั้งหมดของจางไห่เฟิงก็ยิ่งค่อยๆทำให้เธอมีชีวิตอยู่ภายใต้ความหวาดกลัว และก็ไม่ได้กำจัดศพของหยางเซินเซินทิ้ง และปล่อยไว้ที่ข้างกายเธอ ใกล้เพียงแค่เอื้อมมือ
เธอรู้ดี ฟางเหยียนไม่มีทางเชื่อข่าวที่เธอนอกใจ และก็จะต้องเข้ามาสู่กับดักที่จางไห่เฟิงวางล้อมไว้อย่างแน่นอน เธอรู้สึกผิดมากที่ตัวเองกลายเป็นอย่างที่คนอื่นพูดจริงๆว่า สวยงามแต่ไร้ประโยชน์
เย่ชิงหยู่เธอไม่ใช่ว่าไม่เคยคิดที่จะตาย แต่การตายกลับกลายเป็นความหวังลมๆแล้งๆสำหรับเธอ!
ตั้งแต่เมื่อคืนจนถึงตอนนี้ เธอมีคนเฝ้าดูอยู่ตลอด แม้แต่การฆ่าตัวตายก็เป็นไปไม่ได้ โดยเฉพาะตั้งแต่ที่ได้ยินว่าความตั้งใจจริงของจางไห่เฟิงคือฟางเหยียน การอยากฆ่าตัวตายก็เธอก็ยิ่งหนักขึ้น แต่เธอที่หมดเรี่ยวแรงทั้งกายใจจะเป็นคู่ต่อสู้ของคนพวกนี้ได้ยังไง? เธอเพียงแค่มีความคิดหนึ่งผุดขึ้นมา ก็จะถูกทำลายความคิดทิ้งในทันที
นี่ถึงจะเป็นสิ่งที่เรียกว่าอยู่รอดก็ไม่ได้ ตายก็ไม่ได้อย่างแท้จริง
“ดูท่าทางที่น่าสมเพชเวทนาของเธอแล้ว รู้มั้ยว่าฉันรอวันนี้มานานมากแค่ไหน?” จางไห่เฟิงพูดด้วยรอยยิ้มชั่วร้าย “แต่ตอนนี้ไม่สำคัญแล้ว เพราะว่าอีกไม่นานฉันก็จะให้เธอหลุดพ้นแล้ว เพราะยังไงซะความสิ้นหวังที่หนักที่สุดก็คือเห็นคนรักที่สุดตาย เย่ชิงหยู่ หลังจากที่เธอและฟางเหยียนตายไป ฉันก็จะกลับสู่ตระกูลจางอีกครั้ง ถึงตอนนั้นฉันจะฆ่าแม่เธอทิ้ง ถือซะว่าเห็นแก่สัมพันธ์พี่น้อง เธอต้องขอบคุณฉันอย่างดีละ ฮ่าๆๆ…..”