จอมนักรบทรงเกียรติยศ - บทที่ 826 หัวหน้าสำนักเพลิงเสวน
แน่นอนว่าหญิงสาวก็คือหยางเซินเซิน เลขาของเย่ชิงหยู่!
ทว่าเย่ชิงหยู่ไปที่ใดเสียแล้ว?
เทียนขุยยกจางไห่เฟิงขึ้นมา ราวกับถือลูกไก่อย่างไรอย่างนั้น พร้อมเอ่ยด้วยเสียงเย็นชาว่า: “บ้าเอ๊ย คุณนายอยู่ที่ไหน!”
จางไห่เฟิงหัวเราะหึหึ ไม่ได้ตอบกลับ ใบหน้าเผยรอยยิ้มอ่อนอยู่ตลอด
แควก!
นิ้วมือห้านิ้วถูกฉีกขาด จางไห่เฟิงเสียวสันหลัง เจ็บจนต้องกัดฟัน ทว่าเขาไม่ได้ร้องครวญครางออกมา ยังคงยิ้มพร้อมจ้องมองเทียนขุยอย่างเย็นชาอยู่อย่างนั้น
“ยังไม่พูดอีกเหรอ?”
แควก!
นิ้วมืออีกฝั่งก็ถูกหักไปตามกัน!
“บอกมา!”
จางไห่เฟิงยิ้มเย็นชา: “มีความสามารถแค่นี้น่ะเหรอ? คนสำนักเจ็ดพิฆาตก็มีน้ำยาแค่นี้แหละ!”
เทียนขุยฉุนเฉียวขึ้นมา จากนั้นจึงได้กระทำรุนแรงต่อแขนของเขา นอกจากสองขาที่ถูกหักเรียบร้อยตั้งแต่แรก แขนขาทั้งสี่ของจางไห่เฟิงก็ถูกหักเป็นที่เรียบร้อยแล้ว กลายเป็นคนพิการไปโดยสิ้นเชิง!
เขาที่เจ็บปวดจนแทบจะตาย ครั้นก็มีชีวิตรอดคืนมาอีกครั้ง เกือบจะหมดสติไปหลายครั้ง ทว่าเทียนขุยจะให้เขาสมใจปรารถนาได้อย่างไร?
ทรมานเขาทั้งที่ยังมีชีวิตอยู่ต่อไป จนกระทั่งฟางเหยียนมายังชั้นบนสุด
จางไห่เฟิงในเวลานี้ซมซานดูไม่ได้ นอนกองอยู่กับพื้น พยายามเงยศีรษะที่เย่อหยิ่งของเขาขึ้นมา พร้อมเอ่ยด้วยเสียงเย็นชาว่า: “ฟางเหยียน นายมีความสามารถแค่นี้เหรอ? มีกองกำลังมากมายแล้วยังไง? แม้แต่ผู้หญิงของตัวเองก็ยังปกป้องไม่ได้เลย? นายยังเป็นผู้ชายอยู่หรือเปล่า? ไม่ถูกสิ ไม่ควรจะพูดอย่างนี้ รสชาติที่ถูกเล่นสนุกด้วยมันดีไหม? เป็นถึงเทพแห่งสงครามผู้รุ่งโรจน์แห่งประเทศหวาผู้ยิ่งใหญ่แท้ๆ แต่กลับถูกผู้อื่นเล่นอยู่ในกำมือ ไม่รู้ว่าอารมณ์ในตอนนี้ของนายจะเป็นยังไงกันนะ ฮ่าฮ่าฮ่า…”
เพียะ!
เทียนขุยตบใบหน้าของเขาอย่างแรง: “พูดมากจริงนะ!”
“ถุย!” จางไห่เฟิงถุยเลือดออกมา แค่นหัวเราะพร้อมเอ่ยขึ้นอย่างไม่ชัด ว่า: “ฆ่าฉันเลยสิ ไม่กล้าล่ะสิ? หรือกลัวว่าเพลิงเสวนจะมาแก้แค้น? ก็จริงนะมีกองกำลังมากมายก็ช่วยผู้หญิงคนเดียวเอาไว้ไม่ได้ แค่คิดๆ ดูก็รู้แล้วว่าเป็นคนโง่ที่ไร้น้ำยาขนาดไหน คนตั้งมากมายแบบนั้นก็ไม่ได้สังเกตเลยว่าฉันแอบทำอะไรอยู่ลับหลัง ช่างน่าเวทนาเสียจริง! เศษขยะแบบนี้จะสู้กับเพลิงเสวนได้อย่างไร? ถูกคนอื่นจูงจมูกเดินไป ตกอยู่ในกำมือของเพลิงเสวนทุกรอบด้าน พวกแกจะเอาอะไรไปสู้กับเขาล่ะ!”
ก่อนที่จะตายยังอวดดีขนาดนี้ บอกได้เลยว่าจางไห่เฟิงนั้นมีข้อบกพร่องมากมาย แต่ปล่อยไปตามยถากรรม!
นับตั้งแต่ที่พบว่าตนเองไม่ใช่คู่ต่อสู้ของฟางเหยียน เขาก็ทราบจุดจบของตัวเองแล้ว ทว่าท้ายที่สุดเขาก็ไม่อยากที่จะปล่อยเย่ชิงหยู่และฟางเหยียนไป ถึงได้ให้หลิวเฟินพาเย่ชิงหยู่ไป ซึ่งเป็นการหยุดฟางเหยียนโดยสิ้นเชิง ทำให้เขาจบปวดรวดร้าว!
จะบอกว่าจางไห่เฟิงแก้แค้นแล้วอย่างนั้นหรือ?
ตามหลักการแล้ว เขาแก้แค้นแล้ว เย่ชิงหยู่ถูกเขาทรมานจนสภาพดูไม่ได้ ประกอบกับอยู่ในมือของเพลิงเสวนอยู่ตลอด การทรมานที่รุนแรงเธอไม่ได้ถูกเอ่ยถึง สำหรับความมุ่งมาดที่ต้องการมาแก้แค้นในตอนแรกของเขา ได้เกิดเป็นประโยคคำถามเต็มหน้า สิ่งที่เขาเป็นกังวลเพียงหนึ่งเดียวก็คือตระกูลจาง ถึงอย่างไรฟางเหยียนก็ไม่สามารถฆ่าได้! ก็ไม่เป็นอันใดแล้ว ขอเพียงเพลิงเสวนห้ามปรามฟางเหยียนได้ ตระกูลจางก็จะไม่เป็นอะไรชั่วคราว
ความปรารถนาของเขาได้สำเร็จแล้ว แม้แต่ว่าเสียดายเล็กน้อย ทว่าก็ไม่ถึงขั้นที่มาเสียเที่ยว!
เทียนขุยตบหน้าไปอีกครั้ง ครั้งนี้ ใบหน้าของจางไห่เฟิงบวมราวกับหัวหมู “ถ้ายังกล้าพูดมากอีก ฉันจะทำให้แกพูดไม่ออกเลย! คุณนายอยู่ที่ไหน ฉันจะถามแกอีกครั้ง!”
“ถุย!” จางไห่เฟิงทำท่าทางไม่เกรงกลัวต่อความตาย: “มีความสามารถแค่นี้เองเหรอ? ฆ่าฉันเลยสิ ฮ่าฮ่าฮ่า…”
เพียะ!
อีกฝ่ามือหนึ่งตบเข้าไปอีกครั้ง ฟันร่วงหล่นลงตามๆ กัน เขากลายเป็น ‘คนใบ้’ ทั้งที่ยังมีชีวิตอยู่
“โผ้จวิน ไอ้หมอนี่ทำยังไงก็ไม่ปริปาก ควรจะทำยังไงดี?”
ฟางเหยียนเอ่ยด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม: “รีบเรียกคนมาค้นหาให้ฉัน ต่อให้ต้องพลิกผืนดินหา ก็จะต้องตามหาชิงหยู่กลับมาให้ได้!”
จางไห่เฟิงยิ้มอย่างชั่วร้าย พร้อมเอ่ยว่า: “ฟางเหยียน รู้ไหมว่าทำไมฉันถึงยังไม่ไป? ฉันกำลังถ่วงเวลาอยู่ ฉันเชื่อว่าตอนนี้หลิวเฟินพาชิงหยู่ออกไปจากจินโจวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ที่ทำไปก็เพื่อที่จะถ่วงเวลา ตอนนี้ฉันทำภารกิจสำเร็จแล้ว ตายตาหลับได้แล้ว ไม่ถูกสิ มีความเสียดาย สิ่งเดียวที่เสียดายนั่นคือไม่ได้ฆ่าแกให้ตาย!”
“แต่ว่ามันไม่สำคัญแล้วละ เพราะว่าเป้าหมายของฉันได้สำเร็จแล้ว ท่าทางโมโหในตอนนี้ของแก ก็คือผลลัพธ์ที่ฉันต้องการเห็น แม้ว่าจะตายตาหลับ แต่ก็ขอร้องแกอย่าเพิ่งใจวายไปเสียก่อนล่ะ ไม่งั้นสะพานดวงวิญญาณผ่านก็คงต้องมีผีเพิ่มมาอีกตัวแล้ว ฮ่าฮ่าฮ่า…”
“จางไห่เฟิง แกสมควรตาย!”
“ฟางเหยียน อย่าเพิ่งเกรี้ยวกราดเร็วขนาดนั้นสิ ก็จริงนะ คนไร้น้ำยาที่แม้แต่เมียตัวเองก็ยังปกป้องเอาไว้ไม่ได้ ก็สมควรที่จะเกรี้ยวกราดอยู่หรอก ไม่อย่างนั้นจะทำอะไรได้อีกล่ะ? พูดตามจริงนะ ฟางเหยียน ต่อให้แกจะเป็นเทพแห่งสงครามผู้รุ่งโรจน์แห่งประเทศหวา แต่ต่อหน้าฉันก็ยังเป็นเศษขยะอยู่ดีนั่นแหละ ถึงอย่างไรแกก็เป็นแค่ลูกเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิง เป็นแค่ลูกเขยที่เกาะผู้หญิงกินคนหนึ่ง มีมือมีเท้าไม่ไปทำอะไรที่ดีกว่านี้ ดันไปเป็นลูกเขยแต่งเข้าบ้านผู้หญิง ฉันสามารถเหยียบแกอยู่ใต้เท้าได้ครั้งหนึ่ง ก็สามารถเหยียบอยู่ใต้เท้าได้ครั้งแล้วครั้งเล่า เพราะว่าแกก็คือเศษขยะ ฮ่าฮ่าฮ่า…”
เพียะ!
เทียนขุยตบเข้าไปอย่างแรง: “ช่างเป็นหินในบ่อจริงๆ เลย ทั้งเหม็นทั้งดื้อรั้น พูดจาไม่เป็นก็หุบปากไปซะ! ในเมื่อแกอยากตาย งั้นฉันก็จะไม่ยอมให้แกสมใจหวังหรอก ฉันจะทำให้แกได้รู้ถึงผลลัพธ์ที่ดูหมิ่นโผ้จวินรวมถึงลักพาตัวคุณนายไป!”
เท้าหนึ่งกระแทกลงมา หน้าอกของจางไห่เฟิงสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง กระดูกซี่โครงหักเสียงดัง จางไห่เฟิงเลือดพุ่งออกจากจมูกและปาก ราวกับบ่อน้ำพุอย่างไรอย่างนั้น ทะลักออกมาไม่หยุด!
เท้ากระทบกับเนื้อ กระดูกหักท่อน!
จางไห่เฟิง นอกจากลำคอแล้ว ที่เหลือก็พังหมด!
“ฆ่าฉันไป แกก็จะได้แก้แค้นแล้ว มาสิ ฮ่าฮ่าฮ่า…” จางไห่เฟิงหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง เขาในเวลานี้ราวกับเป็นคนบ้าที่ไร้สติ
“โผ้จวิน…”
“เทียนขุย ที่เหลือให้ฉันจัดการเถอะ” ฟางเหยียนเอ่ยเสียงทุ้ม
เทียนขุยถอยหลังไปหนึ่งก้าว ฟางเหยียนเดินหน้าไป เอ่ยถาม: “แกอยู่ตำแหน่งอะไรในเพลิงเสวน!”
“ขอร้องฉันสิ เหมือนกับที่เย่ชิงหยู่คุกเข่าขอร้องฉันเมื่อก่อน ก็จริงนะเป็นถึงเทพแห่งสงครามผู้รุ่งโรจน์ในประเทศหวา จะคุกเข่าลงได้ยังไงกันนะ? ถึงยังไงการคุกเข่าเมื่อสักครู่นี้ ก็เป็นการทำให้ฟ้าดินเปลี่ยนแปลง แม้แต่พระเจ้าก็ทนดูไม่ได้ ถูกต้องไหม?”
“แกมันรนหาที่ตาย!” เทียนขุยเตะศีรษะของจางไห่เฟิงอย่างแรง: “ขืนยังมีครั้งหน้า ฉันจะทำให้สมองของแกแหลกเป็นเศษเล็กๆ เลยคอยดู!”
“กะอีแค่คนที่อาศัยบารมีคนอื่นมาอวดเบ่ง ถึงฉันล้มเหลวก็ไม่ได้แสดงว่าฉันแพ้นี่นา ตรงกันข้ามคนที่แพ้เป็นเจ้านายของแกต่างหาก แม้แต่เมียของตัวเองก็ยังปกป้องเอาไว้ไม่ได้ ยังมีหน้ามาเป็นผู้ชายอีก แล้วก็นะไอ้พวกเลียแข้งเลียขาอย่างแก คงทำได้แค่อาศัยอำนาจบารมีของคนอื่นอวดเบ่งเท่านั้น ความสามารถแค่นี้ ไปทำอะไรมาล่ะ? ตอนนี้ถึงตามมาคิดบัญชีทีหลัง? ก็จริงนะ หมาก็ชอบกระโดดโลดเต้นแบบนี้แหละ แน่จริงแกก็กระทืบฉันตายไปเลยสิ!”
“เทียนขุย ส่งข้อความหาเสวียนเย่ ให้เขาสืบว่าตำแหน่งของจางไห่เฟิงคืออะไร!”
เดิมทีจางไห่เฟิงที่บ้าคลั่งอยู่แล้ว เมื่อได้ยินชื่อ เสวียนเย่ ก็อึ้งไปในทันที นิ่งเงียบไม่แสดงกิริยาท่าทางอันใด ราวกับเป็นเด็กทารกอย่างไรอย่างนั้น!
นิ่งเงียบไปเนิ่นนาน จางไห่เฟิงจึงเอ่ยถาม: “เสวียนเย่เป็นคนของนาย?”
ฟางเหยียนเงียบไม่พูดจา
“เป็นไปไม่ได้ เขาจะกลายเป็นคนของแกไปได้ยังไง เขาเป็นคนของเพลิงเสวนนะ แกจะต้องหลอกฉันแน่ๆ ฟางเหยียนคิดไม่ถึงเลยนะว่าแกจะปั้นเรื่องปลอมขึ้นมาเพื่อที่จะหลอกให้ฉันพูดน่ะ แกนี่วางแผนแยบยลจริงๆ เลยนะ ฮ่าฮ่าฮ่า…”
ขณะที่หัวเราะไป จางไห่เฟิงก็ร้องไห้ขึ้นมา หัวเราะไปร้องไห้ไปอยู่อย่างนั้น มีท่าทางของคนที่เป็นบ้า
“โผ้จวิน…”
ฟางเหยียนมองเทียนขุยพร้อมเอ่ยขึ้น: “เขาไม่ได้แสร้งทำหรอก เขารับแรงสะเทือนใจแบบนี้ไม่ได้ต่างหาก เลยเป็นบ้าไปแล้ว”
“แล้วควรจะจัดการเขายังไงดี?”
ฟางเหยียนส่งสัญญาณบอกให้เทียนขุยอุ้มเขาขึ้นมา จากนั้นก็นำไปวางบนรถเข็น เวลาต่อมาก็ผลักรถเข็นหล่นจากชั้นหกลงไปท่ามกลางสายตาของทุกคน!
ปัง!
เสียงดังสนั่นขึ้น จางไห่เฟิงชักกระตุกอย่างแรง จากนั้นก็นิ่งไป
“โผ้จวิน ต่อไปจะเอายังไงดี?”
“เจ้าคนนายคนจะคุยง่าย แต่ลูกน้องมักจะก่อเรื่อง จางไห่เฟิงเป็นแค่เศษขยะคนหนึ่ง แต่ว่าเสวียนเจิ้นที่อยู่ข้างหลังเขาค่อนข้างจัดการยาก แต่ว่าตอนนี้หลิวเฟินได้หายไปแล้ว ต่อให้ต้องพลิกแผ่นดินหา เกรงว่าก็คงหาที่อยู่ของเขาไม่ได้หรอก สิ่งเดียวที่พวกเราทำได้ นั่นก็คือรอ รอเพลิงเสวนติดต่อฉันมา!”
——
หลิวเฟินระแวงหน้าระแวงหลังหลายครั้ง ในที่สุดก็ออกจากจินโจวอย่างปลอดภัยได้เสียที เขาปลอมตัวเองเป็นคนชราเก็บของเก่า เข็นรถเข็นที่เต็มไปด้วยขยะ ออกไปจากจินโจว ตลอดเส้นทางราบรื่นไร้อุปสรรค และขณะที่กำลังจะเปลี่ยนเส้นทางเดินนั้น อยู่ๆ ข้างทางก็มีสี่คนโผล่ออกมา ในนั้นมีชายหนุ่มที่สวมชุดฮั่นฝูสตรี
เมื่อเห็นทั้งห้าคนนี้ หลิวเฟินก็ดีใจจนออกนอกหน้า
หยินฮว่า! หัวหน้าสาขาเหลืองเพลิงเสวน!
ยังไม่รอให้เขาประสบสอพลอผู้มีอิทธิพล หยินฮว่าก็ยื่นมือออกมาทันที หลิวเฟินใบหน้าตื่นตระหนก จ้องหยินฮว่าอย่างไม่น่าเชื่อ: “ทำไม ทำไมกัน!”
“ยังมีหน้ามาถามอีกว่าทำไม? เศษขยะ ทำเรื่องพังแล้วยังมีหน้ามาถามอีกว่าทำไมงั้นเหรอ?