จอมนักรบทรงเกียรติยศ - บทที่ 829 ต้อนรับการมาเยือนที่ทรงเกียรติของจอมพล
ณ ส่วนลึกของภูเขาเก้ามังกร ที่นี่ไม่เคยถูกใครเหยียบย่ำมาก่อน จากด้านนอกต่อให้จะมองจากข้างบนลงมาข้างล่าง ก็จะมองเห็นเพียงการเชื่อมต่อหัวและท้ายของภูเขาเก้าลูกที่ยาวสุดลูกหูลูกตา ซึ่งไม่มีทางที่จะมองเห็นส่วนลึกในขุมเขาได้ และยังมีอารามเต๋าที่ราวกับปราสาทเก่าแก่แห่งหนึ่งตั้งตระหง่านอยู่ด้วย
ที่นี่ก็คือ สถานที่ตั้งของแก๊งเก้ามังกร!
แก๊งเก้ามังกร ในฐานะที่เป็นหนึ่งในห้าสำนักนินจาใหญ่ การเลือกพื้นที่ทำเลของพวกเขานั้นเป็นความลับยิ่งกว่าสำนักเทียนซือ นอกจากต้งเทียนฟู๋ตี้แล้ว ที่นี่นั้นปลีกตัวออกมาจากชีวิตในเมือง ด้านล่างพื้นก็เป็นเส้นเลือดมังกรเข้มข้น เพียงพอที่จะทำให้พวกเขายิ่งใหญ่ขึ้นทุกวัน
ทว่าพบเจอมาเนิ่นนานเพียงนี้ นอกจากความลึกลับแล้ว ก็ไม่มีผู้ใดทราบถึงพละกำลังที่แท้จริงของแก๊งเก้ามังกรเลย ต่อให้ที่นี่จะถูกพัฒนาให้เป็นสวนสาธารณะพักผ่อนหย่อนใจ ทว่านี่เป็นเพียงภูเขาน้ำแข็งมุมหนึ่งของภูเขาเก้ามังกรอันลึกลับเท่านั้น
ทว่าที่ตำหนักกลาง บัดนี้ได้มีคนนั่งอยู่เต็มเรียบร้อยแล้ว
ผู้ที่นั่งอยู่ตรงกลางพอดีนั้นก็คือเจ้าสำนักของแก๊งเก้ามังกร หลงเซี่ยวเทียน ผู้อาวุโสอายุราวๆ 90 กว่าปี ข้างกายเขานั้น เป็นผู้ชายสวมชุดสีคราม อายุราวๆ 30 ต้นๆ ลูกชายของเขาเอง และก็เป็นเจ้าสำนักคนถัดไปของแก๊งเก้ามังกร
การเลือกเจ้าสำนักของแก๊งเก้ามังกรนั้นจะเลือกตามลำดับสายเลือด ทว่าตั้งแต่ที่แก๊งเก้ามังกรสืบเนื่องมาจนถึงปัจจุบันนี้ กฎเกณฑ์นี้ก็ไม่ได้ถูกลบล้างโดยตลอด เนื่องจากกฎเกณฑ์เหนือกว่าทุกสิ่ง
ในเวลานี้เอง ขอทานที่เสื้อผ้าขาดหลุดลุ่ยก็เดินเข้ามายังตำหนักกลาง ทุกคนต่างก็หยุดการพูดคุยกัน
“เจ้าสำนัก จอมพลโผ้จวินเข้าไปในภูเขาเก้ามังกรแล้ว”
คนที่เสื้อผ้าหลุดลุ่ยไม่ใช่ใครหน้าไหน เป็นขอทานที่ไปบอกข่าวให้กับฟางเหยียนนั่นเอง หากไม่ใช่เพื่อแหวกหญ้าให้งูตื่น เขาคงกลับมาตั้งนานแล้ว คงไม่ถึงขั้นต้องรอมาถึงบัดนี้
หลงเซี่ยวเทียนพยักหน้า: “ทุกท่าน ตอนนี้สถานการณ์เปลี่ยนใหญ่แล้ว พวกเราไม่สามารถปลีกตัวออกจากเรื่องได้ สำนักไร้หน้าถูกทำลาย สำนักฉิวหลงถูกโจมตี มีแต่แก๊งเก้ามังกรของพวกเราที่ยังดิ้นรนอยู่กับโลกฆราวาส หากไม่ใช่บรรพบุรุษเก่าแก่คุ้มครอง ตอนนี้เกรงว่าคงกลายเป็นอาหารในจานให้กับเพลิงเสวนไปแล้ว”
ภายในตำหนักกลางทั้งหมด ไม่มีผู้ใดเสียงดัง เงียบสงัด
“ผมก็เคยคิดว่าแก๊งเก้ามังกรปลีกตัวออกจากเรื่องได้ แต่ว่าความเป็นความตายของแผ่นดิน ทุกคนมีส่วนทั้งนั้น แก๊งเก้ามังกรของพวกเราควรจะทำอะไรสักอย่างแล้ว ตั้งแต่ตอนนี้แก๊งเก้ามังกรเรา ก็ถือว่าอยู่ในสถานะสังเกตการณ์อยู่เงียบๆ ตลอด ถึงยังไงเป้าหมายของพวกเราก็ไม่ชัดเจน แก๊งเก้ามังกรเป็นศิษย์ที่ซื่อสัตย์ มั่นคงมาตลอด สิ่งที่เพลิงเสวนกระทำทุกอย่าง ได้อยู่ฝ่ายตรงข้ามของความซื่อสัตย์เป็นที่เรียบร้อย เพราะฉะนั้นพวกเราจะมานั่งรอความตายไม่ได้ และเฝ้ารอเพลิงเสวนกระทำโหดเหี้ยมกับสุขาวดีสุดท้ายของแก๊งเก้ามังกรเรา”
“ผมได้เตรียมพร้อมเรียบร้อยแล้ว เท่าที่ผมทราบว่า จอมพลโผ้จวินเป็นคนที่น่าเชื่อถือได้ บวกกับเป็นเทพพิทักษ์ของประเทศหวา แบ่งแยกความแค้นและบุญคุณอย่างชัดเจน เป็นคนที่ควรค่าที่จะฝากฝังด้วย เพราะฉะนั้นนี่คือเหตุผลที่ผมส่งเขาไป มีเพียงจอมพลโผ้จวินเท่านั้น ถึงจะสามารถงัดคนของเพลิงเสวนได้!”
“และยังมีอีกประเด็นหนึ่ง การที่เชิญจอมพลมากลางดึกแบบนี้ ก็เพื่อที่จะแก้ไขความยากลำบากในตอนนี้ให้เขา ตามที่ผมทราบมา เหมือนว่าเขาจะกำลังเก็บรวบรวมสมบัติล้ำค่าของห้าสำนักนินจาที่ยิ่งใหญ่อยู่ ก่อนอื่นคือขลุ่ยของสำนักฉิวหลง น้ำไร้หน้าของสำนักไร้หน้า ตราประทับเทียนซือของสำนักเทียนซือ สมบัติล้ำค่าของสามสำนักนินจาที่ยิ่งใหญ่ อยู่ในมือของจอมพลเรียบร้อย ทว่าตอนนี้…”
หลงเซี่ยวเทียนเอ่ยถึงตรงนี้ อยู่ๆ ก็มองไปยังทุกคนที่อยู่ในตำหนัก
ทุกคนเอ่ยขึ้นมาพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย
“เจ้าสำนัก พวกเราจะฟังแผนการของท่านทั้งหมด ไม่มีข้อโต้แย้งแน่นอน”
“ดีมาก ครั้งนี้เรียนเชิญจอมพลมาพบเจอกันโดยเฉพาะ จุดประสงค์ก็คือส่งมอบสมบัติล้ำค่าของแก๊งเก้ามังกรเราให้เขา นั่นคือเกราะเทพมังกร!”
เมื่อคำพูดนี้เปล่งออกมา ทั้งตำหนักกลางก็ฮือฮากันขึ้นมายกใหญ่!
เกราะเทพมังกร!
นี่มันเป็นถึงสมบัติล้ำค่าของแก๊งเก้ามังกร เป็นสัญลักษณ์แห่งอำนาจของแก๊งเก้ามังกร มีเกราะเทพมังกรอยู่ แก๊งเก้ามังกรจึงจะเป็นแก๊งเก้ามังกร อีกทั้งเกราะเทพมังกรก็อยู่เหนือกว่าทุกสรรพสิ่ง ต่อให้จะเป็นเจ้าสำนักก็ไม่สามารถเทียบได้กับสิ่งนี้!
จะบอกว่ายกให้ก็ยกให้ไปเลยได้อย่างไร?
ไม่มีโอกาสเจรจาเลยหรือ?
ผู้คนต่างก็ไม่ยินยอมตามๆ กัน ทว่าไม่มีผู้ใดกล้าที่จะเอ่ยตั้งข้อสงสัยขึ้นมา ถึงอย่างไรอำนาจของเจ้าสำนักก็ไม่ใช่ของปลอม!
แม้จะเดาได้แล้วว่าหลงเซี่ยวเทียนคิดจะทำอะไรกันแน่ ทว่าไม่มีผู้ใดกล้าที่จะสงสัยเขา เพราะว่าเขาเป็นเจ้าสำนักแก๊งมังกร ตำแหน่งสูงศักดิ์เป็นที่เคารพ ไม่มีผู้ใดกล้าโต้แย้ง และยิ่งไปกว่านั้นคือ ไม่มีผู้ใดกล้าที่จะตั้งข้อสงสัย กฎเกณฑ์ก็ยังเป็นกฎเกณฑ์อยู่วันยังค่ำ
หลงเซี่ยวเทียนรู้อย่างลึกซึ้งถึงความคิดในใจของทุกคน อย่าว่าแต่พวกเขาเลย แม้แต่ตนเองก็ยังรู้สึกเจ็บปวด นี่เป็นถึงเกราะเทพมังกรเชียวนะ สมบัติล้ำค่าของแก๊งเก้ามังกร เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์เหนือสิ่งอื่นใด อยู่ๆ ก็จะมอบให้คนอื่นไปดื้อๆ ใครจะสบายใจได้?
เขาเข้าใจอารมณ์ของทุกคนเป็นอย่างดี ตอนแรกที่เขาตัดสินใจแบบนี้นั้น ก็เป็นทางเลือกที่ลำบากเช่นกัน!
แม้ว่าแก๊งเก้ามังกรจะเป็นซ่อนตัวอยู่ในที่ลับ จนถึงบัดนี้เพลิงเสวนก็ไม่ได้จับสังเกตได้ ทว่าบนโลกนี้จะมีกำแพงที่ไม่รับลมได้อย่างไร? ผู้ใดจะสามารถรับประกันได้ว่าอีกไม่นาน เพลิงเสวนจะไม่มาเยือนที่หน้าประตูแก๊งมังกรเองได้? ผู้ใดก็ไม่กล้ารับประกัน
ตั้งแต่โบราณมา แก๊งมังกรก็เป็นสำนักนินจาที่จงรักภักดี ในยามที่ประเทศชาติประสบวิกฤติ ออกเงินออกกำลัง พวกเขาล้วนทำทั้งนั้น หากไม่ใช่เพราะกองกำลังของเพลิงเสวนยิ่งใหญ่เกินไป หลงเซี่ยวเทียนก็คงไม่ทำตัวสงบเสงี่ยม เลือกที่จะอดกลั้นอ่อนข้อให้เพื่อให้เรื่องราวสงบหรอก!
อีกทั้ง บัดนี้มีคนที่สามารถต่อกรกับเพลิงเสวนได้ปรากฏออกมา คนผู้นี้ก็ยังยึดครองความชอบธรรมทั้งหมดอีกด้วย แถมเป็นศัตรูคู่อาฆาตของเพลิงเสวน มีความแค้นฝังลึก สำหรับคนเช่นนี้ สุขุมบริสุทธิ์ พึ่งพาได้ สามารถทำให้เขาสบายใจได้ หลงเซี่ยวเทียนยินดีที่จะออกแรงเสริมให้
“ทุกท่าน ผมก็ตัดใจไม่ลงเหมือนกัน แต่การกระทำทุกประการของจอมพลโผ้จวิน ทุกคนน่าจะเคยได้ยินมาบ้างอยู่ใช่ไหม”
คนทั้งตำหนักกลางพยักหน้า
“เท่าที่ทราบมา เหล่าเทียนซือของสำนักเทียนซือเป็นจิ้งจอกเฒ่า ไม่เสียดายที่จะส่งมอบตราประทับเทียนซือให้เขา แม้แต่สำนักเทียนซือก็ไม่สนใจแล้ว หรือว่าพวกคุณยังไม่เข้าใจเหตุผลในนั้นหรือ?”
“ถูกต้อง เหล่าเทียนซือหมายจะผูกสำนักเทียนซือและจอมพลโผ้จวินเอาไว้ด้วยกัน จากนั้นก็ปลีกตัวออกจากเรื่องราว ทว่าสิ่งที่พวกเขาจะต้องชดใช้กลับน่าเวทนานิดหน่อย นั่นคือกำจัดคนทั้งสำนักเทียนซือ ถือได้ว่าเป็นการบีบให้ไร้ทางถอย จึงได้รับความสำเร็จตามมาสุดท้าย แต่ว่าฉันไม่หวังว่าแก๊งเก้ามังกรจะเหยียบซ้ำความผิดพลาดของสำนักเทียนซือ เพราะว่าพวกเราจะแพ้ไม่ได้! ตอนนี้ผู้ที่กล้าต่อกรต่อเพลิงเสวน มีเพียงเขาคนเดียวเท่านั้น เขาเพียงคนเดียวก็สามารถต้านทานทหารนับพัน ม้านับหมื่นได้!”
ทุกคนตกอยู่ในความเงียบสงัด การประสบอันน่าเวทนาของสำนักเทียนซือ ทุกคนต่างก็ประจักษ์แจ้ง มองเห็นด้วยตาตัวเองทั้งนั้น!
ผู้ที่อยู่เบื้องบนของตำหนักกลางชัดเจนดีมากว่า สิ่งที่หลงเซี่ยวเทียนเอ่ยนั้นก็คือ การกระทำอันบ้าคลั่งของเพลิงเสวนนั้นทำให้ผู้คนเกรี้ยวกราด ทว่ามีหลายกองกำลังและสำนักนินจาหลายแห่งต่างก็เลือกที่จะไม่ต่อต้าน จากนั้นก็ยอมเป็นทาสของพวกเขา แก๊งเก้ามังกรไม่มีทางกลายเป็นทาสของพวกมันแน่นอน!
หากแก๊งเก้ามังกรกลายเป็นทาสของเพลิงเสวน หลงเซี่ยวเทียนคงต้องถูกบรรพบุรุษที่อยู่ในเมืองผีนินทาว่ากล่าวไม่ใช่หรือ? คนทั้งแก๊งเก้ามังกร มีแต่จะด่าทอสาปแช่งหลงเซียวเทียนอย่างรุนแรง กลายเป็นคนผิด ใครก็ไม่อยากเห็น
หลงเซี่ยวเทียนกวาดสายตามองไปรอบๆ สายตาที่กระส่ายกระสับของทุกคนจึงค่อยๆ สลายไป เริ่มจะยอมรับได้อย่างช้าๆ ถึงอย่างไรจอมพลโผ้จวินก็ไม่ใช่คนชั่วร้ายที่บาปหนาให้อภัยไม่ได้ การกระทำทุกประการของเขาก็เป็นพฤติกรรมเชิดชูสัจธรรมเพื่อประเทศชาติเพื่อประชาชน ปกป้องความสงบสุขประเทศชาติทั้งนั้น แก๊งเก้ามังกรจะไม่รับทราบได้อย่างไร?
แม้ว่าแก๊งเก้ามังกรจะมีกฎอยู่มาก ทว่าไม่ใช่คนหัวโบราณที่ดื้อรั้น ยึดแต่หลักเกณฑ์เดิมๆ แต่ไม่พูดถึงหลักเหตุผล
ต่อหน้าความถูกต้อง ไม่มีใครกล้าทำอะไรตามอำเภอใจ!
การตอบสนองของพวกเขาอยู่ในความคิดของหลงเซี่ยวเทียน ไม่ตกใจ และไม่ประหลาดใจ
เงียบไปสักพัก เขาจึงเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงราบเรียบ: “จอมพลผู้นี้ ผมสังเกตมานานมากแล้ว เป็นคนที่มีความสามารถคนหนึ่ง เรื่องราวที่กระทำก็สามารถมองออกได้ทางใดทางหนึ่ง มีพลังอำนาจเหนือฟ้า แต่ก็ยังสงบเสงี่ยมเช่นเดิม ไม่ใช่คนที่รุนแรงไม่พูดจาไร้เหตุผล เพราะฉะนั้นเขาจึงควรค่าที่จะให้แก๊งเก้ามังกรเชื่อใจ!”
ตำหนักกลางยังคงเงียบสงัดเช่นเดิม ภายใต้ความเงียบนั้น ทุกคนก็เริ่มเงยหน้ามองหลงเซี่ยวเทียน เป็นที่ทราบกันทั่ว ว่าพวกเขายอมรับจอมพลโผ้จวินผู้นี้จากใจเรียบร้อยแล้ว
ก็จริง สำหรับคนเช่นนี้ พวกเขาจะมีเหตุผลอันใดไปปฏิเสธได้?
หากแก๊งเก้ามังกรคิดจะนั่งดูไม่เข้าไปเกี่ยวพันด้วย หรือนั่งดูผู้อื่นสู้รบกัน เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เรียบร้อยแล้ว มือของเพลิงเสวนยื่นออกมายาวแล้ว ไม่มีใครรับประกันได้ว่าแก๊งเก้ามังกรจะกลายเป็นอย่างสำนักเทียนซือหรือไม่? สำนักเทียนซือดื้อรั้นไม่ยอมฟังใคร ไม่ยอมร่วมมือกระทำความชั่ว ต่อให้จะเป็นเพลิงเสวน พวกเขาก็ไม่เคยเกรงกลัวแม้แต่น้อย แล้วแก๊งเก้ามังกรจะไปเกรงกลัวได้อย่างไร?
หลงเซี่ยวเทียนพึงพอใจกับการตอบสนองของทุกคนเป็นอย่างยิ่ง เขายิ้มขึ้นเอ่ยว่า: “ตอนนี้ เริ่มลงคะแนนเสียงได้ คนที่เห็นด้วยยกมือขึ้น!”
แม้ว่าแก๊งเก้ามังกรจะเป็นระบบสืบสันตติวงศ์ ทว่าเรื่องใหญ่ก็ล้วนต้องการให้คนระดับสูงตัดสินใจ ที่ใช้บ่อยที่สุดก็คงจะเป็นการยกมือแสดงการตัดสิน แค่เกินครึ่ง เรื่องนี้ก็สามารถลงมติได้แล้ว และจะได้เริ่มปฏิบัติอย่างรวดเร็ว
นิ่งเงียบไปชั่วครู่หนึ่ง จากนั้นทุกคนก็ลงความเห็นให้ผ่านหมด!
เป็นเหมือนที่คิดไว้ ทุกคนล้วนเห็นด้วย!
หลงเซี่ยวเทียนยิ้มขึ้นมา เจตนารมณ์ของแก๊งเก้ามังกรไม่เคยเปลี่ยนแปลงมาแต่ไหนแต่ไร ยังคงเป็นแก๊งเก้ามังกรที่จงรักภักดีเช่นเคย
“ดีมาก แก๊งเก้ามังกร ไม่เคยเปลี่ยนแปลงมาโดยตลอด ปัญหาความถูกต้องและไม่ถูกต้องล้วนสามารถเป็นสักขีพยานใจของคนเราได้ ทุกคนรอสักครู่ ฉันจะไปรับการมาเยือนอันเป็นเกียรติของท่านจอมพล!”