จอมนักรบทรงเกียรติยศ - บทที่ 831 เกราะเทพมังกร
เมื่อคำพูดนี้ถูกเปล่งออกมา ทั้งหมดก็ตกตะลึงไป!
บรรยากาศทั้งตำหนักกลาง ล้วนลดอุณหภูมิลงเป็นติดลบตามมา!
หลงเซี่ยวเทียนยิ้มอย่างขมขื่นอย่างยิ่ง เขารู้ว่าตนพูดผิดไปแล้ว!
ไม่ง่ายเลยกว่าจะรวบรวมความเชื่อใจมาได้ ภายในเวลาอันสั้นนี้ได้หายไปโดยสิ้นเชิง เขาที่วางแผนรอบครอบเปี่ยมประสบการณ์ ตอนนี้อยากจะตบปากตัวเองเสียจริง!
นี่เป็นการรนหาที่ตายไม่ใช่หรืออย่างไร!
พลังอำนาจของฟางเหยียน ไม่ธรรมดา!
หลงเซี่ยวเทียนเพิ่งจะพบว่า ตนเองมองจอมพลโผ้จวินผู้นี้ต่ำไป พลังความกดดันราวกับภูเขา ทำให้ผู้อื่นสัมผัสได้ถึงความอึดอัด!
โดยเฉพาะฟางเหยียนที่ใบหน้าไร้อารมณ์ ทำให้เขารับรู้ได้ว่าจอมพลโผ้จวินผู้นี้ทำไมถึงสามารถใช้พละกำลังของตัวเองรับมือเพลิงเสวนทั้งหมดได้ นอกจากความสามารถที่ยิ่งใหญ่แบบนี้ เดิมทีก็เป็นคนที่ยากที่หยั่งถึงส่วนลึกได้ ทว่าเขาไม่เข้าใจเป็นอย่างมาก ตอนนี้ฟางเหยียนก็อายุเพียง 25 26 อายุยังน้อยเพียงนี้ก็มีความสำเร็จเช่นนี้แล้ว ช่างเป็นโอรสโปรดของสวรรค์ ปีศาจในปีศาจโดยแท้ เมื่อนึกขึ้นได้เมื่อเขาอายุ 25 26 หลงเซี่ยวเทียนก็รู้สึกแล้วว่า ความแตกต่างอยู่ที่ไหน!
ระหว่างคนแล้วนั้นไม่มีการเปรียบเทียบได้แม้แต่น้อย!
คนโบราณพูดไว้ไม่มีผิด!
และตอนนี้ เนื่องจากเขาพูดผิดไปหนึ่งประโยค ฟางเหยียนที่ใบหน้าแน่นิ่ง เพียงแค่สายตาเดียวก็สามารถทำให้ทุกคนรู้สึกหวั่นกลัว กระส่ายกระสับได้!
ถึงอย่างไร…ก็กะทันหันพอสมควร!
บรรยากาศยังคงอึดอัดเพิ่มขึ้น ผู้ที่ถูกกดดันนั้นรู้สึกเหนื่อยล้า กระวนกระวายจิต!
เทียนขุยเอ่ยทำลายความเงียบ ด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา: “ตาแก่ ว่าแล้วเชียว ทำดีหวังผลนี่เอง! ที่แท้ตอนแรกก็ทำเป็นดีด้วย ก็เพื่อสมบัติล้ำค่าของสำนักนินจาที่ยิ่งใหญ่นี่เอง ช่างเป็นการวางแผนที่ดีจริงๆ นะ แต่คุณคิดว่าแค่คนอัปลักษณ์ไม่กี่คนนี้ของคุณก็คิดอยากจะแย่งเอาสมบัติล้ำค่าของสำนักนินจาที่ยิ่งใหญ่ไปอย่างนั้นเหรอ? ประเมินตัวเองสูงไปหรือเปล่า!”
หลงเซี่ยวเทียนทำตัวไม่ถูกจนไม่รู้จะวางตัวอย่างไร จึงเอ่ยอธิบายว่า: “รองผู้นำเทียนขุย กระผมพูดผิดไปเอง ต่อให้ผมจะยืมความกล้ามาจากคุณ ก็ไม่กล้าทำแบบนั้นหรอก แม้กระทั่งคิดก็ยังไม่กล้าคิดเลย กระผมพูดผิดไปแล้วจริงๆ ”
ฟางเหยียนคร้านที่จะฟังคำอธิบายจากเขา จึงได้เอ่ยด้วยสีหน้าเย็นชาว่า: “นี่น่ะเหรอจุดประสงค์ที่คุณให้ผมมา? ต้องการที่จะแย่งสมบัติล้ำค่าไปจากมือผม?”
“ไม่ ไม่ ไม่” หลงเซี่ยวเทียนเอ่ยอย่างกระวนกระวาย: “จอมพลพูดอะไรอยู่ กระผมจะกล้าไปแย่งสมบัติล้ำค่าจากจอมพลได้อย่างไร ต่อให้จอมพลจะมอบให้ผม ผมก็ไม่กล้ารับมา สมบัติล้ำค่าของสำนักนินจาที่ยิ่งใหญ่สองสามชิ้นนี้ มีแต่จะนำพาหายนะมาสู่แก๊งเก้ามังกร สิ่งที่รอพวกเราก็จะเป็นหายนะการทำลายล้างสำนัก”
“อีกอย่าง สิ่งสำคัญที่กระผมพูดผิดไปนั้นก็คือ เกี่ยวกับสมบัติล้ำค่าไม่กี่ชิ้น ดังนั้นผมอยากจะยืนยันสักหน่อย”
เทียนขุยเอ่ยด้วยสีหน้าไม่ชอบใจนัก: “ตาแก่ จะมาทำลึกลับทำไม? พูดมาตรงๆ เลย!”
หลงเซี่ยวเทียนกลืนไม่เข้าคายไม่ออก เนื่องจากตัวเองจึงทำให้เรื่องราวอธิบายยากเสียแล้ว ความปรารถนาเดิมของเขาก็คือสานสัมพันธ์กับฟางเหยียน ครั้นคิดไม่ถึงเลยว่าแค่คำพูดเดียวก็ทำให้ความเชื่อใจอันเบาบางที่อุตส่าห์ดึงขึ้นมาได้นั้นหายวับไปทันที ก็ต้องสมน้ำหน้าตัวเองเท่านั้นแล้ว!
“จอมพล กระผมพูดตรงๆ เลยละกันนะ ทำไมถึงได้ระมัดระวังขนาดนี้ ก็เป็นเพราะว่าแก๊งเก้ามังกรไม่อยากที่จะได้รับผลกระทบจากสิ่งนี้ด้วย ตอนนี้การกระทำทุกอย่างของเพลิงเสวนได้ผิดต่อหลักสวรรค์ อีกทั้งสวรรค์ไม่สามารถยอมรับได้ กระผมก็ไม่รู้ว่าแก๊งเก้ามังกรจะสามารถดำรงอยู่ได้นานแค่ไหน แต่พวกเราต้องวางแผนไว้ตั้งแต่เนิ่นๆ เมื่อพวกเราตกอยู่เป็นฝ่ายถูกกระทำ สิ่งที่รอพวกเราอยู่ ก็จะเป็นจุดจบของสำนักเทียนซือ!”
“และแน่นอนว่า ชีวิตของแก๊งเก้ามังกรเป็นลิขิตจากสวรรค์ แต่พวกเรากลับไม่อยากที่จะต่อสู้กันในหมู่คณะ แก๊งเก้ามังกรไม่ได้เป็นศัตรูกับโลก แต่มีคนกลับไม่ต้องการให้แก๊งเก้ามังกรปลีกตัวออกจากเรื่องหายนะในครั้งนี้ แก๊งเก้ามังกรควรทำอะไรสักอย่าง นอกจากมอบสมบัติล้ำค่าของแก๊งเก้ามังกรที่จอมพลต้องการ พวกเราแก๊งเก้ามังกรเลือกที่จงรักภักดีด้วย”
“ถึงอย่างไร ทุกคนต้องรับผิดชอบกับชะตากรรมของโลก!”
ฟางเหยียนยังคงนิ่งเงียบอยู่อย่างนั้น หลงเซี่ยวเทียนเผยท่าทีว่าสนใจสมบัติล้ำค่าของสำนักนินจาใหญ่ออกมาแล้ว อีกทั้งตอนนี้เขาก็ยังตั้งคำสัจสาบานว่าจะจงรักภักดี เอ่ยตามจริง ความน่าเชื่อถือมีไม่มาก!
ผู้ที่เอ่ยคำที่ดีๆ มีคุณธรรมเต็มปาก เบื้องหลังกลับมีเจตนาร้ายแฝงอยู่ในใบหน้าที่ดูเจตนาดี!
อีกทั้งความรู้สึกที่ฟางเหยียนมีต่อหลงเซี่ยวเทียนก็เป็นเช่นนี้!
ต่อให้เขาจะเอ่ยอย่างซื่อสัตย์น่าเชื่อถือ ต่อให้เขาจะเอ่ยอย่างจงรักภักดี ต่อให้เขาจะพูดเป็นน้ำไหลไฟดับ แต่นี้ล้วนเป็นสิ่งจอมปลอมทั้งสิ้น!
“จอมพล สิ่งที่กระผมเอ่ยทุกอย่างนั้นเป็นเรื่องจริง ใช่ ก่อนหน้านี้ผมพูดผิดไป แต่นั่นไม่ใช่เจตนาหลักของกระผม ผมไม่เคยคิดที่จะจ้องตะครุบสมบัติล้ำค่าในมือของจอมพลเลย ตรงกันข้ามยังต้องการที่จะมอบเกราะเทพมังกร สมบัติล้ำค่าของแก๊งเก้ามังกรเราให้กับท่านอีกด้วย ที่กระผมพูดมากเอ่ยไปเช่นนั้น ก็เป็นเพราะต้องการที่จะยืนยันว่าจอมพลมีความตั้งใจที่จะปกป้องสมบัติล้ำค่าใช่หรือไม่ แต่ตอนนี้กระผมมองออกแล้ว ทั้งใต้หล้า นอกจากจอมพลก็ไม่มีใครที่จะมีความสามารถเช่นนี้แล้ว ดังนั้นนี่ก็คือเหตุผลที่กระผมต้องเอ่ยมากไป”
เทียนขุยมองไปยังฟางเหยียน ความฉงนใจบนใบหน้าเพิ่มทวีคูณขึ้น ตาแก่ผู้นี้มีเล่ห์เหลี่ยมเยอะ แถมยังงระมัดระวังอีก!
พูดอ้อมไปมากมาย ก็เพื่อที่จะดูว่าฟางเหยียนมีความตั้งใจที่จะปกป้องสมบัติล้ำค่าหรือไม่เท่านั้น!
แต่กลับทำเรื่องราวเสียสลับซับซ้อน!
แก๊งเก้ามังกรใช้วิธีตรงข้ามกับอีกฝ่ายในการดำเนินการ กลับอยู่เหนือความคาดหมายของฟางเหยียน!
พวกเขาไม่หวั่นที่จะส่งต่อข่าวสารอย่างระมัดระวัง มุ่งมาดถึงความภักดี ต่อให้จะต้องจงใจที่จะมอบสมบัติล้ำค่าของแก๊งเก้ามังกรออกมา ก็ระมัดระวังถึงเพียงนี้ ระมัดระวังจนถึงขีดสุดจริงๆ เกรงแต่ว่าแก๊งเก้ามังกรจะไม่มีที่อยู่ จึงให้สมบัติล้ำค่ามาอยู่กับเขา
พูดตามจริงแล้ว นิสัยที่วางแผนลึกซึ้งแยบยลของหลงเซี่ยวเทียนนี้ กลับเหมาะกับเขาดี
เพียงแต่ว่าหลงเซี่ยวเทียนมอบสมบัติล้ำค่าของแก๊งเก้ามังกรออกมา เขากลับรู้สึกตกใจไม่น้อย!
พูดอ้อมไปตั้งนาน ก็เพื่อที่จะหยั่งเชิงว่าฟางเหยียนมีความตั้งใจที่จะปกป้องสมบัติล้ำค่าหรือไม่เท่านั้น ช่างลำบากวางแผนเสียจริง!
บรรยากาศที่กดดันในตำหนักกลางค่อยๆ หายไป หลงเซี่ยวเทียนถอนหายใจโล่งอกราวกับถูกตัดสินนิรโทษกรรม
อำนาจของโผ้จวิน ไม่สามารถทับถมได้จริงๆ !
อันที่จริงขณะที่ฟางเหยียนแพร่พลังกดดันออกนั้น หลงเซี่ยวเทียนได้ดึงพลังต่อต้านทั้งร่างกายออกมา ครั้นไม่ว่าเขาจะต่อต้านอย่างไร พลังนั้นก็ราวกับภูเขาลูกใหญ่ กดดันจนทำให้เขาหายใจไม่ทั่วท้อง ยิ่งทำให้เขารับรู้แล้วว่าอะไรคือปีศาจ เพียงแค่เขาต่อต้าน พลังกดดันนั้นก็จะยิ่งแข็งแกร่งขึ้นทุกครา ราวกับพลังที่ไร้ขีดจำกัด มีต่อเนื่องไม่ขาดสาย จนกระทั่งอธิบายชัดเจนแล้ว ภูเขาลูกใหญ่ที่กดทับศีรษะของพวกเขาและจิตใจจึงได้หายไป
นี่ถึงจะเป็นส่วนที่ทำให้หลงเซี่ยวเทียนต้องหวั่นกลัว!
เทพแห่งสงครามผู้รุ่งโรจน์แห่งประเทศหวา สมดั่งชื่อเสียจริง!
เบื้องหน้าเขานั้น มีเพียงความซื่อสัตย์จริง จึงจะสามารถได้รับโอกาสในการปฏิบัติอย่างเท่าเทียมได้!
“จอมพล แม้จะไม่รู้ว่าทำไมท่านถึงต้องการสมบัติล้ำค่าของห้าสำนักนินจาที่ยิ่งใหญ่ไป แต่กระผมเชื่อว่าจะต้องมีประโยชน์ต่อจอมพลอย่างมากแน่ ดังนั้นคืนนี้ที่กระผมลำบากให้ท่านมานั้น ก็เพื่อที่จะส่งมอบเกราะเทพมังกรให้”
ขณะที่เอ่ย หลงเซี่ยวเทียนก็ส่งสัญญาณบอกให้คนไปหยิบมา
ทันใดนั้นก็มีคนยกกล่องโบราณดูขลังออกมาอย่างเคารพนอบน้อม กล่องมีขนาดใหญ่เท่าฝ่ามือ บนนั้นสลักหัวมังกรที่ดุร้ายเอาไว้ หัวมังกรที่ดุร้ายราวกับมีพลังอำนาจยิ่งใหญ่ซ่อนเอาไว้อยู่ ต่อให้จะเป็นเพียงกล่อง ก็ยังทำให้คนรับรู้ได้ถึงความกระวนกระวายได้
ตั้งแต่ที่กล่องถูกยกเข้ามา ทั้งตำหนักก็เงียบสงัด สามารถมองเห็นถึงตำแหน่งที่เป็นที่เคารพของสมบัติล้ำค่าในแก๊งเก้ามังกรได้เป็นอย่างดี แม้แต่หลงเซี่ยวเทียนเอง ขณะที่รับกล่องมา ท่าทางของเขาก็เคารพนอบน้อมอย่างยิ่ง กลัวว่าจะมีความผิดพลาดในการต้อนรับขับสู้แขกผู้มาเยือน สีหน้าเคารพนอบน้อม ท่าทางซื่อสัตย์ตรงไปตรงมา
อีกทั้งเขาแทบจะไม่ลังเลใจ ยื่นออกมาให้ฟางเหยียนทันที: “ท่านจอมพล นี่ก็คือเกราะเทพมังกร!”
เกราะเทพมังกร?
เกราะเทพมังกรที่ใหญ่เท่าฝ่ามือ?
ฟางเหยียนยังไม่เปิดปล่องออกดู ทันใดนั้นเองเทียนขุยก็ไม่พอใจขึ้นมา “เจ้าสำนักแก๊งเก้ามังกร ฉันคิดว่าพวกคุณไม่มีความซื่อสัตย์จริงใจเลยแม้แต่น้อย คิดว่าพวกเราเป็นผู้ไม่มีความรู้จริงๆ น่ะเหรอ? เชิญพวกเรามาดึกๆ ดื่นๆ เช่นนี้ แล้วก็จะเล่นแง่กับพวกเรา? ช่างกล้าจริงนะ! ถ้าคุณยังทำตัวแบบนี้อยู่ งั้นก็ต้องขอโทษด้วย!”
หลงเซี่ยวเทียนเอ่ยด้วยความฉงนใจ: “รองผู้นำเทียนขุย คำพูดนี้ของท่านกระผมไม่ค่อยเข้าใจเลย? เรื่องเข้าใจผิดก็อธิบายชัดเจนแล้วไม่ใช่เหรอ ทำไมถึงได้อารมณ์เสียขึ้นมาอีกแล้วล่ะ?”
เทียนขุยชี้ไปยังกล่องนั่น “อาศัยว่าตนอายุมากแล้วดูถูกผู้อื่น? คุณกล้ามีหน้ามาทำหน้าไม่พอใจอีกเหรอ! เกราะเทพมังกรความหมายก็คือเกราะป้องกัน คุณเอากล่องที่เล็กขนาดเท่าฝ่ามือมาตบตาพวกเรา มันจะดูถูกกันเกินไปแล้วหรือเปล่า!”
“เอ่อ อ้อ แหะๆ …” หลงเซี่ยวเทียนหัวเราะอย่างขมขื่น พร้อมเอ่ยขึ้น: “รองหัวหน้าเทียนขุย ที่แท้ก็หมายถึงเรื่องนี้นี่เอง รองผู้นำเทียนขุยไม่ทราบอะไร ที่ท่านบอกว่ามันคือเกราะป้องกันนั้นก็ไม่ผิด เพียงแต่ว่ามันไม่ใช่เกราะที่สวมบนตัวคนเท่านั้น แต่เป็นเกราะป้องกันหัวใจขององค์ชายน้อย!”
เทียนขุยมึนงงไปทันที กำลังจะที่เอ่ยถาม ฟางเหยียนก็ได้เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงราบเรียบ: “ความหมายของคุณคือ เกราะเทพมังกรคือเกล็ดป้องกันหัวใจขององค์ชายน้อยที่ถูกฆ่าตาย หรือมันก็คือเกล็ดใต้คอมังกร?”