จอมนักรบทรงเกียรติยศ - บทที่ 857 5สิ่งล้ำค่าครบถ้วน
ฟางเหยียนวิ่งนำไปข้างหน้า สัตว์ไม้พิชิตภัยก็ตามมาด้านหลัง คิดจะฉีกฟางเหยียนเป็นชิ้นๆ ท่าเดียว!
“ไม่ต้องถามมาก รีบวิ่ง!”
ทั้งสองคนวิ่งฝุ่นตลบ ไม่รอช้า ไม่นานก็ออกมาได้
กู่ผินที่คอยอารักขาอยู่ข้างๆ รู้สึกว่าที่ข้างหูมีลมพัดเข้ามา แล้วก็ถามอย่างไม่เข้าใจว่า “จอมพล นี่คุณ?”
“ผู้อาวุโส ไว้ค่อยว่ากัน รีบหนีก่อน!”
กู่ผินก็ยังไม่เข้าใจ เทียนขุยก็เลยลากเขาวิ่งไปด้วย วิ่งไปพูดไปว่า “ไอ้เทาเที่ยที่คุณว่า ไอ้สัตว์ไม้พิชิตภัยอะไรนั่น มันออกมาแล้ว!”
พอได้ยินดังนั้น กู่ผินก็ตัวแข็งทื่อ แล้วก็ถามอีกว่า “จอมพลครับ นี่คุณ ล้อเล่นหรือเปล่า?”
เทียนขุยก็พูดอย่างเอือมระอาว่า “มองเองไม่เห็นหรือไง อ้อ โทษทีนะ ดวงตาสองข้างของคุณมองไม่เห็น ผมไม่ได้ตั้งใจ เออน่าอย่าถามมากเลย วิ่งให้เร็วที่สุดยิ่งดี!”
ฟางเหยียนก็คิดไม่ถึงเหมือนกัน ว่าเอาหินเหล็กนิลมาแล้ว สัตว์ไม้พิชิตภัยจะบ้าคลั่งแบบนี้ เป็นสัตว์ใหญ่บ้าคลั่งจริงๆ !
และในตอนนั้นเอง ฟางเหยียนก็ไม่วิ่งแล้ว เล่นเอาเทียนขุยถามอย่างไม่เข้าใจว่า “จอมพล คุณจะทำอะไรครับ? ทำไมไม่วิ่งเล่า?”
“มันออกมาไม่ได้!” ฟางเหยียนพูดนิ่งๆ แล้วก็หันไปมองพื้นที่ต้องห้ามด้านหลัง แล้วก็ยกมือคำนับพูดว่า “ขอบคุณผู้อาวุโสที่ประตูทางสะดวกให้ กระผมจะไม่ทำให้ผู้อาวุโสผิดหวัง”
เทียนขุยและกู่ผินก็ไม่เข้าใจ แต่ก็เดาได้ไม่ยาก ที่ฟางเหยียนออกมาได้เร็วแบบนี้ คงจะเป็นเพราะผู้อาวุโสที่เขาพูดถึง แต่สิ่งที่ทำให้ทั้งสองคนไม่เข้าใจก็คือ ด้านในมีคนงั้นหรือ? กู่ผินไม่รู้ เทียนขุยก็ยิ่งเอ๋อไปเลย พื้นที่เยือกเย็นแบบนั้น จะมีคนดำรงชีวิตอยู่ได้อย่างไรกัน? มันไม่สมเหตุสมผล!
กู่ผินก็ค่อยๆ ตั้งสติมาได้ แล้วถามว่า “จอมพลครับ คุณเจอท่านปรมาจารย์แล้วงั้นหรือ?”
ฟางเหยียนส่ายหัวเบาๆ แล้วก็เล่าเรื่องทุกอย่างหลังจากที่เข้าไปออกมา โดยเฉพาะตอนที่ได้ยินฟางเหยียนเล่าตอนที่ไปแย่งชิงหินเหล็กนิลนั้น สองคนนั้นก็มีสีหน้าไม่เหมือนกัน แล้วก็หัวเราะแหยๆ ออกมา!แต่พวกเขาก็เหมือนจะเข้าใจได้ว่าทำไมสัตว์ไม้พิชิตภัยถึงได้คลั่งแบบนี้ ที่แท้ก็เพราะฟางเหยียนไปแย่งหินเหล็กนิลมาเลยนี่เอง!
ไม่เล่นตามแผน!
จอมพลโผ้จวินไม่ใช่คนธรรมดาจริงๆ !
ถึงแม้วิธีการจะแบบ…….อืม เอาไปบอกใครไม่ได้ แต่ผลลัพธ์ก็ได้หินเหล็กนิลมา!
เทียนขุยโล่งอก เขาคิดว่าฟางเหยียนจะหาหินเหล็กนิลไม่เจอ ไม่เสียดายที่เดินทางครั้งนี้ แต่กู่ผินกลับสีหน้าแย่มาก เหตุผลหลายอย่างในนั้นเขารู้ดีที่สุด หินเหล็กนิลซ่อนพลังของฟ้าดินเอาไว้ พอปรากฏออกมาต่อสายตาโลก โลกมนุษย์ก็จะกลายเป็นทะเลเพลิง อันตรายไม่น้อยไปกว่าอุกกาบาตถุ่งชนโลกเลย!
นิ่งไปครู่หนึ่ง แล้วพูดว่า “จอมพลครับ ได้ของล้ำค่ามาแล้ว แต่ว่า……..”
“คุณคงจะไม่คิดกลับใจหรอกใช่ไหม?” เทียนขุยได้ยินดังนั้น ก็ไม่พอใจขึ้นมา พูดตัดบทขึ้นมาทันที “ใช่ หินเหล็กนิลเป็นของสำนักกุ่ยกู๋จริง แต่ว่าตอนที่ผมเข้าไปนั้น เห็นศพของคนที่อยากจะได้หินเหล็กนิลจำนวนไม่น้อยนอนแห้งตาย และตอนนี้หินเหล็กนิลอยู่ในมือพวกเราแล้ว คุณยังคิดจะหักหน้าพวกเราเอาไปเองงั้นหรือ?”
กู่ผินไม่ได้คิดแบบนั้นจริงๆ หินเหล็กนิลอยู่ในมือเขา ก็จะเป็นเหมือนเผือกร้อนในมือเขาเปล่าๆ ไม่ต้องคิดว่าเขาจะสามารถถือหินเหล็กนิลได้มั่นหรือเปล่า เมื่อเทียบกับที่จะถูกคนอื่นๆ จับจ้อง เขากลัวจะทำให้จอมพลโผ้จวินไม่พอใจมากกว่า แต่บางครั้งภาษามันก็ลึกซึ้งมาก ความเข้าใจผิดกันเล็กน้อย ก็สามารถทำให้เกิดผลลัพธ์ที่ร้ายแรงมากได้!
ยังดีที่เขามองไม่เห็นสีหน้าของฟางเหยียน แต่กู่ผินที่แก่จนฉลาดแล้ว จะไม่รู้เรื่องทางนี้ได้อย่างไร ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป ก็จะทำให้ฟางเหยียนโกรธ!
เขาแทบจะไม่รอช้า รีบอธิบายว่า “จอมพลครับ ผมไม่ได้หมายความว่าแบบนั้น แต่ว่าหินเหล็กนิลมันอันตรายไม่น้อยกว่าเพลิงเสวนเลย ผมกังวลว่าจะทำให้เกิดภัยพิบัติขึ้นบนโลก ผมไม่ได้คิดจะเอาหินเหล็กนิลมาเป็นของตัวเองจริงๆ นะ”
ฟางเหยียนพูดนิ่งๆ ว่า “ผมเข้าใจความกังวลของคุณ แต่นี่มันไม่จำเป็นหรอก ในเมื่อผมได้รับการยอมรับจากผู้อาวุโสกุ่ยกู่ ก็ได้แก้ปัญหาเรื่องนี้ไปแล้ว แต่คุณ ผมอยากรู้ว่าเหมือนกันว่า คุณคิดอย่างไรกับเพลิงเสวน?”
กู่ผินพยักหน้าไปเหมือนจะเข้าใจ “จอมพลครับ พวกเราจะมียืนอยู่ฝั่งตรงข้ามความทรยศ”
ฟางเหยียนพยักหน้า แล้วก็ไม่พูดอะไรต่อ
พอเดินได้สองก้าว ฟางเหยียนก็เหมือนนึกอะไรขึ้นได้ แล้วพูดต่ออีกว่า “ผู้อาวุโสครับ เรื่องราวที่สำนักกุ่ยกู๋ ผมได้จดจำไว้แล้วครับ วันข้างหน้าจะตอบแทนแน่นอน”
กู่ผินโบกปัด แล้วพูดนิ่งๆ ว่า “จอมพลสามารถทำลายแผนชั่วของเพลิงเสวนได้ ก็ถือว่าเป็นการตอบแทนที่ยิ่งใหญ่สำหรับสำนักกุ่ยกู๋แล้วละ และถือว่าเป็นการตอบแทนที่ดีงามให้แก่ชาวบ้านทั่วไปด้วย”
“ผู้อาวุโส มีความซื่อตรง มีใจคิดเพื่อประชาชน คุณธรรมยิ่งใหญ่แบบนี้ ผมขอนับถือเลย ผมจะทำตามชะตากรรมที่กำหนดไว้ และจะไม่ทำให้ผู้อาวุโสผิดหวัง!”
กู่ผินยิ้ม “ประเทศหวามีคนอย่างคุณอยู่ ถือเป็นความโชคดีจริงๆ”
พอออกจากสำนักกุ่ยกู๋ เทียนขุบก็ตื่นเต้น “จอมพลครับ ของล้ำค่าของทั้งหยินเหมินทั้งห้า ก็ได้รวบรวมครบแล้ว พวกเราลืมเรื่องอะไรกันไปหรือเปล่าครับ!”
ฟางเหยียนพูดนิ่งๆ “เรื่องอะไร?”
“ลูกชายของหลงเซี่ยวเทียน ยังไร้ร่องรอย ถึงแม้พวกเราจะได้หินเหล็กนิลมาแล้ว แต่ก็ไม่อาจจะปล่อยลูกชายเขาไปแบบนี้โดยไม่สนใจนะครับ”
ก็จริง ตอนที่มายังสำนักกุ่ยกู๋ ก็มาเพื่อตามหาลูกชายของหลงเซี่ยวเทียน ตอนนี้ได้ของล้ำค่าของสำนักกุ่ยกู๋มา แต่ลูกชายของหลงเซี่ยวเทียนยังอยู่ในมือของเพลิงเสวน วุ่นวายจนได้ของล้ำค่ามา แต่กลับลืมช่วยลูกชายของหลงเซี่ยวเทียนเลย!
ฟางเหยียนนิ่งไปครู่หนึ่ง ค่อยพูดว่า “ตอนนี้ต้องรอข่าวอย่างเดียว ออกไปก่อนค่อยว่ากัน”
——
คืนนั้น ฟางเหยียนอดไม่ได้ที่จะศึกษาของล้ำค่าของทั้งหยินเหมินทั้งห้า แต่ศึกษาไปทั้งคืน ก็ไม่เจออะไรเลย ต่อให้เอาลูกแก้วทิพย์มาศึกษาด้วยกัน ก็ยังไม่มีการตอบสนองอะไร ของล้ำค่าของทั้งหยินเหมินทั้งห้าต่างก็มีพลังของตนเอง ต่อต้านกันเอง ดูไปแล้วไม่สามารถหลอมรวมเข้ากันได้ โดยเฉพาะลูกแก้วทิพย์ ไม่มีการตอบสนองอะไรเลย
กำลังศึกษาไปนั้น เทียนขุยก็รีบเดินเข้ามา เดินไปพูดไปว่า “จอมพลครับ ตามหาหลงเซี่ยวเทียนเจอแล้วครับ สถานการณ์ไม่ค่อยดี!”
ฟางเหยียนถามอย่างอึ้งๆ “เกิดอะไรขึ้น?”
“หลงเซี่ยวเทียนมีแผลเต็มตัวกลับมายังแก๊งเก้ามังกร แต่ลูกชายของเขายังอยู่ในมือของเพลิงเสวน และไม่รู้ว่าใครปล่อยข่าวไป ว่าหินเหล็กนิลองสำนักกุ่ยกู๋อยู่ในมือคุณแล้ว ดังนั้นเพลิงเสวนก็เลยยื่นข้อเสนอให้หลงเซี่ยวเทียนเอาหินเหล็กนิลและเกราะเทพมังกรไปแลกกับลูกชายของเขา!”
พอฟังจบ ฟางเหยียนก็ขมวดคิ้วแน่น เพลิงเสวนมันทำทุกวิถีทางจริงๆ !
ของล้ำค่าของหยินเหมินทั้งห้าก็ได้รวบรวมหมดแล้ว ขอเพียงหลอมรวมพลังเข้ากับพลังของลูกแก้วทิพย์ ก็จะสามารถทำให้เขารักษาตัวเองหายเป็นปกติ แต่เพลิงเสวนกลัวว่าเขาจะฟื้นพลังกลับมา จึงทำลายทุกขั้นตอนของเขา เป็นแผนที่ดีใช่ย่อย!
“เทียนขุย ยังมีเรื่องอะไรอีก? ”
“จอมพลครับ จริงๆ แล้ว……เฮ้อ…..งั้นผมก็พูดตามตรงเลยแล้วกันนะครับ ผมสงสัยข้อเท็จจริงของข่าวที่ได้ เพราะว่ายัยปีศาจน้อยชิงตี้เป็นคนส่งข่าวมา!แต่ว่า ผมก็ได้ตรวจสอบแล้ว หลงเซี่ยวเทียนได้กลับมายังแก๊งเก้ามังกรจริงๆ ข่าวนี้จริง แต่ว่าไม่มีการเคลื่อนไหวอะไรเลย ไม่ได้ติดต่อพวกเรามาด้วย ดังนั้นผมเลยสงสัยว่าข่าวนี้มันจะจริงหรือเปล่า”
“จอมพลครับ ผมเริ่มงงไปหมดแล้ว ด้วยความรู้สึกของคนเรา ลูกชายถูกจับตัว มีข้อเสนอมาก็ถือเป็นเรื่องธรรมดา แต่ว่าหลงเซี่ยวเทียนแสดงท่าทีออกมามันดูสลับกับความเป็นจริง เท่าที่ผมรู้ ตั้งแต่ที่เขากลับมายังแก๊งเก้ามังกรแล้วนั้น ก็ปิดประตูไม่รับแขกที่ไหนทั้งสิ้น ขังตัวเองไว้ในห้อง ไม่ทำอะไรเลย นี่ก็คือจุดที่ผมคิดไม่ตกจริงๆ”
พอเห็นฟางเหยียนไม่ตอบ เทียนขุยก็เปลี่ยนเรื่องคุยทันที ถามไปว่า “จอมพลครับ คุณก็คิดมาทั้งคืนแล้ว มีผลอะไรเพิ่มขึ้นไหมครับ?”
“เทียนขุย ผมมีเรื่องหนึ่งจะให้ไปจัดการ”
เทียนขุยพยักหน้า “เรื่องอะไรครับ?”
“แก๊งเก้ามังกร เป็นสำนักที่จงรักภักดี ไม่อาจจะทำให้พวกเขาปวดใจได้”
“คุณคิดจะเข้าไปยุ่งเกี่ยวด้วยหรือครับ?”
“ไม่ใช่ไปยุ่งเกี่ยว แต่มันจำเป็นต้องทำ ได้ยินคุณพูดมาแบบนั้น ผมก็พอจะเข้าใจสิ่งที่หลงเซี่ยวเทียนคิด เขายอมที่จะเสียสละลูกชายตนเอง แต่ไม่ยอมให้แผนชั่วของเพลิงเสวนสัมฤทธิผล ดังนั้นก็เลยไม่ยอมออกไปไหน ไม่ยอมเจอใครเลย”
“จอมพล มันจะเป็นแบบนั้นจริงๆ ใช่ไหม?” เทียนขุยถามอย่างไม่เข้าใจ ทันใดก็เข้าใจขึ้นมาได้ “ถ้าเป็นอย่างที่คุณพูดจริงๆล่ะก็ งั้นพวกเราก็ยอมจะยอมให้ของล้ำค่าที่ได้มาอย่างยากลำบากไปงั้นหรือครับ? นี่มันเกี่ยวข้องกับการฟื้นพลังของคุณเลยนะครับ!”
ฟางเหยียนพูดนิ่งขรึม “เป็นคน ห้ามลืมความตั้งใจเดิม!”