จอมนักรบทรงเกียรติยศ - บทที่ 861 กลับมาเยี่ยมเยียนเต๋ายอดเซียนอีกครั้ง !
ณ ภูเขาทิพย์ทางเขตตะวันตก
เขาได้มาถึงภูเขาทิพย์อีกครั้ง ฟางเหยียนเดินขึ้นไปยังสถานที่ที่คุ้นเคยอย่างรวดเร็ว
ครั้งก่อนที่ฟางเหยียนมาที่นี่เป็นเพราะศาสตราจารย์โจวแนะนำให้มาหาฉินเสียงหลินเพื่อดูว่าเขาจะสามารถไขความลับของหินทิพย์ได้หรือไม่ เขาไม่เจอต่งยู่ที่ภูเขาทิพย์เหมือนครั้งก่อนที่มา เมื่อพูดถึงต่งยู่ผู้หญิงตัวเล็กๆ คนนี้ก็น่าสงสารอยู่ไม่น้อย ถ้าไม่ได้เจอกับฟางเหยียนพ่อของเธอคงจะไม่รอด ไม่เพียงแค่นั้น เธออาจจะไม่สามารถออกจากภูเขาทิพย์แห่งนี้ได้เลย ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะได้รับหยาจื้อที่มีรูปลักษณ์ภายนอกและคุณภาพที่ไม่เลว แต่กลับไม่รู้ว่าเป็นจี้นักษัตรของฉินเสียงหลิน
แต่ครั้งนี้ได้ยินมาว่าเต๋ายอดเซียนรวบรวมทรัพย์สมบัติของทั้งห้าสำนัก รู้สึกแตกต่างไปจากเดิมมาก แต่หลังจากศึกษามาเนิ่นนานเขาก็ยังไม่ทราบปมของเรื่อง ดังนั้นเขาจึงฝากความหวังไว้ที่เต๋ายอดเซียน หวังว่าพวกเขาจะสามารถเปิดเผยหินทิพย์ ฟื้นฟูความแข็งแกร่ง เรียกได้ว่าความมั่นใจในการมาที่ภูเขาทิพย์ครั้งนี้น้อยกว่าครั้งที่แล้ว!
เมื่อเห็นว่าฟางเหยียนเดินเร็วเหมือนบิน เขารู้เส้นทางเป็นอย่างดี เทียนขุยที่รู้สึกเบื่อได้พูดขึ้นว่า“โผ้จวิน นายนี่คุ้นเคยเส้นทางดีเลยนะ!”
ฟางเหยียนไม่ได้เดินช้าลงและพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องการมาที่ภูเขาทิพย์ ลบส่วนที่คลุมเครือของต่งยู่อย่างสุดความสามารถแล้ว เขารู้สึกว่าเทียนขุยกำลังนินทามากขึ้นเรื่อยๆ ถึงตอนนั้นเขาจะถามคำถามอย่างไม่รู้จบแน่นอน หาเรื่องไม่สนุกเอง เมื่อเทียนขุยได้ยินว่าเขาถูกเสี่ยวหงควบคุมและเกือบจะทำผิดพลาดครั้งใหญ่ สีหน้าของเขาเริ่มดูไม่เป็นธรรมชาติ ตอนนี้เขาเข้าใจแล้วว่าที่ฟางเหยียนรีบมาที่เขตตะวันตกล่วงหน้าไม่ใช่แค่เพื่อมาหาเขาอย่างเดียว แต่มาเพื่อไขความลับของหินทิพย์
เทียนขุยกำลังจะพูด แต่ทันใดนั้นก็มองเห็นฉินเสียงหลินพอดี เขาอุทานว่า “เฮ้ย นั้นคนป่าหรือเปล่าวะ?”
ฉินเสียงหลินเป็นสัตว์ในตำนานที่ถูกเลี้ยงดูโดยเต๋ายอดเซียน ร่างสูงใหญ่มาก มีขนปกคลุมตามตัว และเดินตัวตรงซึ่งดูคล้ายกับคนป่ามาก
ฟางเหยียนรู้จักฉินเสียงหลินเป็นอย่างดี สำหรับเขาแล้วไม่แปลกใจกับรูปร่างหน้าตาของฉินเสียงหลิน ถ้าฉินเสียงหลินไม่ปรากฏตัวถึงจะแปลกใจมากกว่า อย่างไรเสียเต๋ายอดเซียนก็เป็นผู้ปกครองของภูเขาทิพย์ สามารถควบคุมหญ้าและต้นไม้ของภูเขาทิพย์ได้โดยธรรมชาติ แม้กระทั่งลมพัดใบหญ้า ไม่เกินจริงที่จะบอกว่าเพียงแค่เต๋ายอดเซียนยินยอม สิ่งมีชีวิตทั้งหมดของภูเขาทิพย์ก็ถูกเขาควบคุมไว้ทั้งหมดแล้ว
ฉินเสียงหลินไม่ได้มีท่าทีที่หวาดกลัวแต่อย่างใด เขาโค้งคำนับตามมารยาท ส่วนเทียนขุยที่เฝ้าดูอยู่ก็ต้องตกตะลึง
“โผ้จวิน ฉันเห็นไม่ผิดใช่ไหม ทำไมนายถึงมีเสน่ห์ขนาดนี้ แม้แต่คนป่าก็ยังยอมจำนน!”
ฟางเหยียนมองไปที่ฉินเสียงหลินโดยไม่ได้เอ่ยพูดคำใด เทียนขุยเหลือบมองแล้วเดินไปข้างหน้าโดยไม่พูดอะไร ฉินเสียงหลินรออย่างให้เกียรติ เขาทำท่าย่อตัวลงเพื่อเป็นการต้อนรับ แต่ก็รู้สึกอึดอัดยังไงไม่รู้
ทันทีที่ฟางเหยียนเดินผ่าน ฉินเสียงหลินก็ยืนขึ้นทันที จากนั้นก็ได้ขวางเทียนขุยเอาไว้ เทียนขุยขมวดคิ้วเล็กน้อยพร้อมกับจ้องไปที่ฉินเสียงหลินด้วยความประหลาดใจ
“อะไร? ไม่อยากให้ฉันเข้าไปเหรอ?”
“โฮกก……”
ฉินเสียงหลินคำรามออกมาด้วยเสียงที่แหลมคม เห็นได้ชัดว่าเขากำลังตอบคำถามของเทียนขุย ความหมายก็ไม่ต้องการให้เขาเข้าไป
เทียนขุยรู้สึกไม่พอใจ คนเหมือนกันแต่โชคชะตาไม่เหมือนกัน เจ้าคนป่านี้เลือกปฏิบัติฉิบหาย!
เขาเป็นคนใช้กำลังแก้ปัญหาอยู่แล้ว ในเมื่อไม่ได้ตำรา งั้นก็มาใช้กำลังกันเลยแล้วกัน!
อย่าเอาแต่ส่งเสียงคำราม มาแก้ปัญหาด้วยสองหมัดกันเลยดีกว่า!
เขาวัดหมัดเข้าไปโดยไม่ลังเล เห็นได้ชัดว่าฉินเสียงหลินคาดไม่ถึงว่าเทียนขุยจะใช้กำลังอย่างกะทันหัน เขารับหมัดนั้นไปเต็มๆ จนร่างกายเซออกไป เมื่อตั้งรับได้เขาได้ส่งเสียงคำรามใส่เทียนขุยด้วยเสียงแหลมคมที่ดังขึ้นเรื่อยๆ
หมัดของเขาทำให้เทียนขุยขมวดคิ้วเล็กน้อยแล้วพูดพึมพำว่า “ถือว่าเป็นคนที่เก่งกล้า น่าสนุกดีเหมือนกันนะ! นินระดับต้าชี่ชั้นยอดผู้ไม่อวดความแข็งแกร่งออกมา!”
คาดไม่ถึงว่าจะได้พบเจอนินระดับต้าชี่ชั้นยอด เทียนขุยผู้ที่มีความแข็งแกร่งที่มั่นคงรู้สึกตื่นเต้นที่จะประลองฝีมือในทันที!
เขาไม่ได้รีบลงมือทันที แต่กลับมองไปที่ฟางเหยียนแล้วพูดว่า “ฉันขอต่อสู้กับเขาได้ไหม?”
ฟางเหยียนจะไม่เข้าใจความหมายของเทียนขุยได้อย่างไร เทียนขุยแค่ต้องการฝึกฝีมือของเขา! เขาไม่เห็นด้วยกับสิ่งนี้ในตอนแรก แต่เมื่อนึกถึงตอนเต๋ายอดเซียนบดขยี้ในตอนแรก เขาก็พยักหน้าทันที!
เมื่อได้รับอนุญาตจากฟางเหยียนทำให้เทียนขุยไม่รีรออีกต่อไป งดหมัดขึ้นมาแล้วใช้สายตาพิฆาตมองไปยังฉินเสียงหลิน
ในขณะนั้นรัศมีเป็นเหมือนสายรุ้ง ราวกับว่ามันสามารถทำลายทุกสิ่งทุกอย่างได้ พลังภายในอันทรงพลังได้ปกคลุมไปทั่วท้องฟ้า พายุหมุนฝุ่นตลบไปทั่วบริเวณ
เทียนขุยกระโดดขึ้นไปบนอากาศ กระแทกหมัดราวกับเสาเหล็กของเขาลงไปที่ฉินเสียงหลินราว แล้วตะโกนเสียงดังว่า “พังพินาศแปดทิศ!”
ตูม!
ภูเขาพังทลาย แผ่นดินสะเทือน พลังภายในอันทรงพลังราวกับว่ากำลังจะเกิดหายนะใหญ่ ฉินเสียงหลินถูกพลังนี้ล้อมรอบตัวไว้ ต้นไม้แตกออกเป็นชิ้นๆ พุ่งสูงขึ้นไปแล้วตกลงมา ฉินเสียงหลินถูกพลังภายในอันทรงพลังนี้โจมตีจนต้องถอยหลังไปหลายก้าว ร่างกายของเขาโซซัดโซเซและทรงตัวแทบไม่ได้
“โฮก……”
เสียงนั้นดังสนั่นไปทั่วบริเวณภูเขาทิพย์ นกและสัตว์มากมายต่างหนีไป!
เทียนขุยพูดพึมพำอย่างพึงพอใจ “นี่คือความแข็งแกร่งที่แท้จริง ในที่สุดก็โกรธแล้ว? มาลองกันอีกครั้ง!”
คราวนี้ฉินเสียงหลินเป็นคนเริ่มลงมือก่อนโดยไม่มีท่าทางอะไรมากมาย เขาใช้เพียงหมัดเดียว! เห็นได้ชัดว่าเทียนขุยไม่ได้คาดคิดว่าเขาจะมีความเร็วขนาดนี้ มันสายเกินไปที่ทันตั้งตัว ดังนั้นเขาจึงทำได้เพียงงัดหมัดเพื่อต้านทานอย่างกะทันหัน!
ไม่ยอมแพ้เด็ดขาด!
หมัดกระแทกเข้าเนื้อ เสียงกระดูกดังกรอบแกรบ!
ตูม!
ทั้งสองถอยหลังโซซัดโซเซไปสองสามก้าว สักพักใหญ่ค่อยตั้งตัวได้ ทั้งสองมองหน้ากันด้วยแววตาพิฆาต
“สบายมาก! ยังได้อีก!”
เทียนขุยไม่เคยต่อสู้อย่างดุเดือดขนาดนี้มาก่อน หากเขายังไม่อยู่ในขอบเขตที่เสถียร เขาอาจจะไม่สามารถจัดการกับฉินเสียงหลินได้ แต่ตอนนี้เขามีจิตวิญญาณการต่อสู้อันมหึมาที่ไม่มีสิ้นสุด ถ้าไม่ชนะก็ไม่ยอมแพ้!
ทั้งสองต่อสู้กันอย่างดุเดือด แต่ละคนไม่ยอมแพ้กันเลย!
ฟางเหยียนยืนอยู่ข้างๆ สังเกตสถานการณ์ของเทียนขุย หลังจากที่ผ่านขอบเขตที่มั่นคงความแข็งแกร่งของเขาเพิ่มขึ้นมาก แต่การจัดการกับฉินเสียงหลินก็ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ฉินเสียงหลินสมกับที่เป็นสัตว์ในตำนาน พลังทางกายมาถึงระดับที่น่ากลัว หลังจากผ่านไปเป็นเวลานานความแข็งแกร่งของฉินเสียงหลินก็เพิ่มขึ้นสู่ระดับใหม่! ฉินเสียงหลินไม่เหมือนเขาคนเดิมอีกต่อไป
เทียนขุยเป็นผู้มีพละกำลังที่ต่อสู้ในสนามรบอยู่แล้ว ฉินเสียงหลินพึ่งพาร่างกายที่น่าหวาดกลัวในการป้องกันตัวเอง ทั้งสองเป็นผู้มีพละกำลังพลังอย่างแท้จริง ไม่ว่าจะเป็นความต้องการที่จะโจมตีหรือท่าทางของในการป้องกันตัว การต่อสู้ของพวกเขาทั้งสองเป็นการต่อสู้ระดับปรมาจารย์ เป็นมวยถูกคู่ที่ได้มาพบเจอกัน
เทียนขุยต้องการประสบการณ์ โดยเฉพาะประสบการณ์ในระดับต้าชี่ชั้นยอดที่เสถียร ความปรารถนาในการต่อสู้และปณิธานการต่อสู้ของเขารวมเข้าด้วยการเป็นความแข็งแกร่ง
แต่น่าเสียดายไม่ได้เจอคู่ต่อสู้ที่แท้จริง และตอนนี้ฉินเสียงหลินเป็นเหมือนหินลับมีดที่ดีที่สุดและก็เป็นคู่ฝึกที่ดีที่สุดอีกด้วย!
ไม่แปลกใจที่ทั้งสองต่อสู้กันแบบหิวกระหายความชนะ มันแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะชนะ เว้นเสียจากจะเป็นนักฆ่าแท้จริง!
กุญแจสู่ชัยชนะของการต่อสู้ของผู้มีฝีมือสูงอยู่ที่รายละเอียดในการควบคุม!
เห็นได้ชัดว่าเทียนขุยและฉินเสียงหลินไม่ใส่ใจในรายละเอียดของการควบคุม ใช้ความรู้สึกล้วนๆ ในการต่อสู้ เทียนขุยเป็นผู้มีพละกำลังและมักจะโจมตีด้วยหมัดหนักๆ โดยไม่รายละเอียดใดๆ เลย ส่วนฉินเสียงหลินเดิมเขาเป็นสัตว์ในตำนาน หากเขาไม่ได้พึ่งพาการบำเพ็ญเพียร เขาจะยืนหยัดได้นานขนาดนี้ได้อย่างไร
ตูม!
ในที่สุดทั้งสองก็แยกจากกัน ร่างกายของพวกเขามีรอยแผลฝากไว้ แต่อาการบาดเจ็บไม่ร้ายแรงมากนัก
“ต่างกันไม่มาก” ฟางเหยียนพูดด้วยน้ำเสียงที่เบา
เขารู้ว่าไม่ใช่การต่อสู้ด้วยโชคชะตา และก็ไม่สามารถบอกว่าใครแพ้ใครชนะได้ แต่พูดได้เลยว่าเต๋ายอดเซียนทุ่มเทให้กับฉินเสียงหลินมากมายมหาศาลจริงๆ มันไม่ใช่การแลกด้วยชีวิตของใคร ทั้งสองคนยากที่แยกว่าใครแพ้ใครชนะ ต่อสู้อย่างเต็มที่ก็พอแล้ว
เทียนขุยพยักหน้าและกลับไปยืนอยู่ข้างๆ ฟางเหยียน ความฮึกเหิมบนใบหน้าของเขายังคงไม่หายไปและมีสัญญาณว่าอยากประลองฝีมืออีกอีกครั้ง เมื่อมองไปที่ฉินเสียงหลินที่ยืนตัวตรง เสียงของเขาเบาลง และเขายังคงโค้งคำนับต่อฟางเหยียนไม่หยุด
เทียนขุยยิ้มแล้วพูดว่า “โผ้จวิน เจ้าคนป่านี้มีเรื่องราวความเป็นมายังไงเหรอ ความสามารถในการป้องกันนี้น่ากลัวเกินไป ยิ่งไปกว่านั้นมีความแข็งแกร่งมาก ถ้าฉันไม่รักษาขอบเขตให้เสถียร บางทีฉันอาจจะยืนหยัดได้ไม่นาน”
ฟางเหยียนพูดเบาๆ “เขาเป็นสัตว์ในตำนานที่ถูกเลี้ยงโดยภูเขาทิพย์เต๋ายอดเซียน!”