จอมนักรบทรงเกียรติยศ - บทที่468 จอมคาถาทั้งสี่ พินาศทั้งกลุ่ม
เห็นเพียง กรงเหล็กที่ดูดกลืนกำลังภายในพังลง หล่นลงกับพื้นเป็นเสี่ยงๆ
ที่ตรงกลางของกรง ฟางเหยียนยืนอย่างมั่นคงเหมือนเขาไท่ซาน ไม่ขยับไปไหน!
การต่อสู้เสร็จสิ้นลงแล้ว แต่ฟางเหยียนไม่กองลงไป ไม่ถูกทำลาย ไม่ตาย! เคล็ดขังมังกร มีพลังที่สามารถทำให้มังกรยังหนีออกไปไม่ได้ มีพลังอันมหาศาลสะท้านฟ้าดิน นึกไม่ถึงว่าจะกดฟางเหยียนไว้ไม่ได้
ไม่ เป็นไปไม่ได้ ไม่มีใครต้านทานเคล็ดขังมังกรของจอมคาถาทั้งสี่ได้ คนนี้มันต้องตายแล้วแน่ๆ แต่แค่ตายไม่สงบ ดังนั้นจึงยืนอยู่ ยังมีท่าทีที่อยากโจมตีครั้งสุดท้ายอยู่
เมื่อเห็นเขาไม่ขยับ ในหัวของอู๋หมิงเกิดเป็นการคาดเดาแบบนี้ขึ้นมา
เขาไม่เชื่อว่าจะมีคนหนีจากเคล็ดขังมังกรได้ ฟางเหยียนเป็นแค่ชายหนุ่มวัยรุ่นเย่อหยิ่งเท่านั้น ยิ่งไม่มีทางหนีได้เลย
แต่ เรื่องที่เกิดขึ้นวินาทีต่อมากลับทำให้เขาต้องอ้าปากค้าง
ฟางเหยียนขยับแล้ว เขายกมือขึ้นมาปัดเสื้อผ้าบนเรือนร่างอย่างเบาๆ นั่นเป็นการขยับจริงๆ เขาไม่ได้ตาลาย
ไม่ใช่แค่ขยับ ฟางเหยียนยังเอ่ยปากพูดอีกด้วย เขาพลางปัดเสื้อผ้า พลางพูดเองเออเองว่า “เนื้อผ้าของชุดนี้ไม่เลว! โดนโจมตีแบบนี้ยังไม่ขาด”
อู๋หมิงตาโต เหมือนโดนฟ้าผ่าอย่างไรอย่างนั้น นี่มันเป็นไปได้อย่างไรกัน การโจมตีเมื่อกี๊เหมือนกับการโจมตีเพื่อเอาชีวิต แล้วจะทำอะไรเขาไม่ได้ได้อย่างไรกัน! นึกไม่ถึงว่าเขายังมีอารมณ์พูดเรื่องเสื้อผ้าอีก
และแล้ว หนึ่งในจอมคาถาทั้งสี่เอ่ยปากขึ้นมาว่า “เป็นไปได้ไง? มีคนทำลายเคล็ดขังมังกรของพวกเราได้อย่างไรกัน! แกเป็นใคร? แกทำมันได้อย่างไรกันแน่?”
“เหอะ!” หลังจากที่ฟางเหยียนปัดเสื้อผ้าเสร็จแล้ว จึงได้กล่าวว่า “ฉันเคยพูดไว้ว่าจะล้างบางสำนักไร้หน้าของพวกแก แกคิดว่าฉันล้อเล่นกับแกเหรอ? ต้องยอมรับว่าเคล็ดขังมังกรของพวกแกเก่งกาจจริงๆ แต่คิดจะใช้วิธีนี้ฆ่าฉัน เป็นแค่ฝันของคนเพ้อฝันเท่านั้นแหละ ถึงอย่างไร ฉันต้องขอบคุณพลังของพวกแกด้วยนะ ที่ทำให้ฉันพังกรงใต้ดินที่สามารถบีบกำลังภายในนี้ได้ ถ้าไม่ใช่เคล็ดขังมังกรของพวกแกรวมกับกำลังภายในของร่างกายฉัน บางทีฉันอาจจะถูกขังไว้ข้างใน”
“ดังนั้น!” ฟางเหยียนแสดงท่าทางที่ยกมือเคารพต่อผู้เฒ่าทั้งสี่แล้วกล่าว “ขอบคุณท่านทั้งสี่ที่ช่วย”
ผู้เฒ่าทั้งสี่รู้สึกว่าตัวเองถูกเหยียดหยาม ผู้เฒ่าที่เป็นคนนำพูดกล่าวด้วยสีหน้าช็อกว่า “แกคิดว่าพังเคล็ดขังมังกรของเราได้ แล้วเราจะทำอะไรแกไม่ได้งั้นเหรอ? แกดูถูกพวกเราเกินไปแล้วหรือเปล่า?”
ท่านทั้งสี่เป็นยอดฝีมือชั้นหนึ่ง เมื่อทุกคนออกไปล้วนเป็นยักษ์ที่อยู่โดยลำพังได้ เมื่อพวกเขารวมตัวกันแล้ว ก็สามารถยืนอยู่ในสูงสุดของโลกได้ เพราะเป็นจอมคาถาทั้งสี่ ตัวละครลับของสำนักไร้หน้า
ฟางเหยียนส่งเสียงอ๋อออกมา แล้วกล่าว “งั้นก็ดี อยากขอคำแนะนำฝีมือของท่านทั้งสี่อยู่พอดี”
พูดจบ ฟางเหยียนค่อยๆขยับเท้า เท้าและไหล่เสมอกัน ไม่มีการพันธนาการใดๆ เขาสามารถต่อสู้กับนินจาที่นับได้ว่าเป็นระดับปรมาจารย์หลายคนได้แล้ว บางทีอาจจะมีเหตุไม่คาดฝันอะไรเกิดขึ้นอีกก็ได้
“ไอ้เด็กไร้ยางอาย นึกไม่ถึงว่าจะโอหังได้ขนาดนี้!” ผู้เฒ่าที่ลั่นวาจาพูดจบ ก็ยกมือขึ้นเคารพ การกระทำของทั้งสี่คนเหมือนกันทั้งหมด! ราวกับทั้งสี่ใช้ร่างกันร่วมกันแสดงกิริยายกมือสองข้างเคารพ
จากนั้น ผู้เฒ่าตะคอกเสียงดังออกมาว่า “พลังไร้หน้า!”
ชี่แท้ทั้งสี่มาจากสี่ทิศที่ต่างกันของตัวเองลอยออกมา ฟางเหยียนปักหลักมั่นคง หรี่ตาแล้วตะคอก “กระบี่มา!”
จากนั้นในมือทั้งสองข้างของเขารวมชี่เป็นกระบี่คมสี่ด้าม กระบี่คมสี่ด้ามนี้ค่อยๆใหญ่ขึ้น ช้าๆ ช้าๆ และแล้วก็ยิ่งอยู่ยิ่งใหญ่ ลำแสงทั้งสี่นั้นพุ่งมาที่เขาพอดี กระบี่คมสี่ด้ามพุ่งออกเป็นสี่ทิศ กระบี่คมสี่ด้ามชนเข้ากับพลังทั้งสี่ ฟางเหยียนยืนอยู่ตรงกลางของผู้เฒ่าทั้งสี่ กล่าวอย่างไม่ร้อนรนว่า “ท่านทั้งสี่ ตอนที่กำลังภายในของพวกท่านไม่สามารถรวมเข้ากันได้ พลังของพวกท่านก็งั้นๆแหละ? เมื่อพูดออกไป ผู้เฒ่าทั้งสี่ขมวดคิ้วอย่างหนัก สิ่งที่เขาพูดเป็นความจริง มีเพียงชี่ของพวกเขารวมเข้าด้วยกัน จึงจะสามารถปล่อยพลังที่ยิ่งใหญ่ที่สุดออกมาได้ เมื่อไม่มีการรวมกัน ยากมากที่จะปล่อยพลังออกมาได้จริงๆ
“ไอ้เด็กเมื่อวานซืน!” ผู้เฒ่าที่เพิ่งพูดเมื่อกี๊ยังคงใช้ท่าทีสูงส่งตะคอกใส่ฟางเหยียน “ต่อให้ไม่รวมเข้าด้วยกัน พวกเราก็ฆ่าแกได้! ผู้ที่ล่วงเกินสำนักไร้หน้า ต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย!”
เขาเพิ่งพูดจบ ร่างกายของฟางเหยียนได้ลอยไปที่เขา ยกมือขึ้นมาคว้าคอหอยของเขาอย่างแม่นยำ ฟางเหยียนยกเขาขึ้นมาจากเก้าอี้หิน แล้วกล่าวอย่างเย็นชาว่า “แกตายได้แล้วล่ะ”
พูดจบ พลังในมือของฟางเหยียนเพิ่มมากขึ้น จากนั้นเห็นขอบปากของผู้เฒ่าเคราขาวผมหงอกมีเลือดไหลออกมา วินาทีถัดมา หัวของผู้เฒ่าเอียงลงมา หัวค่อยๆพับลง
ตายแล้ว ผู้เฒ่าคนนั้นถูกฟางเหยียนฆ่าตายแบบนี้แล้ว!
“พี่ใหญ่!” สามคนที่เหลือตะคอกเสียงดังจากที่นี่ แต่ก็ไม่มีประโยชน์อะไรแล้ว ผู้เฒ่าคนนั้นตายแล้ว! พลังที่อยู่ในมือของฟางเหยียนเพิ่มขึ้นไปอีก คอของเขาถูกหักแล้ว ไม่พูดพร่ำทำเพลงใดๆ ฆ่าคนเหมือนการหายใจ
หลังจากที่เห็นผู้เฒ่าตายแล้ว ผู้เฒ่าทั้งสามโมโหจนกัดฟันเคียดแค้น!
“ไอ้สารเลว นึกไม่ถึงว่าไอ้สารเลวอย่างแกจะกล้าฆ่าพี่ใหญ่ของฉัน! เอาชีวิตมา” หนึ่งในนั้นตะคอกใส่ฟางเหยียน จากนั้นในมือของเขาปล่อยแสงที่มีพลังออกมา
“ฟิ่วๆๆ!” ร้างกายของฟางเหยียนเหมือนลม ลอยไปที่ผู้เฒ่าคนนั้น
ไม่นาน ที่ในคุกใต้ดินนั้น มีศพเพิ่มขึ้นมาสี่ศพ!
ผู้เฒ่าที่อยู่มาร้อยกว่าปีตายทั้งหมดแล้ว จอมคาถาทั้งสี่ของสำนักไร้หน้า พินาศทั้งกลุ่ม!
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นต่อหน้าของอู๋หมิง เมื่อกี๊แววตากระปรี้กระเปร่าของเขาเมื่อกี๊กลายเป็นช็อก ไม่คาดคิดจนกระทั่งถึงตอนนี้ เรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดเมื่อกี๊เป็นความจริงมั้ย? ทำไมถึงได้แข็งแกร่งขนาดนั้น นึกไม่ถึงว่าคนนี้จะฆ่าจอมคาถาทั้งสี่ของสำนักไร้หน้าได้
จอมคาถาทั้งสี่คือไพ่เด็ดของสำนักไร้หน้า นอกจากจอมคาถาทั้งสี่แล้ว งั้นก็ต้องเป็นท่านปรมาจารย์ไร้หน้าแล้ว ฝีมือของจอมคาถาทั้งสี่แข็งแกร่งขนาดไหนเขารู้อยู่ พลังของทั้งสี่รวมกันแล้วเป็นระดับปรมาจารย์
แต่ นึกไม่ถึงว่าคนนี้จะต่อกรกันได้ แล้วยังฆ่าคนที่สี่คนที่รวมกันแล้วเป็นปรมาจารย์ได้ เขามีฝีมือแข็งแกร่งขนาดไหนกัน? ทำไมถึงแข็งแกร่งได้ถึงขั้นนี้?
อายุเท่านี้แข็งแกร่งถึงขั้นนี้ หรือเขาเป็นอัจฉริยะที่ออกมาจากโลกอื่นกันนะ?
ไม่ๆๆ เป็นไปไม่ได้? จะมีอัจฉริยะที่ออกมาจากโลกอื่นจริงๆได้อย่างไรกัน นั่นก็เป็นแค่ตำนานเท่านั้น
จอมคาถาทั้งสี่แพ้เขา ผู้อาวุโสทั้งแปดก็ดันถูกส่งไปทำธุระในที่ที่แตกต่างกันออกไป ตอนนี้ท่านปรมาจารย์บำเพ็ญเพียร กำลังจะเลื่อนขั้นเป็นระดับปรมาจารย์ ช่วงเวลาสำคัญแบบนี้ ตนไม่สามารถไปรบกวนท่านปรมาจารย์แน่นอน
งั้นก็ต่อสู้กับเขาเองก็แล้วกัน! มีเพียงตนเท่านั้น ที่จะสามารถต่อสู้กับเขาได้! ถึงแม้ในใจจะลังเลอยู่บ้าง แต่อู๋หมิงไม่ใช่คนที่ยอมถอย เขาไม่มีทางยอมถอยแน่นอน