จอมนักรบท้าโลก - จอมนักรบท้าโลก - บทที่ 139 วุ่นไปหมดแล้ว
บทที่ 139 วุ่นไปหมดแล้ว
พอกลับถึงบ้าน ติงเมิ่งเหยนแทบหัวใจทะลุนอกอกแล้ว พอรถจอดลงก็รีบเปิดประตูวิ่งออกไปทันที
เจียงชื่อเดินตามหลังเธอพลางหัวเราะหึๆออกมา
ทั้งสองเดินเข้าบ้านตามหลังกันไปติดๆ
ซูฉินเห็นสภาพผมเผ้ายุ่งเหยิงของติงเมิ่งเหยน ก็ถาม “เมิ่งเหยน ไปทำอะไรมาน่ะ?”
ติงเมิ่งเหยนเบ้ปากบอก “เจียงชื่อรังแกหนู!”
“อ๋า? รังแกลูกยังไงล่ะ?”
“เขารังแกหนู ขับรถเร็วจะตาย ทำหนูตกใจหมดแล้ว”
ซูฉินมองบนใส่เจียงชื่อหนึ่งที “เราก็จริงๆเล้ย ขับรถเร็วขนาดนั้นทำไม? เกิดอุบัติเหตุขึ้นมาจะทำยังไง?”
ติงฉี่ซานเดินออกมาจากในห้อง “นี่เธอน้าพูดอะไรอย่างนั้นน่ะ? อยู่ดีๆพูดเรื่องอุบัติเหตุทำไม? พวกลูกๆเล่นสนิทสนมกันเท่านั้น เธอจะรู้อะไรล่ะ?”
ติงเมิ่งเหยนมองติงฉี่ซานอย่างพูดไม่ออก
ช่วงนี้ติงฉี่ซานรักใคร่เจียงชื่อมาก อะไรก็พูดตามเจียงชื่อไปหมด เอาเข้าไป
ทั้งครอบครัวกำลังคิดจะกินอาหารเย็น ก็ได้ยินเสียงโทรศัพท์ดังรัวๆ โทรศัพท์ในบ้านดังขึ้นมา
ติงฉี่ซานเดินออกไปรับสาย
“ฮัลโหล หา…พ่อ หาเมิ่งเหยนเหรอ?” ติงฉี่ซานยื่นโทรศัพท์ให้ติงเมิ่งเหยน
“คุณปู่ มีอะไรหรอคะ?”
ตอนแรกติงเมิ่งเหยนสีหน้ายังเปี่ยมไปด้วยรอยยิ้ม พอฟังปลายสายพูดไปนานๆเข้า ก็เปลี่ยนละ สีหน้ายุ่งยากใจโผล่ขึ้นมา
อีกฝ่ายพูดไม่ถึงสามนาทีก็วางสายไป
ติงเมิ่งเหยนโกรธจนกระทืบเท้าหลายที เบ้ปากนั่งทิ้งตัวลงโซฟา
ซูฉินกับติงฉี่ซานสบตากันหนึ่งที ต่างรู้สึกสงสัย
ซูฉินเดินเข้ามาถาม “เมิ่งเหยน เป็นอะไรอีกล่ะ? คุณปู่ให้หนูไปทำโอทีเหรอ?”
“ถ้าแค่โอที หนูไม่โกรธหรอกค่ะ”
“งั้นคือ?”
“ก็คือให้หนูออกไปทำงานที่เขตเหยียนไท่ พรุ่งนี้ต้องไปเลย บอกว่าจะให้ไปดูวัตถุดิบที่นั่นก่อน จะได้ร่วมงานเจรจากับอีกบริษัทได้”
ซูฉินหัวเราะ “ก็ไม่มีอะไรนี่ ไปแค่วันสองวันเท่านั้นเอง”
ติงเมิ่งเหยนหัวเราะ “ถ้าแค่ไปรับงานดูวัตถุดิบเท่านั้น หนูไม่บ่นหรอก ปัญหาคือคุณปู่ให้หนูไปกับซุนจวิ้นเฟิง! แถมยังไปแค่สองคน เท่ากับว่า อีกสองวันข้างหน้าหนูต้องออกไปทำงานที่เขตเหยียนไท่กับเขาแค่สองคน”
คำพูดนี้ทำทุคนสีหน้าเปลี่ยนไปตามๆกัน
ชายหนึ่งหญิงหนึ่ง ออกไปทำงานนอกสถานที่สองวัน เรื่องนี้แค่ฟังก็ดูไม่เหมาะสมเท่าไหร่
เมื่อก่อนมักจะเป็นผู้ชายสองคนออกไปทำงานด้วย ถ้ามีผู้หญิง ก็ต้องมีอย่างน้อยสี่ห้าคนหรือแทบจะเจ็ดแปดคนไปด้วยกัน ไม่มีทางให้ไปแค่ชายหนึ่งหญิงหนึ่งแน่
มันอันตรายเกินไป
ทำหยั่งกับจงใจหาทางให้พวกเขาสองคนอยู่ด้วยกันสองต่อสองอย่างนั้แหละ
ติงฉี่ซานไม่พอใจละ “พ่อนี่ประสาทไปแล้วหรือไง? ให้เมิ่งเหยนไปทำงานนอกสถานที่กับผู้ชายคนหนึ่งสองวัน? คิดออกมาได้! ไม่ได้ ไม่ได้เด็ดขาด”
ติงเมิ่งเหยนพูด “ใช่ไงคะ หนูเครียดตรงนี้แหละ แต่คุณปู่ยืนกราน รอบนี้ยังไงหนูก็ต้องไป”
ที่จริง ถ้าเป็นพวกผู้ชายที่วางตัวดีของบริษัทก็ว่าไปอย่าง
สำคัญคือ ซุนจวิ้นเฟิงหลายวันนี้เอาแต่ตามเลาะเล็มเธอไม่ห่าง สลัดยังไงก็ไม่หลุด ตอนกลับมาก็พึ่งโดนเจียงชื่อสั่งสอนไปนี่ไง?
ไม่ว่าดูยังไง ก็เป็นตาซุนจวิ้นเฟิงคอยยุแยงข้างหูคุณปู่ ถึงได้คิดวิธีทำงานนอกสถานที่แบบนี้ออกมา
ติงฉี่ซานด่าออกปาก “ตาแก่เฟอะฟะนี่ คราวที่แล้วเขายืนมองฉันไปตายหน้าตาเฉย ยังไม่ยอมออกเงินช่วยฉัน ตอนนี้จะส่งลูกสาวฉันเข้ากองไฟอีก เลวสิ้นดี!”
ซูฉินรีบปิดปากเขาไว้ “ไอ้หยา พูดอย่างนี้ไม่ได้นะ นั่นพ่อคุณนะ มีลูกที่ไหนด่าพ่อบ้างล่ะ? จะโดนสวรรค์ลงโทษนะ”