จอมนักรบท้าโลก - จอมนักรบท้าโลก - บทที่ 200 ไม่ค่อยมีใครรู้จัก
“เฟิ่งหย่า พูดแบบนี้ได้ยังไงกัน?”หวางจื้อหรงจงใจขัดจังหวะ แล้วหันกลับไปพูดกับฉี่ซานว่า “ฉี่ซาน นายอย่าไปใส่ใจเลยนะ”
ฉี่ซานโบกมือไปมา “ไม่ต้องกังวลไป ก็แค่วัยรุ่นเอง”
บรรยากาศในห้องจัดเลี้ยงมักจะดูแปลกๆ อยู่เสมอ ดูเหมือนทุกคนจะเข้ากันได้ดี แต่จริงๆ แล้วพวกเขากลับเปรียบเทียบกันอยู่ตลอด
หวางจื้อหรงจับจุดของ‘เจียงชื่อ’ได้ อีกทั้งยังกดดันติงฉี่ซานอยู่เรื่อยๆ
เป็นครั้งแรกในรอบหลายปีที่เขามีความสุขมากขนาดนี้
ขณะที่กินและดื่มอยู่นั้น สวีชงก็ยืนขึ้นพร้อมกับพูดกับหวางจื้อหรงว่า “พ่อครับ ผมไม่ได้เตรียมของขวัญสำหรับวันหยุดมาให้เลย ผมรู้ว่าพ่อชอบศิลปะพู่กันจีน ผมก็เลยซื้อสมุดเลียนแบบมาให้พ่อ หวังว่าท่านจะชอบนะครับ”
“โอ้?ไหนหยิบมาให้ดูทีซิ”
สวีชงหยิบสมุดลอกเลียนแบบจากด้านข้างของเขาแล้วเปิดออกทันที
หลังจากเห็นเนื้อหาในหนังสือลอกเลียนแล้ว หวางจื้อหรงก็ใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว นี่ไม่ใช่หนังสือลอกเลียนแบบธรรมดา แต่มันเป็นผลงานของถังไป่หู่–《สมุดลอกวังคางคก》!
คนทั่วไปรู้แค่ว่าภาพวาดของถังไป่หู่นั้นยอดเยี่ยมมากแค่ไหน ศิลปะพู่กันจีนของเขาอยู่ท่ามกลางทุกๆคน อีกทั้งยังเป็นประวัติศาสตร์อีกด้วย
ศิลปะพู่กันจีนของถังไป่หู่นั้นหายาก และการที่สืบทอดมานั้นหายากยิ่งกว่า
ปัจจุบันศิลปะพู่กันจีนของถังไป่หู่มีมูลค่ามากกว่าสิบล้าน เป็นสิ่งที่ สามารถพบเจอได้ แต่ไม่สามารถเรียกร้องมันมาได้!
ของขวัญชิ้นนี้ มีมูลค่ามากเกินไป
โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับคนอย่างหวางจื้อหรงที่ศึกษาศิลปะพู่กันจีนมาหลายปี เมื่อได้รับของขวัญแบบนี้ ก็ชอบเป็นอย่างมาก เป็นสิ่งที่ไม่สามารถใช้เงินมาวัดมูลค่าใดๆได้อีก
“ดี ดีมาก เยี่ยมสุดๆ!”
“สวีชง นายน่าจะใช้เงินไปจำนวนไม่น้อยเลยใช่ไหมเพื่อให้ได้ภาพนี้มา?”
สวีชงยิ้มออกมาเล็กน้อย “ไม่มากเลยครับ พอดีมันถูกรวบรวมมาจากเพื่อนอีกที ราคาถูกกว่าตลอดเกือบครึ่งเลย แค่สิบกว่าล้านครับ”
สิบกว่าล้าน?
แค่?
ติงฉี่ซานที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามนั้น นั่งนิ่งแทบไม่ไหวติง วันนี้เขาแพ้อย่างสมบูรณ์แบบ
เขาเป็นผู้ที่มีการวิจัยเชิงลึกเกี่ยวกับศิลปะพู่กันจีน เขารู้ดีว่างานต้นฉบับของถังไป่หู่นั้นมีค่ามากเพียงใด และเขาก็รู้ด้วยว่าศิลปะพู่กันจีนที่หายากนี้หามีอะไรมาเปรียบได้ไม่ เป็นสิ่งที่ไม่อาจซื้อได้แม้ว่าจะมีเงินก็ตาม
ติงฉี่ซานได้แต่อิจฉาริษยา
แต่ก็ทำอะไรไม่ถูก
หวางจื้อหรงพูดกับติงฉี่ซานอย่างร่าเริงว่า “ฉี่ซานไหนดูสิว่าศิลปะพู่กันจีนนี้เป็นของถังไป่หู่จริงหรือไม่?”
เห็นได้ชัดว่ามันคือการโอ้อวด
ติงฉี่ซานได้แต่กัดฟันทำ ฝืนยิ้มออกมา “มันเป็นของจริง”
“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า แม้แต่คนอย่างฉี่ซานที่มีความรู้เกี่ยวกับศิลปะพู่กันจีนมาก ก็บอกว่ามันเป็นของจริง สวีชง นายนี่มันเป็นลูกเขยที่ดีของฉันจริงๆเลย”
ใบหน้าของตระกูลหวางเต็มไปด้วยรอยยิ้มแห่งชัยชนะ
ในทางกลับกัน ติงฉี่ซานและติงเมิ่งเหยนต่างพากันก้มศีรษะลง ถอนหายใจและขมวดคิ้วออกมา
ในเวลานี้เอง หวางจื้อหรงก็ถามเจียงชื่อว่า “หลานชายของฉัน วันนี้เธอไม่ได้มามือเปล่าเสมอไปใช่ไหม?น่าจะมีของขวัญมาให้พ่อตาสักหน่อยใช่ไหมล่ะ?”
เฟิ่งหย่าที่อยู่ด้านข้างก็หัวเราะเยาะออกมา “พ่อ อย่าทำให้คนอื่นอับอายแบบนี้สิคะ เงินเดือนแปดพันหยวน จะเอาไปซื้ออะไรได้? แบบนี้ไม่ได้ทำให้ครอบครัวต้องมาตกอยู่ในสถานการณ์ที่น่าอับอายหรอกเหรอคะ?”
หวางจื้อหรงนั้นก็ทำตัว‘ตื่นมาจากฝัน’และยังคงพูด‘ขอโทษ’ไปเรื่อยๆ “ขอโทษทีขอโทษ ฉันผิดเองแหละ ฉันขอนายมากเกินไป”
การแสดงออกของพ่อและลูกสาวของตระกูลติงยิ่งหนักขึ้นไปอีก
สีหน้าของเจียงชื่อค่อนข้างสงบ เขาวางตะเกียบในมือลงแล้วพูดเบา ๆ ว่า “อันที่จริง ผมก็ได้ซื้อสมุดลอกเลียนแบบให้พ่อตาด้วยเหมือนกันครับ”
สวีชงยิ้ม “โอ้?นายก็ซื้อสมุดเลียนแบบมาเหมือนกันเหรอ?ใช่ที่เป็นแบบราคาแปดเหรียญในร้านขายเครื่องเขียนหรือเปล่าล่ะ?”
หวางเฟิ่งหย่ามองบน “ไร้สาระ ตอนนี้ราคาน่าจะถึงสิบหยวนแล้วล่ะใช่ไหม?