จอมนักรบท้าโลก - จอมนักรบท้าโลก - บทที่ 205 ลูกเขยที่ไร้สาระ
สวีชงยึดช่องว่างนี้ โต้กลับทันที “โย้ พ่อของนายชอบมัน นายจะไม่ให้เขาหรือไง นายนี่มันเป็นลูกเขยที่ไร้สาระจริงๆ?ตัวเองไม่ได้ลายเซ็นจากดาราดัง ก็มาอิจฉาคนอื่นงั้นเหรอ?ไม่รู้ว่าจะเรียกว่าอะไรจริงๆเลย!”
หวางเฟิ่งหย่าพูดลอยมาตามลมว่า “คนบางคนน่ะ กินองุ่นไม่ถึง แล้วเที่ยวพูดว่าองุ่นนั้นเปรี้ยว”เจียงชื่อได้ยินก็ไม่ได้ตอบสนองอะไรมากนัก ด้วยท่าทางที่สงบบนในหน้าของเขา พร้อมกับกล่าวเบาๆว่า “พ่อครับ จริงๆแล้ว ผมก็ได้เตรียมของขวัญชิ้นที่สองมาให้พ่อเช่นกัน เรื่องที่บังเอิญก็คือ มันเป็นสิ่งที่เกี่ยวข้องกับหลิงเหยาครับ”
“โอ้?”
ทันใดนั้นสติของติงฉี่ซานก็กลับมา “นายก็เอาลายเซ็นมาให้ฉันงั้นเหรอ?”
เจียงชื่อส่ายหัว “อันนี้ไม่มีครับ”
สวีชงกล่าวว่า “ไม่มีแล้วจะพูดหาพระแสงอะไร?ทำไมใช้เงินสองหยวนเพื่อซื้อโปสเตอร์เพื่อหลอกพ่อของนายซะล่ะ ช่างเป็นสิ่งที่น่าอายซะจริง”
เจียงชื่อไม่ได้สนใจเขา แล้วพูดต่อว่า “พ่อครับ ผมรู้ว่าพ่อชอบหลิงเหยามาก ดังนั้นผมจึงเชิญหลิงเหยามาที่นี่ เพื่อร้องเพลงให้กับพ่อครับ หวังว่าท่านจะชอบมัน”
ห๊ะ??
ไม่เพียงแค่ติงฉี่ซาน แต่ทุกคนในที่นั้นก็ต่างพากันตกตะลึง
กล้าพูดจริงๆนะ!
หลิงเหยาเป็นถึงดาราดัง เจียงชื่อเป็นแค่อะไร?มีคุณสมบัติอะไรจะพาเธอมาที่นี่กัน?
หวางเฟิ่งหย่าหัวเราะเยาะและพูดว่า “ติงเมิ่งเหยน เธอช่วยเอาสิ่งแปลกประหลาดนี้กลับไปได้ไหม?น่าอับอายขายขี้หน้าจริงๆ ฉันล่ะมีความสุข”
สวีชงกล่าวเสริมว่า “ด้วยชื่อเสียงของหลิงเหยาในตอนนี้ ค่าแสดงก็คงจะมากกว่าหนึ่งล้านหยวนได้ใช่ไหม?เจียงชื่อ เงินเดือนนายเดือนหนึ่งแค่แปดพันเอง ต้องทำงานกี่ปีถึงจะสามารถจ้างเธอได้?”
“ไม่ไหวแล้ว ฉันอยากจะขำจะตายแล้ว ยื่นมือมา ฮ่าฮ่าฮ่า…”
สมาชิกของตระกูลหวางเย้ยหยันมาก ไม่เชื่อว่าเจียงชื่อจะมีความสามารถมากเช่นนี้
ไม่เพียงแค่สมาชิกของตระกูลหวางเท่านั้น?
แม้แต่ติงฉี่ซานและติงเมิ่งเหยนเองก็ไม่เชื่อว่าเจียงชื่อจะมีความสามารถนี้
ติงฉี่ซานขมวดคิ้ว ความโกรธปรากฏอยู่บนใบหน้าของเขา “ฉันรู้ว่านายต้องการให้ฉันมีความสุข แต่คำพูดเหล่านี้ไม่ควรพูดพร่ำเพรื่อ รู้ไหม?”
เขาส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้
แต่ก่อนเคยคิดว่าเจียงชื่อนั้นเป็นลูกเขยที่น่าเชื่อถือ แต่ตอนนี้ดูเขาเป็นแบบนี้ อนิจจา…
ดูไม่น่าไว้ใจ!
ติงเมิ่งเหยนจ้องไปที่เจียงชื่อ “นี่นายจะทำอะไรกันแน่?ก่อนหน้านี้เล่นตลกกับฉันก็พอแล้ว ตอนนี้ต่อหน้าทุกคน นายก็ยังจะมาเล่นตลกแบบนี้อีกเหรอ?นายทำให้พ่ออับอายมากนายรู้ตัวหรือเปล่า?”
เจียงชื่อยิ้มอย่างช่วยไม่ได้และยื่นมือออกไปดูนาฬิกาของเขา
“สองทุ่มครึ่ง พอดิบพอดี”
“ทุกคน เชิญออกไปกับผมครับ หลิงเหยากำลังมาแล้ว”
“พ่อครับ วันนี้ให้หลิงเหยาได้มาร้องเพลงให้พ่อนะครับ ให้พรที่จริงใจที่สุดให้แก่ท่าน”
เมื่อพูดจบ เจียงชื่อก็เป็นผู้นำลุกออกไป
คนอื่นๆก็ต่างพามองหน้ากัน
มาจริงๆเหรอ?
สวีชงเยาะเย้ย “ดูก็ดู ใครกลัวกันล่ะ?”
หวางเฟิ่งหย่าเองก็ลุกขึ้น “ไป ไปดูด้วยกันเถอะค่ะ ฉันก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าคนจนมีเงินเดือนแค่แปดพัน จะไปมีปัญญาจ้างดาราใหญ่อย่างหลิงเหยามาได้ยังไงกัน”
เมื่อมองดูคนออกไป หวางจื้อหรงจึงพูดกับติงฉี่ซานว่า “ฉี่ซาน อย่าหาว่าฉันพูดเลยนะ ทำไมถึงได้มีลูกเขยแบบนี้กัน?อายุก็มากแล้ว ยังจะมาทำให้ขายหน้าอีก เฮ้อ.. ”
เขาเองก็ลุกและเดินออกไป
ติงฉี่ซานตบโต๊ะอย่างขมขื่น พร้อมกับดื่มไวน์ในแก้ว
“เจียงชื่อ นี่นายจะทำอะไรกันแน่?!”