จอมนักรบท้าโลก - จอมนักรบท้าโลก - บทที่ 212 GTRที่เหนือชั้น
เจียงชื่อไม่ได้สนใจว่ามันจะมากแค่ไหน เขายังคงขับเร็วราวกับเหาะได้ และในชั่วพริบตา เขาก็สามารถขับตามรถGTRข้างหน้าได้ทัน
โดยไม่คำนึงถึงความเร็ว เจียงชื่อเองนั้นก็ไม่ได้ตื่นตระหนกเลยแม้แต่น้อย และรถก็มีเสถียรภาพ นั่งได้สบายมาก
ติงเมิ่งเหยนนั้นรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย เจียงชื่อมีทักษะการขับรถที่ยอดเยี่ยมเช่นนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?
หรือว่า เขาจะเก่งกาจแบบนี้ตั้งแต่แรก เพียงแต่แค่ตนไม่รู้เอง?
ภายในรถ GRT
ชายโพกผ้ายังคงขับต่อไป เขามองไปทางกระจกหลังจึงได้เห็นรถปอร์เช่ที่ขับตามมา
ชายตกกระที่นั่งอยู่ด้านข้างก็ยิ้มออกมา “เฮ้ พี่สาม โดนตามได้แล้วนะ”
ชายโพกผ้าหัวเราะอย่างเย็นชา “พึ่งเขาหรือไง?”
ด้วยการเหยียบคันเร่งเพียงครั้งเดียว รถGTR อาศัยแรงม้าอันทรงพลังเคลื่อนที่อย่างรวดเร็วซึ่งนั่นทำให้สามารถสลัดรถปอร์เช่ออกได้ทันที ในแง่ของประสิทธิภาพ แรงม้าของรถGTR นั้นแรงกว่าปอร์เช่ของเจียงชื่อเป็นอย่างมาก
ดังนั้นในเรื่องของความเร็วนั้นถือว่าแตกต่างกันไม่น้อเยลยทีเดียว
ติงเมิ่งเหยนถอนหายใจออกมา “เจียงชื่อ ช่างมันเถอะ เราคงตามไม่ทันแล้ว สมรรถนะของรถเราอาจจะสู้เขาไม่ได้”
เจียงชื่อนั้นไม่เห็นด้วยและเตือนว่า “นั่งดีๆ กำลังจะเข้าโค้งแล้ว”
ทันทีที่สิ้นเสียง เจียงชื่อก็หมุนพวงมาลัยอย่างรวดเร็ว เข้าโค้งได้อย่างสวยงาม ซึ่งก็สามารถไล่ตามรถGRTได้ทันตอนหัวโค้งอีกด้วย
แรงม้าของรถGRTนั้นสูง การเร่งความเร็วก็แรงกว่ามาก
แต่ก็อาจจะลำบากได้เมื่อพบกับหัวโค้งมากๆ การเข้าโค้งจะทำให้แรงม้าของรถคันนี้นั้นหนักเพิ่มขึ้นเลยทีเดียว
เพิ่งจะเลี้ยวโค้งได้ไม่เท่าไหร่ ก็เจออีกโค้งหนึ่ง
เป็นเรื่องยากที่จะต้องหักโค้งเข้าไป โค้งที่สามก็มาอีกแล้ว ชายโพกผ้ารู้สึกตื่นตระหนกขึ้นมา แม้จะเป็นนักขับมืออาชีพ แต่เขาก็ต้องระมัดระวังอย่างมากในการเผชิญกับถนนที่ยากลำบากเช่นนี้
เขาเหยียบเบรก เพื่อป้องกันไม่ให้รถหลุดออกจากถนนเร็วเกินไป
แต่ในเวลานี้ รถปอร์เช่ที่อยู่ด้านหลังนั้นได้ตามมาทันแล้ว หัวโค้งสามอันนั้นทำให้ระยะของรถใกล้ขึ้น
สิ่งที่น่ากลัวก็คือ เจียงชื่อนั้นไม่ได้ลดความเร็วลงเลยแม้แต่น้อย เขายังคงขับรถด้วยความเร็วสูงอยู่ ถึงแม้ว่าตาจะมองเห็นว่ากำลังจะเข้าโค้งที่สามก็ตาม แต่เขาก็ยังคงใช้ความเร็วเหมือนเดิม
ชายโพกผ้าตกตะลึง
“ไอ้นี่มันโง่หรือเปล่า?ขับเร็วขนาดนี้ จะผ่านโค้งได้ยังไง?ไม่ห่วงชีวิตซะแล้ว”
ภายในรถปอร์เช่
ติงเมิ่งเหยนนั้นตกใจกลัวเป็นอย่างมาก จนเธอกรีดร้องออกมา “เบรก เบรกรถ!เจียงชื่อ รีบเบรกเร็ว!ถ้ายังไม่เบรกมันจะสายเกินไปแล้วนะ!”
เจียงชื่อนั้นยิ้มออกมาเบาๆ แทนที่เขาจะเบรก แต่เขากลับปล่อยมือออก!
ในสถานการณ์ที่อันตรายแบบนี้ แต่เขาก็ยังคงขับรถด้วยมือเดียวจริงๆ!!
ติงเมิ่งเหยนนั้นเอนกายอย่างสิ้นหวัง เธอรู้ว่าชะตาชีวิตของเธอนั้นเหลือไม่มากแล้ว และฉากตรงหน้าเธอจะเป็นฉากสุดท้ายในชีวิตของเธอ
เธอเฝ้ารอตอนจบ
รถจะลอยออกไป และเธอก็จะถูกบดขยี้เป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย
ในเวลานี้ เจียงชื่อยังคงรู้สึกสบายๆ หยิบขวดโค้กออกมาจากมือของเธอ เมื่อรถปอร์เช่ผ่านรถGRT เจียงชื่อก็ได้ทิ้งขวดออกไป
ขวดโค้กไม่ลำเอียง มันกระเด็นเข้าไปในรถ GTR ทางริมหน้าต่าง จากนั้นก็ไปกระแทกกับใบหน้าของชายที่มีกระ
ในวินาทีต่อมา รถปอร์เช่ได้แซงหน้ารถGRT
วินาทีถัดมา รถปอร์เช่ก็ได้เข้าโค้ง
ทุกๆคนต่างคิดว่ารถจะยังคงขับออก แต่แล้วฉากที่น่าตกใจก็ปรากฏขึ้น
เห็นเพียงแค่เจียงชื่อนั้นได้ตีพวงมาลัยในทันที เบรกถูกเหยียบ ทำให้รถเข้าโค้งในมุมได้อย่างสมบูรณ์แบบ เป็นการดริฟท์รถด้วยความเร็วสูงที่ยอดเยี่ยมมากๆ!!!
ชายโพกผ้าและชายตกกระต่างตกตะลึง
พวกเขาไม่เพียงแต่ไม่เห็นการพลิกคว่ำที่วาดฝันไว้ อีกทั้งยังได้เห็นการแสดงที่ยอดเยี่ยมอีกด้วย ถือเป็นดริฟท์ขั้นสุด ที่แม้แต่นักขับมืออาชีพอย่างพวกเขาเองก็ไม่กล้าที่จะลองง่ายๆ !
บูม!!!
หลังจากที่รถปอร์เช่ลอยเข้ามุม เจียงชื่อก็เหยียบคันเร่งและรถก็ขับออกไปอย่างไร้ร่องรอยรถGRTข้างหลังได้แต่จอดลงอย่างช้าๆ
ชายโพกผ้ากับชายตกกระต่างชำเลืองมองกัน
“เห็นชัดไหมล่ะ?”