จอมนักรบท้าโลก - จอมนักรบท้าโลก - บทที่ 218 หนี
งูเห่าพูด “ที่ควรพูดก็ได้พูดออกมาหมดแล้ว งั้นผมขอตัวก่อน ผมจะรอโทรศัพท์จากท่านนะครับ บอกเวลากับสถานที่มาให้ด้วย”
เมื่อพูดจบ เขาก็กลับหลังหัน เดินจากไป
ติงเฟิงเฉิงตะลึงงัน ไม่รู้ว่าต้องพูดอะไรดี
ทักษะการขับรถของเขานั้นแย่มาก จะไปสู้กับนักแข่งมืออาชีพได้อย่างไรกัน?แต่ก็ไม่สามารถ’หนี‘ได้อีก สัญญาชีวิตและความตายก็ได้ลงนามไปแล้ว ถ้าแพ้ก็จะถูกถอดแผ่นจารึกอีก
จะทำยังไงดีล่ะ?
อย่างไรก็ตาม ตัวติงจ้งนั้นก็ดูเหมือนว่าจะเชื่อมั่นในตัวเขาเป็นอย่างมาก
เขาตบไปที่ไหล่ของติงเฟิงเฉิง “เฟิงเฉิง สู้ๆนะ อย่าทำให้ปู่ผิดหวังล่ะ ถ้าแกเอาชนะพวกนั้รได้ในครั้งแรก แกก็จะชนะพวกเขาได้อีกในครั้งที่สอง!”
“กล้ามาหยามเกียรติตระกูลติงงั้นเหรอ เหอะเหอะ ทำให้เขารู้ว่าตระกูลติงนั้นเก่งกาจแค่ไหน!”
“เฟิงเฉิง สู้ๆนะ ปู่ก็อายุมากแล้ว ตำแหน่งหัวหน้าตระกูลก็ต้องส่งต่อให้แก ในบรรดาผู้คนมากมายนี้ จะมีก็แต่แหวนโม่เท่านั้นที่เก่งกว่าแก แต่นั่นก็เป็นแค่คนนอก ปู่ให้ความสำคัญกับแกมากกว่านะ”
“แกต้องไม่ทำตัวเหลวแหลกเหมือนเจียงชื่อ วันๆเอาแต่ทำให้ปู่โมโห เข้าใจใช่ไหม?”
ติงเฟิงเฉิงหัวเราะออกมา
เพียงแต่รอยยิ้มนั้นมันช่างดูน่าเกลียดกว่าการร้องไห้นัก
ม้าหมื่นตักวิ่งตึกตักในใจของเขา ใจจริงก็อยากจะบอกว่าตัวเขานั้นไม่มีทักษะบ้าๆนี่อยู่เลยแม้แต่น้อย แต่ติงจ้งนั้นมองเห็นความสำคัญของเขา ถ้าเขายอมรับว่าทำไม่ได้ล่ะก็ มันก็จะถือเป็นการตบหน้าติงจ้งไม่ใช่หรือ?
จะพูดไม่ได้
ติงเฟิงเฉิงกัดฟันอย่างช่วยไม่ได้พร้อมกับพูดว่า “ท่านปู่ วางใจเถอะ ผมจะไม่ทำให้ท่านผิดหวังอย่างแน่นอน”
“ดี นี่สิถึงจะเป็นหลานชายของฉัน”
ติงจ้งนั้นหัวเราะก่อนจะเดินจากไป คนอื่นๆก็เช่นกัน กลับไปประชุมที่ก่อนหน้านี้ยังทำไม่เสร็จต่อ
ติงเมิ่งเหยนเองก็เตรียมจะออกไป แต่ติงเฟิงเฉิงก็ได้มากอดแขนของเธอเอาไว้และพาออกไป
“พี่รอง พี่ทำอะไรเนี่ย?”
ติงเฟิงเฉิงมองไปรอบๆ เมื่อแน่ใจว่าไม่มีคนแล้ว จึงพูดว่า “เมิ่งเหยน คราวนี้เธอต้องช่วยพี่รองแล้วนะ!”
เมิ่งเหยนหัวเราะ พร้อมกับจงใจถามออกไป “พี่พูดอะไร?ฉันฟังไม่รู้เรื่อง”
“เฮ้ย เธอจะมาแกล้งทำอะไรกับพี่เล่า?ครั้งที่แล้ว คนที่เอารถของฉันไปแข่งกับทีมรถฟาสก็คือเธอ ไม่ใช่ฉัน!ทักษะการขับรถของพี่รองเป็นยังไงก็ใช่ว่าเธอไม่รู้ ฉันจะไปเทียบกับนายงูเห่านั่นได้ยังไง?”
ติงเมิ่งเหยนพ่นลมออกมาอย่างเย็นชา “ทำไม ตอนนี้มารู้จักผิดแล้วงั้นเหรอ?เมื่อวันก่อนฉันเห็นพี่รับดอกไม้กับเสียงปรบมือ ทำไมตอนนั้นไม่เห็นพี่มาเสียใจอะไรเลย?”
ติงเฟิงเฉิงพึมพำ “ตอนที่มีความสุข ใครมันจะไปคิดอะไรเยอะแยะกันเล่า?อั๊ยยะ เมิ่งเหยน แกไม่ต้องมาเล่นอุบายกับพี่รองเลยนะ ช่วยฉันเถอะ ถ้าฉันแพ้ล่ะก็ แผ่นจารึกของตระกูลเราก็จะถูกเอาไป! เมิ่งเหยน เธออยากให้ตระกูลติงของเราต้องอับอายหรือไงกัน?”
เหตุการณ์นี้ทำให้ติงเมิ่งเหยนนั้นลำบากใจเล็กน้อย
พูดตรงๆเลยว่า เธอไม่สนใจหรอกว่าติงเฟิงเฉิงนั้นจะหลอกเธอหรือเปล่า แต่เธอก็ยังชอบที่ติงเฉิงเฟิงนั้นหลอกตัวเองอยู่ แต่ตัวเธอเองก็ไม่ต้องการที่จะให้แผ่นจารึกของตระกูลนั้นถูกยึดไป เธอไม่ต้องการที่จะเห็นตระกูลติงถูกเหยียบย่ำ
ติงเมิ่งเหยนถอนหายใจออกมา “ปัญหาก็คือ ฉันเองก็ช่วยพี่ไม่ได้เหมือนกัน”
“ห๊ะ?”
“พี่รอง ฉันจะไม่ปิดบังพี่หรอกนะ ว่าคนที่ขับรถวันนั้นไม่ใช่ฉัน”
“โอ้?งั้นใครกันล่ะ?”
“เจียงชื่อ”
“เจียง….ชื่อ?”
ติงเฟิงเฉิงปวดหัว เขาเกลียดที่จะได้ยินชื่อนี้มากที่สุด แต่ก่อนโดนเจียงชื่อทำให้อับอายมาไม่รู้ตั้งกี่ครั้ง แต่ตอนนี้เมื่อเขาเห็นเจียงชื่อนั้นก็กลับรู้สึกกลัวขึ้นมาโดยไม่รู้สึกตัว
น่าเสียดายที่ครั้งนี้ ที่จะต้องมาร้องขอเจียงชื่อ
เขาถึงถามว่า “เมิ่งเหยน เธอแน่ใจเหรอว่าเจียงชื่อมีทักษะการขับรถจริงๆ?”
“แน่นอน ตอนนั้นฉันก็นั่งอยู่บนรถด้วย เจียงชื่อขับรถเอาชนะเฟลมไทเกอร์ได้อย่างสบายๆเลยล่ะ พี่รอง สองสามวันนี้ที่พี่เสวยสุขอยู่ทั้งหมดเป็นของเจียงชื่อทั้งนั้น”