จอมนักรบท้าโลก - จอมนักรบท้าโลก - บทที่ 24ใช้ความดีแก้แค้น
บทที่ 24ใช้ความดีแก้แค้น
“ถ้าไม่มีอะไรแล้ว พวกเราก็กลับก่อนนะ”
เจียงชื่อจับแขนของติงเมิ่งเหยนไว้ เดินผ่านติงจ้งติงเฟิงเฉิงไปอย่างง่ายๆ ทำให้ติงจ้งโมโหมาก
เป็นคนฉลาดมาโดยตลอด เคยเจอการดูถูกแบบนี้เมื่อไหร่กัน?
ทั้ง2ขึ้นรถ
ติงเมิ่งเหยนเก็บสัญญาอย่างดี แล้วขับรถออกไป
บนรถ เธอถาม: “กัวช่างบอกว่ามีคนส่งเอกสารโปรแกรมให้เขาก่อนแล้ว นายรึเปล่า?”
เจียงชื่อพยักหน้า “ผมเอง”
“ฉันรู้ ไม่อย่างนั้นคงไม่ราบรื่นแบบนี้หรอก ว่าแต่นายทำได้ได้ยังไงกัน?”
“พูดมาก็บังเอิญเหมือนกัน ผมมีเพื่อนเก่าคนนึงทำงานอยู่ที่กรมโยธาธิการและผังเมือง พอว่างๆเราก็จะคุยกันเรื่องรื้อก่อสร้าง ผมก็เลยหาคนออกแบบโปรแกรมแผนงานส่งให้เขา ให้เขาเอาไปให้ท่านรองกัว ใครจะไปรู้ว่าท่านรองจะเห็นแล้วก็ชอบมาก แล้วก็เลือกเลย ตอนนั้นผมส่งโดยใช้ชื่อเธอ ก็เลยเป็นแบบนี้”
การพูดแบบนี้เหมือนจะแปลก แต่ก็สามารถเข้าใจได้
ติงเมิ่งเหยนเลยไม่ได้คิดอะไรมาก
เงียบไปสักพัก เธอก็พูดขึ้น: “ถึงแม้ว่านายจะทำเพื่อฉัน แต่ว่าครั้งนี้มันทำให้คุณปู่เสียใจจริงๆ เจียงชื่อ ถ้าได้ ฉันคิดว่าเราเอาโปรแกรมนี้ให้บริษัทหลักทำดีกว่า?”
“เพราะยังไงเขาก็คือปู่ของฉัน ฉันไม่อยากให้ครอบครัวแตกแยกกัน
อีกอย่างบริษัทของฉันก็เสียเกินไปแล้ว ทำงานใหญ่แบบนี้ให้สำเร็จไม่ได้หรอก ไม่ว่าจะส่วนรวมหรือส่วนตัว ให้บริษัทหลักทำเหมาะสมกว่า”
เจียงชื่อยิ้มแล้วมองติงเมิ่งเหยน “เรื่องแบบนี้เธอตัดสินใจเองเลย ไม่ต้องบอกผม ผมแค่ช่วยเธอเอาส่วนประโยชน์ ส่วนเธอจะแบ่งผลประโยชน์ยังไง นั้นมันเป็นเรื่องของเธอ”
ในใจของติงเมิ่งเหยนรู้สึกอบอุ่นมาก แบบนี้ทำให้เธอดีใจและขอบคุณเขามาก
“ขอบคุณนะ เจียงชื่อ”
เจียงชื่อยิ่ม “แต่ว่า คุณปู่ท่านทำแบบนี้กับเธอ เธอยังใช้ความดีอยู่ เธอช่างใจดีเกินไปแล้วนะ”
“ยังไงเราก็เป็นคนบ้านเดียวกัน อีกอย่าง ใจดีหน่อยไม่ดีหรอ?””
“คนใจดีมีเมตตา ก็มักจะถูกคนอื่นรังแก”
“ฉันไม่กลัวหรอก” ติงเมิ่งเหยนมองเจียงชื่อ “นายบอกว่า จะดูแลปกป้องไม่ให้ฉันโดนรังแกตลอดชีวิต เพราะฉะนั้น ฉันจะใจเมตตายังไงก็ได้ แค่มีนายปกป้องฉันก็พอแล้ว”
เจียงชื่อได้ยิน ก็หัวเราะออกมา
มันเป็นครั้งแรก ที่เขายิ่มอย่างดีใจแบบนี่
ไม่นาน ทั้ง2ก็กลับมาถึงบ้าน ซูฉินและติงฉีซานที่ได้รับข่าว ว่าลูกสาวของตนเซ็นสัญญางานใหญ่ได้ ก็ยิ้มไม่หุบเลย
พอเห็นทั้ง2กลับมา ก็รีบดึงติงเมิ่งเหยนไปถามนู้นถามนี่ ดีใจมากๆ แต่ไม่ถามเจียงชื่อเลย มากกว่านั้นคือไม่สนใจและรังเกลียด
พอเห็นแบบนี้ ติงเมิ่งเหยนก็รู้สึกเศร้าใจ
ทั้งๆที่ทั้งหมดนี้เป็นความดีของเจียงชื่อ แต่คนที่ถูกชื่นชมคือเธอ ไม่ใช่เจียงชื่อ มันไม่ยุติธรรม
“พ่อคะ แม่คะ จริงๆทั้งหมดนี้……..”
เจียงชื่อไอขึ้นมา “จริงๆแล้วทั้งหมดนี้เป็นเมิ่งเหยนที่วางแผนคนเดียวทั้งหมด เพื่อจะเซอร์ไพรส์ทุกคน”
เขาทำท่าให้ติงเมิ่งเหยนเงียบ ให้ติงเมิ่งเหยนอย่าพูดเรื่องนี้ออกไป จากนั้นก็เดินเข้าไปเตรียมอาหารเย็นในห้องครัว
……
…….
อีกทางด้านนึง ติงจ้งกลับมาถึงอาคารบริษัทใหญ่ เดินไปทางห้องทำงานโดยตรง โมโหจนโยนแก้วลงบนพื้น
“ไม่มีเหตุผล ไม่มีเหตุผลจริงๆ!”
“เจียงชื่อก็แค่ลูกเขยที่มาอยู่บ้านผู้หญิง ทำไมถึงกล้าเหิมเกริมแบบนี้? ไอ่บ้าเอ้ย จะบ้าตาย!”
ติงเฟิงเฉิงค่อยๆเดินเข้ามา พูด: “ปู่ครับ อย่าโมโหไปเลย จริงๆแล้ว เรื่องนี้ยังแก้ได้”
“แก้ได้ แก้ได้ยังไง?”
ติงเฟิงเฉิงพูด: “ปู่ครับ ในเมื่อน้องเล็กไปในนามชื่อบริษัทย่อย แต่นั้นก็แค่เรื่องที่ปากพูด ไม่ได้เขียนออกมาเป็นตัวหนังสือ ถ้าปู่ไม่อยากยอมรับ เธอจะทำยังไงได้ล่ะ?”
“อีกอย่าง บริษัทย่อยของเธอก็เป็นท่านที่ก่อตั้งขึ้นมาเอง? นั้นก็เป็นส่วนหนึ่งของตระกูลติง! น้องเล็กอยากจะเก็บไว้คนเดียว บ้านเราก็ไม่ยอมหนิ!”
“ถอยไป1หมื่นก้าว ถึงน้องเล็กอยากจะเก็บไว้คนเดียว เธอจะทำได้หรอ? ไม่มีความช่วยเหลือจากตระกูลเรา เธอจะเอาเงินมาจากไหน ทั้งคน และเครื่องต่างๆ? อะไรก็ไม่มี เธอทำโครงการก่อสร้างอะไร”
พอได้ฟังติงจ้งก็รู้สึกว่ามีเหตุผล
“พูดต่อ”
ติงเฟิงเฉิงยิ้ม “เพราะฉะนั้น ผมคิดว่าเราสามารถแย่งสัญญามาได้ ไล่น้องเล็กออกไป ตระกูลเราจัดการเอง สัญญานั้นเราเองก็ได้เห็นอย่างละเอียดแล้ว ที่เซ็นก็เป็นบริษัทติงหรง ก็คือของตระกูลติง แต่ไม่ได้พูดถึงบริษัทย่อยของน้องเล็ก ในตระกูลติง ปู่เป็นประธาน ปู่พูดอะไรก็ได้”
ติงจ้งขมวดคิ้ว “สัญญาเซ็นมาได้เพราะเมิ่งเหยน พวกเราแย่งมา แล้วไล่เธอออก ดูเหมือนจะไม่ชอบธรรมเลย”
“ไม่ชอบธรรมที่ไหนกัน? น้องเล็กทำให้ปู่ขายหน้าต่อผู้คน ทำไมไม่เห็นเธอไว้หน้าปู่เลย?”
ติงจ้งพยักหน้า เรื่องในวันนี้ทำให้เขาขายหน้ามาก
เซ็นสัญญาไว้คือบริษัทติงหรง แค่ติงจ้งยอม แย่งมาก็ไม่เป็นไร
“อีกอย่างนะปู่ นั้นเป็นเงินตั้งกี่ร้อยล้าน ท่านจะไม่เอาจริงๆหรอ?”
ติงเฟิงเฉิงยิ้มร้าย: “ตอนนี้น้องเล็กยิ่งอยู่ยิ่งแข็งแกร่งขึ้นแล้ว สักวันก็คงจะบังคับควบคุมยาก และยังมีเจียงชื่ออีก ที่มีแต่ความคิดไม่ดี หวังสมบัติของบ้านเรา ถ้าเราไม่ออกตัวก่อน ถ้าถูกพวกมันเริ่มก่อน ต่อไปก็คงลำบากแล้ว”
พอติงจ้งนึกถึงเจียงชื่อ ก็โมโหมาก
“พูดถูก โครงการครั้งนี้ต้องห้ามให้เมิ่งเหยนได้คนเดียว!”
แต่ว่า…..
“แล้วทางกรมโยธาธิการจะตกลงไหม?”
“พวกเขาเซ็นสัญญากับเมิ่งเหยน ถ้าถูกจับได้กลางคัน พวกเขาจะ…..”
ติงเฟิงเฉิงตบตรงอก “คุณปู่ไม่ต้องกลัว ถ้าเป็นแค่ตระกูลติงเราดูแล เชื่อว่าทางนั้นไม่พูดอะไรแน่นอน”
“งั้น….ให้ใครมาทำโครงการนี้ต่อจากเมิ่งเหยนล่ะ?” ติงจ้งมองติงเฟิงเฉิง “นายหรอ? ไม่ได้ ท่านรองเห็นแกก็ไล่ออกมาเลย ไม่ได้แน่นอน”
ติงเฟิงเฉิงยิ้มอย่างอึกอัก “ผมไม่ได้แน่นอน งั้นก็ให้พี่สาวทำสิ พี่ใหญ่กับน้องเล็กต่างก็เป็นผู้หญิง อีกอย่างพี่สาวก็ดีกว่า พี่เขยเป็นถึงรองผู้บัญชาการของฝ่ายตะวันออกจ้านยู่ เชื่อว่ายังไงทางนั้นก็ต้องไว้หน้าบ้าง”
“อืม มีเหตุผล งั้นก็ตกลงตามนี้”
ติงจ้งพูด: “การก่อสร้างครั้งนี้เป็นตระกูลติงเราทำ พรุ่งนี้ไปประชุมกับคนฝั่งกรมโยธาธิการและผังเมืองเกี่ยวกับรายละเอียด ก็ไม่ต้องให้เมิ่งเหยนมาแล้ว ให้เธอหยุดสัก2วัน”
“ได้เลย ผมจะไปจัดการเดี๋ยวนี้เลย!”
พอประตูปิดลง
ติงจ้งนั่งอยู่บนเก้าอี้ ถอนหายใจยาวๆ แล้วพูดคนเดียว: “เมิ่งเหยนอ่ะเมิ่งเหยน เธอจะโทษปู่ไม่ได้นะที่ใจร้าย เธอเหิมเกริมเอง”
“ตระกูลติง ไม่มีทางให้ผู้หญิงมานำแน่นอน”
“ฉันติงจ้ง ก็ไม่ยอมให้คนนอกมาเหยียบหน้าแน่นอน!”