จอมนักรบท้าโลก - จอมนักรบท้าโลก - บทที่ 259 ห่างจากกันเป็นเวลานาน
เจียงชื่อไอสามสี่ครั้งอย่างเขินอาย
ใบหน้าของติงเมิ่งเหยนก็แดงก่ำขึ้นมา พูดกล่าวว่า “ก็ไปแค่ไม่กี่วันเองเท่านั้น ไม่ได้ห่างจากกันเป็นเวลานานสักหน่อย พูดซะตกใจเลย”
ขณะที่กำลังพูดอยู่ มือถือของติงเมิ่งเหยนก็ดังขึ้นแล้ว
หลังจากที่รับสาย เสียงชายชราอย่างติงจ้งก็แผ่ซ่านเข้ามาแล้ว ร่ายยาวมาเลย
หลังจากที่พูดเสร็จแล้ว ติงเมิ่งเหยนก็วางโทรศัพท์ พูดด้วยสีหน้าที่จนใจว่า “ซูสวน เกรงว่าฉันจะต้องขอโทษแกแล้วแหละ”
“ทำไมเหรอ?”
“โธ่เอ๋ย ช่วงนี้งานที่บริษัทค่อนข้างเยอะ ติงเฟิงเฉิงก็ออกไปเที่ยวอีก คุณปู่ก็ไว้วางใจฉันคนเดียวเท่านั้น เพราะงั้นก็เลยเพิ่มงานอย่างกะทันหันให้ฉันทำไม่น้อยเลย อย่าว่าแต่ออกไปท่องเที่ยวเลย แม้แต่กลับบ้านมาทานข้าวตรงเวลาก็ยังยากเลย”
“ห๊ะ?นี่……”
ซูสวนทำปากจู๋ เห็นได้ชัดว่าค่อนข้างไม่มีความสุข “งั้นฉันก็ต้องไปคนเดียวแล้ว โธ่……”
ซูฉินส่ายหน้าแล้ว “มิลานไกลขนาดนั้น สวนเอ๋อไปเที่ยวต่างประเทศคนเดียวไม่ปลอดภัยนะ? ”
หันหน้ากลับมา เธอมองไปยังเจียงชื่อ เอ่ยถาม “ชื่อเอ๋อ ช่วงนี้งานที่บริษัทของคุณยุ่งไหม?”
เจียงชื่อไม่ทันได้ตั้งสติกลับมา โพล่งพูดออกไปว่า “ไม่ยุ่งนะ ชิลๆ สบาย”
“งั้นก็ดีเลยนะ คุณไปเที่ยว มิลานเป็นเพื่อนสวนเอ๋อ ดูแลเธอดีๆนะ อย่าให้เธอโดนคนเลวรังแกได้”
นี่……
ทันใดนั้นบรรยากาศบนโต๊ะกินข้าวก็แปลกๆขึ้นมาทันที
เจียงชื่อ ติงเมิ่งเหยน ซูสวนต่างก็ก้มหน้าลง ‘ต่างก็มีเลศนัย’
เจียงชื่อกลับว่าไม่ได้มีความคิดเห็นมากมาย เพียงแค่เคยติดต่อกับซูสวนก่อนหน้านี้มาสามสี่ครั้ง รู้ว่าในใจของยัยเด็กคนนี้เปลี่ยนไปนิดหน่อย เกรงว่าอยู่กับเธอสองต่อสองนานๆเข้าอาจจะ ‘เกิดเรื่อง’
ส่วนติงเมิ่งเหยน ในฐานะภรรยา ไม่ว่ายังไงก็คงไม่อยากให้ผู้ชายของตัวเองไปอยู่สองต่อสองกับผู้หญิงคนอื่นนานถึงห้าวันอย่างนี้
ถึงแม้ว่าจะเป็นน้องสาวของตัวเองก็ไม่ได้
สุดท้ายก็คือซูสวน ที่จริงเธอก็ได้เก็บซ่อนความรู้สึกไว้ในใจตั้งนานแล้ว ไม่อยากให้เกิดความผันผวนใดๆขึ้นมาอีก
แต่ถ้าหากไปด้วยกันสองต่อสอง
เหอะๆ ไม่อยากให้เกิดความผันผวนขึ้นอีกครั้งคงยาก!
เพราะงั้นภาพฉากตรงนี้ค่อนข้างจะรู้สึกอึดอัดหน่อยๆ ทุกคนต่างก็ไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรดี
แม้ว่าทั้งสามคนต่างก็อยากจะปฏิเสธ แต่ไม่ว่าใครต่างก็ไม่รู้ว่าควรจะเอ่ยปากพูดยังไงดี ถ้าหากปฏิเสธออกมา ก็เหมือนว่ากำลังคิดอะไรอยู่ยังไงอย่างนั้น
หลังจากที่เงียบขรึมเป็นเวลาสั้นๆ ซูฉินพูดว่า “งั้นเรื่องนี้ก็เอาตามนี้นะ ชื่อเอ๋อ คืนนี้คุณก็เก็บกระเป๋าให้เรียบร้อย พรุ่งนี้เช้าก็ไปขึ้นเครื่องพร้อมกันกับสวนเอ๋อ”
เจียงชื่อก็ไม่ได้พูดอะไร พยักหน้ารับปาก
หลังจากมื้ออาหาร
เจียงชื่อก็กลับไปที่ห้องนอนกับติงเมิ่งเหยน
ติงเมิ่งเหยนนั่งอยู่บนเตียงด้วยใบหน้าที่เยือกเย็น ใบหน้าที่ไม่มีความสุข
เจียงชื่อก็ไม่ใช่ผู้ชายที่ปลอบคนเป็นแบบนั้น นั่งโง่ๆอยู่ข้างๆก็ไม่รู้ว่าจะพูดอะไร
สุดท้ายแล้ว ก็เป็นติงเมิ่งเหยนที่เริ่มพูดก่อนว่า “ใช้ได้นะ กินอยู่กับปาก อยากอยู่กับท้อง เจียงชื่อ มีภรรยาน้อยคุณคงมีความสุขมากสินะ!”
“เอ่อ…… ไม่ใช่ เมิ่งเหยนคุณไม่ต้องคิดมั่วซั่ว”
“ฉันคิดมั่วซั่วยังไง?น้องสาวของฉันอายุยังน้อยหน้าตาสวย แถมยังเป็นดาวโรงเรียน คุณจะไม่หวั่นไหวสักนิด?”
เจียงชื่อตกใจจนรีบเข้ามาเลย “ผมสาบานได้ ในใจของผมไม่ว่าจะเป็นเมื่อก่อน ตอนนี้ หรือในอนาคตจะมีแค่คุณคนเดียวตลอดไป ไม่คิดอย่างอื่นแน่นอน”
“แค่คิดก็ยังไม่กล้า!” ติงเมิ่งเหยนจิ้มไปที่จมูกของเจียงชื่อ “จะบอกคุณให้นะ หลังจากที่ไปแล้วประพฤติตัวเรียบร้อยไม่ออกนอกลู่นอกทาง รักษาระยะห่าง ห้ามคิดอะไรที่ไม่ดี ถ้าหากฉันรู้นะว่า คุณแตะเนื้อต้องตัวหรือมีความคิดที่ไม่ดีกับน้องสาวของฉัน ฉันจะไม่ให้อภัยคุณเลย ”
“ไม่กล้าแน่นอน!!!”
เจียงชื่อผู้น่าสงสาร เมื่ออยู่ตรงหน้าภรรยาก็ไร้ซึ่งศักดิ์ศรีแล้ว
ถ้าหากศัตรูก่อนหน้านี้เหล่านั้นเห็นเข้า เทพแห่งสงครามชูร่าที่แข็งแกร่งก็เปลี่ยนเป็น‘ไร้ความสามารถ’ ไม่รู้ว่าจะมีความรู้สึกเป็นเช่นไร?
ทำได้เพียงพูดว่า ผู้กล้ายากจะฝ่าด่านหญิงงาม!