จอมนักรบท้าโลก - จอมนักรบท้าโลก - บทที่ 270 สร้อยคอหยก
แก้มของซูสวนแดงราวกับลูกแอปเปิ้ลสุก ก้มหน้าลงโดยที่ไม่รู้ตัว
ความสนิทสนม ก็ค่อยๆพัฒนาขึ้นในใจ
ท่านทวดยิ้ม สั่งให้เปิดฝา และหยิบสร้อยคอหยกออกมาด้วยตัวเอง
“มาสิ ลองสวมดู”
ท่านทวดตั้งใจ ‘ใช้วิธีสกปรก’ มอบสร้อยคอให้เจียงชื่อ และให้เจียงชื่อสวมให้ซูสวนด้วยมือของตัวเอง
ในตอนนี้ซูสวนรู้สึกได้ว่าความสุขคืออะไร
เธอหลับตา และเพลิดเพลินไปกับช่วงเวลานี้
ท่านทวดพูดไม่ผิด ไม่ต้องไปคิดว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร ไม่ต้องคิดว่าจะได้อยู่ด้วยกันไหม สิ่งเหล่านั้นมันไม่สำคัญ สิ่งที่คุณต้องเพลิดเพลินก็คือปัจจุบัน
อย่างน้อยในตอนนี้ ผู้ชายที่อยู่ข้างหน้าเป็นของคุณแล้ว
แม้ว่าคุณแสร้งทำว่าเขาเป็นของคุณ มันก็เพียงพอแล้วล่ะ
เจียงชื่อสวมสร้อยคอหยกให้กับซูสวนกับมือ ในตอนนี้ น้ำตาร่วงจากหางตาของซูสวน
นั่นเป็นน้ำตาแห่งความสุข
“ร้องไห้ทำไมเหรอ?”
“เปล่า ไม่มีอะไร”
ซูสวนหันกลับไปเช็ดน้ำตาที่ไหล และยืนอยู่หน้ากระจกเพื่อชื่นชมสร้อยคอหยก
เป็นอย่างที่คิด เหมาะสมมาก
มือของเธอทั้งสองข้างจับสร้อยคอไว้ ได้รับความพอใจอย่างที่สุด
ท่านทวดกระแอมทีหนึ่ง “ทั้งสอง มื้อเย็นเริ่มขึ้นแล้ว เชิญมาทานกับข้าเถอะ”
ภายใต้การนำพาของท่านทวด ทุกคนขึ้นบันไดไปที่ชั้น 3
ณ ชั้น 3 เป็นสถานที่ที่มีแต่คนในเท่านั้นที่สามารถเข้าไปได้ คนนอกไม่อนุญาตให้ขึ้นไปได้ สามารถพาเจียงชื่อขึ้นไปได้ เป็นข้อยกเว้นกรณีพิเศษ
เมื่อมาถึงชั้น 3 ก็เห็นเพียงแต่สีสันศิลปะงานแกะสลัก โอ่อ่าตระการตา
ที่นี่ เป็น ‘พระราชวัง’ ขนานแท้!
เมื่อเดินมาจนสุดทาง ก็เห็นโต๊ะยาวโต๊ะหนึ่ง คนสำคัญในครอบครัวได้นั่งกันพร้อมแล้ว
หนึ่งในนั้นมีคนหนึ่งหน้าตาดูซื่อสัตย์จริงใจ ผู้ชายมีหนวดเคราสองคนเดินมาจับมือท่านทวดไว้ข้างหนึ่ง
“แม่ ผมได้ยินว่าแม่อยู่บนเครื่องบิน……”
ท่านทวดขยิบตาให้เขา ให้เขาหยุดพูด จากนั้นท่านทวดก็แนะนำเจียงชื่อกับผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าเขา
“หมอเทวดาเจียง คนนี้เป็นลูกชายคนโตของฉัน——ฉีเจิ้น”
ฉีเจิ้นเข้ามาและพูดอย่างตื่นเต้นว่า “คุณคือหมอเทวดาเจียงงั้นเหรอ? ขอบคุณคุณจริงๆ ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ แม่ผมไม่รู้จะเจอสถาการณ์ที่เลวร้ายแบบไหน คุณช่วยชีวิตแม่ผมไว้ ผมไม่มีอะไรจะตอบแทน ขอแสดงความนับถือ!”
เจียงชื่อตกตะลึง
อายุของฉีเจิ้นแก่กว่าเขา 20 กว่าปี โค้งคำนับเขาต่อหน้าทุกคนคุ้มแล้วเหรอ? รีบหยุดเขาไว้
“คุณฉีไม่ต้องเกรงใจครับ”
ฉีเจิ้นเห็นว่าคุกเข่าไม่ได้ เขาก็หยิบแก้วชาแล้วพูดว่า “ตับของผมไม่ค่อยดีนัก ไม่สามารถดื่มเหล้าได้ งั้นก็ขอใช้ชาแทนเหล้าเพื่อชนแก้วกับหมอเทวดาเจียงนะครับ!”
เมื่อพูดจบ ก็ดื่มชา
เจียงชื่อเห็นว่าเขาเป็นคนกล้าเปิดเผยตรงไปตรงมา ความจงรักภักดีตอนที่เป็นทหารแบบนั้นถูกปลุกเร้าออกมา ยื่นมือหยิบไวน์แก้วขึ้นมา
“งั้นผมขอชนแก้วกับคุณฉีสักแก้ว”
เจียงชื่อดื่มหมด
“หมอเทวดาเจียง คอแข็งมาก!”
ภายใต้การริเริ่มของฉีเจิ้น ทุกคนค่อยๆปรบมือ
ในความปรองดองเป็นปึกแผ่น ช่วงเวลาแห่งการเฉลิมฉลองของทุกคน เสียงแปลกๆดังมาจากบันได
“ใครคอแข็ง?”
สีหน้าของทุกคนเปลี่ยนไปในทันที และผู้บริหารครอบครัวเหล่านั้นก็หันกลับมาทีละคน เห็นคนที่ไม่อยากเจอ
แท็ป แท็ป แท็ป หลังจากเสียงก้าวเดินไม่กี่ก้าว เห็นเพียงชายที่หน้าตาอัปลักษณ์เดินขึ้นมา มีกระเต็มใบหน้า แค่เห็นแวบแรกก็ไม่ใช่เรื่องดี
โดยเฉพาะเสียงพูดของเขา เหมือนกับใช้เล็บขูดกระจก ทำให้คนฟังรู้สึกขนหัวลุก
คนนี้ เป็นลูกชายคนรองของท่านทวด——ฉีหยาง
ฉีหยางเหลือบมองเจียงชื่อ “คุณน่ะเหรอที่คอแข็ง?”
เจียงชื่อยิ้มอย่างสุภาพ ไม่ตอบ
ฉีหยางชี้ไปที่ตัวเอง “รู้ไหมว่าฉันคือใคร? พันแก้วไม่เมา ผู้คนตั้งฉายาฉันว่า——เซียนขี้เมา ต่อหน้าผม คุณยังมีหน้ามาบอกว่าคอแข็งงั้นหรือ? ถุย!”