จอมนักรบท้าโลก - จอมนักรบท้าโลก - บทที่ 285 เก่งทั้งบุ๋นและบู๊
สุดท้ายฉีหยางก็ถูกตำรวจจับตัวไปแล้ว หลังจากที่ท่านทวดและคนอื่นๆให้ความร่วมในการสอบปากคำแล้ว ก็กลับมายังเครื่องประดับดาวฤกษ์
เมื่อถึงบ้าน ท่านทวดก็เรียกรวมตัวทุกคน หลังจากที่ป่าวประกาศเรื่องแผนการก่อกบฏของฉีหยางต่อสาธารณชน และระดับผู้บริหารของบริษัทได้ฟังแล้ว ล้วนแต่ตกใจกันหมด
ตั้งแต่สมัยโบราณการต่อสู้ในครอบครัวล้วนแต่น่ากลัวอย่างมาก
เพียงแค่ว่าไม่มีใครคิดถึงเลยว่า การต่อสู้ภายในครอบครัวของตระกูลฉีจู่ๆจะรุนแรงจนถึงขั้นนี้ได้
ท่านทวดกดๆมือ ให้สัญญาณเพื่อให้ทุกคนเงียบสงบ
เธอกระแอม พูดว่า “นอกจากนี้แล้ว ยังมีอีกเรื่องหนึ่งที่จำเป็นจะต้องประกาศให้ทุกคนได้ทราบ”
ท่านทวดไม่ได้รีบพูด และกวาดสายตาไปรอบๆจากซ้ายไปขวา แล้วก็พูดอย่างช้าๆว่า “ฉันอายุมากแล้ว ทำไม่ไหวแล้ว ก็ไม่รู้จะตายวันตายพรุ่ง เพื่อหลีกเลี่ยงหลังจากที่ฉันตายไปแล้วจะไม่มีผู้มาดูแลวงศ์ตระกูล ฉันตัดสินใจ ที่จะเกษียณณ บัดนี้ ตำแหน่งผู้นำตระกูลฉี ส่งมอบให้แก่ลูกชายของฉันอย่างเป็นทางการ——ฉีเจิ้นมารับช่วงดูแลต่อ ”
สีหน้าของฉีเจิ้นเปลี่ยนไปเล็กน้อย
“แม่ นี่……”
ท่านทวดจ้องไปที่เขาแวบหนึ่ง “คำพูดที่ออกจากปากของฉัน ไม่เปลี่ยนง่ายๆ แกอย่าคิดที่จะพูดอะไรอีกเลย”
ฉีเจิ้นทำได้เพียงปิดปากเงียบอย่างเชื่อฟัง
สำหรับการตัดสินใจนี้ ก็ไม่ได้เหนือความคาดหมายของทุกคนเท่าไหร่ เพราะว่าทุกคนล้วนแต่รู้ว่าสักวันหนึ่งก็ต้องมีวันนี้ ฉีเจิ้นเป็นทายาทสืบทอดตำแหน่งผู้นำตระกูล
ที่ตกใจจริงๆก็คือการตัดสินใจลำดับถัดไป
ท่านทวดพูดอีกว่า “นอกจากนี้ ฉันยังตัดสินใจที่จะให้เจียงชื่ออยู่ในตำแหน่งผู้บริหารตระกูลฉีเป็นข้อยกเว้น และแบ่งหุ้นของตระกูลให้เขา 30% !หลังจากนี้เป็นต้นไป ตระกูลฉี มีแซ่ ‘เจียง’อยู่หนึ่งในสาม ”
ทุกคนต่างก็ตกใจแล้ว
นี่ล้อกันเล่นหรือเปล่า?
ไม่เคยได้ยินมาก่อนเลยว่าธุรกิจในตระกูลจะมีแซ่ของชาวต่างชาติเข้ามาร่วมอยู่ด้วย
ถ้าหากเขาเป็นลูกเขย หลานเขยชาวต่างชาติของตระกูลถือว่าช่างมันเถอะ สิ่งสำคัญก็คือ เขาไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับตระกูลฉี เป็นคนนอกที่แท้จริง!
ท่านทวดทำแบบนี้ เป็นการดูถูกดูแคลนตระกูลฉีมากเกินไปแล้ว
“ท่านทวด ทำแบบนี้ไม่ได้เด็ดขาดนะ”
“ใช่ แม้ว่าหมอเทวดาเจียงจะมีบุญคุณต่อตระกูลของเรา แต่ก็ไม่มีความจำเป็นต้องให้เขาเข้ามาในตำแหน่งผู้บริหารของตระกูลนะ แม้ว่าจะให้เงินจำนวนมากเป็นของขวัญขอบคุณก็ได้”
“ท่านทวด คิดอีกครั้งเถอะนะ!”
ท่านทวดโมโห “หุบปากให้หมดเลยนะ!ตระกูลฉี ทำตามคำพูดของพวกแก หรือว่าทำตามคำพูดของฉันกันแน่?!”
เมื่อเห็นว่าท่านทวดโมโหออกมาเช่นนี้ คนอื่นๆทุกคนล้วนแต่เงียบกันหมดแล้ว ไม่กล้าพูดอะไรอีก
ท่านทวดพูดกล่าวว่า “ถ้าไม่มีหมอเทวดาเจียง ฉันกับฉีเจิ้นก็คงตายกันแล้ว ไม่มีหมอเทวดาเจียง ไอ้สัตว์เดรัจฉานฉีหยางก็คงเข้าครอบครองทั้งตระกูลฉีแล้ว เป็นผู้นำตระกูล!”
“หมอเทวดาเจียง ไม่ใช่แค่คนที่มีบุญคุณต่อตระกูลฉีของเราเท่านั้น”
“ไม่มีหมอเทวดาเจียง ก็ไม่มีตระกูลฉีในตอนนี้”
“ถ้าไม่ใช่เพราะว่าฉันมีลูกชาย ฉันถึงขั้นยอมที่จะมอบตระกูลฉีให้กับหมอเทวดาดูแลทั้งหมด”
“ถ้าพวกแกยังจะมาส่งเสียงไม่จบไม่สิ้นกับฉันอีก ฉันจะบอกพวกแกเลยนะ ใครกล้าที่จะต่อต้านอีกคำเดียว ฉันจะไล่ออกจากตระกูลฉี ข้าไม่อยากฟังและก็ไม่อยากจะดูพวกแกเถียงกันไปมา ฟังกันเข้าใจไหม?!”
ข้างล่างเงียบกริบไม่มีแม้แต่เสียงของอีกา
ใครจะไปคิดถึงว่าท่านทวดจะชื่นชอบเจียงชื่อเช่นนี้?
ฉีเจิ้นพยักหน้าพูดว่า “เรื่องที่จะให้หมอเทวดาเจียงเข้าสู่ระดับผู้บริหารของตระกูล ผมก็เห็นด้วยนะ หมอเทวดาเก่งทั้งบุ๋นและบู๊ครบเครื่อง แถมยังใจกว้างไม่เห็นแก่ตัว คนที่มีคุณสมบัติสูงส่งมาก ต่อให้เราหาก็หามาไม่ได้ แล้วจะปฏิเสธได้ยังไงกันล่ะ? ”
ท่านทวดยิ้มแล้ว “พี่ใหญ่ คำพูดนี้ของลูกพูดได้ใจของฉันจริงๆ พูดได้ดี พูดได้ดีจริงๆ!”