จอมนักรบท้าโลก - จอมนักรบท้าโลก - บทที่ 302 ข้อความหนึ่ง
เมื่อต้องเจอกับการเยาะเย้ยของกงเฉิง เจียงชื่อไม่ได้แสดงอาการโกรธ แต่ยังมีท่าทีที่นิ่งเฉยอยู่
เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดดูประวัติการโทรและค้นหาชื่อของฉีเจิ้น
จากนั้น เขานั่งอยู่กับที่และเริ่มพิมพ์ข้อความอย่างใจเย็น เมื่อพิมพ์เสร็จ เขาก็กดส่งข้อความนั้นไปถึงฉีเจิ้น และปิดโทรศัพท์ทันที
ทุกอย่างมันเกิดขึ้นในช่วงเวลาสั้นๆ สองนาทีเท่านั้น
ไม่มีใครสงสัยในการกระทำของเขาเลย
แต่เฉิงดันถิงเริ่มอยู่ไม่สุข เธอตัดสินใจจะเกลี้ยกล่อมเจียงชื่ออีกครั้งก่อนที่มันจะสายเกินไป
“ประธานเจียง ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะมาเล่นนะ ทำอะไรต้องมีเหตุผล เป้าหมายของเราคือการทำคอนเสิร์ตให้ดีที่สุด แล้วสร้างชื่อเสียงในเขตเจียงหนาน”
“สิ่งที่คุณทำอยู่ในตอนนี้มันไร้สาระทั้งนั้น”
“พูดไปแล้วคุณต่างอะไรกับเด็กๆ”
อย่างไรก็ตาม เจียงชื่อก็ยังทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
จากนั้นเขาพูดอย่างใจเย็นว่า “เรื่องที่ผมตัดสินใจไปแล้ว ผมไม่มีทางเปลี่ยนใจหรอก”
เฉิงดันถิงถอนหายใจแล้วกลับไปนั่งที่ตัวเอง เจียงชื่อก็เหมือนก้อนหินก้อนหนึ่งที่แข็งและส่งกลิ่นเหม็นในบ่อเน่า พูดอะไรไปก็ไร้ประโยชน์
ซึ่งตอนนี้เธอเริ่มเสียใจแล้วว่าทำไมเธอต้องรับช่วงต่อจากอี้โม่เอนเตอร์เทนเมนต์ด้วย?
ตอนแรกเธอคิดว่าเจียงชื่อไม่เหมือนผู้ชายทั่วไป ทำให้เธอนั้นเปลี่ยนความอคติที่มีต่อผู้ชาย โดยคิดว่าในบรรดาผู้ชายก็ยังมีผู้ชายที่มีเหตุผลและเข้มแข็งอยู่
แต่การกระทำของเจียงชื่อในวันนี้ทำให้เธอผิดหวังมาก
“ดูแล้วผู้ชายก็งี่เง่ากันทุกคนสินะ ไม่มีวันเรียนรู้ที่จะคิดอย่างมีเหตุผลเลยจริงๆ”
“เกรงว่า วันนี้จะเป็นวันสุดท้ายที่ฉันจะอยู่ในอี้โม่เอนเตอร์เทนเมนต์แล้วล่ะ”
เมื่อคิดถึงจุดนี้แล้ว เฉิงดันถิงรู้สึกเศร้าอย่างที่สุด
ติ๊ก ติ๊ก !!
เวลา20นาทีผ่านไปอย่างรวดเร็ว
กงเฉิงยืนขึ้นและพูดอย่างเยาะเย้ยว่า “ท่านทั้งสองครับ ผมต้องขอโทษจริงๆ นะครับ คืนนี้การลงทุนคงต้องถูกถอดถอนก่อนแล้ว พวกคุณทั้งสองรอผิดหวังได้เลยครับ”
ก่อนที่เขาจะเดินออกไป แต่ทันใดนั้น……
มีคนมาเคาะประตูห้องประชุม
เจียงชื่อพูดเบาๆ “เข้ามา”
จากนั้นประตูถูกเปิดออกแล้วมีชายร่างสูงคนหนึ่งเดินเข้ามาพร้อมกับเอกสารในมือ
เมื่อเห็นชายคนนนั้น กงเฉิงกับเฉิงดันถิงก็ตกตะลึง เพราะคนที่มาคือหยางเย่หวารองผู้จัดการของเครื่องประดับดาวฤกษ์เขตเจียงหนาน
สิ่งที่เฉิงดันถิงไม่เข้าใจคือ มันจำเป็นต้องมาทั้งสองคนเลยหรือ?
แต่สิ่งที่กงเฉิงไม่เข้าใจก็คือ เขาไม่ได้เชิญหยางเย่หวามาด้วย แล้วหยางเย่หวาจะมาที่นี่ทำไม?
จากนั้นพวกเขาก็เห็นหยางเย่หวา นำเอกสารในมือวางไว้บนโต๊ะทำงานของเจียงชื่อด้วยท่าทีที่เคารพ
“ประธานเจียงครับ นี้เป็นสัญญาฉบับล่าสุดในการสนับสนุนของเครื่องประดับดาวฤกษ์ครับ”
“เงื่อนไขเพิ่มเติมก็คือมีการลงทุนเพิ่มอีก 30 ล้านหยวนครับ”
“เชิญคุณตรวจสอบก่อนนะครับ”
บูม!!!
กงเฉิงกับเฉิงดันถิงถึงกับอ้าปากค้าง เกิดอะไรขึ้นกันแน่? ทำไมเรื่องมันเปลี่ยนไปอย่างไม่คาดคิดเช่นนี้?
ทั้งๆ ที่กงเฉิงผู้ซึ่งเป็นผู้จัดการหลักได้ออกคำสั่งแล้วว่าจะถอนการลงทุน แต่ทำไมรองผู้จัดการถึงได้ออกสัญญาใหม่ที่เพิ่มเงินลงทุนเพิ่มอีก 30 ล้าน?
นี่มันเกิดบ้าอะไรขึ้นกับเครื่องประดับดาวฤกษ์กันแน่?
กงเฉิงรู้สึกโกรธและพูดขึ้นเสียงว่า “หยางเย่หวา ไอ้บ้าไหนให้คุณมาที่นี่? แล้วสัญญาฉบับนี้ผมอนุมัติให้คุณแล้วเหรอ? คุณไม่รู้เหรอว่าสัญญาที่ไม่ได้ผ่านอนุมัติจากผมมันไม่มีผลทางกฎหมาย?”
“หยางเย่หวา รีบไสหัวไป แล้วพรุ่งนี้ไปเซ็นใบลาออกที่บริษัทด้วย”
“เข้าใจใช่ไหม?”
หยางเย่หวาหัวเราะเยาะ
จากนั้นเขาหันมองไปที่กงเฉิง แล้วพูดอย่างเย็นชาว่า “คนที่ควรเซ็นใบลาออกคือคุณต่างหาก”
“คุณพูดอะไร?”
“กงเฉิง คุณโดนบริษัทไล่ออกแล้ว”