จอมนักรบท้าโลก - จอมนักรบท้าโลก - บทที่ 313 สิบนาทีสุดท้าย
แม้ติงฉี่ซานจะเดาถูก แต่ก็ไม่มีประโยชน์อยู่ ความจริงมันก็คือเช่นนี้ ถึงพูดไปก็ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์
สวีชงยักไหล่ “ลุงครับ แพ้ก็แพ้สิ จำเป็นต้องหาเหตุผลมากมายด้วยเหรอครับ? หรือว่าลุงยอมรับความพ่ายแพ้ไม่ได้”
ติงฉี่ซานทั้งกังวลและทั้งโกรธ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้
ในเวลานี้ เจียงชื่อก็พูดขึ้นเบาๆ ว่า “ยังเหลือ 10 นาทีไม่ใช่เหรอ? เวลายังไม่หมดเลย ใจเย็นๆ ก่อนสิ”
สวีชงยิ้มพูด “คนบางคนไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตาจริงๆ เลยนะ คุณคิดว่า 10 นาทีที่เหลือคะแนนจะตามทันงั้นเหรอ? ผมจะบอกคุณนะ ไม่เพียงแต่ตามไม่ทัน แต่ยังทิ้งห่างไปมากกว่านี้อีก!”
ทันใดนั้น เสียงโทรศัพท์ของเจียงชื่อก็ดังขึ้น
เขารับสายนั้น
และเสียงแผ่วเบาของหัวล้านหลงก็ดังขึ้นในสาย “ลูกพี่ เราพร้อมแล้วนะครับ เริ่มเลยไหม?”
เจียงชื่อยิ้มพูดอย่างมีนัย “เริ่มเลย!”
ทันใดนั้น ฉากที่น่าประหลาดใจก็เกิดขึ้น
ในระหว่างการออกอากาศนั้น ผู้ชมหลายๆ คนที่อยู่ท่ามกลางการแสดงของบริษัทบันเทิงและวัฒนธรรมผ้าข้องก็ลุกขึ้นและตะโกนอย่างเสียงดัง
“ลิปซิงค์!”
“ไอ้คนลอกเลียนแบบ!!”
“ไอ้ขโมย!!!”
“ลงจากเวทีไปซะ!!!”
จากนั้นงานคอนเสิร์ตส่งท้ายปีเก่าของบริษัทบันเทิงและวัฒนธรรมผ้าข้องก็เกิดความวุ่นวายขึ้นอย่างกะทันหัน
ผู้คนที่อยู่หน้าจอทีวีต่างก็ตกตะลึงและมองหน้ากัน ไม่รู้ว่าทำไมจู่ๆ ถึงเกิดเรื่องแบบนั้นขึ้นมาได้
บางคนที่ได้ยินเพลงที่ฮัวเสี่ยงหรงกำลังร้องอยู่ก็รู้ตัวทันที
เพลงนี้เคยเป็นเพลงฮิตมาก่อน ชื่อเพลงว่าฉงหรง
ซึ่งเพลงนี้บริษัทบันเทิงและวัฒนธรรมผ้าข้องได้ขโมยต้นฉบับมาจากอี้โม่เอนเตอร์เทนเมนต์และทำให้เพลงขึ้นชาร์ตล่วงหน้า แม้จะเป็นเพลงดังที่ต่างก็รู้จักกัน แต่ทุกคนก็รู้ดีว่าเพลงนี้มีที่มาที่ไป
เดิมทีบริษัทบันเทิงและวัฒนธรรมผ้าข้องคิดง่ายมาก ในเมื่อเพลงนี้กลายเป็นเพลงยอดนิยมไปแล้ว ดังนั้นจึงให้ฮัวเสี่ยงหรงนำเพลงนี้มาร้องสดในงานคอนเสิร์ต
แล้วใครจะไปรู้ว่าจะมีคนไม่พอใจมากขนาดนี้?
แต่สิ่งที่น่ากลัวกว่านั้นคือ
คนกลุ่มนี้ดูเหมือนจะตั้งใจก่อความโกลาหล พวกเขาเริ่มตะโกนโห่ไล่อย่างไม่หยุด
นอกจากนี้ ฮัวเสี่ยงหรงร้องเพลงไม่เก่งอยู่แล้ว เธอไม่สามารถร้องเพลงในงานคอนเสิร์ตได้ด้วยซ้ำ ดังนั้นเมื่อเกิดความโกลาหลขึ้นอย่างกะทันหันแบบนี้ จึงทำให้มือที่ถือไมโครโฟนแล้วลิปซิงค์เพลงอยู่ของเธอก็ตกลงไปบนพื้น
และในเวลานี้ ความน่าอายที่แท้จริงก็เกิดขึ้น แม้ไมโครโฟนจะตกลงไปบนพื้น แต่เสียงเพลงของเธอยังคงร้องต่อ! แน่นอนว่าความลับของเธอก็ถูกเปิดเผยอย่างหมดเปลือกในทันที
ผู้ชมทั้งหมดต่างก็รู้สึกโกรธมากยิ่งขึ้น
คำพูดที่น่าเกลียดถูกตะโกนออกไป บางคนประท้วงให้คืนบัตรคอนเสิร์ต บางคนตะโกนให้ฮัวเสี่ยงหรงลงจากเวที ส่วนผู้คนที่อยู่หน้าจอทีวีต่างก็ต่อว่าเธอด้วยคำพูดที่น่าเกลียดที่สุด
ชั่วขณะหนึ่ง ฮัวเสี่ยงหรงก็กลายเป็นหนูสกปรกที่ถูกผู้คนโห่ไล่!
ในเวลานี้ มีคนนึกถึงการ PK บนเวยป๋อ
เดิมทีการกระทำของฮัวเสี่ยงหรงก็ไม่ได้ใสสะอาดอยู่แล้ว ดังนั้นการ PK ที่ใช้การโหวตคะแนนนี้ หลังจากมีคนเพียงไม่กี่คนที่เริ่มเปลี่ยนใจในการโหวต ซึ่งก็นำมาด้วยการประณามและการวิพากษ์วิจารณ์ที่เพิ่มขึ้นอย่างไม่หยุด
ผู้ชมที่โกรธเคืองก็เริ่มเปลี่ยนทิศทางในการโหวตคะแนน
และไม่ว่าจะเป็นแฟนคลับของหลิงเหยาหรือไม่ ทุกคนต่างก็ให้คะแนนโหวตกับเธอ จึงทำให้จำนวนโหวตของเธอเพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วงเวลาสั้นๆ นี้
ส่วน ID ของฝ่ายเทคนิคที่ทำการปั๊มคะแนนให้กับฮัวเสี่ยงหรงก็ถูกเปิดเผยอย่างรวดเร็ว พวกเขาถูกขู่ว่าหากพวกเขากล้าปั๊มคะแนนโหวตอีก พวกเขาจะถูก ‘ฆ่าทั้งครอบครัว’
ดังนั้นจึงเป็นเหตุที่ทำให้เกิดความไม่สมดุลขึ้นอีกครั้ง คะแนนของฝ่ายหนึ่งเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ส่วนอีกฝ่ายก็ลดลงอย่างไม่คาดคิด
เพียงไม่กี่นาทีนี้ สถานการณ์ก็เปลี่ยนไปจากหน้ามือเป็นหลังมือ ซึ่งเป็นเหตุที่ทำให้สวีชงรู้สึกไม่คาดคิดมาก
คนกระทำไม่อาจสู้ฟ้าลิขิตได้จริงๆ
เขาไตร่ตรองแล้วไตร่ตรองอีก ไม่ว่าจะเป็นการลิปซิงค์ของฮัวเสี่ยงหรง การละเมิดลิขสิทธิ์ การปั๊มคะแนนโหวตต่างๆ มันไม่มีทางถูกคนทั้งประเทศจับได้ในเวลาเดียวกันอยู่แล้ว
แต่ดูผลโหวตที่แตกต่างกันเรื่อยๆ นี้ สวีชงสองมือกุมศีรษะอย่างสิ้นหวัง
“จบแล้ว จบแล้วจริงๆ”
“ครั้งนี้เราแพ้แน่!”