จอมนักรบท้าโลก - จอมนักรบท้าโลก - บทที่ 322 ด้อยกว่าคนอื่น
ณ ออฟฟิศประธานกรรมการของบริษัทเทียนติ่งในใจกลางเมืองเขตเจียงหนาน
ซุนหย่งเจินถือบุหรี่อยู่ในมือข้างหนึ่งแล้วนั่งไขว้ขาอยู่บนเก้าอี้ ทุกๆ คำที่เขาสูบควันเข้าไปอย่างเต็มปอดแล้วพ่นออกมาจากปาก ก็เพื่อจะบรรเทาความเศร้าในใจ
คนที่ยืนก้มหน้าอยู่ตรงหน้าเขาไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็นโป๋สิ้นหงของบริษัทบันเทิงและวัฒนธรรมผ้าข้อง
ส่วนคนที่นั่งอยู่ข้างๆ เขาคือนักวางแผนซีเหมินจุ้น
ซึ่งความล้มเหลวของคอนเสิร์ตส่งท้ายปีเก่าในครั้งนี้ ทำให้โป๋สิ้นหงไม่กล้าแม้แต่จะเงยหน้าขึ้นมอง เขารู้ดีว่าเขาทำลายความเชื่อใจที่ซุนหย่งเจินมีต่อเขาไปแล้ว และเกรงว่าครั้งนี้เขาต้องลำบากอย่างแน่นอน
ความหวังเดียวของเขาในตอนนี้ก็คือ หวังว่าซุนหย่งเจินจะเห็นแก่การร่วมงานมาหลายปีนี้ของพวกเขา ถ้าหากไม่เห็นแก่ความดีที่เคยทำ แต่อย่างน้อยก็ควรเห็นใจกันบ้าง และอย่าทำอะไรที่มันโหดร้ายเกินไปเลย
แต่ ซุนหย่งเจินจะเป็นคนดีขนาดนั้นได้อย่างไร?
เขามองไปที่โป๋สิ้นหง แล้วหัวเราะอย่างเย็นชา “นี่คุณ ก่อนหน้านี้คุณรับปากกับผมว่ายังไง?”
“คุณบอกว่า คุณขอเวลาหนึ่งสัปดาห์ คุณจะทำให้อี้โม่เอนเตอร์เทนเมนต์ล้มละลายได้อย่างแน่นอน”
“แล้วตอนนี้ล่ะ?”
“เหอะๆ ไม่เพียงแต่อี้โม่เอนเตอร์เทนเมนต์ไม่ได้ล้มละลาย แถมมูลค่าในตลาดหุ้นของพวกเขายังเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาลอีกด้วย! ในทางกลับกัน มูลค่าในตลาดหุ้นของบริษัทบันเทิงและวัฒนธรรมผ้าข้องกลับดิ่งลงอย่างมาก และตอนนี้ก็กลายเป็นอันดับสองของเขตเจียงหนานไปแล้วด้วย”
“โป๋สิ้นหง แผนของคุณมันดีนักไม่ใช่เหรอ? ไหนคุณลองอธิบายมาสิว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?!”
เมื่อเผชิญกับการถูกตำหนิโป๋สิ้นหงไม่กล้าพูดอะไรเลย
เขาจะพูดอะไรได้?
นอกจากคำว่า ‘ด้อยกว่าคนอื่น’
ก่อนหน้านี้โป๋สิ้นหงยังรู้สึกไม่พอใจมาตลอด แต่ครั้งนี้เขาพ่ายแพ้ให้กับเจียงชื่ออย่างสมบูรณ์แบบแล้ว ไม่ว่าจะเป็นวิธีการจัดการหรือปัญญาของชายคนนั้น เขาสามารถต่อกรได้จริงๆ
ในที่สุดโป๋สิ้นหงก็ถอนหายใจ
“ท่านประธานซุนครับ ผมไม่ขอแก้ตัวอะไรอีกแล้วครับ ครั้งนี้ผมขอยอมรับว่าผมพ่ายแพ้ของผมจริงๆ ครับ”
“ความสามารถของเจียงชื่อเหนือกว่าผมมากจริงๆ ครับ”
“ผมด้อยกว่าคนอื่น ผมยินดีที่จะถูกลงโทษครับ”
ในทางตรงกันข้ามซุนหย่งเจินกลับก็รู้สึกประหลาดใจ คนฉลาดหลักแหลมอย่างโป๋สิ้นหงกลับต้องยอมรับความพ่ายแพ้ของตน ดูแล้วเจียงชื่อคนนี้ต้องไม่ใช่คนธรรมดาอย่างแน่นอน
เรื่องมันก็มาถึงขั้นนี้แล้ว ถึงจะประณามให้มากกว่านี้ก็ไม่เกิดประโยชน์
ซุนหย่งเจินโบกมือและพูดว่า “ช่างมันเถอะ ขนาดตัวคุณยังคิดว่าตัวเองด้อยกว่าคนอื่นเลย งั้นคุณก็ไม่คู่ควรที่จะดำรงตำแหน่งประธานอีกต่อไป ตอนนี้คุณกลับไปเก็บข้าวของแล้วไสหัวออกไปให้พ้นซะ จากนี้ไปโป๋สิ้นหง คุณกับบริษัทบันเทิงและวัฒนธรรมผ้าข้อง และบริษัทเทียนติ่งไม่มีความเกี่ยวข้องใดๆ อีกต่อไป”
“ประธานซุนครับ!!!”
โป๋สิ้นหงเริ่มร้อนรน เขาคิดว่าซุนหย่งเจินมากสุดก็แค่ไล่เขาออกจากตำแหน่ง แต่ไม่คิดเลยว่าซุนหย่งเจินจะใจดำจนไล่เขาออกไปและไม่ให้เขาอยู่ต่อแม้กระทั่งบริษัทเทียนติ่ง
ซุนหย่งเจินตวาดอย่างเย็นชาว่า “ที่ผมไล่คุณออกถือว่าผมให้เกียรติคุณแล้วนะ คุณทำให้บริษัทบันเทิงและวัฒนธรรมผ้าข้องเสียหายขนาดไหน? ผมไม่สั่งฆ่าคุณก็ถือว่าบุญมากแค่ไหนแล้ว รีบไสหัวออกไปให้พ้นซะ อย่ากลับมาให้เห็นหน้าอีก”
เมื่อพูดขนาดนี้แล้วโป๋สิ้นหงยังจะทำอะไรได้อีก?
ดังนั้นเขาได้แต่ถอนหายใจแล้วเดินออกไป
เพียงแค่คอนเสิร์ตส่งท้ายปีเก่างานเดียว เจียงชื่อสามารถเอาชนะบริษัทบันเทิงและวัฒนธรรมผ้าข้องและยังคว่ำคนอย่างโป๋สิ้นหงได้ คงต้องชื่นชมความสามารถของเขาแล้วจริงๆ!
บุหรี่ของซุนหย่งเจินหมดลง และเขาก็จุดใหม่อีกม้วนอย่างไม่หยุด
บุหรี่ม้วนแล้วม้วนเล่าที่ถูกจุดขึ้น ทำให้ห้องทำงานของเขาเต็มไปด้วยกลิ่นควันของบุหรี่ และความเศร้าหมองยังคงกัดกินหัวใจเขาอย่างไม่หยุด
พูดตามตรง แม้แต่โป๋สิ้นหงยังต้องพ่ายแพ้ให้กับเจียงชื่อ แล้วใครจะทำได้อีก? ไม่ว่าจะนึกยังไงก็นึกไม่ออกว่าใครที่จะสามารถจัดการกับเขาได้
จากนั้นเขามองไปที่ซีเหมินจุ้น และถามว่า “ซีเหมิน คุณอย่ามัวแต่นั่งเฉยๆ สิ ช่วยผมคิดด้วยว่าจะรับมือกับเจียงชื่อยังไง? จะส่งใครไปจัดการกับมันดีเจียงชื่อ?
ซีเหมินจุ้นหัวเราะอย่างขมขื่นและส่ายหัวพูดว่า “ประธานซุนครับ อย่าหาว่าผมซ้ำเติมคุณเลยนะครับ ผมว่าคนทั้งบริษัทเทียนติ่งไม่มีใครที่จะรับมือกับเจียงชื่อได้หรอก”