จอมนักรบท้าโลก - จอมนักรบท้าโลก - บทที่ 326 สายตาที่แหลมคม
ซินยุ่นที่ต้องสัมผัสกับผู้ป่วยจำนวนมากในทุกๆ วัน จึงทำให้เธอคุ้นเคยและเคยชินกับอาการของผู้ป่วยต่างๆ ไปแล้ว นอกจากนี้สำหรับแพทย์ทุกๆ คนนั้น การสังเกตผู้ป่วยด้วยการมอง การได้ยิน และการถาม เป็นคุณสมบัติที่พื้นฐานที่สุด
ด้วยเหตุนี้ ทันทีที่ซินยุ่นเห็นคุณหลิน เธอก็รู้ว่าเขาต้องเป็นคนชนชั้นสูง
และหลังจากที่เธอเห็นสองพ่อลูกสือควนกับสือเหวินปิ่งที่มากับเขาด้วย เธอก็ยิ่งมั่นใจว่าสถานะของเขาคนนี้ต้องไม่ใช่คนธรรมดาอย่างแน่นอน ไม่เช่นนั้นคงเป็นไปไม่ได้ที่สองพ่อลูกนี้จะผู้ติดตามเขา
คุณหลินเดินเข้าไปในบ้านและเห็นซินยุ่นทันที จากนั้นค่อยๆ เดินเข้าไปหาเธอ
“คุณคือหมอซิน?”
ซินยุ่นรีบลุกขึ้นแล้วตอบอย่างสุภาพ “หนูซินยุ่น เป็นหมอประจำของหอการแพทย์ตระกูลซินค่ะ”
“ครับ”
คุณหลินพยักหน้า จากนั้นนั่งลงและค่อยๆ พูดขึ้นอีกครั้ง “ช่วงนี้ผมรู้สึกไม่ค่อยสบาย อยากให้หมอซินช่วยดูอาการให้หน่อยครับ”
ซินยุ่นขมวดคิ้วทันที
มาหาหมอ?
พ่อลูกทั้งสองที่ยืนอยู่ด้านหลังคุณหลินนั้นเป็นหมอชั้นนำในอุตสาหกรรมการแพทย์ของเมืองเจียงหนานเชียวนะ อีกอย่างทักษะทางการแพทย์ของพวกเขาก็ไม่ต่ำกว่าซินยุ่นเลย
แม้กระทั่งดีกว่าด้วยซ้ำ
แล้วทำไมถึงใกล้เกลือกินด่าง มาหาซินยุ่นเพื่อดูอาการถึงที่? แค่คิดก็รู้สึกแปลกแล้ว
สือเหวินปิ่งยังย้ำเตือนเป็นพิเศษด้วยว่า “หมอซิน คุณต้องพยายามให้ดีนะ คุณหลินเจียหรงท่านนี้เป็นถึงตัวแทนใหญ่ของบริษัทเฟอร์รารี่ในประเทศจีน ท่านเป็นคนรับผิดชอบทุกเรื่องของแบรนด์เฟอร์รารีทั้งหมดในประเทศเลยนะครับ”
เขาจงใจเปิดเผยสถานะของหลินเจียหรง เพื่อจะเพิ่มความกดดันให้กับซินยุ่น
และครั้งนี้ซินยุ่นก็ตกอยู่ในที่นั่งลำบากแล้ว เธอจึงตอบว่า “คุณหลินคะ ด้วยความเคารพนะคะ คุณสือควนกับคุณสือเหวินปิ่งที่อยู่ด้านหลังคุณเป็นหมอชื่อดังของประเทศเลยนะคะ ความสามารถในการรักษาผู้ป่วยของเขาทั้งสองก็ดีกว่าดิฉันด้วย แล้วทำไมคุณต้องลำบากมาไกลขนาดนี้ด้วยคะ?”
สือควนยิ้มตอบ “คุณหมอซินถ่อมตัวเกินไปแล้วครับ ในเขตเจียงหนานมีใครที่ไม่รู้จัก ‘ฮัวโต๋หญิง’ แพทย์หญิงอย่างคุณด้วยล่ะครับ? อีกอย่างตระกูลสือของเราถนัดเรื่องการผ่าตัด ส่วนตระกูลซินของคุณถนัดทางอายุรศาสตร์ และอาการของคุณหลินก็เป็นอาการเจ็บป่วยภายในอีกด้วย ฉะนั้นให้ฮัวโต๋หญิงอย่างคุณเป็นคนดูอาการให้ มันไม่มีอะไรที่เหมาะสมกว่านี้แล้วครับ”
เป็นคำพูดที่ประจบสอพลอมาก
ถึงแม้จะดูเหมือนเป็นคำชม แต่มันไม่ต่างอะไรกับดาบสองคมเลย
จากนั้นหลินเจียหรงพูดต่อ “คุณหมอซินครับ คุณไม่ต้องห่วงนะครับ ขอเพียงแค่คุณรักษาผมให้หายได้ ส่วนเรื่องค่าใช้จ่ายผมจะไม่ทำให้คุณผิดหวังครับ”
ซินยุ่นยิ้มอย่างขมขื่น สิ่งที่เธอกลัวนั้นไม่เกี่ยวกับเรื่องผลตอบแทนเลย
เธอรู้ว่านี่คือหลุมกับดักที่พ่อลูกทั้งสองของตระกูลสือตั้งใจขุดไว้ให้เธอ เพราะถ้าอาการป่วยนี้รักษาได้ง่ายๆ สองพ่อลูกตระกูลสือคงไม่พาผู้ป่วยผู้สูงศักดิ์อย่างเขามาให้เธอรักษาอย่างแน่นอน
แต่ในฐานะแพทย์คนหนึ่ง เธอจะปฏิเสธผู้ป่วยได้อย่างไร?
แม้จะรู้ว่าเป็นการสมคบคิดของตระกูลสือ แต่ในจรรยาบรรณแพทย์คนหนึ่ง ซินยุ่นก็ยังนั่งลงและดูอาการให้กับหลินเจียหรงอยู่ดี
“ช่วยยื่นแขนขวาออกมาทีค่ะ”
หลินเจียหรงยื่นแขนขวาออกมา ซินยุ่นก็วางมือบนชีพจรของเขาและเริ่มดูอาการอย่างตั้งใจ
จากนั้นเธอก็เริ่มตรวจจากอาการสีหน้า ลิ้น ดวงตาและส่วนอื่นๆ ของหลินเจียหรงทีละส่วน นอกจากนี้ยังถามถึงอาการที่ผ่านมาของเขาด้วย
ซึ่งได้ผลสรุปโดยรวมว่า หลินเจียหรงนั้นมักจะรู้สึกหนาว และทุกครั้งที่รู้สึกหนาว ไตของเขาก็จะเกิดอาการเจ็บปวด แต่ที่สำคัญกว่านั้นคือเขายังกลัวความหนาวด้วย ร่างกายของเขาไม่สามารถทนรับกับแสงแดดได้เลย เพราะทุกครั้งที่ตากแดดนานๆ ฝ้าก็จะขึ้นเต็มผิวหนังของเขา ทำให้คนมองแล้วน่ากลัวมาก
และโรคประหลาดนี้ซินยุ่นเองก็ไม่เคยพบเจอมาก่อน
หลังจากการตรวจอย่างละเอียดแล้ว ซินยุ่นก็พบวิธีการรักษาวิธีหนึ่ง ซึ่งก็คือ….