จอมนักรบท้าโลก - จอมนักรบท้าโลก - บทที่ 47 จะแต่งก็แต่งเอง
บทที่47 จะแต่งก็แต่งเอง
ในระหว่างที่กลับ ติงเมิ่งเหยนขับรถอยู่ ไม่พูดอะไร
เจียงชื่อจ้องมองเธอมานานมาก ถอนหายใจยาว ๆ แล้วพูดว่า:”ขอโทษ”
ติงเมิ่งเหยนชะงักเล็กน้อย :”หืม?”
“ขอโทษ ผมเคยสัญญากับเธอว่าจะไม่หาเรื่องคุณปู่ติงก่อน วันนี้ไม่สามารถควบคุมได้ เป็นความผิดของผมเอง”
ติงเมิ่งเหยนยิ้มฝืด ๆ ตอนนี้มาพูดเรื่องพวกนี้อีกจะมีความหมายอะไร ?
อีกอย่าง ทั้งหมดนี้ไม่ใช่ความผิดของเจียงชื่อ
ติงจ้ง ถังโม่แหวนคนพวกนั้นรังแกคนเกินไป ถ้าเจียงชื่อไม่ตอบโต้ละก็ คงถูกไล่ออกจากตระกูลติงไปนานแล้ว
ไม่ใช่แค่เจียงชื่อ ขนาดติงเมิ่งเหยนก็ถูกเหยียด
แค่เพราะว่าเธอเป็นผู้หญิง แค่เพราะว่าเธอไม่ได้แต่งานกับสามีที่มีอำนาจ ถึงแม้เธอจะเป็นคนของตระกูลติง แต่ไม่เคยได้รับความสำคัญจากคุณปู่ติงเลย
ติงเมิ่งเหยนพูดว่า:”ฉันไม่โทษนาย เรื่องวันนี้เป็นใคร ใครก็โกรธ ก็อย่างเรื่องที่ฉางคุนมาขอโทษ ตอนนั้นพี่สาวดันฉันออกมาจากกลุ่มคน ถ้าฉางคุนไม่ได้มาขอโทษแต่มาแก้แค้นละก็ วันนี้ฉันคงจะไม่รอด”
เธอมองเจียงชื่ออย่างอ่อนโยน
“ถ้าตอนนี้ผมอยู่ริมหน้าผา ผมเชื่อว่า คนที่จะดึงผมกลับมาโดยไม่คำนึงถึงความอันตรายก็มีแต่เธอ คนในตระกูลติงพวกนั้น แทบจะอยากผลักผมลงหน้าผาด้วยมือแล้ว”
“เจียงชื่อ ฉันดีใจมาก ที่พวกเรายังไม่แยกจากกัน”
สามารถทำให้คนที่ขี้อายอย่างติงเมิ่งเหยนพูดแบบนี้ออกมาได้ แสดงว่าความรู้สึกของเธอที่มีต่อเจียงชื่อเปลี่ยนไปแล้ว จากแรก ๆ ที่ดูถูก ผิดหวัง จนตอนนี้ค่อย ๆ ยอมรับทีละนิดแล้ว
ถึงแม้เจียงชื่อจะจนมาก แต่อย่างน้อยความรักนี้ก็มันช่างไร้เดียงสา
เจียงชื่อรู้สึกอบอุ่นใจ เขาไม่ได้มีความรู้สึกแบบนี้มานานแล้ว
ทั้งสองคนหน้าแดงทันที มองหน้ากันแล้วไม่พูดอะไร
กลับถึงบ้าน
ติงเมิ่งเหยนยังไม่ทันพูด ก็เห็นติงฉี่ซานนั่งบนโซฟาแล้วพูดกับพวกเขาว่า:”กลับมาแล้วเหรอ?”
“อืม”
“งั้นต้องทำยังไงไม่ต้องให้พ่อพูดแล้วสินะ?”ติงฉี่ซานตบเอกสารบนโต๊ะ “ตอนนี้พวกเธอสามารถไปทำขั้นตอนการหย่าร้างได้แล้ว พ่อเตรียมเอกสารทั้งหมดให้พวกเธอแล้ว”
ติงเมิ่งเหยนนิ่งไป :”พ่อ พ่อทำอะไรนะ?”
“ทำอะไร?ตอนนั้นเจียงชื่อสัญญากับพ่อแล้ว ถ้าทำสองเรื่องนี้ไม่สำเร็จก็จะหย่าทันที ทำไม อยากกลับคำ?”
ติงเมิ่งเหยนยิ้มฝืด ๆ ที่แท้พ่อก็ยังไม่รู้เรื่องที่วันนี้ลงทุนสำเร็จ กับตระกูลฉางมาขอโทษ
ก็ไม่แปลก สองเรื่องนี้เพิ่งจะสำเร็จ คาดว่าทางบริษัทยังไม่ได้แจ้งติงฉี่ซาน
“พ่อ จริง ๆ แล้ว……”
ติงฉี่ซานขัดเธอ :”ไม่ต้องพูดอะไรแล้ว ไปหย่า แล้วก็……”
เขาเอารูปถ่ายหนึ่งรูปมาวางไว้บนโต๊ะ:”นี่คือลูกชายของผู้อำนวยการบริษัทพวกเรา เสี่ยวเมิ่ง เขาเป็นคนซื่อสัตย์ และมีความสามารถมาก แล้วยังเป็นลูกคนเดียวของผู้อำนวยการบริษัทพวกเราอีกด้วย จนตอนนี้ก็ยังไม่แต่งงาน พ่อคุยกับผู้อำนวยการแล้ว เธอไปหย่าก่อน แล้วก็ไปนัดบอดกับเสี่ยวเมิ่ง ถ้าเขาชอบเธอ ก็เตรียมแต่งงานใหม่ได้”
ติงเมิ่งเหยนพูดไม่ออกจริง ๆ ความเร็วของพ่อมันเร็วเกินไปรึเปล่า?
ตนเองยังไม่หย่าที ติงฉี่ซานก็จัดการงานข้างหลังไว้หมดอย่างราบรื่นแล้ว
ซูฉินแม่ยายพูดอย่างช่วยไม่ได้:”เมิ่งเหยน พ่อเธอทำเพราะอยากให้เธอดี ถึงจะกะทันหันเกินไป แต่ว่าเสี่ยวเมิ่งคนนี้เขามีประโยชน์ต่อการงานของเธอจริง ๆ
ติงฉี่ซานพูดว่า:”แม่เธอพูดถูก ถ้าเธอแต่งงานกับเสี่ยวเมิ่งแล้ว งั้นพ่อกับผู้อำนวยการก็เป็นครอบครัวเดียวกัน มันมีผลดีสำหรับการเลื่อนตำแหน่งของพ่อ”
ติงเมิ่งเหยนหน้าบึ้ง พูดอย่างไม่พอใจว่า:”พ่อคะ พ่อคิดแค่ว่าฉันเป็นเครื่องมือในการเอาใจคนอื่นเหรอ ? พ่อให้ฉันแต่งงาน อยากให้ฉันดี หรือเพื่อผลประโยชน์ของพ่อเองกันแน่ ? ถ้าพ่อต้องการเลื่อนตำแหน่ง ก็ไปแต่งกับเสี่ยวเมิ่งอะไรนั้นเองเถอะค่ะ ! ”
“บังอาจ ! กล้าพูดกับพ่อแบบนี้เหรอ ? ”
ติงเมิ่งเหยนกัดปากแน่น ทั้งโกรธทั้งใจร้อน
เจียงชื่อเข้ามาพูดโน้มน้าว:”พ่อครับ ถ้าพ่ออยากเลื่อนตำแหน่งจริง ๆ ละก็ ผมอยากจะช่วยพ่อหาวิธีได้ ก็ไม่ใช่ว่าจะต้องเอาใจผู้อำนวยการ”
“นาย?”ติงฉี่ซานด่า:”แกเป็นใครกัน? คำพูดของแกมันจะมีประโยชน์อะไร? แล้วก็ ทีหลังนายอย่ามาเรียกผมว่าพ่อ ถ้านานเป็นผู้ชายก็ทำตามข้อตกลง หย่ากับลูกสาวของผมซะ อย่ามาปรากฏตัวต่อหน้าผม ! ”
สถานการณ์อึดอัดมาก
จนถึง……
ติงเมิ่งเหยนพูดอย่างเย็นชา :”ฉันไม่มีทางหย่ากับเจียงชื่อ” “เธอกล้าเหรอ ? ! ”
“ทำไมจะไม่กล้า?วันนี้ตระกูลติงดึงการลงทุนมาสามพันล้าน คนของตระกูลฉางก็มาขอโทษแล้ว ที่เจียงชื่อพูดก็ทำได้แล้ว เขาไม่ต้องออกจากตระกูลติง และไม่มีทางหย่ากับฉัน !
“อะไรนะ ? ”
ติงฉี่ซานสงสัยว่าตัวเองฟังผิดรึเปล่า เขาไม่กล้าและไม่ยอมเชื่อสิ่งที่ติงเมิ่งเหยนพูดจะเป็นความจริง
“ถ้าพ่อไม่เชื่อ ก็โทรไปถามตระกูลติงเองสิ”
“เหอะ ๆ เธอคิดว่าพ่อไม่กล้าถามเหรอ?”
ติงฉี่ซานล้วงมือถือออกมาโทรหาตระกูลติง ถามเรื่องตอนเช้า หลังจากได้ยินคำตอบของอีกฝ่าย ยืนนิ่งทันที
ทำได้แล้ว เจียงชื่อทำได้จริง ๆ ?
ดึงการลงทุนได้ แล้วยังให้คนของตระกูลฉางมาขอโทษ นี่มัน……
ติงฉี่ซานถาม:”เจียงชื่อ นายทำได้ยังไงกันแน่?”
เจียงชื่อยักไหล่ :”ถ้าตั้งใจจริงทุกปัญหาก็คลี่คลายได้ ขอแค่คุณยอมพยายามไปพูด คนอื่นก็ยอมฟัง”
คำพูดนี้ทำให้ติงฉี่ซานยอมรับได้ยากมาก
เขาส่ายหัวไม่หยุด :”เป็นไปไม่ได้ เป็นไปไม่ได้เด็ดขาด ผมรู้จักกับฉางคุนมาสิบกว่าปี เขาไม่ใช่คนที่จะก้มหัวขอโทษคนอื่นได้ ในนี้ต้องมีอะไรแปลกๆ แน่นอน”
ติงเมิ่งเหยนพูดอย่างเย็นชา :”ไม่ว่ามันจะมีอะไรแปลก ๆ ยังไงเรื่องที่เขามาขอโทษก็คือเรื่องจริง เจียงชื่อทำเรื่องที่เขาสัญญากับพ่อได้แล้ว พ่อก็ต้องทำตามสัญญา ให้เจียงชื่ออยู่ ! ”
ติงฉี่ซานไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดี
ตั้งแต่แรกแล้วเขาไม่เคยคิดเลยว่าเจียงชื่อจะทำเรื่องพวกนี้ได้ ดังนั้นถึงได้คุยเรื่องนัดบอดกับผู้อำนวยการให้ดีแต่แรก ตอนนี้กลับทำเรื่องที่ฉลาดเป็นโง่ได้ ไม่สามารถแก้ได้แล้ว
“แต่ว่า……”ติงฉี่ซานพูดอย่างอึดอัดใจว่า:”เจียงชื่อจะอยู่หรือไปค่อยว่ากัน นี้พ่อตกลงกับผู้อำนวยการแล้ว ว่าเธอจะหย่า แล้วจะไปนัดบอดกับเสี่ยวเมิ่ง จู่ ๆ ก็กลับคำ จะให้พ่อบอกกับผู้อำนวยการยังไงล่ะ?”
“จะบอกยังไงก็เรื่องของพ่อ ก็ไม่ใช่ฉันให้หาคนมานัดบอดสักหน่อย”
“เธอ ! เธอพูดอย่างนี้กับพ่อได้ไง ?”
“หึ ! ”
ติงเมิ่งเหยนหันหลังเดินไปเลย เจียงชื่อเดินตามไป หลังจากทั้งสองคนเดินเข้าห้อง ติงเมิ่งเหยนก็ปิดประตูแรง ๆ
ติงฉี่ซานนั่งลงอย่างใจร้อน :”นี่จะทำไงดีเนี้ย?”
ซูฉินมองบนใส่เขา :”ฉันเตือนนายแต่แรกแล้ว อย่ามารีบ ถึงนายจะชอบเสี่ยวเมิ่งจริง ๆ อยากได้ลูกเขยคนนี้ แต่ก็ต้องรอทางนี้หย่าก่อน มั่นใจแล้วค่อยว่ากัน เป็นไงล่ะ ทำอะไรก็ไม่ดี แล้วก็ถูกบ่นหมด บาปนี้นะ นายสมควรรับไปเอง”
“พอแล้ว พูดมากจริง ๆ ไป ๆ ๆ ”
ติงฉี่ซานตบโต๊ะไม่หยุด สมองหมุนอย่างรวดเร็ว คิดอยู่ว่าจะบอกเรื่องนี้กับผู้อำนวยการยังไงดี