จอมนักรบท้าโลก - จอมนักรบท้าโลก - บทที่ 5 พิธีรีตอง
บทที่ 5 พิธีรีตอง
ทุกคนมองหน้ากัน เทพสงครามซูร่า? เป็นตำแหน่งอะไร?
ถังแหวนโม่กระแอมเล็กน้อย “สถานการณ์ที่เวสเตอร์แลนด์ถึงฉันจะไม่ค่อยรู้ แต่เรื่องยศทหารฉันรู้ดี เทพสงครามซูร่า ไม่มีตำแหน่งบรรจุนี้ เจียงชื่อคุณอย่าแต่งเรื่องขึ้นดีกว่า”
ผู้คนถึงได้คลายความสงสัย
“ที่แท้แต่งขึ้นมาเอง ฉันก็ว่าทำไมไม่เคยได้ยิน”
“แต่งเรื่องทั้งทีก็ไม่แต่งให้เข้าท่าหน่อย”
“แม้แต่แหวนโม่ก็ไม่รู้จักยศนี้ มันต้องไม่มีอยู่แน่”
การเผชิญหน้าการตำหนิของกลุ่มคน ติงเมิ่งเหยนอับอายจนแทบจะแทรกแผ่นดินหนี
เจียงชื่อกลับนิ่งเฉย พูดขึ้นมาว่า: “คุณไม่เคยได้ยิน หรือเพราะคุณยังสัมผัสไม่ถึงกันแน่?”
“……”
เสียงฮืฮาในงานก็ดังขึ้น ผู้คนมองมาที่เจียงชื่ออย่างทึ่มๆ
เขาบ้าไปแล้วจริงๆ กล้าพูดอะไรออกมาก็ได้
ถังแหวนโม่เป็นใคร? นั่นเป็นถึงรองผู้บัญชาการฝ่ายตะวันออกของจ้านยู่เลยนะ เป็นหนึ่งเดียวในฝ่ายตะวันออกของจ้านยู่อยู่เหนือคนนับหมื่น ต่อให้เป็นคุณปู่ติงเห็นเขาก็ยังต้องอ่อนน้อม ยอมโอนอ่อนให้
เจียงชื่อถึงกับกล้าพูดว่าอีกฝ่ายไม่รู้จักตัวเอง เพราะสัมผัสไม่ถึง หมายความว่าเขาเก่งกว่าถังแหวนโม่อีกสินะ?
หลังจากความเงียบไปชั่วขณะ ก็เกิดเสียงหัวเราะดังไปทั่ว
ติงเฝิงเฉิงชี้ไปที่เจียงชื่อ “น้องเล็ก เธอเอาตัวประหลาดนี่กลับไปทีได้ไหม? เขาอยู่นี่ก็ขายหน้าผู้คน มันเหมาะสมแล้วเหรอ?”
ถังแหวนโม่ก็ทำหน้าดูถูก
“มีคนบางคน ทั้งที่ฐานะต่ำต้อย แต่ยังไม่รู้จักที่จะพิสูจน์ตัวเอง รู้จักแต่เป็นตัวตลกของคนอื่น”
“ฉันจะไม่ดูถูกที่นายมีฐานะต่ำต้อย แต่การไม่รู้จักความอัปยศของนาย ทำให้ฉันรู้สึกทุเรศ”
“ไปซะ เห็นนายยืนอยู่ตรงนี้ ฉันก็ไม่มีอารมณ์แม้แต่กินข้าว”
ติงเฝิงเฉิงพูดตามขึ้นมาว่า: “เศษสวะ ได้ยินไหม พี่เขยสั่งให้นายไสหัวไป”
สถานการณ์ค่อนข้างกลืนไม่เข้าคายไม่ออก
ติงจ้งทำไม้ทำมือไปที่ติงเมิ่งเหยน “เมิ่งเหยน ให้เขาไปนั่งกินข้าวที่มุมโต๊ะนั้นไป”
“ทราบแล้วค่ะ คุณปู่”
ติงเมิ่งเหยนลุกขึ้นยืน ยื่นมือไปจับข้อมือของเจียงชื่อ กัดฟันลากเจียงชื่อออกไปจากงาน ให้เขาไปอยู่โต๊ะมุมใน
เจียงชื่อส่ายหน้าเล็กน้อย ตั้งหน้าตั้งตากิน
“คุณยังกินลงอีก?” ติงเมิ่งเหยนดุขึ้นมา “ฉันโมโหจนอิ่มท้องแล้ว คุณยังทำเป็นไม่เป็นไรอยู่ได้ เจียงชื่อ คุณรู้ไหมว่า “อัปยศ” สองคำนี้เขียนยังไง?”
เจียงชื่อพูดด้วยความเมินเฉย: “ของแท้ปลอมไม่ได้ ของปลอมแท้ไม่ได้”
“หมายความว่าอะไร?”
“ไม่ช้าคุณก็เข้าใจเอง”
บนโต๊ะอาหาร
ติงจ้งถามขึ้นมาว่า: “แหวนโม่ วันนี้มีเรื่องอยากขอคำแนะนำจากเธอ”
ถังแหวนโม่หัวเราะ “คุณปู่เกรงใจเกินไปแล้ว กับผมยังจะใช้คำว่า “ขอคำแนะนำ” ทำไม? คุณปู่คงอยากถามเรื่องผู้นำคนใหม่สินะ”
“ถูกต้องๆ แหวนโม่พอทายก็ถูกเลย”
ถังแหวนโม่พูดว่า: “การรวมตัวของสามเขตในครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องเล็ก ตำแหน่งผู้รับผิดชอบใหญ่ เป็นทั้งเนื้ออ้วน แล้วยังเป็นหลุมไฟด้วย”
“หมายความว่ายังไง?”
“ง่ายมาก ในฐานะผู้รับผิดชอบทั้งสามเขต สามารถโยกย้ายทรัพยากรทั้งหมดได้ แค่จัดการให้ดี น้ำ น้ำมันต่างๆ ก็ตักตวงได้ตามใจชอบ? ปัญหาคือ หัวหน้าทั้งสามเขตจะยอมให้เขาทำเหรอ? ข้าราชการเอย พ่อถ้าเอย ท้องถิ่นเอย ผู้มีอำนาจหลายฝ่าย ไกล่เกลี่ยกันไม่ใช่ง่ายๆ ฉะนั้น ผู้ที่จะมาเป็นผู้รับผิดชอบใหญ่ ต้องกำราบสถานการณ์ให้อยู่”
ติงจ้งพยักหน้า ถามต่อไปว่า: “แล้วเธอรู้ไหมว่าผู้ที่มาใหม่เป็นใคร?”
“ไม่ทราบครับ”
“แม้แต่เธอก็ไม่รู้”
ถังแหวนโม่พูดด้วยความอึกอัก: “แน่นอนอยู่แล้ว ระดับของผมเมื่อเทียบกับเขา ห่างกันหนึ่งขั้นครึ่งขั้น ตอนนี้เบาะแสเดียวที่ได้ ก็คือผู้ที่มาเป็นผู้รับผิดชอบใหญ่มาจากเวสเตอร์แลนด์”
“เวสเตอร์แลนด์? ”
ติงจ้งอดไม่ได้ที่จะหันไปมองโต๊ะที่อยู่มุมด้านใน จากนั้นเหมือนตัวเองอยากจะทำหน้าร้องไห้ ส่ายหน้าไปมา
“แหวนโม่เอ้ย เธอต้องเอาใจใส่เรื่องผู้นำคนใหม่มาแล้ว ช่วยตระกูลติงตักตวงผลประโยชน์หน่อย สามเขตรวมกัน ที่ที่ให้ตักตวงมีอยู่มากเลย แค่โกยคร่าวๆ ก็เพียงพอสำหรับตระกูลติงกิน”
ถังแหวนโม่ลูบที่หน้าอก “ไม่ต้องห่วงครับ เรื่องของตระกูลติงก็เป็นเรื่องของผม ต้องใส่ใจแน่นอน อีกไม่กี่วันผู้นำคนใหม่จะเข้ารับตำแหน่ง ผมเป็นคนไปรับเขาด้วยตัวเอง ถึงเวลานั้นผมจะพูดจาสวยหรูแทนตระกูลติงให้ ไม่ต้องกังวลแล้วว่าจะหาเงินไม่ได้”
“ให้ตาย งั้นก็ต้องขอบคุณแหวนโม่แล้ว”
“โธ่ คุณปู่เกรงใจเกินไปแล้ว”
“มา ดื่มกัน”
“ดื่มกัน !”
ระหว่างการชนแก้ว ก็เห็นโรลส์รอยซ์สีดำ3คันขับเข้ามาจากด้านนอก แต่ละคันราคามากกว่าสิบล้านทั้งนั้น คนธรรมดาทั่วไปไม่ใช่จะขับกันได้
ใครกันที่มีมาดอย่างนี้ได้?
ติงจ้งกับถังแหวนโม่ต่างมองหน้ากัน หยุดแก้วเหล้าที่อยู่ในมือ เดินไปที่ประตู
พอโรลส์รอยซ์3คันจอดสนิท ประตูรถเปิดออก ชายหนุ่มแต่งกายชุดทหารสองสามนายเดินลงมาจากรถ รถยนต์ทั้ง3คัน แต่ละคันมีธงเกียรติยศผืนใหญ่อยู่คันละผืน
คนที่เป็นหัวหน้าเดินตรงเข้ามาที่ติงจ้ง ทำความเคารพแบบทหาร
“สวัสดีนายท่าน พวกเราเป็นคนของจ้านยู่ มามอบธงเกียรติยศโดยเฉพาะ เพื่อขอบคุณหลานเขยของคุณที่ทำคุณประโยชน์ให้จ้านยู่”
จ้านยู่?
หลานเขย?
แน่นอนติงจ้งต้องคิดว่าเป็นถังแหวนโม่ “ให้ตาย แหวนโม่เธอยอดเยี่ยมมาก นึกไม่ถึงว่าเบื้องบนจะส่งคนมามอบธงเกียรติยศให้เธอ ช่างเป็นหน้าเป็นตาของเราตระกูลติงจริงๆ !”
“เอ่อ…” ถังแหวนโม่หัวเราะอย่างพะอืดพะอม
เขารู้สึกสับสนในใจ จากความสามารถ ท่าทาง จะมีคุณสมบัติได้รับธงเกียรติยศได้อย่างไร?
อย่าว่าแต่ 3 ผืน ผืนเดียวยังยากเลย
พรึบ พรึบ พรึบ ธงเกียรติยศ3ผืนทยอยเปิดออก
ผืนแรกปักว่า: ภักดีกล้าหาญ
ผืนที่สองปักว่า: ออกศึกไร้ซึ่งคำว่าแพ้
ผืนที่สามปักว่า: ชื่อเสียงกาลนาน
ตัวแทนความหมายของสามคำนี้ยิ่งใหญ่มาก ไม่ใช่คนธรรมดาจะทำได้
อย่าว่าแต่ถังแหวนโม่เลย ต่อให้เป็นผู้บัญชาการแห่งจ้านยู่ ก็ไม่มีทางได้หนึ่งในความหมายของธงเกียรติยศ
ถังแหวนโม่มีความสงสัยในใจ ว่าตัวเองทำคุณประโยชน์อะไรไว้ ถึงได้สัญลักษณ์ธงเกียรติยศ3ผืน? หลังจากกลับไปต้องไปถามหัวหน้าเสียหน่อย
ติงจ้งยิ้มจนปากไม่หุบ “ดี ดีมาก แหวนโม่อ่ะ เธอเป็นหน้าเป็นตาให้กับตระกูลของเราจริงๆ บ่าวไพร่ เก็บธงเกียรติยศทั้ง 3ผืนไว้ แขวนไว้ที่ห้องบรรพชน!”
“ครับ”
หลังจากส่งมอบธงเกียรติยศเสร็จ คนของจ้านยู่ก็กลับมาที่รถ จากไปอย่างยิ่งใหญ่
ในเวลานี้เอง ที่โต๊ะมุมสุด ติงเมิ่งเหยนมองไปที่ธงเกียรติยศ3ผืนพูดด้วยเสียงยิ้มแหยว่า: “พี่ใหญ่ได้แต่งกับชายในฝันจริงๆ”
ทั้งอิจฉา และก็ริษยา
มีผู้หญิงที่ไหนบ้างที่ไม่ปรารถนาจะแต่งกับผู้ชายที่เก่งกาจ ? มีผู้หญิงที่ไหนบ้างที่ไม่ปรารถนาให้ผู้ชายของตัวเองเหนือคนอื่น ?
ติงเมิ่งเหยนในเวลานี้ มีแต่ความขมขื่นอยู่ในใจ
เจียงชื่อที่อยู่ข้างๆ มองดูธงเกียรติยศ3ผืนนั้น แล้วพึมพำกับตัวเอง: “ก็บอกแล้วไงว่าฉันไม่ชอบพวกพิธีรีตอง ยังจะส่งมาอีก น่ารำคาญจริง”
เขาส่ายหน้าเสร็จ ก็ก้มหน้ากินข้าวต่อ