จอมนักรบท้าโลก - จอมนักรบท้าโลก - บทที่103 คุณกล้าหาเรื่องฉันหรือ?
บทที่103 คุณกล้าหาเรื่องฉันหรือ?
เจียงชื่อรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่มีผู้ช่วยที่เชื่อถือได้อย่างเฉิงดันถิง ซึ่งช่วยเขาได้มากทีเดียว
ถ้าไม่มีเฉิงดันถิง เขาจะทำเรื่องอลังการงานสร้างแบบนี้ด้วยตัวเองได้อย่างไร?
กลัวว่าจะต้องลงทุนเงินเป็นจำนวนมาก และเมื่อถึงตอนนั้นก็เหมือนกับการใช้ตะกร้าไม้ไผ่ไปตักน้ำ มันจะเหลือเพียงความว่างเปล่าเท่านั้น ว่ากันว่าทหารนับหมื่นหาได้ง่ายแต่ขุนพลหนึ่งเดียวหายากยิ่ง เฉิงดันถิงเป็นของล้ำค่าจริงๆ
หลังจากเสร็จสิ้นการสร้างของอี้โม่เอนเตอร์เทนเมนต์ เจียงชื่อและเฉิงดันถิงได้พูดคุยกันและกำหนดวันสำหรับพิธีเปิดไว้แล้ว
พวกเขาต้องการให้ผู้คนในเขตเจียงหนานทั้งหมดเข้าใจถึงความแข็งแกร่งของอี้โม่เอนเตอร์เทนเมนต์ และประกาศให้ทุกคนทราบถึงรายการเปิดตัวที่อลังการของอี้โม่เอนเตอร์เทนเมนต์!
พิธีเปิดอี้โม่เอนเตอร์เทนเมนต์จะจัดขึ้นอย่างเป็นทางการในอีกสามวันต่อมา
เฉิงดันถิงกระจายข่าวผ่านช่องทางต่างๆ เพื่อการอุ่นเครื่องล่วงหน้าและเตรียมพร้อมอย่างแข็งขัน
ด้วยการโฆษณาอย่างอลังการ ในไม่ช้าข่าวดังกล่าวก็ไปถึงหูของซุนหย่งเจินประธานของบริษัทเทียนติ่ง
ที่สำนักงานประธานกรรมการ
ทั้งสามคนนั่งบนเก้าอี้ของแต่ละคน ได้แก่ซุนหย่งเจิน ซีเหมินจุ้นและโป๋สิ้นหงประธานบริษัทบริษัทบันเทิงและวัฒนธรรมผ้าข้อง ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัทเทียนติ่ง
ซุนหย่งเจินมองดูข่าวเกี่ยวกับพิธีเปิดของอี้โม่เอนเตอร์เทนเมนต์บนหน้าจอคอมพิวเตอร์ ใบหน้าของเขาบูดบึ้งด้วยความโกรธ
เขารู้ดีว่าเบื้องหลังของอี้โม่เอนเตอร์เทนเมนต์นั้น คือบริษัทเทคโนโลยีจิ้นเมิ่ง
มันคือเจียงชื่อ
เพราะความผิดพลาดชั่วขณะ บริษัทเทคโนโลยีจิ้นเมิ่งถึงได้กลับไปอยู่ในมือของเจียงชื่ออีกครั้ง ในขณะที่เรื่องนี้ยังไม่จบ ไม่คาดคิดว่าเจียงชื่อก็ริเริ่มหาเรื่องเข้าตัวอีกแล้ว
อุตสาหกรรมบันเทิงและวัฒนธรรมเป็นหนึ่งในสามอุตสาหกรรมหลักของบริษัทเทียนติ่ง และอุตสาหกรรมบันเทิงและวัฒนธรรมจะสร้างรายได้มหาศาลให้เราในทุกๆปี
ปัจจุบันตลาดในเขตเจียงหนานทั้งหมดอยู่ภายใต้การควบคุมอย่างแน่นหนาของบริษัทบันเทิงและวัฒนธรรมผ้าข้อง
อี้โม่เอนเตอร์เทนเมนต์เปิดธุรกิจโดยไม่มีการทักทายกับเราก่อนด้วยซ้ำ และมันก็สร้างความอลังการมากจนคนโง่เห็นก็รู้ว่าพวกเขาต้องการยึดตลาดกับบริษัทบันเทิงและวัฒนธรรมผ้าข้อง
ซึ่งมันเทียบเท่ากับการแย่งเนื้อจากปากของซุนหย่งเจิน
“พวกคุณคิดอย่างไรเกี่ยวกับเรื่องนี้?” ซุนหย่งเจินถามอย่างไม่แยแส
โป๋สิ้นหงหัวเราะเยาะ “มีอะไรให้คิดอีกเหรอ? เห็นได้ชัดว่าเขาเข้ามาเพื่อแย่งตลาดกับเรา อี้โม่เอนเตอร์เทนเมนต์คำนวณเรื่องนี้อย่างมักง่ายเกินไปแล้ว คิดว่าใช้เงินไม่กี่บาทมาสร้างฐานบวกกับการเปิดช่องทางไม่กี่ช่องทาง ก็สามารถยึดตลาดไปได้ ฮ่าๆ ฝันไปเถอะ”
“ตอนนี้ตลาดทั้งหมดอยู่ในมือของเรา ตราบใดที่เราไม่พยักหน้าตกลง อี้โม่เอนเตอร์เทนเมนต์อย่าหวังว่าจะสร้างรายได้แม้แต่บาทเดียว รอผลลัพธ์ของการลงทุนที่ล้มเหลวได้เลย”
“ท่านประธานวางใจได้เลย ตราบใดที่มีฉันโป๋สิ้นหงอยู่ อี้โม่เอนเตอร์เทนเมนต์จะล้มละลายในไม่ช้านี้”
ซุนหย่งเจินไม่พูด เพียงแต่มองไปที่ซีเหมินจุ้น
ซีเหมินจุ้นเป็นถังความคิดของเขา และเป็นคนที่ฉลาดที่สุดในบริษัท เขาอยากจะรู้ซีเหมินจุ้นคิดอย่างไรมากกว่า
เงียบไปชั่วขณะ
ซีเหมินจุ้นกล่าวอย่างมีความคิดว่า “ดูเหมือนว่าเราอยู่ในด้านที่ได้เปรียบ เราไม่เพียงแต่ควบคุมสถานการณ์ทั้งหมด แต่เรายังมีธุรกิจขนาดใหญ่อีกด้วยทั้งความสามารถและช่องทางการล้วนสามารถทำลาย”มือใหม่”อย่างอี้โม่เอนเตอร์เทนเมนต์ได้อย่างง่ายใด แต่ว่า …”
เขาหายใจเข้าลึกๆ และพูดว่า “ตั้งแต่ที่ฉันได้ปะทะกับเจียงชื่อในครั้งที่แล้ว ฉันมีความประทับใจอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับผู้ชายคนนี้ เขาต้องไม่ทำเรื่องไร้ความมั่นใจโดยไม่มีเหตุผลอย่างแน่นอน การที่เขาเข้ามาในวงการนี้เขาก็ต้องเตรียมตัวให้พร้อมอยู่แล้ว”
“อย่างอื่นยังไม่ต้องพูดถึง เพียงแค่ประธานที่เขาหามา เฉิงดันถิงนั้นก็คือผู้หญิงที่แข็งแกร่งระดับแนวหน้าของวงการนี้แล้ว ดูวิธีการดำเนินงานของเธอสิ ในเวลาอันสั้นนิดเดียวเธอก็สามารถสร้างอี้โม่เอนเตอร์เทนเมนต์ขึ้นได้ เป็นความสามารถที่ประมาทไม่ได้จริงๆ ”
“ดังนั้นฉันคิดว่าเราไม่ควรประมาทอีกฝ่ายแม้ว่าเราจะได้เปรียบกว่าก็ตาม และเราต้องใส่ใจกับมันในทุกๆด้าน และเราจะต้องไม่ทำผิดพลาดให้ซ้ำรอยเก่าอย่างเด็ดขาด”
เมื่อได้ยินเช่นนี้โป๋สิ้นหงก็ยิ้ม
เขาจุดบุหรี่และนั่งท่าไขว่ห้าง มองไปที่ซีเหมินจุ้นด้วยความรังเกียจ