จอมนักรบท้าโลก - จอมนักรบท้าโลก - บทที่115 ซูเปอร์สตาร์ระดับประเทศ
บทที่115 ซูเปอร์สตาร์ระดับประเทศ
บรรดาซูเปอร์สตาร์ทุกท่านลงจากเวที เฉิงดันถิงก็เดินขึ้นบนเวที พูดเสียงออกไมโครโฟนว่า “การแสดงในวันนี้สิ้นสุดเพียงเท่านี้ พิธีเปิดของอี้โม่เอนเตอร์เทนเมนต์ ได้สิ้นสุดลงอย่างเป็นทางการ แต่ขอให้ทุกท่านอยู่ในงานต่อ เพื่อเยี่ยมชมสถานที่ของอี้โม่เอนเตอร์เทนเมนต์ นอกจากนี้ ในสถานที่ยังพร้อมสรรพไปด้วยเครื่องดื่ม ของว่าง และความบันเทิงอีกมากมาย ยินดีต้อนรับทุกคนพักผ่อนได้ตามอัธยาศัย”
หลังจากได้แนะนำโดยคร่าว ๆเสร็จแล้ว เฉิงดันถิงเดินลงจากเวที
ถึงตอนนี้ พิธีเปิดได้เสร็จสิ้นอย่างเป็นทางการ
แขกเหรื่อที่มาร่วมงานยังคงเพลิดเพลินกับการแสดงที่ผ่านมา ลุกขึ้นออกจากที่นั่ง บ้างก็ไปหยิบอาหารและเครื่องดื่มรับประทาน บ้างก็เดินชื่นชมกับบรรยากาศสวยงามในงาน
สถานที่ของอี้โม่เอนเตอร์เทนเมนต์ เป็นสถานที่ใหญ่โตกว้างขวางมีจุดที่น่าสนใจมากมาย
วันเดียวคงเดินชมจะไม่เพียงพอ
เฉิงดันถิงเดินไปหาโป๋สิ้นหง ยิ้มเล็กน้อยพูดว่า “ประธานโป๋ คุณคิดว่าการแสดงในวันนี้เป็นอย่างไรบ้าง?”
โป๋สิ้นหงยังคงตกตะลึงยังไม่ทันได้สติ
“ประธานโป๋?”
“อ๋า? เอ่อ อ๋ออ๋ออ๋อ” โป๋สิ้นหง กลืนน้ำลาย “ยอดเยี่ยม ยอดเยี่ยมมาก อี้โม่เอนเตอร์เทนเมนต์ยอดเยี่ยมมาก”
เขาไม่รู้ว่าควรพูดว่าอย่างไร ไม่สามารถเอ่ยคำพูดใดได้ ทำได้เพียงพูดว่า ยอดเยี่ยม เท่านั้น
โป๋สิ้นหงลุกขึ้นปาดเหงื่อตนเอง “เอ่อ ผมยังมีงานที่บริษัท คงอยู่ต่อไม่ได้แล้ว ขอตัวก่อน”
เขารีบหันหลังออกไปในทันที ไม่อยากอยู่แม้เพียงวินาทีเดียว
เฉิงดันถิงสองมือกอดอก มองหลังโป๋สิ้นหงด้วยสายตาเย็นชา ส่งเสียง ฮึ ขึ้นมาหนึ่งคำ
เจียงชื่อเดินเข้ามา “ศิลปินรับเชิญที่ผมเชิญมา เป็นอย่างไรบ้าง?”
ประธานเฉิงยกหัวแม่โป้งชมเชย “ถ้ารู้แต่แรกว่าคุณมีความสามารถมากถึงเพียงนี้ ฉันก็ไม่ต้องเป็นกังวลแทนคุณแล้ว เจียงชื่อฉันไม่รู้จริง ๆ ว่าคุณมีเส้นสายกว้างขวางถึงเพียงนี้ ว้าว วันนี้ฉันได้เห็นกับตาจริง ๆ”
เจียงชื่อแย้มยิ้ม มองเห็นหลังโป๋สิ้นหงเดินออกไปพูดว่า “เขาพูดว่าอะไร?”
“เขาเหรอ? คิกคิก เหมือนตัวตลก”
“คอยหาโอกาสขัดขวางฉันตลอดเวลา ยังคิดที่จะมาดูฉันเป็นตัวตลกในงานนี้ สุดท้ายหน้าซีดวิ่งกลับไปไม่เป็นท่า”
“คุณไม่เห็นสีหน้าของโป๋สิ้นหงเมื่อครู่นี้เหรอ เหมือนตับหมู ฉันเห็นแทบจะหัวร่อจนท้องแข็ง”
เจียงชื่อพูดว่า “พิธีเปิดในวันนี้เป็นเพียงแค่การเริ่มต้นเท่านั้น ต่อไปยังคงต้องมีโอกาสได้ปะทะกันอีกมาก ไม่ช้าก็เร็วผมต้องให้บริษัทบันเทิงและวัฒนธรรมผ้าข้อง ต้องพ่ายแพ้อย่างย่อยยับ”
ทั้งสองกำลังสนทนากัน หลัวเซิ่งที่อยู่อีกด้านหนึ่งเดินมาหา
เจียงชื่อกับเฉิงดันถิงรีบต้อนรับ
หลัวเซิ่งแย้มยิ้มถามว่า “ท่านผู้มีพระคุณ วันนี้การแสดงของผมเป็นอย่างไรบ้าง?”
เจียงชื่อยกมือทั้งสองขึ้นทำการคารวะ “สมบูรณ์แบบงดงาม ไม่มีที่ติเลย คุณหลัว วันนี้ผมต้องขอบคุณคุณมากจริง ๆ หากไม่ได้รับความช่วยเหลือจากคุณ เกรงว่าอี้โม่เอนเตอร์เทนเมนต์ของผมวันนี้คงไม่ราบรื่นได้ถึงเพียงนี้”
หลัวเซิ่งลูบหนวดเครา “ไม่ต้องเกรงใจ คุณช่วยชีวิตหลานชายของผม ผมเพียงแค่ตอบแทนน้ำใจเท่านั้น แต่ผมขอพูดจากใจจริง ผมช่วยคุณ แต่ไม่ใช่เพราะว่าตอบแทนน้ำใจเท่านั้น”
“อ๋า?”
“ผมคิดเพื่อธุรกิจบันเทิงในเมืองเจียงหนานทั้งหมด”
หลัวเซิ่งขยับมาสองก้าว ถอนหายใจพูดว่า “หลายปีมานี้ บริษัทบันเทิงและวัฒนธรรมผ้าข้องได้เข้ามาควบคุมธุรกิจบันเทิงแถบเมืองเจียงหนาน ศิลปินเกือบทุกคนต่างก็ได้รับผลกระทบจากน้ำมือของพวกเขา”
“บริษัทใหญ่มีเพียงแห่งเดียว ผลที่ตามมาก็คือการทำสัญญาไม่เป็นธรรม ถูกครอบงำอย่างไร้เหตุผล”
“เดิมทีบริษัทบันเทิงและวัฒนธรรมผ้าข้องไม่ได้มองศิลปินเหมือนดั่งมนุษย์ คิดแต่เพียงทำให้พวกเขาเป็นผลของต้นไม้เงิน ใช้สัญญาไม่เป็นธรรมผูกมัดศิลปิน บีบบังคับศิลปินแสดงเพื่อธุรกิจในสิ่งที่ตนเองไม่ได้ชอบ ถ่ายภาพแฟชั่นสะเปะสะปะ ร้องเพลงเกรดต่ำ ถ่ายโฆษณาจำนวนมากมาย”
“ทำให้ชื่อเสียงของศิลปินต้องเสื่อมเสีย เงินที่ทำกำไรได้ส่วนมากจะเข้ากระเป๋าของพวกเขา ส่งผลให้ตลาดบันเทิงเน่าเฟะ ไม่มีความเหมาะสมที่จะทำให้ศิลปะบันเทิงพัฒนาได้อย่างเต็มที่