จอมนักรบท้าโลก - จอมนักรบท้าโลก - บทที่121 ไอ้บ้า!
บทที่121 ไอ้บ้า!
เดิมทีฮัวเสี่ยงหรงที่โกรธโมโหอยู่นั้น หลังจากที่ได้ยินประโยคสุดท้ายของเจียงชื่อ กลับหัวเราะชอบใจ
“What? นายพูดอีกที? ฉันไม่ได้หูฟาดไปใช่ไหม?”
“หน้าตาน่าเกลียดอย่างนี้เนี่ยนะ ยังอยากจะเป็นดาราดัง?”
“เขาทำอะไรเป็นบ้าง?”
“ร้องเพลง เต้น ถ่ายละคร ทำรายการ อะไรก็ไม่เป็นสักอย่าง อี้โม่เอนเตอร์เทนเมนต์ต้องเป็นบ้าไปแล้วถึงเซ็นสัญญากับเขาได้”
หลิวฉงก็ได้แต่ส่ายหัวไม่หยุด “เด็กน้อย ฉันรู้ว่าคุณรับไม่ได้ แต่วิถีของโลกก็เป็นแบบนี้แหละ คุณไม่พอใจแล้วทำอย่างไงได้ คนอย่างพวกคุณที่ทั้งน่าเกลียด และยากจน เกิดมาเพื่ออยู่ภายใต้คำสั่งของคนอื่น สิ่งที่พวกคุณต้องก็คือก้มหน้าก้มตาทำงานไป ไม่ต้องเลือกมาก เพราะถ้าคุณยิ่งเลือกมากเท่าไหร่ ก็จะยิ่งโดนกดให้ตกต่ำลงมากเท่านั้น”
คำพูดเหล่านี้ไม่เพียงแต่ขัดใจเน่ร์เจิง แต่ยังทำให้แขกคนอื่นๆ ในบ้านขุ่นเคืองด้วย
ทุกคนต่างเป็นคนธรรมดาทั่วไป
บางทีก็อาจจะไม่มีเงินจริงๆ และไม่ได้รูปร่างหน้าตาดูดีอะไรมาก แต่ทุกคนต่างถูกอย่างมาอย่างเท่าเทียมกัน
จะต้องมีเงินทอง มีอำนาจ รูปร่างหน้าตาดีเท่านั้นเหรอถึงจะโดดเด่นออกมา?
ทำไมทุกคนจะต้องถูกคนกดขี่ด้วย?
แขกเหรื่อทุกคนต่างวางตะเกียบในมือลง ทุกคนต่างมองฮัวเสี่ยงหรง และหลิวฉงด้วยความขยะแขยง คนอื่นๆ ต่างรอไม่ได้ที่จะขึ้นไประบายความโกรธด้วยการตบปากพวกเขา
เจียงชื่อยังคงนิ่งสงบอย่างเคย
เขาค่อยๆ พูดขึ้นอย่างเบา “มันไม่มีประโยชน์ที่จะพูดอะไรไม่คิด ฉันก็จะไม่ทะเลาะกับพวกคุณ รอดูต่อไปก็แล้วกัน”
“พรุ่งนี้พวกคุณก็จะไปอี้โม่เอนเตอร์เทนเมนต์เพื่อสัมภาษณ์ และเซ็นสัญญาไม่ใช่เหรอ? ดีเลย ฉันกับเจ้านายเน่ร์ก็จะไปอี้โม่เอนเตอร์เทนเมนต์สัมภาษณ์ เซ็นสัญญาเหมือนกัน”
“ฉันไม่เชื่อ ตราบใดที่อี้โม่เอนเตอร์เทนเมนต์อยากทำงานด้านบันเทิงออกมาให้ดีจริงๆ ก็จะต้องเลือกเจ้านายเน่ร์มาแทนที่คุณแน่นอน”
ฮัวเสี่ยงหรงตะลึงไปครู่หนึ่ง ไม่คิดว่าเจียงชื่อจะไปที่นั่นจริงๆ
“ได้สิ คุณอยากไปก็ไปเลย เมื่อถึงตอนนั้น อย่างไงแล้วคนที่ขายหน้าก็ไม่ใช่ฉันอยู่ดี”
หลิวฉงส่ายหัวไปมาแล้วพูดขึ้น “ทำไมคนหนุ่มสาวนี้ฟังไม่เข้าใจเลยนะ? จะต้องเจอเข้ากับตัวถึงจะรู้ว่าได้ถึงความเสียใจในภายหลัง? ยังจะไปสัมภาษณ์ และเซ็นสัญญา ฝันไปเถอะ ฉันรับประกันเลยว่าวันพรุ่งนี้แม้แต่ประตูพวกคุณก็เข้าไม่ได้ด้วยซ้ำ”
เจียงชื่อยักไหล่ “งั้นก็รอดูก็แล้วกัน”
ฮัวเสี่ยงหรงเก็บสมุดเช็คขึ้น “โอเค ไว้จะรอดู”
เธอลุกขึ้นยืน และเธอมุ่งออกไปข้างนอก หลังจากออกไปได้มองไปที่เน่ร์เจิง หัวเราะเยาะพูดขึ้น “ตอนแรกฉันคิดคุณแค่จน และน่าเกลียดเท่านั้น วันนี้ฉันเพิ่งเห็นว่า ที่จริงแล้วคุณยังโง่อีกต่างหาก ถ้าคุณฟังคำพูดไร้สาระของไอ้โง่นั่นจริงๆ ก็รอพบกับความอับอายได้เลย”
หลังจากพูดจบ เธอกลับหลังแล้วเดินจากไป
ด้านหลังตามมาด้วยผู้ช่วยกลุ่มหนึ่ง ที่ทั้งกางร่ม ทั้งถือกระเป๋ากันให้วุ่น
หลังจากที่ฮัวเสี่ยงหรงออกไป เน่ร์เจิงนั่งลง แล้วกุมขมับด้วยมือข้างเดียว ดูเหมือนว่าจะอยู่ในสภาวะที่โดดเดี่ยว
เจียงซื่อที่นั่งอยู่ตรงหน้าเขา รินไวน์สองแก้ว ให้คนละแก้ว
เน่ร์เจิงยกแก้วขึ้นแล้วดื่มมัน ด้วยใบหน้าเต็มไปด้วยความขมขื่น
เจียงชื่อถามขึ้น “เป็นอะไร ยังโกรธอยู่เหรอ?”
เน่ร์เจิงส่ายหน้า “ไม่ได้โกรธ แต่หดหู่ ตอนที่เพิ่งรู้จัก เธอยังไม่ได้เป็นแบบนี้ ทำไมตอนนี้เปลี่ยนไปราวกับปีศาจร้ายเลย?”
“หึๆ คนเราอะ ต่างเปลี่ยนกันได้อยู่แล้ว โดยเฉพาะอยู่โลกลาภยศ ทุกวันต่างถูกล่อลวงด้วยอำนาจ เงินทอง ที่ที่เต็มไปด้วยความเย้ายวน จะมีกี่คนกันที่จะสามารถรักษาความตั้งใจเดิมไว้ได้?”
“”
“อืม ที่พูดก็ถูก” เน่ร์เจิงถามขึ้น “อย่าพูดเรื่องนี้กันเลย เจ้านายครับ พรุ่งนี้คุณคงไม่ให้ผมไปสัมภาษณ์ที่อี้โม่เอนเตอร์เทนเมนต์จริงๆ หรอกใช่ไหม?”
“แน่นอน”
“ล้อเล่นใช่ไหมครับ? ผมทำอะไรไม่เป็นสักอย่าง จะไปทำไมกัน? แสดงความสามารถพิเศษอะไร? และอีกอย่าง บริษัทใหญ่อย่างนั้นอย่างอี้โม่เอนเตอร์เทนเมนต์” ผมที่ไม่มีฐานะอะไร จะเข้าไปได้อย่างไงกัน?”