จอมนักรบท้าโลก - จอมนักรบท้าโลก - บทที่122 ความสามารถพิเศษของผม
บทที่122 ความสามารถพิเศษของผม
เน่ร์เจิงรู้เพียงว่าเจียงชื่อเป็นหัวหน้ารับผิดชอบเขตเจีบงหนาน และยังเป็นเทพในสนามรบ เขายังไม่รู้ว่าเจียงชื่อยังเป็นผู้อยู่เบื้องหลังของบริษัทเทคโนโลยีจิ้นเมิ่ง และอี้โม่เอนเตอร์เทนเมนต์
ดังนั้นจึงได้ถามขึ้น
เจียงชื่อพูดขึ้นเบาๆ “อย่ากังวลเลย ในเมื่อฉันพูดอย่างนี้แล้ว มันมีเหตุผลของฉันอยู่แล้ว ฉันจะจัดการทุกอย่างเอง คุณแค่เล่นตามปกติก็พอแล้ว”
“เดี๋ยวก่อนครับนายใหญ่ ที่ว่าเล่นไปตามปกติคืออะไรครับ? ไปแสดงศิลปะการต่อสู้เหรอครับ?”
“อืม……”
เจียงชื่อหยุดนิ่งไป หลังจากคิดทบทวนแล้วพูดขึ้น “คุณไปทำอาหารที่นั่นก็แล้วกัน”
เน่ร์เจิงไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดี “อี้โม่เอนเตอร์เทนเมนต์รับสมัครศิลปินนะครับ ไม่ใช่พอครัว ถึงผมจะทำอาหารอร่อยขนาดไหนก็ไม่น่าได้มั้งครับ?”
“เชื่อฉันสิ มันได้”
“เฮ้อ……อย่างนั้นก็ได้ ผมฟังที่เจ้านายบอก อย่างมากก็แค่ขายขี้หน้า ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร”
บนหน้าของเน่ร์เจิงเต็มไปด้วยความโศกเศร้า และขมขื่นที่จะสุดจะทน
ไปอี้โม่เอนเตอร์เทนเมนต์ทำอาหาร?
อนิจจา เรื่องแบบนี้คงมีเพียงแค่เจียงชื่อเท่านั้นแหละที่คิดได้
พรุ่งนี้อาจจะเป็นเรื่องที่ต้องน่าอับอายขายหน้า แต่หวังว่าคงไม่โดนไล่ตะเพิดออกมาหรอกเนอะ
……
วันหนึ่งก็ผ่านไป
เช้าวันรุ่งขึ้น เน่ร์เจิงไปตลาดผักเพื่อซื้อวัตถุดิบที่จำเป็นต้องใช้ ทุกอย่างต่างถูกเตรียมไว้อย่างพิถีพิถัน
เมื่อเพิ่งกลับไปที่ร้านค้า ก็ได้มีมายบัคสีดำคันหนึ่งจอดลงตรงข้างถนน
เมื่อลดกระจกลดลง เจียงชื่อกวักมือเรียกเขา “ขึ้นรถสิ”
“นี่…..”
เน่ร์เจิงมองไปที่รถหรูมูลค่าหลายล้านนั้น คิดไม่ถึงเลยว่าเจียงชื่อจะรวยร่ำรวยขนาดนี้ โดยปกติแล้วเขาไม่เรียกแท็กซี่ ก็นั่งรถบัส มองไปแล้วราวกับคนยากจน คิดไม่ถึงเลยว่าจะร่ำรวยดั่งผ้าขี้ริ้วห่อทอง
แต่เมื่อลองคิดๆ ดูแล้ว ฐานะที่สูงส่งอย่างนั้นของเจียงชื่อ จะไม่มีเงินได้อย่างไรกัน
เมื่อขึ้นรถแล้ว เจียงชื่อโบกมือ ให้คนขับรถขับตรงไปที่อี้โม่เอนเตอร์เทนเมนต์
รถขับไปอย่างราบรื่น
ระหว่างทางเน่ร์เจิงมองทางซ้ายทีทางขวาที ด้วยท่าทางที่อึดอัดมากอย่างเห็นได้ชัด นี่มันช่างตรงกันข้ามกับนิสัยที่เฉยเมย และเย็นชาตามปกติของเขา เห็นได้ชัดเลยว่าเรื่องว่าเรื่องวันนี้ทำให้เขาประหม่าแค่ไหน
ซึ่ง
ตรงกันข้ามกับเจียงชื่อ ที่ไม่ได้แสดงความรู้สึกรู้สาอะไรออกมาทางสีหน้าเลย ราวกับว่าทุกๆ อย่างอยู่ภายใต้การควบคุมของเขา
จากนั้นไม่นาน รถก็ได้ขับมาถึงหน้าประตู
เขาคิดว่าคนขับรถจะจอดรถ แล้วลงไปเจรจาอะไรสักอย่างกับยาม แต่คิดไม่ถึงเลยว่า แขนกั้นรถถูกเปิดออก รถผ่านเข้าไป
แม้แต่ยามก็ยังยืนทำความเคารพ
“นี่……” เน่ร์เจิงเหลือบมองไปที่เจียงชื่อ พูดขึ้นในใจ คงเป็นเพราะนายใหญ่ใช้ตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายบริหาร แจ้งล่วงหน้า เพื่อความสะดวกละมั้ง
จากนั้น รถก็ถึงที่หมาย และจอดลงตรงลานจอดรถ
คนขับรถหยุดนิ่งอยู่บนรถ
เจียงชื่อพาเน่ร์เจิงมุ่งไปที่ภาคภาพยนตร์ และโทรทัศน์ เจอด่านมากมายตลอดทั้งทาง แต่ไม่มีพบเจอกับสิ่งกีดขวางใดๆ และตลอดทางก็เป็นไปอย่างราบรื่น
ขึ้นลิฟต์มาถึงห้องสัมภาษณ์ใหญ่ตรงชั้นสาม
ทั้งสองเพิ่งเดินเข้าไปถึง ก็เห็นฮัวเสี่ยงหรง และผู้จัดการส่วนตัว หลิวฉงได้นั่งอยู่บนเก้าอี้ในห้องโถงใหญ่แล้ว
ฮัวเสี่ยงหรงและเน่ร์จิงจ้องตากันเป็นมัน
“โอะโอ้ คุณกล้ามาจริงๆ ด้วย?”
“เหอะๆๆ สุดยอด ไม่นึกเลยว่าพวกคุณจะเข้ามาได้ นี่พวกคุณใส่ซองให้เท่าไหร่ล่ะถึงเข้ามาได้?”
เน่ร์เจิงพูดขึ้นอย่างเย็นชา “พวกเราไม่ทำเรื่องแบบนั้นหรอกนะ”
“ใช่เหรอ? ไม่ยอมรับก็ไม่เป็นไร ฉันก็ไม่ได้สนใจอะไร” ฮัวเสี่ยงหรงเชิดหน้าขึ้น และมองไปที่เน่ร์เจิงด้วยความดูถูก “ฉันสนใจแค่ว่า การแสดงความสามารถที่คุณต้องแสดงตอนสัมภาษณ์ คุณจะแสดงความสามารถพิเศษอะไรกัน?